คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 44
เราเข้าใจเจ้าของกระทู้นะคะที่ลำบากใจ เพราะระบบกงสีส่วนใหญ่มักเป็นแบบนี้ บางความเห็นอาจจะสงสัยว่าอาเป็นน้อง ทำไม่ทุกคนในบ้านที่มีอายุมากกว่าจะต้องเกรงใจ เหตุผลเพราะว่า อาคนนี้เป็นหัวแรงหลักในการบริหาร จัดการกิจการของกงสีค่ะ และสิ่งต่างๆที่อาเคยทำให้กับตระกูลของเค้าเอง อาต้องเสียสละอะไรไปบ้างเราคนนอกไม่อาจทราบได้ แต่เข้าใจได้ค่ะว่าเพราะแบบนี้ทุกคนจึงเกรงใจอา หากว่า จขกท ดันทุรังแต่งงานกับแฟนให้ได้ตามที่หลายฝ่ายแนะนำ ทั้งที่ยังไม่ปรับทัศนคติของอาที่มีต่อ จขกท แล้วนั้น ผลเลวร้ายหลังจากนั้นที่จะตามมาคนในพันทิปก็ไม่อาจช่วยได้ ปัญหาที่เรามองเห็นตอนนี้นะคะถ้าพวกคุณแต่งงานกันโดยที่อาไม่โอเค
1.ความมึนตึงในครอบครัว คนจีนเค้าจะสมาคมกับญาติพี่น้องเสมอ แม้ไม่อยู่บ้านเดียวกันแต่เจอกันปีนึงหลายครั้งแน่ๆ
2.เมื่อเกิดความมึนตึงกัน เริ่มต้นอาจจะแค่อาที่ไม่ชอบคุณ แต่อยู่นานๆไปคนอื่นก็จะไม่ชอบคุณด้วย สาเหตุเพราะคุณทำให้บ้านที่เคยสงบเกิดปัญหา
3.ขั้นร้ายแรงอาอาจจะเลิกบริหารกิจการกงสี เรื่องนี้หลายคนอาจจะคิดว่าอาไม่ทำก็ให้คนอื่นทำ แต่ความจริงระบบกงสีจะไม่ง่ายแบบนี้ค่ะ เพราะใครบริหารเค้าก็จะให้เกียรติคนๆนี้ดูแล ตัดสินใจ เว้นแต่ว่าจะมีการตัดสินใจครั้งใหญ่ๆถึงจะประชุมขอความเห็นคนอื่น แล้วคนที่ไม่เคยทำเต็มรูปแบบมาก่อน มาทำต่อจากอาอาจจะลำบากได้ค่ะ
4.หรือต่อให้ไม่ลำบาก แล้วทำไมตระูเค้าทั้งตระกูลต้องมาเดือดร้อนอะไรแบบนี้กับการแต่งงานของคุณสองคน
วิธีที่เราอยากแนะนำนะคะ แต่จะได้ผลหรือไม่เราไม่อาจรับประกันได้
1.ปัญหาอยู่ที่อา ก็แก้ที่อาค่ะ คุณควรคุยกับพ่อแม่ หรือป้าของแฟนว่าคุณอยากจะพูดคุยกับอาให้เป็นเรื่องเป็นราว รบกวนพวกเค้าช่วยพาไปคุย
2.คุยกับอาดีๆ ถามเหตุผลว่าไม่ชอบหนูเพราะอะไร หนูพอจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างคะ หนูอยากให้อาที่แฟนหนูเคารพรักมากให้โอกาสหนูได้ปรับปรุงตัว อะไรทำนองนี้ค่ะ คือพูดอะไรก็ได้ที่เป็นการถ่อมตน แต่ไม่ไร้ค่า และอย่าแสดงกิริยาใดๆที่จะสื่อว่าคุณโอ้อวด ข่ม หรือไม่มีสัมมาคาระเด็ดขาด
ปล.ท้ายที่สุดถ้าอายังไงก็ไม่ยอม ตรงนี้ขอให้คุณกับแฟนใช้สติ และเหตุผลในการตัดสินใจนะคะ ว่าจะไปต่อหรือหยุด แต่ไม่ว่าจะตัดสินใจทางไหนก็ขอให้รับผลที่จะตามมาให้ได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
1.ความมึนตึงในครอบครัว คนจีนเค้าจะสมาคมกับญาติพี่น้องเสมอ แม้ไม่อยู่บ้านเดียวกันแต่เจอกันปีนึงหลายครั้งแน่ๆ
2.เมื่อเกิดความมึนตึงกัน เริ่มต้นอาจจะแค่อาที่ไม่ชอบคุณ แต่อยู่นานๆไปคนอื่นก็จะไม่ชอบคุณด้วย สาเหตุเพราะคุณทำให้บ้านที่เคยสงบเกิดปัญหา
3.ขั้นร้ายแรงอาอาจจะเลิกบริหารกิจการกงสี เรื่องนี้หลายคนอาจจะคิดว่าอาไม่ทำก็ให้คนอื่นทำ แต่ความจริงระบบกงสีจะไม่ง่ายแบบนี้ค่ะ เพราะใครบริหารเค้าก็จะให้เกียรติคนๆนี้ดูแล ตัดสินใจ เว้นแต่ว่าจะมีการตัดสินใจครั้งใหญ่ๆถึงจะประชุมขอความเห็นคนอื่น แล้วคนที่ไม่เคยทำเต็มรูปแบบมาก่อน มาทำต่อจากอาอาจจะลำบากได้ค่ะ
