สังเวียนรัก
โดย...ล. วิลิศมาหรา
รินโกะ ปั่นจักรยานตามหลังรุ่นพี่โทคิยะไปเรื่อยๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างสันทัดซึ่งกำลังวิ่งเอากำลังกล้ามเนื้อน่องและขาอยู่ข้างหน้า พี่โทคิยะต้องการลดน้ำหนักที่เกินอยู่หนึ่งกิโลกรัม เพื่อต่อยมวยสากลสมัครเล่นรุ่นไล้ท์เวทของชมรมชกมวยระหว่างโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของเมืองโฮชิฮากิ
สาวน้อยผมซอยสั้นหน้าตาเฮี้ยวดูแก่นแก้ว เป็นผู้จัดการทีมชกมวยของโรงเรียนมัธยมปลายคุโมริ ที่เธอกับรุ่นพี่กำลังเรียนอยู่ มีหน้าที่คอยดูแลทีมนักมวยของโรงเรียน เธอใช้อภิสิทธิ์นิดหน่อยจากการเป็นลูกสาวคนเดียวของอาจารย์ทาคากิ ผู้เป็นทั้งอาจารย์สอนวิชาพลศึกษา พ่วงไปกับเป็นครูมวยของนักมวยในทีมด้วย รินโกะจึงได้ตำแหน่งนี้มาครองสมใจนึก เธออยากมาคอยดูแลรุ่นพี่โทคิยะโดยเฉพาะ
ขณะนี้รุ่นพี่วิ่งมาได้ระยะทางหนึ่งกิโลเมตรแล้ว และกำลังจะวิ่งกลับอีกหนึ่งกิโลเมตรตามตารางการฝึกของพ่อเธอ รินโกะถีบจักรยานตามหลังเขาเงียบๆ ชื่นชมในความมุ่งมั่นขยันซ้อมของเขา รุ่นพี่โทคิยะเป็นเด็กกำพร้ามาจากหมู่เกาะอิชิจิมะอันห่างไกล มีคนเห็นแววว่าเขาชกมวยเก่ง จึงส่งตัวมาให้อยู่กับพ่อของเธอตั้งแต่สมัยเขาเพิ่งจบจากชั้นมัธยมต้น พ่อของเธอรับอุปการะเอาไว้ และส่งเสียให้ได้เรียนอยู่ในโรงเรียนคุโมริร่วมกับลูกสาวตัวเอง พ่อให้เขาเป็นนักกีฬามวยสมัครเล่นของโรงเรียน ซึ่งพี่โทคิยะก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง เขาชกมวยเก่ง ได้เป็นแชมป์ในรุ่นเฟเธอร์เวทมานานจนไร้คู่ชก อาจารย์ทาคากิจึงให้เขาข้ามรุ่นขึ้นมาชิงแชมป์รุ่นไล้ท์เวทกับคู่ชกน่าสะพรึงอย่างฮิโรชิ ยามาดะ จากโรงเรียนมัธยมปลายโคอิซึมิซึ่งครองแชมป์อยู่ แล้วดันมาโคโตะ นักมวยของทีมอีกคนที่เคยชกในรุ่นเล็กกว่าให้ขึ้นมาชกรุ่นเฟเธอร์เวทแทน โทคิยะดูจะเสียเปรียบฮิโรชิจากส่วนสูงที่น้อยกว่า และต้องควบคุมน้ำหนักเอาไว้ไม่ให้เกินพิกัด
เหลือระยะทางอีกสองร้อยเมตร ร่างสันทัดก็พากล้ามเนื้อขาและน่องอันทรงพลัง เร่งสปีดความเร็วพุ่งเข้าสู่กลางสนามกีฬาหน้าโรงเรียน ก่อนจะผ่อนฝีเท้าลงเป็นวิ่งเหยาะๆ ไปรอบสนาม ในเวลาเช้ามืดแบบนี้สนามกีฬายังร้างนักเรียน อีกสักพักเมื่อนักเรียนพากันทยอยเข้ามา เธอกับโทคิยะก็จะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวในบ้านพักหลังโรงเรียน ที่เธอกับเขาอาศัยอยู่กับพ่อ เพราะที่นี่เป็นเหมือนค่ายมวยของโรงเรียนไปด้วย นักมวยในทีมจะมาฝึกซ้อมกันในโรงยิมข้างบ้านพัก กับที่สนามมวยของโรงเรียน โทคิยะพักอยู่กับเธอและพ่อตั้งแต่แรกเข้าเรียนในระดับมัธยมปลาย เธอกับรุ่นพี่จึงสนิทสนมกันมากกว่านักมวยคนอื่น
