สวัสดีค่ะ มีคำถามแต่อยากได้ความคิดเห็นค่ะ ก่อนอื่นขอเล่าเรื่องให้ฟังก่อนน่ะค่ะ อ่านก็จะงงนิดๆน่ะค่ะ
มีอยู่ว่า เราขายที่ไป2งานค่ะ งานละ200,000 แต่ใบโฉนดที่ดินเราติดจำนองไว้ด้วยเงินแสนนิดๆแต่ด้วยดอกก้ปาไปสองแสนกว่านิดๆ เพราะไม่ได้จ่ายดอกหลายปี แต่มีก็คือจ่ายดอกให้ ที่ตัดสินใจขายที่ก็เพื่อนำมาจ่ายให้ตรงนี้ ปล.ญาติกันแต่ก้ไม่คิดจะโกง และมีคนติดต่อมาจะซื้อที่ดิน3งาน ก็ตกลงไป แต่เหมือนหลังตกลงว่าจะขายก็มามีปัญหาเงินมัดจำ ต้องวางเงินมัดจำ เราต้องเอาเงินมัดจำไปไถ่ถอนโฉนดที่ดินออกมา ถึงจะแบ่งได้ แต่คนซื้อก็คือบอกให้เงินมัดจำเรา แต่เราต้องเอาใบโฉนดไปจำนองเขา คืออะไร งง ???
แต่เราก็ไม่ทำตามเลยไม่ตกลง เพราะมีคนส่วนใหญ่บอกว่าไม่ได้ จะทำแบบนั้นได้ไงไม่งั้นเค้าสามารถโกงเราได้ง่าย ใช่หรือป่าวค่ะ
พอเราไม่ตกลงที่จะขายให้แล้ว เค้าพยายามเทียวมา เพื่อที่จะซื้อที่ผืนนี้ เทียวมาเป็นเดือน จนเค้าตกลงที่จะมัดจำเงินด้วยสองแสน แต่เราก็ต้องคุยกันก่อน แต่ยังไม่ลงตัวดี เค้าเดินมาที่รถและควักปืนออกมาทางเรา และเค้าก็หัวเราะ ทำเหมือนตลกแต่ไม่ตลก พอตกลงได้เค้าก็มามัดจำเงินมีพยานทำหนังสือมัดจำ แต่หนังสือมัดจำไปหาซื้อตามร้านค้าไม่ได้ไปซื้อที่กรมที่ดินน่ะ เค้าเป็นคนซื้อมา ก็จ่ายให้เราเรียบร้อยเราก็ไปไถ่โฉนดที่ดินออกมาและดำเนินเรื่องปกติรอการวัดที่ ใช้เวลานานมาก 3-4เดือนกว่าจะได้วัด และระหว่างรอเวลาวัดที่ช่วงนั้นได้นำเงินมาให้เราอีกสี่หมื่น รวมเป็น 240,000 ยังคงเหลืออีก 360,000 แต่เค้าก็ได้มาสร้างบ้านตรงหน้าที่ ที่เราขายไป ติดกับคลอง
หลังวัดที่ผ่านไปประมาณ2อาทิตย์ได้ เค้าได้โทรให้ไปหาเค้าที่บ้านของเค้า ที่สร้างไว้ริมคลอง และภรรยาของเค้าเป็นคนพูดว่าจะจ่าย60,000ให้ จะได้เหลือ 300,000 พอดี และจะไปจ่ายให้อีกทีวันที่โอนที่ดิน และวันนั้นจะขอยืมอีก50,000 ตีว่าจ่าย250,000 โดยที่ไม่ให้เราคิดดอกเบี้ยเพราะเค้าจะเอาใบโฉนดที่ดินไปจำนองธนาคารและจะจ่ายให้เรา และวันที่เค้าเรียกเราไปเค้าให้เราทำหนังสือสัญญาบอกเขียนใส่กระดาษสมุดเราก็ได้ ให้เรารู้กันก็พอ เค้าตกลงจะให้เราเองโดยที่เราไม่ได้เรียกร้องเราก็โอเคร พอเราทำหนังสือสัญญาเรียบร้อย ไปคุยกับเค้า เค้าให้เราเขียนเกี่ยวกับการที่เค้าจะยืมเงินอีก50,000 ในวันที่โอนโฉนดที่ดิน คือเค้าให้เราเขียนลงไปในสัญญาวางเงินมัดจำ ให้เขียนเพิ่มหัวข้อไป โดยที่เราก็ถามว่าเรื่องสัญญายืมเงินค่อยทำอีกฉบับวันที่โอนโฉนดทีเดียวก็ได้ หรือ ทำคนละฉบับกับหนังสือวางเงินมัดจำ คือหนังสือวางเงินมัดจำฉบับหนึ่ง และหนังสือยืมเงินอีกฉบับหนึ่ง แต่เค้าไม่ยอมจะให้เราเขียนรวมไปให้หมด เราก็เขียนลงไปในหนังสือวางเงินมัดจำแบบเดียวที่เค้าซื้อมา และเค้าให้เรียกเพื่อนข้างบ้านมาเซ็นต์เป็นพยาน เค้าก็นำเงินออกมานับ แต่ดูแล้วไม่น่าจะถึง60,000 (ลืมบอกไปก่อนหน้านี้เค้าบ่ายเบียงหนีหน้า ผลัดวันให้เงินมาประมาณ4-5วัน แต่ภรรยาเค้าไม่อยู่ตัวเค้าเป็นทหารแต่ได้ปลดเกษียณแล้ว) วันที่จะจ่ายเงินหกหมื่นนี้ภรรยาเค้าไม่อยู่ พอเพื่อนบ้านมาเซ็นต์เป็นพยาน
เค้าก็พูดว่า คนซื้อ : "ผมว่าจะไม่จ่ายให้แล้ว หกหมื่นนี้ ถ้าเกิดผมให้ไปและวันที่โอนผมจะยืมเงินต่อห้าหมื่น ก็เทียวเดินมาทวงเงินอยู่นี่เอง ไม่ใช่งันงี้น่ะแต่อย่าเอาเลย จะเอาโฉนดที่ดินไปจำนองธนาคารเดี๋ยวก็ได้เลยและจะให้" (พูดเสียงดัง ตะคอก ใส่อารมณ์)
เรา : อ้าว! ถ้าไม่ให้และจะให้ทำหนังสือสัญญาทำไม เอาโฉนดที่ดินไปจำนองธนาคารมันก็หลายเดือนอยู่นะกว่าจะได้เงิน สร้างบ้านมันต้องมีโครงก่อนไม่ใช่หรอ ธนาคารถึงจะอนุมัติ
คนซื้อ : เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
พยาน : เค้าไปทำกัน 2-3วัน ก็ได้แล้ว
เรา : ไม่รู้ดิ เพื่อนก็กู้เหมือนกันแต่นานนะกว่าจะได้เงิน
คนซื้อ : เงินที่ผมมัดจำไปอ่ะ 200,000 ผมเอาฝากธนาคารกินดอกดีกว่าอีก จนป่านนี้ผมยังไม่ได้อะไรเลย
อะเราก็งง คือเราก็ดำเนินแล้ว รอเค้าวัดที่อะไรแล้ว ก็รอเวลา เอาโฉนดแค่นั้นเอง คนวัดที่เค้าบอกว่านานกว่าจะได้ใบโฉนดอ่ะ คนรออีกเยอะ แต่มันก็นานจริงๆอ่ะรอมา4เดือนแล้วและต้องรออีก3เดือนกว่าจะได้ใบโฉนด เราก็อยากให้มันจบๆเหมือนกัน มีปัญหาเมื่อตอนวัดที่ไปแล้ว ไม่อยากจะมีปัญหาอีก ลำไย!