4.หรือต่อให้ไม่ลำบาก แล้วทำไมตระูเค้าทั้งตระกูลต้องมาเดือดร้อนอะไรแบบนี้กับการแต่งงานของคุณสองคน
วิธีที่เราอยากแนะนำนะคะ แต่จะได้ผลหรือไม่เราไม่อาจรับประกันได้
1.ปัญหาอยู่ที่อา ก็แก้ที่อาค่ะ คุณควรคุยกับพ่อแม่ หรือป้าของแฟนว่าคุณอยากจะพูดคุยกับอาให้เป็นเรื่องเป็นราว รบกวนพวกเค้าช่วยพาไปคุย
2.คุยกับอาดีๆ ถามเหตุผลว่าไม่ชอบหนูเพราะอะไร หนูพอจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างคะ หนูอยากให้อาที่แฟนหนูเคารพรักมากให้โอกาสหนูได้ปรับปรุงตัว อะไรทำนองนี้ค่ะ คือพูดอะไรก็ได้ที่เป็นการถ่อมตน แต่ไม่ไร้ค่า และอย่าแสดงกิริยาใดๆที่จะสื่อว่าคุณโอ้อวด ข่ม หรือไม่มีสัมมาคาระเด็ดขาด
ปล.ท้ายที่สุดถ้าอายังไงก็ไม่ยอม ตรงนี้ขอให้คุณกับแฟนใช้สติ และเหตุผลในการตัดสินใจนะคะ ว่าจะไปต่อหรือหยุด แต่ไม่ว่าจะตัดสินใจทางไหนก็ขอให้รับผลที่จะตามมาให้ได้ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 40
เราขอเล่าเรื่องของเราที่เจอมาให้ฟังนะคะ
เมื่อสามปีก่อนเราคบกับผู้ชายรุ่นน้องเราปีนึง เค้าเป็นลูกชายคนโตของครอบครัวคนจีนก็เลยเป็นความหวังของครอบครัว ครอบครัวกงสีเหมือนคนจีนทั่วไปและมีอาผู้หญิงเป็นคนดูแลเหมือนกันเป๊ะ
เราเป็นผู้หญิงธรรมดา เป็นเด็กบ้านนอกนี่แหละค่ะ ไม่ได้สวยเลิศเลอ ไม่ชอบแต่งตัว เราก็เป็นแฟนกับเค้าเหมือนคนธรรมดาทั่วไปนี่แหละค่ะ คบกันไปได้สักพักพ่อเค้ารู้ว่าเราคบกันก็เลยอยากเจอเรา เลยนัดกันไปทานข้าว ก่อนวันนัดเราเห็นเค้าเครียดมากเราก็ถามเหตุผลว่าทำไม คำตอบคือเค้าบอกว่าบ้านเค้าค่อนข้างเข้มงวด เค้ามีอาที่คอยดูแลเรื่องกิจการไรพวกนี้แหละค่ะ ไม่มีผัว ไม่มีลูกเหมือนกัน 555555 แล้วก็บอกว่าอาเค้าเลยรักเค้าเหมือนลูก ก็เลยเข้มงวดหน่อย เราจะฝ่าฟันไปด้วยกันไรงี้ คิดแล้วก็ตลก จากนั้นเค้าก็เตี๊ยมคำพูดกับเราโดยให้เราพูดเมคโปรไฟล์ของเราให้ดูดี คือ?????? ตอนนั้นก็รักไง เค้าว่าไงก็ว่าตาม
วันนัดทายข้าว พ่อแม่เค้ามาเจอเรา มองตั้งแต่หัวจรดตีนเลยจ้าาาาาาาาาาา มองเหยียด มองแรง ไม่พูดกับเรา ไม่ทักเรา ไม่รับไหว้ โอ้ววววว นี่ชั้นต้องมาอยู่ในนิยายบ้านทรายทองเหรอ ถึงหน้าตาเราบ้านๆ แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ขนาดที่จะให้มองงั้นนะ เราก็สูง 170 ผิวขาว สาวเหนือแท้ ตั้งแต่เกิดได้รับโล่เรียนดีทุกปี สมัยมัธยมก็เป็นประธานนักเรียน เป็นสภาจังหวัด เป็นตัวแทนเยาวชนภาคเหนือเข้าเฝ้า ร.10 (ขณะนั้นพระองค์ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าฟ้าชาย) เรียนมหาวิทยาลัยก็จบเกียรตินิยม ได้เรียนดีทุกปี จบมาเราก็สอบติดราชการทันที ก็ถือว่าเราไม่ได้เลวร้ายไรเลย