รินโกะหยิบขวดน้ำดื่มและผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อจากตะกร้าหน้ารถออกมาเตรียมไว้ รอเขาเสร็จจากวอร์มดาวน์เดินยิ้มเข้ามาหาจึงยื่นส่งให้
“ขอบใจมาก”
โทคิยะรับขวดน้ำกับผ้าขนหนูจากเธอ ใบหน้าขรึมของรุ่นพี่เวลายิ้มแล้วราวกับเปิดโลกออกทั้งใบ รอยยิ้มกว้างส่งให้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มักมีแววหมกมุ่นครุ่นคิดแจ่มกระจ่างขึ้น หน้าตาคมคายของเขาจึงยิ่งขวนมอง
รินโกะยิ้มตอบ สายตาเธอมองเขาอย่างหลงใหลได้ปลื้ม รู้สึกกับเขาแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เขาเริ่มขึ้นชกเก็บชัยชนะมาเรื่อยๆ กระทั่งได้แชมป์มวยสมัครเล่นของกลุ่มโรงเรียนมัธยมปลายมาครอบครอง ทีแรกมันก็เป็นเพียงแค่ความภูมิใจ ก่อนค่อยๆ สะสมมาเป็นความชื่นชม แล้วก็เกิดหลงใหลคลั่งใคล้เขาอย่างหนัก เหมือนเขาเป็นไอดอลดารานักแสดงคนที่ชื่นชอบ จนกระทั่งวันนี้ที่ต้องยอมรับว่าตัวเองรู้สึกพิเศษต่อเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้
เธอหลงใหลความเป็นคนเงียบๆ แต่เด็ดขาดมุ่งมั่นของเขา รุ่นพี่มุมานะฝึกซ้อมตามตารางฝึกด้วยความอดทน ไม่เคยปริปากบ่นให้ได้ยินแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าตารางฝึกซ้อมจะเหนื่อยยากโหดหินสักแค่ไหน เมื่อต้องทำควบคู่ไปกับการเรียนให้ได้เกรดเฉลี่ยดีๆ ไปด้วย โทคิยะพรั่งพร้อมความมีวินัยของนักมวย
ทุกวันเขาต้องเข้านอนตอนสองทุ่ม ตื่นตีสี่มากินอะไรเบาๆ อย่างข้าวกล้องสักห้าช้อน ไข่ต้มหนึ่งฟอง กินเฉพาะไข่ขาว ไข่แดงทิ้งไป เสร็จแล้วรออาหารย่อยสักพักค่อยออกไปวิ่ง ต้องวิ่งไปกลับสองเที่ยวๆ ละหนึ่งกิโลเมตร แล้วจึงสปีดความเร็วสองร้อยเมตรสุดท้าย จากนั้นวิดพื้นอีกยี่สิบครั้ง ซิตอัพสี่สิบครั้ง ทำแบบนี้อยู่ห้ายก แล้วถึงมาฝึกเชิงล่อเป้ากับพ่อเธออีกห้ายก ยกละสามนาที พักหนึ่งนาที วอร์มดาวโดยการเล่นโยคะอีกหนึ่งชั่วโมง
จากนั้นจึงค่อยมาอาบน้ำแต่งตัว กินมื้อเช้าที่ไม่เน้นแป้ง เน้นกินแต่ผักนึ่งเป็นกิโล งดกินเค็ม หวาน เปรี้ยว เผ็ด เสร็จแล้วถึงค่อยไปเรียน ทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรเรื่อยมาอย่างไม่อิดออด
เธอรู้ดีถึงความฝันของรุ่นพี่ที่อยากเป็นนักมวยอาชีพ เขาต้องการเอาดีทางนี้ให้ได้ พี่โทคิยะเคยเล่าให้ฟังว่า มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น เขาจึงจะสามารถดีดตัวขึ้นมาจากโคลนตมได้ ขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนเขาก็จะเรียนจบระดับมัธยมปลายไป มีแมวมองจากค่ายมวยดังแอบมาดูตัวเขาแล้วด้วย เส้นทางนักมวยอาชีพของเขาจึงไม่ไกลเกินเอื้อม
