📌ขอชี้แจงนิดหน่อยนะคะ เรามาดูช่วงที่น่าเที่ยวกันของบ้านนาขั้นบันไดกันก่อนดีกว่า
- ฤดูกาลท่องเที่ยวบ้านป่าบงเปียงนาขั้นบันได ถ้าใครอยากเห็นเลเยอร์ของคันนาสีน้ำตาลตัดกับต้นกล้าสีเขียวแนะนำให้มาช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมค่ะ ส่วนถ้าอยากเห็นความเขียวขจีแบบจัดเต็มของนาขั้นบันไดก็ต้องมาช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน
-แต่ถ้าอยากสัมผัสอากาศเย็นนิด ๆ พร้อมกับวิวนาข้าวขั้นบันไดสีเหลืองทองก็มาเที่ยวชมกันช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน และหลังจากเดือนพฤศจิกายนไปแล้วชาวบ้านจะเก็บเกี่ยวข้าว แต่อากาศจะหนาวมาก บางวันมีหมอกให้ชมกันแบบปัง ๆ อีกด้วย ใครอยากเห็นบรรยากาศประมาณไหนก็เลือกเลย แต่แอบแนะนำว่าให้มาหน้าฝน เพราะนักท่องเที่ยวจะน้อย บรรยากาศดี
มาก ไม่วุ่นวาย ^^
1.เดินทางวันที่ 1 ก.ย จากกทม.
เวลา11.15น.ถึง12.35น.
เดินทางกลับวันที่3ก.ย จากเชียงใหม่
เวลา15.00น.ถึง16.15น.
ค่าตั๋วไทยไลออนแอร์ไปกลับ 1,345/คน
2.ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์บริการรับส่งสนามบิน ค่าส่งรถคิดเพิ่ม 50บาทต่อครั้ง ราคาเช่ารถเริ่มต้น 250บาท/วันค่ามัดจำ 1,000บาท
ชื่อร้าน S.K มอเตอร์ไซค์ T.098-753-2665
เราเช่า2วันครึ่ง แนะนำร้านนี้เขาบริการดีนะคะ มีแนะนำรถให้ด้วย
3.เริ่มเดินทางออกจากสนามบินเมื่อรับรถเรียบร้อยคะ
-เราวิ่งสู่เส้นทางหมายเลข 108 ฮอด-จอมทอง
เมื่อสิ้นสุดเส้นทางให้เปลี่ยนใช้เส้นทาง 1009
จอมทอง-อินทนนท์
-แวะเก็บภาพระหว่างทางนิดหน่อยค่ะ
4.วิ่งไปเรื่อยๆจนถึงด่านตรวจที่1
เราจะเสียค่าผ่าน คนละ50บาท
ค่ารถมอเตอร์ไซค์ คันละ 20บาท
-จากนั้นวิ่งตรงไปตามป้ายขึ้นดอยอินทนนท์เลยคะ สภาพอากาศระหว่างทาง จะมีฝนปอยๆ อากาศเย็นประมาณ 22-25อาศา มีร้อนนิดหน่อย แต่บ้างช่วงจะมีหมอกหนา ขับรถระวังๆกันนะคะ
-เมื่อเราถึงด่านตรวจที่2 ผ่านเข้าไปจะมีแยกไปดอยอินทนนท์และเลี้ยวซ้ายขึ้นแม่แจ่มให้เราใช้เส้นทางหมายเลข 1192เส้นอ.แม่แจ่ม วิ่งสู่บ้านป่าปงเปียงคะ
(ถ้าใครกล้วหลงเราแนะนำให้จับGPSไป
ที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มก่อนนะคะ อย่าจับไปทางป่าบงเปียงเลยเพราะหลงแน่ๆ
-ถึงหน้าที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม ให้เลี้ยวขวาไปทางน้ำตก จากนั้นให้จับเส้นทางไปที่โรงเรียนอินทนนท์วิทยานะคะ
-ถึงทางเข้าเลี้ยวขวาโรงเรียนจะมีป้ายเขียนบอกทางไปบ้านป่าบงเปียงด้วยนะคะสังเกตกันดีๆป้ายไม่ใหญ่
-ขึ้นมาเรื่อยๆมาตามป้ายโรงเรียน
-พอถึงแยกก่อนหน้าประตูซุ้มไม้ เลี้ยวซ้ายขึ้นไป
อีกนะคะ ทางจะไม่ค่อยดีนิดหน่อยเป็นช่วงๆแค่ทางระยะสั้นๆเท่านั้น
-ทางขึ้นจะเป็นแค่ช่วงนี้ต้องระวังนะคะ
5.เรามาถึงที่พัก 18.00น พอดีเลยคะ
🛵-ที่พักคืนแรก ที่บ้านป่าบงเปียง🌾🏡
เราจองบ้านวีรศักดิ์ไว้นะคะ ราคา500บาท มีอาหารเย็น และเช้าให้คะ ดีเวอร์....
