ท่านใดรู้ ช่วยตอบทีค่ะ ร้อนใจมากค่ะ

ตอนแรกเราฉีดยาคุมกำเนิดค่ะ พอครบกำหนดฉีด เราเลยไม่ไปฉีด
-ประจำเดือนมาครั้งแรกวันที่13 สค.61 มา4วันแล้วหายไป
-มาครั้งที่2 วันที่24 สค.61 ครั้งนี้เลือดมาน้อยมาก และมาเยอะขึ้นเรื่อยๆ

จนวันที่27 สค.61 เราไปพบแพทย์ค่ะ ได้ยาปรับฮอร์โมนมาทาน เช้า กลางวัน เย็น ครั้งละ1เม็ด เป็นเวลา10วันค่ะ

หมอสูติบอกว่า ยาหมด อีก3-5วัน ปจด. จะมาค่ะ แต่เราหยุดไป8แล้ว ยังไม่มาเลยค่ะ

แล้วมีอาการ เวียนหน้า รู้สึกตัวร้อนรุมๆ แต่วัดไข้แล้วแค่ 36.9 c เองค่ะ แล้วก็จมูกไวต่อกลิ่น อาเจียนด้วยค่ะ
(ระหว่างทานยาปรับฮอร์โมน มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแบบไม่ได้ป้องกันด้วยนะค่ะ เพราะเราอยากมีน้อง)

เลยอยากรู้ว่าเป็นเพราะผลข้างเคียงของยาหรือว่าตั้งครรภ์ค่ะ

เราตรวจ วันนี้ก็ยังขึ้นขีดเดียวอยู่ค่ะ
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 4
ตามหลักการแล้ว หลังฉีดยาคุมกำเนิด แล้วประจำเดือนไม่มา แล้วให้ยาที่เรียกกันว่ายาปรับฮอร์โมนกันนั่น
ยากที่จะทำให้ประจำเดือนมา  เพราะยานั่นก็ออกฤทธิ์ต่อเยื่อบุมดลูกเหมือยยาฉีดคุมกำเนิดนั่นแหละ ยิ่งทำให้เยื่อบุมดลูกบางไปอีก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีอาการร้อนๆ ยังเวียนหัวด้วย ถ้ากินยาหมดจนครบ 14 วันแล้ว ยังไม่มีประจำเดือนมา ตรวจปัสสาวะอีกครั้ง
ถ้าได้ผลไม่ตั้งครรภ์ แผนการรักษาต่อไป มีสองทาง

1. ไม่ทำอะไร รอต่อไป 6 เดือน ระหว่างรอใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการท้องโดยไม่รู้ตัว
2. ถ้าต้องการมีประจำเดือน เพื่อให้สบายใจ ไปพบสูตินรีแพทย์ด้านฮอร์โมนสตรีค่ะ

หมอทุกคน ไม่ได้รู้เรื่องไปหมดทุกอย่างทุกโรคค่ะ
ยิ่งไม่ติดตามวิชาการ ยิ่งหลงทาง เพราะนอกจากลืมเรื่องเก่าๆที่ครูสอนแล้ว วิชาการใหม่ๆยังมาเร็วมาก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่