“แปลกจัง วันนี้ไม่เห็นพ่อลงมารอล่อเป้าซ้อมให้พี่” รินโกะนึกประหลาดใจที่ในโรงยิมว่างเปล่า ผู้เป็นพ่อไม่ได้ลงมารอฝึกมวยให้กับโทคิยะเหมือนทุกวัน
“อ้อ อาจารย์บอกพี่ว่าวันนี้จะมีคนมาหาถึงบ้านพัก เลยจะอยู่รอต้อนรับน่ะ ท่านสั่งให้พี่ซ้อมชกกระสอบทรายไปก่อน”
“เอ๊ะ! ใครจะมาหาพ่อ ไม่เห็นพ่อว่าไง”
รินโกะพึมพำขึ้นอย่างสงสัย แต่สาวน้อยไม่ต้องสงสัยนาน เพราะมีเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาบริเวณหน้าบ้านพัก หญิงสาวผละจากรุ่นพี่เดินไปยืนมองหน้าประตูโรงยิม ก็เห็นรถหรูสีดำคันใหญ่จอดลงหน้าบ้านพักของเธอ พ่อออกจากบ้านมายืนรอต้อนรับอยู่ตรงเชิงบันไดบ้าน
ผู้ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง เปิดประตูหลังรถลงมาพร้อมกับวัยรุ่นชายท่าทางยียวนกวนบาทาอีกคน ชายสูงวัยกว่าตรงเข้ามาจับไม้จับมือกับพ่อเธอด้วยท่าทางยิ้มแย้ม ทั้งคู่ทักทายกันเหมือนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ก่อนเขาจะผายมือมาทางเด็กวัยรุ่นที่พามาด้วย
รินโกะเขม้นมองอย่างนึกหมั่นไส้ท่าทางกวนโอ้ยของเด็กหนุ่มที่คงรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ สงสัยว่าคงเป็นลูกของผู้ชายคนนั้น หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่ดูหยิ่งยโส ทำหน้าเหมือนไม่พอใจราวกับถูกบังคับให้ลงมา จึงโค้งตัวคำนับทักทายพ่อเธอแบบแกนๆ เด็กคนนั้นแต่งเนื้อแต่งตัวตามสบายด้วยกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดธรรมดา ต่างกับคนสูงวัยกว่าที่ใส่สูทผูกไทด์อย่างดี แถมมีคนขับรถมาให้อีกต่างหาก ท่าทางเจ้าเด็กคนนี้คงเป็นลูกคนรวยที่ถูกตามใจจนเคยตัว
รุ่นพี่โทคิยะตามมายืนมองอยู่ด้วย เมื่อพ่อหันมาทางเธอ ก็ทำท่าว่าจะชวนให้สองคนนั่นเดินมาทางโรงยิม
“เด็กนักเรียนใหม่ชั้นปีที่หนึ่ง ชั้นเดียวกับรินโกะ” ได้ยินพี่โทคิยะบอกเบาๆ รินโกะหันมามองหน้าเขา
“พี่รู้จักเขาเหรอคะ”
“เปล่า...อาจารย์เล่าให้ฟังเมื่อวานว่าจะมีคนพาลูกมาเข้าเรียนที่นี่ มาฝากให้ช่วยสอนชกมวย เพราะลูกเขาชอบไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นอยู่เรื่อย ก็เลยอยากให้มาหัดชกมวย เป็นนักมวยจริงจังไปเสียเลย พ่อเขาเคยเป็นรุ่นน้องคนสนิทของอาจารย์ตอนเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน คงจะเป็นคนนี้แหละ เห็นว่าเขาเป็นคนอุปถัมภ์โรงเรียนเราอยู่ โดยเฉพาะชมรมชกมวยสากลของพวกเรา”
“อ้อ เด็กเส้น” รินโกะอุทาน แบะปากอย่างหมั่นไส้
เด็กใหม่ที่รินโกะนึกไม่ขอบหน้าชื่อชิโนซากิ โคบายาคาวะ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านประธานบริษัทเครื่องจักรกลการเกษตรยักษ์ใหญ่ที่ชื่ออิชิจิมะ โคบายาคาวะ