แต่ถ้าใครไปเป็นครอบครัวใหญ่สามารถเอาของไปทำทานกันเองได้นะคะ เช่นหมูกระทะ เรานำวัตถุดิบไปกันเองคะ เขามีเครื่องครัวและเตากระทะให้คะ ดีงามพระรามแปดมาก
-เราได้พักอยู่1คืน ทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย ออกจากบ้านป่าบงเปียงตอน 9.00น. เพื่อจะขึ้นไปเที่ยวบนดอยอินทนนท์
6.ขึ้นดอยอินทนนท์
พระมหาธาตุเจดีย์ นฤเมทนีดล-นฤพลภูมิสิริ
( ค่าเข้าผู้ใหญ่ คนไทย 40บาท เด็ก20)
เวลา เปิด-ปิด : 8.00-16.00น.🌈
-เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
7.เมื่อเราลงจากดอยเพื่อมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเราก็ได้แวะที่เที่ยวอีกนิดหน่อย
8.ก่อนถึงตลาดม้งเราได้เห็นต้นอะไรก็ไม่รู้เลยแวะดู “อ๋ออออ” ต้นลูกพลับ สีส้มเต็มต้น เขามีวางขายหน้าสวน รสชาติอร่อย หวานกรอบมาก เราเลยช่วยอุดหนุนและเขาก็ใจดีให้เราเก็บภาพด้วยค่ะ เขาบอกว่าลูกพลับจะปลูกได้แค่ปีละครั้งและเป็นช่วงหน้าฝนเท่านั้นเองนะคะ
-ลงมาอีกนิดจะมีตลาดม้งให้ช้อปของฝาก ราคาไม่แพงด้วยคะ จะเป็นของที่ชาวเขาขายกันเอง
9.และแล้วเราก็มาถึงตัวเมือง ในเวลา 17.00น.
เข้าที่พักเช็คอิน เราจองที่พักจากเว็ป
“อโกด้า”ลดราคาเยอะมาก ของเรารวมอาหารเช้าตกคนละ435บาทเองค่ะ พักที่ เพียว โอเต็ล ไม่ผิดหวังจริงๆคะ (เขาไม่ได้จ้างโปรโมทนะคะแต่ของเขาดีจริงเลยบอกต่อค่ะและห่างจากตัวเมืองเพียง 1กิโลเองคะ...ประทับใจเกินราคาที่พักมาก มีบาร์กาแฟด้านล่างดูดีมาก ที่นี้เขาเงียบ ไม่เสียงดัง ลูกค้าส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติคะ คนไทยน้อย เราชอบมาก
10.เก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็อาบน้ำและพักสักแบปก่อนจะไปถนนคนเดินนิมมาน-วัวลาย-ประตูท่าแพ(ในตัวเชียงใหม่)กลางคืนวัน อาทิตย์🌈
(คนเยอะและมีฝนตกปอยๆเก็บภาพไม่ได้เลยคะ)
-เราเดินผ่านวัดเจดีย์หลวงวรวิหารตอนกลางคืนสวยมากเลยขอเก็บภาพสวยๆไว้หน่อยค่ะ
ไว้ตอนเช้ามาแวะสักการะก่อนกลับล่ะกัน
เดินจนปวดขา ถึงเวลากลับไปนอนคะ พรุ่งนี้ลุยใหม่ก่อนกลับ กทม.
🌤วันที่ 3 กันยา 61 ( เช้าวันจันทร์ )🌤
ตื่นแต่เช้ามารับประทานอาหารทางที่พักจัดไว้ให้
น่าทานมากค่ะเขามีให้เราเลือกเครื่องดื่ม กาแฟหรือชา ,ไมโล และมีข้าวต้มหรือว่าโยเกิร์ตผลไม้ น่าทานทั้งคู่เลย
-เมื่อเราทานอาหารเสร็จขึ้นไปเก็บของและเช็คเอาท์ออกประมาณ 11.00 เพราะเดียวเราจะต้องไปไหว้พระและซื้อของฝากต่อคะ
☘️วัดอุโมงค์
-พระวิหารหอคำหลวง
-วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
☘️วัดพระสิงค์
11.แวะซื้อของฝาก (ถ้าอยากจะซื้อ)นะจ๊ะที่กาดหลวง ตลาดวโรรสคะ
เราชอบซื้อแคบหมูน้ำพริกหนุ่มร้านนี้มากเลยคะอร่อย และร้านเขาถ้าซื้อ500บาทขึ้นไป เขาจะห่อให้เราฟรีสะดวกในการขึ้นเครื่องมากคะ
✈️ได้เวลากลับ กทม. เราจะเดินทางถึงสนามบิน เวลา 14.00 เผื่อเวลารอคืนรถมอเตอร์ไซค์🛵เราจะใช้เวลาเดินทาง 1ชม. ถึง กทม. 16.15
สรุปค่าใช้จ่าย(ต่อคน)
-ค่ารถแท็กซี่ไปสนามบินดอนเมือง 185.
