มหาเถรสมาคม ออกประกาศเรื่องห้ามใช้วัดเป็นสถานที่ชุมนุม หรือสัมมนา หรือจัดกิจกรรม
ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ และความแตกแยกขึ้นในสังคม
อ้างว่าที่ผ่านมา มีการใช้อาคาร สถานที่ และพื้นที่ของวัดผิดวัตถุประสงค์ไปจากการทำ
สังฆกรรม กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา การคณะสงฆ์ การสาธารณสงเคราะห์ การทำนุ
บำรุงศิลปวัฒนธรรม และการเสริมสร้างความสามัคคีของประชาชน
โดยใช้เป็นที่จัดชุมนุม ประชุม สัมมนา เสวนา หรือกิจกรรมที่มีลักษณะ หรือเนื้อหาที่อาจ
ละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย และ
ศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง
ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัดเป็นสถานที่เปิดเผย สามารถใช้ทำกิจกรรมสาธารณะได้อย่าง
หลากหลาย ไม่เพียงแต่เรื่องพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ และสังฆกรรมเท่านั้น แต่รวมถึง
กิจกรรมอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย
ส่วนทางการเมืองนั้น นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง วัดก็มีส่วนส่งเสริมระบอบ
ประชาธิปไตยไม่น้อย โดยให้องค์กรการเมือง ใช้สถานที่ในการนำเสนอนโยบายสาธารณะ
เปิดเวทีหาเสียงได้อย่างเสมอภาค
การห้ามจัดกิจกรรมความเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ย่อมจะทำให้วัดขาดความสัมพันธ์กับ
สังคมไปด้วยโดยปริยาย อาจทำให้วัดไม่ได้เป็นศูนย์กลางของชุมชนอีกต่อไปแล้วหรือไม่
ยิ่งทำให้วัดกับบ้านเริ่มเหินห่างกันไป
ประกาศมหาเถรสมาคมฉบับนี้ นอกจากจะห้ามใช้วัดเป็นสถานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทาง
การเมืองแล้ว ยังให้พระสังฆาธิการหรือ เจ้าอาวาสวัดนั้นๆปฏิบัติและกวดขันมิให้พระภิกษุ
สามเณรเกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างเคร่งครัดด้วย
จริงอยู่พระภิกษุสามเณรไม่อาจเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆได้อยู่แล้ว อีกทั้งรัฐธรรมนูญ
ก็กำหนดห้ามไม่ให้มีสิทธิเลือกตั้งด้วย แต่ที่ผ่านมาก็ปรากฏอยู่ไม่น้อยว่าพระสงฆ์หลายรูป
ก็มีความโน้มเอียงทางการเมือง
น่าสังเกตว่าหลังจากนี้ไป ประกาศฉบับนี้ จะเป็นอุปสรรคที่ทำให้พระสังฆาธิการสามารถพบปะ
หรือให้บุคคลที่อยู่ในวงการเมืองเข้าพบได้ลำบากและยุ่งยากมากขึ้นหรือไม่
รวมทั้งจะบังคับใช้ได้จริงแค่ไหน
https://www.khaosod.co.th/hot-topics/news_1534459
บทบรรณาธิการ : ห้ามหาเสียงในวัด ...ข่าวสดออนไลน์ .../sao..เหลือ..noi
ที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ และความแตกแยกขึ้นในสังคม
อ้างว่าที่ผ่านมา มีการใช้อาคาร สถานที่ และพื้นที่ของวัดผิดวัตถุประสงค์ไปจากการทำ
สังฆกรรม กิจกรรมทางพระพุทธศาสนา การคณะสงฆ์ การสาธารณสงเคราะห์ การทำนุ
บำรุงศิลปวัฒนธรรม และการเสริมสร้างความสามัคคีของประชาชน
โดยใช้เป็นที่จัดชุมนุม ประชุม สัมมนา เสวนา หรือกิจกรรมที่มีลักษณะ หรือเนื้อหาที่อาจ
ละเมิดกฎหมาย หรือกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย และ
ศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือใช้จัดกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมือง
ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางว่าไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน วัดเป็นสถานที่เปิดเผย สามารถใช้ทำกิจกรรมสาธารณะได้อย่าง
หลากหลาย ไม่เพียงแต่เรื่องพระพุทธศาสนา คณะสงฆ์ และสังฆกรรมเท่านั้น แต่รวมถึง
กิจกรรมอื่นๆที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมด้วย
ส่วนทางการเมืองนั้น นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง วัดก็มีส่วนส่งเสริมระบอบ
ประชาธิปไตยไม่น้อย โดยให้องค์กรการเมือง ใช้สถานที่ในการนำเสนอนโยบายสาธารณะ
เปิดเวทีหาเสียงได้อย่างเสมอภาค
การห้ามจัดกิจกรรมความเคลื่อนไหวทางการเมือง ก็ย่อมจะทำให้วัดขาดความสัมพันธ์กับ
สังคมไปด้วยโดยปริยาย อาจทำให้วัดไม่ได้เป็นศูนย์กลางของชุมชนอีกต่อไปแล้วหรือไม่
ยิ่งทำให้วัดกับบ้านเริ่มเหินห่างกันไป
ประกาศมหาเถรสมาคมฉบับนี้ นอกจากจะห้ามใช้วัดเป็นสถานที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทาง
การเมืองแล้ว ยังให้พระสังฆาธิการหรือ เจ้าอาวาสวัดนั้นๆปฏิบัติและกวดขันมิให้พระภิกษุ
สามเณรเกี่ยวข้องกับการเมืองอย่างเคร่งครัดด้วย
จริงอยู่พระภิกษุสามเณรไม่อาจเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆได้อยู่แล้ว อีกทั้งรัฐธรรมนูญ
ก็กำหนดห้ามไม่ให้มีสิทธิเลือกตั้งด้วย แต่ที่ผ่านมาก็ปรากฏอยู่ไม่น้อยว่าพระสงฆ์หลายรูป
ก็มีความโน้มเอียงทางการเมือง
น่าสังเกตว่าหลังจากนี้ไป ประกาศฉบับนี้ จะเป็นอุปสรรคที่ทำให้พระสังฆาธิการสามารถพบปะ
หรือให้บุคคลที่อยู่ในวงการเมืองเข้าพบได้ลำบากและยุ่งยากมากขึ้นหรือไม่
รวมทั้งจะบังคับใช้ได้จริงแค่ไหน
https://www.khaosod.co.th/hot-topics/news_1534459