ช่วงร่วมโต๊ะนี่มันนรกชัดๆ พ่อแม่เค้าเลือกที่จะเงียบใส่ลูกชายตัวเอง คุยบ้างเล็กน้อย กับเราพ่อแม่เค้าก็ถามว่าทำงานอะไร ครอบครัวมาจากไหน มีกิจการอะไรบ้าง เราก็ตอบตามที่แฟนเราเตี๊ยมเรามาคือเรามีพี่สาวเป็นเลขาบริษัทนำเข้าส่งออกยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น แล้วก็ครอบครัวทำธุรกิจส่วนตัวมีที่ร้อยกว่าไร่ โอ้วโห โปรไฟล์ตัวเองดี๊ดีย์ จากนั้นเค้าก็ค่อยเริ่มคุยกับเราดีหน่อยขากลับเรายกมือไหว้เค้าก็รับ
แต่พอหลังจากนั้นสองวัน พ่อเค้าก็เริ่มโทรมาด่าลูกชายตัวเอง ว่าไปเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาจากไหน มันจะมาเอาสมบัติพ่อที่พ่อหาไว้ให้ลูก มันโหงวเฮ้งไม่ดีมันจะนำพาความมาให้ มันเป็นตัวกาลกิณี (ใช้คำว่ามันกับเราทุกคำ) มันหลอกเราว่ามันมีอย่างนั้นอย่างงี้ทั้งที่มันไม่มีมันหลอกลูกนะรู้มั้ย อาเค้าไม่ชอบที่ลูกไปคบผู้หญิงแบบนี้ (แบบไหน?) ปรากฏว่าพ่อเค้าให้คนไปสืบประวัติเราเราแล้วก็ได้ความจริงว่าเป็นลูกชาวบ้านธรรมดาๆ เป็นเกษตรกรธรรมดามีไร่แค่ไม่กี่สิบไร่ ไม่มีพี่สาวห่าเหวที่ไหนเพราะเราคือพี่คนโต แค่นั้นแหละด่าเราผ่านลูกชายเค้าเป็นชุด ด่าแรงมาก ชนิดที่แฟนเราไม่ได้เปิดลำโพงแต่ก็ดังทะลุออกโทรศัพท์มาเลย มียื่นคำขาดด้วยว่าให้เลิกทันที ไม่งั้นอย่าหาว่าพ่อไม่เตือน แฟนเราก็บอกว่าคนที่ให้เราพูดแบบนั้นคือตัวเค้าเองเพราะเค้ากลัวว่าพ่อเค้าจะรับเราไม่ได้ พ่อเค้าเลยเงียบไปสักพัก ด่าเราอีกที แล้ววางสายไป
ตามประสาลูกผู้ชายที่พยายามจะแสดงความเป็นพระเอกออกมาว่ายังไงก็ไม่เลิกเด็ดขาด เราสองคนก็คบกันต่อ ผ่านไปอีกสามวันพ่อเค้ายกเลิกบัตรเครดิต ยกเลิกบัตรเดบิต บัตรทุกอย่างเอเวอรี่ติงจิงกะเบล เพราะพ่อเค้าได้ข้อมูลจากสายสืบว่าลูกเค้ายังไปไหนมาไหนกับเราอยู่ จากที่ได้เงินเดือนละ 3 แสน เหลือเดือนละ 2 หมื่น เพราะกลัวเราจะปอกลอกลูกชายเค้า หึหึหึ มโนขั้นสุด
ทีนี้ความเครียดเริ่มมา แฟนเราจากที่เคยสบายมีเงินใช้ไม่ขาด เหลือไม่เท่าไหร่ก็เริ่มเครียด นานวันเข้าก็เริ่มเงียบใส่เรา นั่งฟังเพลงด้วยกันอยู่ดีๆ ก็มีคำพูดหลุดปากออกมาว่าถ้าถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างพ่อแม่กับเราเค้าต้องเลือกพ่อแม่อยู่แล้ว แค่นั้นแหละเรารู้สึกว่ากลิ่นไม่ดีละ เราเริ่มเครียด เพราะรู้สึกว่ามันเริ่มแหม่งๆ แฟนเราก็บอกว่าพ่อเค้าโทรมาด่าทุกวันเลย โทรมากดดันทุกวัน
จนวันนึงเค้าก็โทรมาบอกเลิกเรา เหอๆๆๆๆ ต่อหน้าก็ไม่กล้าบอก หลังโทรศัพท์ล่ะเก่งจริง บอกเลิกเราเสร็จบล็อคสายเรา บล็อคเฟซ บล็อคไลน์ เราติดต่อไม่ได้ เรารู้สึกไม่เคลีร์เลยไปหาเค้าที่คอนโด สุดท้ายคำตอบคือเค้าต้องเลือกพ่อแม่อยู่แล้ว และพ่อแม่เค้าจะส่งเค้าไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้ว
เหตุการณ์นี้ทำให้เราเป็นบ้าเป็นหลังไปเลย เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดเราก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร ประวัติเราไม่เคยด่างพร้อย ทำไมถึงต้องมาเจออะไรที่ดูถูกเราขนาดนี้ ทั้งชีวิตไม่เคยเจอมาก่อน เราเสียใจได้เป็นปี นั่งโง่มาเป็นปี คิดว่ายังไงเค้าก็รักเรา เดี๋ยวถ้าเค้าเคลียร์กับพ่อเค้าได้เค้าก็จะกลับมาหาเรา เราเครียดจนเป็นโรคเครียด นอนก็ละเมอร้องไห้ ตื่นมาตาบวม ทำงานไม่ได้ สุขภาพกายและจิตแย่ เป็นซึมเศร้า เหมือนคนบ้าไปเลย เป็นปีกว่าจะสำนึกได้ว่ามันไม่กลับมาหรอก ถ้าคนมันรักเราจริงมันจะไปทำไมแต่แรก ลมปากก็คือลมปากเชื่อถือไม่ได้จ้า ถ้าเค้าคิดว่าพ่อแม่จะอยู่กับเค้าไปจนตายก็ให้เค้าเลือกไป เรามันคนนอกพูดไรมากไม่ได้
ความจริงก็คือความจริงค่ะ อย่าหลอกตัวเองว่าเค้าจะรักเรามากจนกระทั่งจะอดทนสู้กับพ่อแม่เค้าเพื่อเราได้ ถ้าเค้าแสดงออกว่ากังวลนั่นหมายความว่าใจเค้ารู้สึกว่าต้องเลือกแล้วและมันทำให้เค้าลำบากใจ ถ้าเค้าเห็นแก่เราจริง รักและเชื่อมั่นในตัวเราจริง เค้าจะไม่มีความหวั่นไหวเลย เค้าจะไม่ยอมให้ญาติพี่น้องมาบงการชีวิตของเขา เค้าจะไม่มีข้อแม้ เค้าจะไม่งงกับชีวิต เค้าจะไม่รู้สึกว่าต้องเลือก ต่อให้เป็นพ่อแม่ถ้าเค้าพร้อมจะสร้างชีวิตและครอบครัวกับเราจริงคำพูดใครก็ทำให้เค้าหวั่นไหวไม่ได้ค่ะ บุญคุณที่ต้องทดแทนก็ส่วนบุญคุณเนาะ อนาคตเค้ากับเราก็เป็นเรื่องของเค้ากับเราเนาะ แต่ถ้าเค้าเลือกที่จะเชื่อครอบครัวที่แอนตี้เราเพราะเชื่อเรื่อง ดวง โหงวเฮ้ง ซาเล้งบ้าบอคอแตกทั้งหลายก็ปล่อยเค้าไปตามยถากรรมค่ะ อย่าฝืน เพราะถ้าให้เค้าฝืนต่อไปเราจะแน่ใจได้ไงว่าอนาคตเค้าจะไม่หวั่นไหวอีก ตอนนี้อาจอยู่ด้วยกันได้แต่ในอนาคตถ้าเราเกิดทำอะไรผิดพลาดหรือทำอะไรไม่ถูกใจเค้า หรือยามที่ต้องทุกข์ต้องยากเมื่อเจออุปสรรคชีวิตในอนาคต เค้าก็อาจจะอ้างได้ว่าเค้าไม่น่ามาคบเราเลยเค้าน่าจะเชื่อพ่อแม่แต่แรก (คำนี้คนรู้จักเราเคยโดนมาแล้ว) หรือไม่ในอนาคตธุรกิจของเค้าล้มเหลวเพราะเหตุผลอื่นแต่ก็อาจจะหาว่าเรามาปอกลอกจริงๆ พี่ป้าน้าอาเค้ามองเราไม่มีผิดว่าเราเป็นตัวกาลกิณีไรงี้ ถึงเวลานั้นเราจะเฟล จะรู้สึกแย่แค่ไหนก็แก้ไม่ได้แล้วนะคะ พังค่ะ
อีกตัวอย่างคือกรณีมีลูกมีหลานให้เค้า เค้าก็จะเอาแต่ลูกหลานไม่เอาเราอยู่ดี แถมไม่พอเสี้ยมลูกเราให้เกลียดเราก็มีเพื่อให้เรารู้สึกว่าเหลือตัวคนเดียวผัวก็ไม่ช่วย อันนี้เพื่อนเราโดนมาตอนนี้คือลูกสอง อยู่ในท้องอีกหนึ่ง ผัวเป็นลูกหลานคนจีน ไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ก็เลือกมากถือตัวมาก เพื่อนเราผิวดำ อ้วน การศึกษาไม่สูง แต่ก็นิสัยดี ขยันทำงาน แต่อากงอาม่าของผัวนางก็ไม่ชอบขี้หน้านางอยู่ดี เพราะเค้าคิดว่าหลานเค้าต้องได้ผู้หญิงที่ดีกว่านี้ การศึกษาต้องดี ต้องขาว ต้องรวย ผิวดำคือกรรมกรไม่อยากได้ เสนียด เป็นเอามากถึงขั้นนั้นเลยค่ะ ทั้งที่หลานชายตัวเองติดยาเสพติด วันๆ งานการไม่ทำ ต้องอาศัยอยู่กับอากงอาม่าและพี่ป้าน้าอาทั้งหลาย เพื่อนเราต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ของกินของใช้นี่ใช้ของพวกเค้าไม่ได้เลย ต้องจ่ายเองหมดเพื่อนเราก็ยอม พี่ป้าน้าอามาเสี้ยมลูกตัวเองให้เกลียดตัวเองก็มีแต่ก็ทำไรไม่ได้ ผัวก็ช่วยด่าให้บ้างไรบ้าง แต่ก็งั้นๆ ด่าแบบไม่ได้หวังผลอะไร สรุปตอนนี้คือเหมือนตกนรก จะไปไหนก็ไม่ได้เพราะตัวเองไม่ใช่สาวๆ แล้ว มีลูกเป็นภาระที่ต้องดูแล วันๆ ก็ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน
คิดให้ดีนะคะ ว่าอยากฝืนแล้วไปเสี่ยงเอาในอนาคต หรือจะไปซะตอนนี้แล้วไปหาอนาคตใหม่ของเราเองที่ไม่ต้องทน ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องฟังลมปากใครอีก อนาคตเป็นของเราจะเอาไปฝากที่คนอื่นไม่ได้ เชื่อลมปากคนอื่นก็เท่ากับเอาอนาคตไปฝากไว้กับลม อยู่ที่เราเลือกค่ะว่าจะดีไซน์ชีวิตตัวเองยังไง แต่เท่าที่เห็นและเจอกับตัวเองมาส่วนใหญ่มักไม่รอด รอดวันนี้ก็ไม่รอดวันหน้า ส่วนที่รอดก็ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า ครอบครัวไหนที่ใช้เรื่องดวงมาเกี่ยวข้องกับทุกอย่างในชีวิต เชื่อทุกอย่างที่เกี่ยวกับดวงหรือโหงวเฮ้งมากกว่าเชื่อตัวเอง อย่าไปอยากเข้าเป็นสมาชิกเลยค่ะวันดีคืนดีเราจะเดือดร้อนเปล่าๆ ข่าวมีให้เห็นก็เยอะ
เรื่องเล่าของเราก็มีเพียงเท่านี้ ขอให้โชคดีกับการตัดสินใจค่ะ
เมื่อสามปีก่อนเราคบกับผู้ชายรุ่นน้องเราปีนึง เค้าเป็นลูกชายคนโตของครอบครัวคนจีนก็เลยเป็นความหวังของครอบครัว ครอบครัวกงสีเหมือนคนจีนทั่วไปและมีอาผู้หญิงเป็นคนดูแลเหมือนกันเป๊ะ
เราเป็นผู้หญิงธรรมดา เป็นเด็กบ้านนอกนี่แหละค่ะ ไม่ได้สวยเลิศเลอ ไม่ชอบแต่งตัว เราก็เป็นแฟนกับเค้าเหมือนคนธรรมดาทั่วไปนี่แหละค่ะ คบกันไปได้สักพักพ่อเค้ารู้ว่าเราคบกันก็เลยอยากเจอเรา เลยนัดกันไปทานข้าว ก่อนวันนัดเราเห็นเค้าเครียดมากเราก็ถามเหตุผลว่าทำไม คำตอบคือเค้าบอกว่าบ้านเค้าค่อนข้างเข้มงวด เค้ามีอาที่คอยดูแลเรื่องกิจการไรพวกนี้แหละค่ะ ไม่มีผัว ไม่มีลูกเหมือนกัน 555555 แล้วก็บอกว่าอาเค้าเลยรักเค้าเหมือนลูก ก็เลยเข้มงวดหน่อย เราจะฝ่าฟันไปด้วยกันไรงี้ คิดแล้วก็ตลก จากนั้นเค้าก็เตี๊ยมคำพูดกับเราโดยให้เราพูดเมคโปรไฟล์ของเราให้ดูดี คือ?????? ตอนนั้นก็รักไง เค้าว่าไงก็ว่าตาม
วันนัดทายข้าว พ่อแม่เค้ามาเจอเรา มองตั้งแต่หัวจรดตีนเลยจ้าาาาาาาาาาา มองเหยียด มองแรง ไม่พูดกับเรา ไม่ทักเรา ไม่รับไหว้ โอ้ววววว นี่ชั้นต้องมาอยู่ในนิยายบ้านทรายทองเหรอ ถึงหน้าตาเราบ้านๆ แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ขนาดที่จะให้มองงั้นนะ เราก็สูง 170 ผิวขาว สาวเหนือแท้ ตั้งแต่เกิดได้รับโล่เรียนดีทุกปี สมัยมัธยมก็เป็นประธานนักเรียน เป็นสภาจังหวัด เป็นตัวแทนเยาวชนภาคเหนือเข้าเฝ้า ร.10 (ขณะนั้นพระองค์ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าฟ้าชาย) เรียนมหาวิทยาลัยก็จบเกียรตินิยม ได้เรียนดีทุกปี จบมาเราก็สอบติดราชการทันที ก็ถือว่าเราไม่ได้เลวร้ายไรเลย
ช่วงร่วมโต๊ะนี่มันนรกชัดๆ พ่อแม่เค้าเลือกที่จะเงียบใส่ลูกชายตัวเอง คุยบ้างเล็กน้อย กับเราพ่อแม่เค้าก็ถามว่าทำงานอะไร ครอบครัวมาจากไหน มีกิจการอะไรบ้าง เราก็ตอบตามที่แฟนเราเตี๊ยมเรามาคือเรามีพี่สาวเป็นเลขาบริษัทนำเข้าส่งออกยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น แล้วก็ครอบครัวทำธุรกิจส่วนตัวมีที่ร้อยกว่าไร่ โอ้วโห โปรไฟล์ตัวเองดี๊ดีย์ จากนั้นเค้าก็ค่อยเริ่มคุยกับเราดีหน่อยขากลับเรายกมือไหว้เค้าก็รับ