แรกได้ทำความรู้จักกัน ใบหน้าเฉี่ยวคมที่มักทำคิ้วขมวดยุ่งเหมือนไม่พอใจใครตลอดชาติของเขามองมาที่รินโกะอย่างสนอกสนใจ แต่เธอทำหน้าเฉย เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ อย่างจะบอกว่าถือตัวเสียด้วยซ้ำ ก็เพราะนึกหมั่นไส้เสียแล้วเลยพลอยไม่อยากยุ่งด้วย กิริยาท่าทางของผู้ชายคนนี้ไม่ได้แม้ขี้เล็บของรุ่นพี่โทคิยะ ถึงรูปร่างหน้าตาจะหล่อเหลาราวกับพวกดาราวัยรุ่นที่เห็นตามจอโทรทัศน์ก็ตาม
ซึ่งเมื่อได้พูดคุยทำความรู้จักกันกับพวกเธอในโรงยิมแล้ว ท่าทีคล้ายไม่เต็มใจของชิโนซากิก็เปลี่ยนไป เขาตกลงเข้าเรียนที่นี่โดยดี และยอมรับเงื่อนไขการเข้าชมรมชกมวยของพ่อเธออย่างง่ายดาย ซึ่งดูเหมือนพ่อเศรษฐีของเขาจะพอใจมาก
รินโกะคิดว่าก่อนหน้านี้ชิโนซากิคงงัดข้อกับพ่อของเขามาพอแรง เด็กคนนั้นคงไม่อยากเข้าเรียนในโรงเรียนไม่ค่อยมีชื่อเสียงอย่างที่นี่เท่าไหร่นักหรอก ท่าทางหยิ่งยโสออกปานนั้น
ความยินดีของท่านประธานอิชิจิมะดูจะต่างออกไปจากความอึดอัดใจของรินโกะ เมื่อเธอเห็นสายตาจ้องมองมาอย่างหมายมาดในหน่วยตาคู่คมของเด็กหนุ่มคนมาใหม่
เด็กสาวยิ่งอึดอัดใจมากขึ้นเมื่อต้องมานั่งเรียนด้วยกันกับชิโนซากิ เขาช่างได้ตามที่ต้องการไปเสียทุกอย่าง คงเป็นเพราะอิทธิพลความรวยของคนเป็นพ่อที่มีต่อโรงเรียนแห่งนี้นั่นเอง อำนาจเงินเหมือนกันหมดทั้งโลก ง้างได้แม้แต่เหล็กไหลที่สุดจะแข็งแกร่ง หรือจะใช้มันเคลื่อนย้ายภูเขาทั้งลูกก็ทำได้ถ้ามีเงินพอ รินโกะจึงเหมือนน้ำท่วมปาก จำต้องกลายเป็นคนทำหน้าที่ดูแลผู้ชายขี้เก๊กคนนี้ ทั้งตอนอยู่ในชั้นเรียนและเวลาฝึกซ้อมชกมวยไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง
เธอแกล้งลงตารางฝึกให้เขาหนักกว่าคนเพิ่งเข้ามาฝึกคนอื่น นึกอยากให้เขาทนไม่ไหวจนต้องถอนตัวออกไปเสียจากชมรมชกมวย ไม่สนใจพ่อที่ทำปากจีกจั๊กเข้าใส่ แต่สองสามวันผ่านไปชิโนซากิก็ยังทนได้
“ทำไมนายมาเรียนที่นี่” วันหนึ่งระหว่างนั่งกินข้าวมื้อเที่ยงด้วยกันในห้อง รินโกะก็เลยถามออกมาตรงๆ ขณะนี้เธอต้องกลายเป็นบัดดี้ของอีกฝ่ายไปโดยปริยาย แม้แต่ข้าวมื้อเที่ยงเธอก็ยังต้องใส่กล่องมาให้เขากินอีกด้วยตามคำสั่งของพ่อ
“เพระมีเธอไง” เขาตอบหน้าตาย แล้วเบ้ปากเมื่อเห็นของกินในกล่องข้าวห่อ บ่นตามออกมา
“ได้กินแต่ข้าวสีกระดำกระด่างทุกวัน กินแค่ผักต้มกับไข่ เนื้อสักชิ้นก็ไม่มี” เด็กหนุ่มเอาช้อนเขี่ยๆ ดูอาหารในกล่อง
“ก็มันเป็นอาหารของนักมวย อยากเป็นนักมวยไม่ใช่เหรอ เธอต้องเริ่มควบคุมน้ำหนักตั้งแต่เดี่ยวนี้ เพราะน้ำหนักเธอยังเกินหกสิบกิโลกรัม เธอจึงต้องกินโปรตีนจากไข่ขาวและเนื้อปลาเท่านั้น ห้ามกินเนื้อ ลดคาร์โบไฮเดรตด้วยการกินแต่ข้าวกล้อง ครั้งละไม่เกินสิบช้อน ต้องกินแบบนี้ทุกมื้อทุกวันจนกว่าน้ำหนักจะลงมาต่ำกว่าหกสิบ”