-ค่าเครื่องไป-กลับ 1,345.
-เช่ารถรวมค่ารับส่งสนามบิน2วัน 350.
-ค่ามัดจำรถ 500.(ได้คืนตอนกลับ)
-ค่าที่พักคืนแรก 500.(บ้านป่าบงเปียง)
-ค่าที่พักคืนสอง 435.(เพียว โฮเต็ล )
-ค่าเข้าอุทยานดอยอินทนนท์ คนละ40
-ค่าเข้ารถมอเตอร์ไซค์คันละ 20
-ค่าอาหาร เช้า-เย็น 1วัน 338
-ค่าเข้าพระธาตุ คนละ 40.
-ของฝาก 284.
-กินไก่ทอด+น้ำ 45.
-กินตอนเย็น 80.
-ซื้อของกินตัวเองกลับ กทม. 220.
-ค่าข้าวมื้อเที่ยง 40.
-ค่าน้ำมัน 110. /3วัน
-ค่ารถกลับบ้านจากสนามบินดอนเมือง 49.(ใช้บริการรถเมย์ตอนกลับ รถไม่ติด)
รวมทั้งหมด 4,551บาท ได้ค่ามัดจำรถคืน
ก็เท่ากับเราใช้ไป 4,051บาทคะ
....................😍จบทริปคร้า😍......................
(ทริปเชียงใหม่ หนีกรุงเที่ยวดอย) บ้านป่าบงเปียง🌾ดอยอินทนนท์🌱เชียงใหม่ วันที่ 1-3 กันยายน 61. 3วัน2คืนและ2คน
- ฤดูกาลท่องเที่ยวบ้านป่าบงเปียงนาขั้นบันได ถ้าใครอยากเห็นเลเยอร์ของคันนาสีน้ำตาลตัดกับต้นกล้าสีเขียวแนะนำให้มาช่วงปลายเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคมค่ะ ส่วนถ้าอยากเห็นความเขียวขจีแบบจัดเต็มของนาขั้นบันไดก็ต้องมาช่วงเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน
-แต่ถ้าอยากสัมผัสอากาศเย็นนิด ๆ พร้อมกับวิวนาข้าวขั้นบันไดสีเหลืองทองก็มาเที่ยวชมกันช่วงเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน และหลังจากเดือนพฤศจิกายนไปแล้วชาวบ้านจะเก็บเกี่ยวข้าว แต่อากาศจะหนาวมาก บางวันมีหมอกให้ชมกันแบบปัง ๆ อีกด้วย ใครอยากเห็นบรรยากาศประมาณไหนก็เลือกเลย แต่แอบแนะนำว่าให้มาหน้าฝน เพราะนักท่องเที่ยวจะน้อย บรรยากาศดี
มาก ไม่วุ่นวาย ^^
1.เดินทางวันที่ 1 ก.ย จากกทม.
เวลา11.15น.ถึง12.35น.
เดินทางกลับวันที่3ก.ย จากเชียงใหม่
เวลา15.00น.ถึง16.15น.