แต่พอหลังจากนั้นสองวัน พ่อเค้าก็เริ่มโทรมาด่าลูกชายตัวเอง ว่าไปเอาผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาจากไหน มันจะมาเอาสมบัติพ่อที่พ่อหาไว้ให้ลูก มันโหงวเฮ้งไม่ดีมันจะนำพาความมาให้ มันเป็นตัวกาลกิณี (ใช้คำว่ามันกับเราทุกคำ) มันหลอกเราว่ามันมีอย่างนั้นอย่างงี้ทั้งที่มันไม่มีมันหลอกลูกนะรู้มั้ย อาเค้าไม่ชอบที่ลูกไปคบผู้หญิงแบบนี้ (แบบไหน?) ปรากฏว่าพ่อเค้าให้คนไปสืบประวัติเราเราแล้วก็ได้ความจริงว่าเป็นลูกชาวบ้านธรรมดาๆ เป็นเกษตรกรธรรมดามีไร่แค่ไม่กี่สิบไร่ ไม่มีพี่สาวห่าเหวที่ไหนเพราะเราคือพี่คนโต แค่นั้นแหละด่าเราผ่านลูกชายเค้าเป็นชุด ด่าแรงมาก ชนิดที่แฟนเราไม่ได้เปิดลำโพงแต่ก็ดังทะลุออกโทรศัพท์มาเลย มียื่นคำขาดด้วยว่าให้เลิกทันที ไม่งั้นอย่าหาว่าพ่อไม่เตือน แฟนเราก็บอกว่าคนที่ให้เราพูดแบบนั้นคือตัวเค้าเองเพราะเค้ากลัวว่าพ่อเค้าจะรับเราไม่ได้ พ่อเค้าเลยเงียบไปสักพัก ด่าเราอีกที แล้ววางสายไป
ตามประสาลูกผู้ชายที่พยายามจะแสดงความเป็นพระเอกออกมาว่ายังไงก็ไม่เลิกเด็ดขาด เราสองคนก็คบกันต่อ ผ่านไปอีกสามวันพ่อเค้ายกเลิกบัตรเครดิต ยกเลิกบัตรเดบิต บัตรทุกอย่างเอเวอรี่ติงจิงกะเบล เพราะพ่อเค้าได้ข้อมูลจากสายสืบว่าลูกเค้ายังไปไหนมาไหนกับเราอยู่ จากที่ได้เงินเดือนละ 3 แสน เหลือเดือนละ 2 หมื่น เพราะกลัวเราจะปอกลอกลูกชายเค้า หึหึหึ มโนขั้นสุด
ทีนี้ความเครียดเริ่มมา แฟนเราจากที่เคยสบายมีเงินใช้ไม่ขาด เหลือไม่เท่าไหร่ก็เริ่มเครียด นานวันเข้าก็เริ่มเงียบใส่เรา นั่งฟังเพลงด้วยกันอยู่ดีๆ ก็มีคำพูดหลุดปากออกมาว่าถ้าถึงเวลาที่ต้องเลือกระหว่างพ่อแม่กับเราเค้าต้องเลือกพ่อแม่อยู่แล้ว แค่นั้นแหละเรารู้สึกว่ากลิ่นไม่ดีละ เราเริ่มเครียด เพราะรู้สึกว่ามันเริ่มแหม่งๆ แฟนเราก็บอกว่าพ่อเค้าโทรมาด่าทุกวันเลย โทรมากดดันทุกวัน
จนวันนึงเค้าก็โทรมาบอกเลิกเรา เหอๆๆๆๆ ต่อหน้าก็ไม่กล้าบอก หลังโทรศัพท์ล่ะเก่งจริง บอกเลิกเราเสร็จบล็อคสายเรา บล็อคเฟซ บล็อคไลน์ เราติดต่อไม่ได้ เรารู้สึกไม่เคลีร์เลยไปหาเค้าที่คอนโด สุดท้ายคำตอบคือเค้าต้องเลือกพ่อแม่อยู่แล้ว และพ่อแม่เค้าจะส่งเค้าไปเรียนต่อที่อเมริกาแล้ว
เหตุการณ์นี้ทำให้เราเป็นบ้าเป็นหลังไปเลย เพราะเราคิดว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิดเราก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไร ประวัติเราไม่เคยด่างพร้อย ทำไมถึงต้องมาเจออะไรที่ดูถูกเราขนาดนี้ ทั้งชีวิตไม่เคยเจอมาก่อน เราเสียใจได้เป็นปี นั่งโง่มาเป็นปี คิดว่ายังไงเค้าก็รักเรา เดี๋ยวถ้าเค้าเคลียร์กับพ่อเค้าได้เค้าก็จะกลับมาหาเรา เราเครียดจนเป็นโรคเครียด นอนก็ละเมอร้องไห้ ตื่นมาตาบวม ทำงานไม่ได้ สุขภาพกายและจิตแย่ เป็นซึมเศร้า เหมือนคนบ้าไปเลย เป็นปีกว่าจะสำนึกได้ว่ามันไม่กลับมาหรอก ถ้าคนมันรักเราจริงมันจะไปทำไมแต่แรก ลมปากก็คือลมปากเชื่อถือไม่ได้จ้า ถ้าเค้าคิดว่าพ่อแม่จะอยู่กับเค้าไปจนตายก็ให้เค้าเลือกไป เรามันคนนอกพูดไรมากไม่ได้