พยาน : ที่ตรงนั้นอ่ะ (หมายถึงของคนอื่นนะ) เค้ามัดจำกัน2-3 หมื่นเอง เค้าไม่เรียกเยอะกันแบบนี้หลอก ตรงนั้นเค้ากินเงินมัดจำมาเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
เรา : ก็จริง! ถ้าจ่ายเงินมัดจำแล้ว เราต้องระบุระยะเวลา ถ้าภายในระยะเวลาหามาไม่ได้ก็ต้องยืดเงินมัดจำ
พยาน : ก็ใช่ แต่เค้าไม่เรียกเงินครึ่งหนึ่งแบบนี้
คนซื้อ : ที่จะให้ก็เพราะเห็นไม่มีเงินใช้กัน
เรา : ถ้างั้นก็เอาแบบนั้นจ่ายวันนั้นทีเดียวก็ได้
คนซื้อ : งั้นฉีกทิ้งไปเลย สัญญา
เรา : เออะ ฉีกทิ้งไปเลย สรุปว่าไม่ได้จ่ายนะ
คนซื้อ : ยังไม่จ่ายอั่ก (แล้วก็มองแบบสายตาเหยียดๆ)
เราก็เดินกลับบ้านเรา พยานเดินนำหน้าเรา บ้านพยานก็ที่เรานี่แหละ เค้ามาขอซื้อราคาห้าพัน ซื้อปากป่าวไม่มีใบโฉนดที่ดินให้ เพราะเป็นที่ติดคลองอยู่หน้าที่เรา บ้านเราติดถนนเอเชีย บ้านพยานเนี่ยจะเลี้ยงไก่ก็เข้ามาปลูกในที่ฝั่งเรา บ้านพยานกับเราจะมีถนนเข้าซอยคั่นกลาง ข้ามาเลี้ยงไก่อะไรเราไม่เคยว่า แต่เหมือน ชาวนากับงูเห่าอ่ะ ที่ขายให้ราคานี้เพราะเห็นอยู่ตรงนี้ขายของดี ไม่มีที่อยู่ เพื่อนเรารู้บอกน้อยไปทำไมไม่ขาย10,000 เราก็ไม่พูดไร แต่ละคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนบ้าน เหมือนตัวเราหาเหาใส่หัวอ่ะ ทั้งที่เราไม่เคยไปยุ่งกับใครนะ เวรกรรมแท้ๆ
(โอ้โหดูถูกกูไปอีก เงินกูก็มี แต่กูไม่ได้เอาฟุ้งเฟ้อ เว่อแบบ อวดว่ามีแต่จริงๆไม่มี มันก็เกาะเมียว่ะ แถมมีเมียน้อยเยอะแยะ รุงรัง กินเหล้าทั้งวันอีก โมโหว่ะ)
อ้าว! มันก็จริง แต่หลักหมื่นคงจะไม่ใช่อ่ะ ญาติเราไปซื้อที่วางเงินเป็นล้านที่ไม่เท่าไหร่เองนะ แต่ถ้าเค้าอยากได้ที่เรา เค้าก็ต้องมัดจำไหมอ่ะ ถ้าไม่มัดจำและจะเอาใบโฉนดที่ไปทำเรื่องแบ่งที่ได้ไง มันก็ติดตรงคนจำนอง เค้าก็คงไม่ว่างมาเป็นธุระเดินเรื่องกับเราหลอก ถ้าไม่ให้เงินค่ามัดจำไปถ่ายใบโฉนด ก็คือขายให้ไม่ได้แค่นั้น ก่อนหน้าที่จะตกลงก็ได้บอกทุกอย่างไปหมดแล้ว และเค้าเป็นคนที่ต้องการที่เรามากๆเอง ค่าโอน ค่ารังวัด ค่าภาษีคทอเค้าให้เราเป็นคนจัดการคนเดียว คือเราจ่ายคนเดียว จากที่ขายงานละ 250,000 ต่อถึง200,000 ประเด็นที่ยอมขายก็เพื่อที่จะเอาเงินให้ญาติ ใช้หนี้ เกรงใจเค้ามานานแล้ว ที่ผ่านมาเค้าก็ไม่ทวงไม่ถามอะไร เวลาเค้าแย่เราก็อยากจะคืนเงินเขาเร็วๆ