ค่าตั๋วไทยไลออนแอร์ไปกลับ 1,345/คน
2.ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์บริการรับส่งสนามบิน ค่าส่งรถคิดเพิ่ม 50บาทต่อครั้ง ราคาเช่ารถเริ่มต้น 250บาท/วันค่ามัดจำ 1,000บาท
ชื่อร้าน S.K มอเตอร์ไซค์ T.098-753-2665
เราเช่า2วันครึ่ง แนะนำร้านนี้เขาบริการดีนะคะ มีแนะนำรถให้ด้วย
3.เริ่มเดินทางออกจากสนามบินเมื่อรับรถเรียบร้อยคะ
-เราวิ่งสู่เส้นทางหมายเลข 108 ฮอด-จอมทอง
เมื่อสิ้นสุดเส้นทางให้เปลี่ยนใช้เส้นทาง 1009
จอมทอง-อินทนนท์
-แวะเก็บภาพระหว่างทางนิดหน่อยค่ะ
4.วิ่งไปเรื่อยๆจนถึงด่านตรวจที่1
เราจะเสียค่าผ่าน คนละ50บาท
ค่ารถมอเตอร์ไซค์ คันละ 20บาท
-จากนั้นวิ่งตรงไปตามป้ายขึ้นดอยอินทนนท์เลยคะ สภาพอากาศระหว่างทาง จะมีฝนปอยๆ อากาศเย็นประมาณ 22-25อาศา มีร้อนนิดหน่อย แต่บ้างช่วงจะมีหมอกหนา ขับรถระวังๆกันนะคะ
-เมื่อเราถึงด่านตรวจที่2 ผ่านเข้าไปจะมีแยกไปดอยอินทนนท์และเลี้ยวซ้ายขึ้นแม่แจ่มให้เราใช้เส้นทางหมายเลข 1192เส้นอ.แม่แจ่ม วิ่งสู่บ้านป่าปงเปียงคะ
(ถ้าใครกล้วหลงเราแนะนำให้จับGPSไป
ที่ว่าการอำเภอแม่แจ่มก่อนนะคะ อย่าจับไปทางป่าบงเปียงเลยเพราะหลงแน่ๆ
-ถึงหน้าที่ว่าการอำเภอแม่แจ่ม ให้เลี้ยวขวาไปทางน้ำตก จากนั้นให้จับเส้นทางไปที่โรงเรียนอินทนนท์วิทยานะคะ
-ถึงทางเข้าเลี้ยวขวาโรงเรียนจะมีป้ายเขียนบอกทางไปบ้านป่าบงเปียงด้วยนะคะสังเกตกันดีๆป้ายไม่ใหญ่
-ขึ้นมาเรื่อยๆมาตามป้ายโรงเรียน
-พอถึงแยกก่อนหน้าประตูซุ้มไม้ เลี้ยวซ้ายขึ้นไป
อีกนะคะ ทางจะไม่ค่อยดีนิดหน่อยเป็นช่วงๆแค่ทางระยะสั้นๆเท่านั้น
-ทางขึ้นจะเป็นแค่ช่วงนี้ต้องระวังนะคะ
5.เรามาถึงที่พัก 18.00น พอดีเลยคะ
🛵-ที่พักคืนแรก ที่บ้านป่าบงเปียง🌾🏡
เราจองบ้านวีรศักดิ์ไว้นะคะ ราคา500บาท มีอาหารเย็น และเช้าให้คะ ดีเวอร์....
แต่ถ้าใครไปเป็นครอบครัวใหญ่สามารถเอาของไปทำทานกันเองได้นะคะ เช่นหมูกระทะ เรานำวัตถุดิบไปกันเองคะ เขามีเครื่องครัวและเตากระทะให้คะ ดีงามพระรามแปดมาก
-เราได้พักอยู่1คืน ทานข้าวเช้าเสร็จเรียบร้อย ออกจากบ้านป่าบงเปียงตอน 9.00น. เพื่อจะขึ้นไปเที่ยวบนดอยอินทนนท์
6.ขึ้นดอยอินทนนท์
พระมหาธาตุเจดีย์ นฤเมทนีดล-นฤพลภูมิสิริ
( ค่าเข้าผู้ใหญ่ คนไทย 40บาท เด็ก20)
เวลา เปิด-ปิด : 8.00-16.00น.🌈
-เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา
7.เมื่อเราลงจากดอยเพื่อมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเราก็ได้แวะที่เที่ยวอีกนิดหน่อย
8.ก่อนถึงตลาดม้งเราได้เห็นต้นอะไรก็ไม่รู้เลยแวะดู “อ๋ออออ” ต้นลูกพลับ สีส้มเต็มต้น เขามีวางขายหน้าสวน รสชาติอร่อย หวานกรอบมาก เราเลยช่วยอุดหนุนและเขาก็ใจดีให้เราเก็บภาพด้วยค่ะ เขาบอกว่าลูกพลับจะปลูกได้แค่ปีละครั้งและเป็นช่วงหน้าฝนเท่านั้นเองนะคะ
-ลงมาอีกนิดจะมีตลาดม้งให้ช้อปของฝาก ราคาไม่แพงด้วยคะ จะเป็นของที่ชาวเขาขายกันเอง
9.และแล้วเราก็มาถึงตัวเมือง ในเวลา 17.00น.