ความจริงก็คือความจริงค่ะ อย่าหลอกตัวเองว่าเค้าจะรักเรามากจนกระทั่งจะอดทนสู้กับพ่อแม่เค้าเพื่อเราได้ ถ้าเค้าแสดงออกว่ากังวลนั่นหมายความว่าใจเค้ารู้สึกว่าต้องเลือกแล้วและมันทำให้เค้าลำบากใจ ถ้าเค้าเห็นแก่เราจริง รักและเชื่อมั่นในตัวเราจริง เค้าจะไม่มีความหวั่นไหวเลย เค้าจะไม่ยอมให้ญาติพี่น้องมาบงการชีวิตของเขา เค้าจะไม่มีข้อแม้ เค้าจะไม่งงกับชีวิต เค้าจะไม่รู้สึกว่าต้องเลือก ต่อให้เป็นพ่อแม่ถ้าเค้าพร้อมจะสร้างชีวิตและครอบครัวกับเราจริงคำพูดใครก็ทำให้เค้าหวั่นไหวไม่ได้ค่ะ บุญคุณที่ต้องทดแทนก็ส่วนบุญคุณเนาะ อนาคตเค้ากับเราก็เป็นเรื่องของเค้ากับเราเนาะ แต่ถ้าเค้าเลือกที่จะเชื่อครอบครัวที่แอนตี้เราเพราะเชื่อเรื่อง ดวง โหงวเฮ้ง ซาเล้งบ้าบอคอแตกทั้งหลายก็ปล่อยเค้าไปตามยถากรรมค่ะ อย่าฝืน เพราะถ้าให้เค้าฝืนต่อไปเราจะแน่ใจได้ไงว่าอนาคตเค้าจะไม่หวั่นไหวอีก ตอนนี้อาจอยู่ด้วยกันได้แต่ในอนาคตถ้าเราเกิดทำอะไรผิดพลาดหรือทำอะไรไม่ถูกใจเค้า หรือยามที่ต้องทุกข์ต้องยากเมื่อเจออุปสรรคชีวิตในอนาคต เค้าก็อาจจะอ้างได้ว่าเค้าไม่น่ามาคบเราเลยเค้าน่าจะเชื่อพ่อแม่แต่แรก (คำนี้คนรู้จักเราเคยโดนมาแล้ว) หรือไม่ในอนาคตธุรกิจของเค้าล้มเหลวเพราะเหตุผลอื่นแต่ก็อาจจะหาว่าเรามาปอกลอกจริงๆ พี่ป้าน้าอาเค้ามองเราไม่มีผิดว่าเราเป็นตัวกาลกิณีไรงี้ ถึงเวลานั้นเราจะเฟล จะรู้สึกแย่แค่ไหนก็แก้ไม่ได้แล้วนะคะ พังค่ะ
อีกตัวอย่างคือกรณีมีลูกมีหลานให้เค้า เค้าก็จะเอาแต่ลูกหลานไม่เอาเราอยู่ดี แถมไม่พอเสี้ยมลูกเราให้เกลียดเราก็มีเพื่อให้เรารู้สึกว่าเหลือตัวคนเดียวผัวก็ไม่ช่วย อันนี้เพื่อนเราโดนมาตอนนี้คือลูกสอง อยู่ในท้องอีกหนึ่ง ผัวเป็นลูกหลานคนจีน ไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่ก็เลือกมากถือตัวมาก เพื่อนเราผิวดำ อ้วน การศึกษาไม่สูง แต่ก็นิสัยดี ขยันทำงาน แต่อากงอาม่าของผัวนางก็ไม่ชอบขี้หน้านางอยู่ดี เพราะเค้าคิดว่าหลานเค้าต้องได้ผู้หญิงที่ดีกว่านี้ การศึกษาต้องดี ต้องขาว ต้องรวย ผิวดำคือกรรมกรไม่อยากได้ เสนียด เป็นเอามากถึงขั้นนั้นเลยค่ะ ทั้งที่หลานชายตัวเองติดยาเสพติด วันๆ งานการไม่ทำ ต้องอาศัยอยู่กับอากงอาม่าและพี่ป้าน้าอาทั้งหลาย เพื่อนเราต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ของกินของใช้นี่ใช้ของพวกเค้าไม่ได้เลย ต้องจ่ายเองหมดเพื่อนเราก็ยอม พี่ป้าน้าอามาเสี้ยมลูกตัวเองให้เกลียดตัวเองก็มีแต่ก็ทำไรไม่ได้ ผัวก็ช่วยด่าให้บ้างไรบ้าง แต่ก็งั้นๆ ด่าแบบไม่ได้หวังผลอะไร สรุปตอนนี้คือเหมือนตกนรก จะไปไหนก็ไม่ได้เพราะตัวเองไม่ใช่สาวๆ แล้ว มีลูกเป็นภาระที่ต้องดูแล วันๆ ก็ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน
คิดให้ดีนะคะ ว่าอยากฝืนแล้วไปเสี่ยงเอาในอนาคต หรือจะไปซะตอนนี้แล้วไปหาอนาคตใหม่ของเราเองที่ไม่ต้องทน ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องฟังลมปากใครอีก อนาคตเป็นของเราจะเอาไปฝากที่คนอื่นไม่ได้ เชื่อลมปากคนอื่นก็เท่ากับเอาอนาคตไปฝากไว้กับลม อยู่ที่เราเลือกค่ะว่าจะดีไซน์ชีวิตตัวเองยังไง แต่เท่าที่เห็นและเจอกับตัวเองมาส่วนใหญ่มักไม่รอด รอดวันนี้ก็ไม่รอดวันหน้า ส่วนที่รอดก็ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า ครอบครัวไหนที่ใช้เรื่องดวงมาเกี่ยวข้องกับทุกอย่างในชีวิต เชื่อทุกอย่างที่เกี่ยวกับดวงหรือโหงวเฮ้งมากกว่าเชื่อตัวเอง อย่าไปอยากเข้าเป็นสมาชิกเลยค่ะวันดีคืนดีเราจะเดือดร้อนเปล่าๆ ข่าวมีให้เห็นก็เยอะ
เรื่องเล่าของเราก็มีเพียงเท่านี้ ขอให้โชคดีกับการตัดสินใจค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ครอบครัวแฟนไม่ชอบเราเพราะโหงวเฮ้งไม่ดี ... ทำยังไงได้บ้างคะ
เรากับแฟนคบกันมาได้ปีกว่าๆแล้ว รู้สึกว่าทุกอย่างลงตัวมากจนวางแผนจะแต่งงานกัน
เราก็ไปพบครอบครัวกันตามปกติ ครอบครัวเราก็โอเคกับเค้า ครอบครัวเค้าในส่วนของคุณป้าก็โอเคกับเรา พูดคุยกันถูกคอดี
จนวันนึงเราไปเดินห้างแล้วเจอคุณอาเค้า 2 คน มาเดินกับเค้า เราก็เดินไปสวัสดีทักทายตามปกติ สิริรวมเวลาทั้งหมดไม่เกิน 2 นาที แล้วเราก็เดินกลับไปหาครอบครัวเรา
ออกตัวก่อนนะคะว่าเราว่าเราก็เป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีคนนึง ตามประสาสาวเหนือทั่วไป ตากลม ผมยาว รุปร่างดี สุง 165 หนัก 51โปรไฟล์ค่อนข้างดี ไม่เคยมีใครบอกว่าเราโหงวเฮ้งไม่ดี แฟนเราก็เป็นผู้ชายหน้าตาดีคนนึง แต่เพื่อนในกลุ่มส่วนใหญ่บอกว่าเราหน้าตาดีกว่าแฟน เราอายุ 32 แฟนอายุ 38 นะคะ
หลังจากวันนั้นแฟนเราดูตึงๆ เครียดๆไป ผ่านไป 2 เดือน เราเลยจับเข่าคุยกับเค้าตรงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้นในเรื่องราวของเรา
เค้าบอกว่าคุณอาเค้าไปบอกพ่อเค้าว่า เราไม่สวย โหงวเฮ้งไม่ดี เค้าควรจะได้ผู้หญิงดีกว่านี้ รอมาจนอายุขนาดนี้แล้ว ให้ไปหามาใหม่ พ่อเค้าก็งงๆว่ามันคือเรื่องอะไร คุณป้าเค้าที่เราไปมาหาสู่ด้วยตลอดก็พยายามช่วยพูดให้จนทะเลาะกันใหญ่โตทั้งบ้าน เค้าก็เลยเครียดมาก
คุณอาเค้าขู่จะตัดออกจากบ้านทั้งที่ไม่เคยเจอกันเลย เค้าเลยพยายามบอกว่าให้มาทำความรู้จักกันก่อน กินข้าวกันก่อน แต่คุณอาเค้าก็บิกว่าให้ไปเลิก ไม่เอาคนนี้ ไม่กินข้าว ไม่อยากรู้จัก ... ถามเหตุผลเท่าไหร่ก็บอกว่าเพราะว่าเราไม่สวย เอามาเป็นสะใภ้อายคนแถวนี้
แฟนเรากับเราก็งงอยู่ว่าจะเอายังไงดีกับชีวิต เพราะครอบครัวเค้าเป็นกงสี แต่เราก็ไม่อยากเลิกกับเค้า เพราะนอกจากเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน เราก็สงสารแฟนเราที่เป็นคนกลาง+งงมาก เค้าบอกว่าคุยเรื่องนี้มา 4-5 รอบแล้วก็ทะเลาะกันตลอดจนเค้าเหนื่อย
แบบนี้มีคำแนะนำอะไรบ้างไหมคะ ให้คุณอาเค้ายอมเปิดใจให้คบกันต่อ
ป ล. คุณอาเค้าคนที่ไม่ชอบเราเค้าเป็นผู้หญิงที่ทำงานหลังร้าน ดูแลกิจการในกงสี ไม่มีครอบครัว ค่อนข้างจะอยู่ในสังคมปิดของครอบครัวในต่างจังหวัด แต่คุณป้าเค้าที่เราสนิทด้วยมีกิจการอยู่ใน กทม มีรายได้ของตัวเอง