“โอ้ย ใครจะมากินอะไรแบบนี้ได้ทุกมื้อทุกวัน บ้าไปแล้ว ฉันไม่ชอบกินผัก ไม่ชอบไข่” ชิโนซากิทิ้งช้อนลงในกล่องข้าวอย่างไม่สบอารมณ์
(มีต่อ)
สังเวียนรัก
โดย...ล. วิลิศมาหรา
รินโกะ ปั่นจักรยานตามหลังรุ่นพี่โทคิยะไปเรื่อยๆ สายตาจับจ้องอยู่ที่ร่างสันทัดซึ่งกำลังวิ่งเอากำลังกล้ามเนื้อน่องและขาอยู่ข้างหน้า พี่โทคิยะต้องการลดน้ำหนักที่เกินอยู่หนึ่งกิโลกรัม เพื่อต่อยมวยสากลสมัครเล่นรุ่นไล้ท์เวทของชมรมชกมวยระหว่างโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของเมืองโฮชิฮากิ
สาวน้อยผมซอยสั้นหน้าตาเฮี้ยวดูแก่นแก้ว เป็นผู้จัดการทีมชกมวยของโรงเรียนมัธยมปลายคุโมริ ที่เธอกับรุ่นพี่กำลังเรียนอยู่ มีหน้าที่คอยดูแลทีมนักมวยของโรงเรียน เธอใช้อภิสิทธิ์นิดหน่อยจากการเป็นลูกสาวคนเดียวของอาจารย์ทาคากิ ผู้เป็นทั้งอาจารย์สอนวิชาพลศึกษา พ่วงไปกับเป็นครูมวยของนักมวยในทีมด้วย รินโกะจึงได้ตำแหน่งนี้มาครองสมใจนึก เธออยากมาคอยดูแลรุ่นพี่โทคิยะโดยเฉพาะ
ขณะนี้รุ่นพี่วิ่งมาได้ระยะทางหนึ่งกิโลเมตรแล้ว และกำลังจะวิ่งกลับอีกหนึ่งกิโลเมตรตามตารางการฝึกของพ่อเธอ รินโกะถีบจักรยานตามหลังเขาเงียบๆ ชื่นชมในความมุ่งมั่นขยันซ้อมของเขา รุ่นพี่โทคิยะเป็นเด็กกำพร้ามาจากหมู่เกาะอิชิจิมะอันห่างไกล มีคนเห็นแววว่าเขาชกมวยเก่ง จึงส่งตัวมาให้อยู่กับพ่อของเธอตั้งแต่สมัยเขาเพิ่งจบจากชั้นมัธยมต้น พ่อของเธอรับอุปการะเอาไว้ และส่งเสียให้ได้เรียนอยู่ในโรงเรียนคุโมริร่วมกับลูกสาวตัวเอง พ่อให้เขาเป็นนักกีฬามวยสมัครเล่นของโรงเรียน ซึ่งพี่โทคิยะก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวัง เขาชกมวยเก่ง ได้เป็นแชมป์ในรุ่นเฟเธอร์เวทมานานจนไร้คู่ชก อาจารย์ทาคากิจึงให้เขาข้ามรุ่นขึ้นมาชิงแชมป์รุ่นไล้ท์เวทกับคู่ชกน่าสะพรึงอย่างฮิโรชิ ยามาดะ จากโรงเรียนมัธยมปลายโคอิซึมิซึ่งครองแชมป์อยู่ แล้วดันมาโคโตะ นักมวยของทีมอีกคนที่เคยชกในรุ่นเล็กกว่าให้ขึ้นมาชกรุ่นเฟเธอร์เวทแทน โทคิยะดูจะเสียเปรียบฮิโรชิจากส่วนสูงที่น้อยกว่า และต้องควบคุมน้ำหนักเอาไว้ไม่ให้เกินพิกัด
เหลือระยะทางอีกสองร้อยเมตร ร่างสันทัดก็พากล้ามเนื้อขาและน่องอันทรงพลัง เร่งสปีดความเร็วพุ่งเข้าสู่กลางสนามกีฬาหน้าโรงเรียน ก่อนจะผ่อนฝีเท้าลงเป็นวิ่งเหยาะๆ ไปรอบสนาม ในเวลาเช้ามืดแบบนี้สนามกีฬายังร้างนักเรียน อีกสักพักเมื่อนักเรียนพากันทยอยเข้ามา เธอกับโทคิยะก็จะกลับไปอาบน้ำแต่งตัวในบ้านพักหลังโรงเรียน ที่เธอกับเขาอาศัยอยู่กับพ่อ เพราะที่นี่เป็นเหมือนค่ายมวยของโรงเรียนไปด้วย นักมวยในทีมจะมาฝึกซ้อมกันในโรงยิมข้างบ้านพัก กับที่สนามมวยของโรงเรียน โทคิยะพักอยู่กับเธอและพ่อตั้งแต่แรกเข้าเรียนในระดับมัธยมปลาย เธอกับรุ่นพี่จึงสนิทสนมกันมากกว่านักมวยคนอื่น