จำนองโฉนดที่ดิน จะได้เงินอนุมัติกี่วัน
มีอยู่ว่า เราขายที่ไป2งานค่ะ งานละ200,000 แต่ใบโฉนดที่ดินเราติดจำนองไว้ด้วยเงินแสนนิดๆแต่ด้วยดอกก้ปาไปสองแสนกว่านิดๆ เพราะไม่ได้จ่ายดอกหลายปี แต่มีก็คือจ่ายดอกให้ ที่ตัดสินใจขายที่ก็เพื่อนำมาจ่ายให้ตรงนี้ ปล.ญาติกันแต่ก้ไม่คิดจะโกง และมีคนติดต่อมาจะซื้อที่ดิน3งาน ก็ตกลงไป แต่เหมือนหลังตกลงว่าจะขายก็มามีปัญหาเงินมัดจำ ต้องวางเงินมัดจำ เราต้องเอาเงินมัดจำไปไถ่ถอนโฉนดที่ดินออกมา ถึงจะแบ่งได้ แต่คนซื้อก็คือบอกให้เงินมัดจำเรา แต่เราต้องเอาใบโฉนดไปจำนองเขา คืออะไร งง ???
แต่เราก็ไม่ทำตามเลยไม่ตกลง เพราะมีคนส่วนใหญ่บอกว่าไม่ได้ จะทำแบบนั้นได้ไงไม่งั้นเค้าสามารถโกงเราได้ง่าย ใช่หรือป่าวค่ะ
พอเราไม่ตกลงที่จะขายให้แล้ว เค้าพยายามเทียวมา เพื่อที่จะซื้อที่ผืนนี้ เทียวมาเป็นเดือน จนเค้าตกลงที่จะมัดจำเงินด้วยสองแสน แต่เราก็ต้องคุยกันก่อน แต่ยังไม่ลงตัวดี เค้าเดินมาที่รถและควักปืนออกมาทางเรา และเค้าก็หัวเราะ ทำเหมือนตลกแต่ไม่ตลก พอตกลงได้เค้าก็มามัดจำเงินมีพยานทำหนังสือมัดจำ แต่หนังสือมัดจำไปหาซื้อตามร้านค้าไม่ได้ไปซื้อที่กรมที่ดินน่ะ เค้าเป็นคนซื้อมา ก็จ่ายให้เราเรียบร้อยเราก็ไปไถ่โฉนดที่ดินออกมาและดำเนินเรื่องปกติรอการวัดที่ ใช้เวลานานมาก 3-4เดือนกว่าจะได้วัด และระหว่างรอเวลาวัดที่ช่วงนั้นได้นำเงินมาให้เราอีกสี่หมื่น รวมเป็น 240,000 ยังคงเหลืออีก 360,000 แต่เค้าก็ได้มาสร้างบ้านตรงหน้าที่ ที่เราขายไป ติดกับคลอง
หลังวัดที่ผ่านไปประมาณ2อาทิตย์ได้ เค้าได้โทรให้ไปหาเค้าที่บ้านของเค้า ที่สร้างไว้ริมคลอง และภรรยาของเค้าเป็นคนพูดว่าจะจ่าย60,000ให้ จะได้เหลือ 300,000 พอดี และจะไปจ่ายให้อีกทีวันที่โอนที่ดิน และวันนั้นจะขอยืมอีก50,000 ตีว่าจ่าย250,000 โดยที่ไม่ให้เราคิดดอกเบี้ยเพราะเค้าจะเอาใบโฉนดที่ดินไปจำนองธนาคารและจะจ่ายให้เรา และวันที่เค้าเรียกเราไปเค้าให้เราทำหนังสือสัญญาบอกเขียนใส่กระดาษสมุดเราก็ได้ ให้เรารู้กันก็พอ เค้าตกลงจะให้เราเองโดยที่เราไม่ได้เรียกร้องเราก็โอเคร พอเราทำหนังสือสัญญาเรียบร้อย ไปคุยกับเค้า เค้าให้เราเขียนเกี่ยวกับการที่เค้าจะยืมเงินอีก50,000 ในวันที่โอนโฉนดที่ดิน คือเค้าให้เราเขียนลงไปในสัญญาวางเงินมัดจำ ให้เขียนเพิ่มหัวข้อไป โดยที่เราก็ถามว่าเรื่องสัญญายืมเงินค่อยทำอีกฉบับวันที่โอนโฉนดทีเดียวก็ได้ หรือ ทำคนละฉบับกับหนังสือวางเงินมัดจำ คือหนังสือวางเงินมัดจำฉบับหนึ่ง และหนังสือยืมเงินอีกฉบับหนึ่ง แต่เค้าไม่ยอมจะให้เราเขียนรวมไปให้หมด เราก็เขียนลงไปในหนังสือวางเงินมัดจำแบบเดียวที่เค้าซื้อมา และเค้าให้เรียกเพื่อนข้างบ้านมาเซ็นต์เป็นพยาน เค้าก็นำเงินออกมานับ แต่ดูแล้วไม่น่าจะถึง60,000 (ลืมบอกไปก่อนหน้านี้เค้าบ่ายเบียงหนีหน้า ผลัดวันให้เงินมาประมาณ4-5วัน แต่ภรรยาเค้าไม่อยู่ตัวเค้าเป็นทหารแต่ได้ปลดเกษียณแล้ว) วันที่จะจ่ายเงินหกหมื่นนี้ภรรยาเค้าไม่อยู่ พอเพื่อนบ้านมาเซ็นต์เป็นพยาน
เค้าก็พูดว่า คนซื้อ : "ผมว่าจะไม่จ่ายให้แล้ว หกหมื่นนี้ ถ้าเกิดผมให้ไปและวันที่โอนผมจะยืมเงินต่อห้าหมื่น ก็เทียวเดินมาทวงเงินอยู่นี่เอง ไม่ใช่งันงี้น่ะแต่อย่าเอาเลย จะเอาโฉนดที่ดินไปจำนองธนาคารเดี๋ยวก็ได้เลยและจะให้" (พูดเสียงดัง ตะคอก ใส่อารมณ์)
เรา : อ้าว! ถ้าไม่ให้และจะให้ทำหนังสือสัญญาทำไม เอาโฉนดที่ดินไปจำนองธนาคารมันก็หลายเดือนอยู่นะกว่าจะได้เงิน สร้างบ้านมันต้องมีโครงก่อนไม่ใช่หรอ ธนาคารถึงจะอนุมัติ
คนซื้อ : เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว
พยาน : เค้าไปทำกัน 2-3วัน ก็ได้แล้ว
เรา : ไม่รู้ดิ เพื่อนก็กู้เหมือนกันแต่นานนะกว่าจะได้เงิน
คนซื้อ : เงินที่ผมมัดจำไปอ่ะ 200,000 ผมเอาฝากธนาคารกินดอกดีกว่าอีก จนป่านนี้ผมยังไม่ได้อะไรเลย
อะเราก็งง คือเราก็ดำเนินแล้ว รอเค้าวัดที่อะไรแล้ว ก็รอเวลา เอาโฉนดแค่นั้นเอง คนวัดที่เค้าบอกว่านานกว่าจะได้ใบโฉนดอ่ะ คนรออีกเยอะ แต่มันก็นานจริงๆอ่ะรอมา4เดือนแล้วและต้องรออีก3เดือนกว่าจะได้ใบโฉนด เราก็อยากให้มันจบๆเหมือนกัน มีปัญหาเมื่อตอนวัดที่ไปแล้ว ไม่อยากจะมีปัญหาอีก ลำไย!