เข้าที่พักเช็คอิน เราจองที่พักจากเว็ป
“อโกด้า”ลดราคาเยอะมาก ของเรารวมอาหารเช้าตกคนละ435บาทเองค่ะ พักที่ เพียว โอเต็ล ไม่ผิดหวังจริงๆคะ (เขาไม่ได้จ้างโปรโมทนะคะแต่ของเขาดีจริงเลยบอกต่อค่ะและห่างจากตัวเมืองเพียง 1กิโลเองคะ...ประทับใจเกินราคาที่พักมาก มีบาร์กาแฟด้านล่างดูดีมาก ที่นี้เขาเงียบ ไม่เสียงดัง ลูกค้าส่วนมากจะเป็นชาวต่างชาติคะ คนไทยน้อย เราชอบมาก
10.เก็บของเสร็จเรียบร้อยเราก็อาบน้ำและพักสักแบปก่อนจะไปถนนคนเดินนิมมาน-วัวลาย-ประตูท่าแพ(ในตัวเชียงใหม่)กลางคืนวัน อาทิตย์🌈
(คนเยอะและมีฝนตกปอยๆเก็บภาพไม่ได้เลยคะ)
-เราเดินผ่านวัดเจดีย์หลวงวรวิหารตอนกลางคืนสวยมากเลยขอเก็บภาพสวยๆไว้หน่อยค่ะ
ไว้ตอนเช้ามาแวะสักการะก่อนกลับล่ะกัน
เดินจนปวดขา ถึงเวลากลับไปนอนคะ พรุ่งนี้ลุยใหม่ก่อนกลับ กทม.
🌤วันที่ 3 กันยา 61 ( เช้าวันจันทร์ )🌤
ตื่นแต่เช้ามารับประทานอาหารทางที่พักจัดไว้ให้
น่าทานมากค่ะเขามีให้เราเลือกเครื่องดื่ม กาแฟหรือชา ,ไมโล และมีข้าวต้มหรือว่าโยเกิร์ตผลไม้ น่าทานทั้งคู่เลย
-เมื่อเราทานอาหารเสร็จขึ้นไปเก็บของและเช็คเอาท์ออกประมาณ 11.00 เพราะเดียวเราจะต้องไปไหว้พระและซื้อของฝากต่อคะ
☘️วัดอุโมงค์
-พระวิหารหอคำหลวง
-วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร
☘️วัดพระสิงค์
11.แวะซื้อของฝาก (ถ้าอยากจะซื้อ)นะจ๊ะที่กาดหลวง ตลาดวโรรสคะ
เราชอบซื้อแคบหมูน้ำพริกหนุ่มร้านนี้มากเลยคะอร่อย และร้านเขาถ้าซื้อ500บาทขึ้นไป เขาจะห่อให้เราฟรีสะดวกในการขึ้นเครื่องมากคะ
✈️ได้เวลากลับ กทม. เราจะเดินทางถึงสนามบิน เวลา 14.00 เผื่อเวลารอคืนรถมอเตอร์ไซค์🛵เราจะใช้เวลาเดินทาง 1ชม. ถึง กทม. 16.15
สรุปค่าใช้จ่าย(ต่อคน)
-ค่ารถแท็กซี่ไปสนามบินดอนเมือง 185.
-ค่าเครื่องไป-กลับ 1,345.
-เช่ารถรวมค่ารับส่งสนามบิน2วัน 350.
-ค่ามัดจำรถ 500.(ได้คืนตอนกลับ)
-ค่าที่พักคืนแรก 500.(บ้านป่าบงเปียง)
-ค่าที่พักคืนสอง 435.(เพียว โฮเต็ล )
-ค่าเข้าอุทยานดอยอินทนนท์ คนละ40
-ค่าเข้ารถมอเตอร์ไซค์คันละ 20
-ค่าอาหาร เช้า-เย็น 1วัน 338
-ค่าเข้าพระธาตุ คนละ 40.
-ของฝาก 284.
-กินไก่ทอด+น้ำ 45.
-กินตอนเย็น 80.
-ซื้อของกินตัวเองกลับ กทม. 220.
-ค่าข้าวมื้อเที่ยง 40.
-ค่าน้ำมัน 110. /3วัน
-ค่ารถกลับบ้านจากสนามบินดอนเมือง 49.(ใช้บริการรถเมย์ตอนกลับ รถไม่ติด)
รวมทั้งหมด 4,551บาท ได้ค่ามัดจำรถคืน
ก็เท่ากับเราใช้ไป 4,051บาทคะ
....................😍จบทริปคร้า😍......................