รินโกะหยิบขวดน้ำดื่มและผ้าขนหนูเช็ดเหงื่อจากตะกร้าหน้ารถออกมาเตรียมไว้ รอเขาเสร็จจากวอร์มดาวน์เดินยิ้มเข้ามาหาจึงยื่นส่งให้
“ขอบใจมาก”
โทคิยะรับขวดน้ำกับผ้าขนหนูจากเธอ ใบหน้าขรึมของรุ่นพี่เวลายิ้มแล้วราวกับเปิดโลกออกทั้งใบ รอยยิ้มกว้างส่งให้ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มักมีแววหมกมุ่นครุ่นคิดแจ่มกระจ่างขึ้น หน้าตาคมคายของเขาจึงยิ่งขวนมอง
รินโกะยิ้มตอบ สายตาเธอมองเขาอย่างหลงใหลได้ปลื้ม รู้สึกกับเขาแบบนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เขาเริ่มขึ้นชกเก็บชัยชนะมาเรื่อยๆ กระทั่งได้แชมป์มวยสมัครเล่นของกลุ่มโรงเรียนมัธยมปลายมาครอบครอง ทีแรกมันก็เป็นเพียงแค่ความภูมิใจ ก่อนค่อยๆ สะสมมาเป็นความชื่นชม แล้วก็เกิดหลงใหลคลั่งใคล้เขาอย่างหนัก เหมือนเขาเป็นไอดอลดารานักแสดงคนที่ชื่นชอบ จนกระทั่งวันนี้ที่ต้องยอมรับว่าตัวเองรู้สึกพิเศษต่อเขาอย่างปฏิเสธไม่ได้
เธอหลงใหลความเป็นคนเงียบๆ แต่เด็ดขาดมุ่งมั่นของเขา รุ่นพี่มุมานะฝึกซ้อมตามตารางฝึกด้วยความอดทน ไม่เคยปริปากบ่นให้ได้ยินแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าตารางฝึกซ้อมจะเหนื่อยยากโหดหินสักแค่ไหน เมื่อต้องทำควบคู่ไปกับการเรียนให้ได้เกรดเฉลี่ยดีๆ ไปด้วย โทคิยะพรั่งพร้อมความมีวินัยของนักมวย
ทุกวันเขาต้องเข้านอนตอนสองทุ่ม ตื่นตีสี่มากินอะไรเบาๆ อย่างข้าวกล้องสักห้าช้อน ไข่ต้มหนึ่งฟอง กินเฉพาะไข่ขาว ไข่แดงทิ้งไป เสร็จแล้วรออาหารย่อยสักพักค่อยออกไปวิ่ง ต้องวิ่งไปกลับสองเที่ยวๆ ละหนึ่งกิโลเมตร แล้วจึงสปีดความเร็วสองร้อยเมตรสุดท้าย จากนั้นวิดพื้นอีกยี่สิบครั้ง ซิตอัพสี่สิบครั้ง ทำแบบนี้อยู่ห้ายก แล้วถึงมาฝึกเชิงล่อเป้ากับพ่อเธออีกห้ายก ยกละสามนาที พักหนึ่งนาที วอร์มดาวโดยการเล่นโยคะอีกหนึ่งชั่วโมง
จากนั้นจึงค่อยมาอาบน้ำแต่งตัว กินมื้อเช้าที่ไม่เน้นแป้ง เน้นกินแต่ผักนึ่งเป็นกิโล งดกินเค็ม หวาน เปรี้ยว เผ็ด เสร็จแล้วถึงค่อยไปเรียน ทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรเรื่อยมาอย่างไม่อิดออด
เธอรู้ดีถึงความฝันของรุ่นพี่ที่อยากเป็นนักมวยอาชีพ เขาต้องการเอาดีทางนี้ให้ได้ พี่โทคิยะเคยเล่าให้ฟังว่า มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น เขาจึงจะสามารถดีดตัวขึ้นมาจากโคลนตมได้ ขณะนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนเขาก็จะเรียนจบระดับมัธยมปลายไป มีแมวมองจากค่ายมวยดังแอบมาดูตัวเขาแล้วด้วย เส้นทางนักมวยอาชีพของเขาจึงไม่ไกลเกินเอื้อม
“แปลกจัง วันนี้ไม่เห็นพ่อลงมารอล่อเป้าซ้อมให้พี่” รินโกะนึกประหลาดใจที่ในโรงยิมว่างเปล่า ผู้เป็นพ่อไม่ได้ลงมารอฝึกมวยให้กับโทคิยะเหมือนทุกวัน