พยาน : ที่ตรงนั้นอ่ะ (หมายถึงของคนอื่นนะ) เค้ามัดจำกัน2-3 หมื่นเอง เค้าไม่เรียกเยอะกันแบบนี้หลอก ตรงนั้นเค้ากินเงินมัดจำมาเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้
เรา : ก็จริง! ถ้าจ่ายเงินมัดจำแล้ว เราต้องระบุระยะเวลา ถ้าภายในระยะเวลาหามาไม่ได้ก็ต้องยืดเงินมัดจำ
พยาน : ก็ใช่ แต่เค้าไม่เรียกเงินครึ่งหนึ่งแบบนี้
คนซื้อ : ที่จะให้ก็เพราะเห็นไม่มีเงินใช้กัน
เรา : ถ้างั้นก็เอาแบบนั้นจ่ายวันนั้นทีเดียวก็ได้
คนซื้อ : งั้นฉีกทิ้งไปเลย สัญญา
เรา : เออะ ฉีกทิ้งไปเลย สรุปว่าไม่ได้จ่ายนะ
คนซื้อ : ยังไม่จ่ายอั่ก (แล้วก็มองแบบสายตาเหยียดๆ)
เราก็เดินกลับบ้านเรา พยานเดินนำหน้าเรา บ้านพยานก็ที่เรานี่แหละ เค้ามาขอซื้อราคาห้าพัน ซื้อปากป่าวไม่มีใบโฉนดที่ดินให้ เพราะเป็นที่ติดคลองอยู่หน้าที่เรา บ้านเราติดถนนเอเชีย บ้านพยานเนี่ยจะเลี้ยงไก่ก็เข้ามาปลูกในที่ฝั่งเรา บ้านพยานกับเราจะมีถนนเข้าซอยคั่นกลาง ข้ามาเลี้ยงไก่อะไรเราไม่เคยว่า แต่เหมือน ชาวนากับงูเห่าอ่ะ ที่ขายให้ราคานี้เพราะเห็นอยู่ตรงนี้ขายของดี ไม่มีที่อยู่ เพื่อนเรารู้บอกน้อยไปทำไมไม่ขาย10,000 เราก็ไม่พูดไร แต่ละคนที่มาอยู่เป็นเพื่อนบ้าน เหมือนตัวเราหาเหาใส่หัวอ่ะ ทั้งที่เราไม่เคยไปยุ่งกับใครนะ เวรกรรมแท้ๆ
(โอ้โหดูถูกกูไปอีก เงินกูก็มี แต่กูไม่ได้เอาฟุ้งเฟ้อ เว่อแบบ อวดว่ามีแต่จริงๆไม่มี มันก็เกาะเมียว่ะ แถมมีเมียน้อยเยอะแยะ รุงรัง กินเหล้าทั้งวันอีก โมโหว่ะ)
อ้าว! มันก็จริง แต่หลักหมื่นคงจะไม่ใช่อ่ะ ญาติเราไปซื้อที่วางเงินเป็นล้านที่ไม่เท่าไหร่เองนะ แต่ถ้าเค้าอยากได้ที่เรา เค้าก็ต้องมัดจำไหมอ่ะ ถ้าไม่มัดจำและจะเอาใบโฉนดที่ไปทำเรื่องแบ่งที่ได้ไง มันก็ติดตรงคนจำนอง เค้าก็คงไม่ว่างมาเป็นธุระเดินเรื่องกับเราหลอก ถ้าไม่ให้เงินค่ามัดจำไปถ่ายใบโฉนด ก็คือขายให้ไม่ได้แค่นั้น ก่อนหน้าที่จะตกลงก็ได้บอกทุกอย่างไปหมดแล้ว และเค้าเป็นคนที่ต้องการที่เรามากๆเอง ค่าโอน ค่ารังวัด ค่าภาษีคทอเค้าให้เราเป็นคนจัดการคนเดียว คือเราจ่ายคนเดียว จากที่ขายงานละ 250,000 ต่อถึง200,000 ประเด็นที่ยอมขายก็เพื่อที่จะเอาเงินให้ญาติ ใช้หนี้ เกรงใจเค้ามานานแล้ว ที่ผ่านมาเค้าก็ไม่ทวงไม่ถามอะไร เวลาเค้าแย่เราก็อยากจะคืนเงินเขาเร็วๆ