“อ้อ อาจารย์บอกพี่ว่าวันนี้จะมีคนมาหาถึงบ้านพัก เลยจะอยู่รอต้อนรับน่ะ ท่านสั่งให้พี่ซ้อมชกกระสอบทรายไปก่อน”
“เอ๊ะ! ใครจะมาหาพ่อ ไม่เห็นพ่อว่าไง”
รินโกะพึมพำขึ้นอย่างสงสัย แต่สาวน้อยไม่ต้องสงสัยนาน เพราะมีเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาบริเวณหน้าบ้านพัก หญิงสาวผละจากรุ่นพี่เดินไปยืนมองหน้าประตูโรงยิม ก็เห็นรถหรูสีดำคันใหญ่จอดลงหน้าบ้านพักของเธอ พ่อออกจากบ้านมายืนรอต้อนรับอยู่ตรงเชิงบันไดบ้าน
ผู้ชายวัยกลางคนท่าทางภูมิฐานคนหนึ่ง เปิดประตูหลังรถลงมาพร้อมกับวัยรุ่นชายท่าทางยียวนกวนบาทาอีกคน ชายสูงวัยกว่าตรงเข้ามาจับไม้จับมือกับพ่อเธอด้วยท่าทางยิ้มแย้ม ทั้งคู่ทักทายกันเหมือนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ก่อนเขาจะผายมือมาทางเด็กวัยรุ่นที่พามาด้วย
รินโกะเขม้นมองอย่างนึกหมั่นไส้ท่าทางกวนโอ้ยของเด็กหนุ่มที่คงรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ สงสัยว่าคงเป็นลูกของผู้ชายคนนั้น หน้าตาก็ดีอยู่หรอก แต่ดูหยิ่งยโส ทำหน้าเหมือนไม่พอใจราวกับถูกบังคับให้ลงมา จึงโค้งตัวคำนับทักทายพ่อเธอแบบแกนๆ เด็กคนนั้นแต่งเนื้อแต่งตัวตามสบายด้วยกางเกงขาสามส่วนกับเสื้อยืดธรรมดา ต่างกับคนสูงวัยกว่าที่ใส่สูทผูกไทด์อย่างดี แถมมีคนขับรถมาให้อีกต่างหาก ท่าทางเจ้าเด็กคนนี้คงเป็นลูกคนรวยที่ถูกตามใจจนเคยตัว
รุ่นพี่โทคิยะตามมายืนมองอยู่ด้วย เมื่อพ่อหันมาทางเธอ ก็ทำท่าว่าจะชวนให้สองคนนั่นเดินมาทางโรงยิม
“เด็กนักเรียนใหม่ชั้นปีที่หนึ่ง ชั้นเดียวกับรินโกะ” ได้ยินพี่โทคิยะบอกเบาๆ รินโกะหันมามองหน้าเขา
“พี่รู้จักเขาเหรอคะ”
“เปล่า...อาจารย์เล่าให้ฟังเมื่อวานว่าจะมีคนพาลูกมาเข้าเรียนที่นี่ มาฝากให้ช่วยสอนชกมวย เพราะลูกเขาชอบไปมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นอยู่เรื่อย ก็เลยอยากให้มาหัดชกมวย เป็นนักมวยจริงจังไปเสียเลย พ่อเขาเคยเป็นรุ่นน้องคนสนิทของอาจารย์ตอนเรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน คงจะเป็นคนนี้แหละ เห็นว่าเขาเป็นคนอุปถัมภ์โรงเรียนเราอยู่ โดยเฉพาะชมรมชกมวยสากลของพวกเรา”
“อ้อ เด็กเส้น” รินโกะอุทาน แบะปากอย่างหมั่นไส้
เด็กใหม่ที่รินโกะนึกไม่ขอบหน้าชื่อชิโนซากิ โคบายาคาวะ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท่านประธานบริษัทเครื่องจักรกลการเกษตรยักษ์ใหญ่ที่ชื่ออิชิจิมะ โคบายาคาวะ
แรกได้ทำความรู้จักกัน ใบหน้าเฉี่ยวคมที่มักทำคิ้วขมวดยุ่งเหมือนไม่พอใจใครตลอดชาติของเขามองมาที่รินโกะอย่างสนอกสนใจ แต่เธอทำหน้าเฉย เลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ อย่างจะบอกว่าถือตัวเสียด้วยซ้ำ ก็เพราะนึกหมั่นไส้เสียแล้วเลยพลอยไม่อยากยุ่งด้วย กิริยาท่าทางของผู้ชายคนนี้ไม่ได้แม้ขี้เล็บของรุ่นพี่โทคิยะ ถึงรูปร่างหน้าตาจะหล่อเหลาราวกับพวกดาราวัยรุ่นที่เห็นตามจอโทรทัศน์ก็ตาม
ซึ่งเมื่อได้พูดคุยทำความรู้จักกันกับพวกเธอในโรงยิมแล้ว ท่าทีคล้ายไม่เต็มใจของชิโนซากิก็เปลี่ยนไป เขาตกลงเข้าเรียนที่นี่โดยดี และยอมรับเงื่อนไขการเข้าชมรมชกมวยของพ่อเธออย่างง่ายดาย ซึ่งดูเหมือนพ่อเศรษฐีของเขาจะพอใจมาก
รินโกะคิดว่าก่อนหน้านี้ชิโนซากิคงงัดข้อกับพ่อของเขามาพอแรง เด็กคนนั้นคงไม่อยากเข้าเรียนในโรงเรียนไม่ค่อยมีชื่อเสียงอย่างที่นี่เท่าไหร่นักหรอก ท่าทางหยิ่งยโสออกปานนั้น
ความยินดีของท่านประธานอิชิจิมะดูจะต่างออกไปจากความอึดอัดใจของรินโกะ เมื่อเธอเห็นสายตาจ้องมองมาอย่างหมายมาดในหน่วยตาคู่คมของเด็กหนุ่มคนมาใหม่
เด็กสาวยิ่งอึดอัดใจมากขึ้นเมื่อต้องมานั่งเรียนด้วยกันกับชิโนซากิ เขาช่างได้ตามที่ต้องการไปเสียทุกอย่าง คงเป็นเพราะอิทธิพลความรวยของคนเป็นพ่อที่มีต่อโรงเรียนแห่งนี้นั่นเอง อำนาจเงินเหมือนกันหมดทั้งโลก ง้างได้แม้แต่เหล็กไหลที่สุดจะแข็งแกร่ง หรือจะใช้มันเคลื่อนย้ายภูเขาทั้งลูกก็ทำได้ถ้ามีเงินพอ รินโกะจึงเหมือนน้ำท่วมปาก จำต้องกลายเป็นคนทำหน้าที่ดูแลผู้ชายขี้เก๊กคนนี้ ทั้งตอนอยู่ในชั้นเรียนและเวลาฝึกซ้อมชกมวยไปอย่างไม่มีทางเลี่ยง
เธอแกล้งลงตารางฝึกให้เขาหนักกว่าคนเพิ่งเข้ามาฝึกคนอื่น นึกอยากให้เขาทนไม่ไหวจนต้องถอนตัวออกไปเสียจากชมรมชกมวย ไม่สนใจพ่อที่ทำปากจีกจั๊กเข้าใส่ แต่สองสามวันผ่านไปชิโนซากิก็ยังทนได้
“ทำไมนายมาเรียนที่นี่” วันหนึ่งระหว่างนั่งกินข้าวมื้อเที่ยงด้วยกันในห้อง รินโกะก็เลยถามออกมาตรงๆ ขณะนี้เธอต้องกลายเป็นบัดดี้ของอีกฝ่ายไปโดยปริยาย แม้แต่ข้าวมื้อเที่ยงเธอก็ยังต้องใส่กล่องมาให้เขากินอีกด้วยตามคำสั่งของพ่อ
“เพระมีเธอไง” เขาตอบหน้าตาย แล้วเบ้ปากเมื่อเห็นของกินในกล่องข้าวห่อ บ่นตามออกมา
“ได้กินแต่ข้าวสีกระดำกระด่างทุกวัน กินแค่ผักต้มกับไข่ เนื้อสักชิ้นก็ไม่มี” เด็กหนุ่มเอาช้อนเขี่ยๆ ดูอาหารในกล่อง
“ก็มันเป็นอาหารของนักมวย อยากเป็นนักมวยไม่ใช่เหรอ เธอต้องเริ่มควบคุมน้ำหนักตั้งแต่เดี่ยวนี้ เพราะน้ำหนักเธอยังเกินหกสิบกิโลกรัม เธอจึงต้องกินโปรตีนจากไข่ขาวและเนื้อปลาเท่านั้น ห้ามกินเนื้อ ลดคาร์โบไฮเดรตด้วยการกินแต่ข้าวกล้อง ครั้งละไม่เกินสิบช้อน ต้องกินแบบนี้ทุกมื้อทุกวันจนกว่าน้ำหนักจะลงมาต่ำกว่าหกสิบ”
“โอ้ย ใครจะมากินอะไรแบบนี้ได้ทุกมื้อทุกวัน บ้าไปแล้ว ฉันไม่ชอบกินผัก ไม่ชอบไข่” ชิโนซากิทิ้งช้อนลงในกล่องข้าวอย่างไม่สบอารมณ์
(มีต่อ)