หรือด้วยแรงอธิษฐาน.....

คิดอยู่นานจะพิมพ์ดีรึเปล่า
เพราะเหมือนเหรียญสองด้าน
แต่ยังไงก็น้อมรับความเห็นของทุกท่าน
ด่าว่าได้แต่อย่าแรง
เราหัวใจบอบบาง อิอิ

ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เราตั้งจิตอธิษฐาน

เริ่มต้นที่เราเป็นดี้ มีแฟนเป็นทอมมาตลอด
แต่ก็เป็นอันเลิกไม่ว่าจะคบกันปีกว่าบ้าง
เจ็ดปีกว่าบ้าง สามเดือนบ้าง

จนล่าสุด ได้รู้จักกับทอมต่างประเทศ(ในต่างประเทศเรียกว่าเลสเบี้ยนเท่านั้น)
คนนึงผ่านไลน์กลุ่ม ผ่านรุ่นพี่คนนึงที่เราสนิทกันมากนับถือเป็นพี่น้องกันมานาน
เราโทรไลน์คุยกัน วิดีโอคอลคุยกัน
โทรปลุกทุกเช้า บางทีก็หลับคามือถือ
นอนไปทั้งๆที่อยู่ในสาย
เราเริ่มชอบเขามากกว่าเพื่อน
เขารู้ เขาก็ชอบที่เราชอบช่วยเหลือคนอื่น
แต่เคยถามว่า ถ้าวันนึงเขามีแฟนเขาชอบแฟนแบบไหน เขาบอกว่า เขาชอบแฟนที่อยู่ใกล้ๆกัน
เราไปหาเขาที่ต่างประเทศครั้งนึง
เขามาที่ไทยครั้งนึง
เขามาเที่ยวกับเพื่อน
แต่เจอกับเราทุกวัน
มีโอกาสไปดูหิ่งห้อยอัมพวาด้วยกัน(เพื่อนเขาจะไปด้วยแต่ไม่สบายขอตัวกลับก่อน ตอนแรกเราจะล้มเลิกการไปอัมพวา เพื่อไปดูแลเพื่อนเขา แต่เขาและเพื่อนเขาบอกว่าไม่เป็นไร เพื่อนเขากลับคนเดียวไหวอยู่ เราก็เขียนเป็นภาษาไทย ไว้ให้เพื่อนเขาเอาไปยื่นกับพนักงานบนรถไฟและแท็กซี่อ่าน และพาไปส่งที่ที่พัก)

ตอนไปที่โน่น ทอมไม่ชอบสัตว์เลี้ยง
แต่เราชอบมาก เขารู้ว่าเราชอบสัตว์ เขาพาเราไปสวนสัตว์ (แต่เขาก็เอาอาหารให้สัตว์นะ)

เขาพาเราไปทะเล กางร่มให้เราเพราะฝนตก เอาเสื้อหนาวให้เรา เขาจำได้ว่าเราชอบอะไรไม่ชอบอะไร เขาตื่นมาทำอาหารเช้าให้ ทั้งที่ปกติเขาไม่ชอบตื่นเช้า

เอาเป็นว่าเขาดูแลเป็นอย่างดี

ตอนอยู่ไกลกันถ้าเขาเจอสิ่งที่เราชอบเขาจะวิดีโอมาให้เห็น
เขาวาดรูปให้เราในวันเกิดเรา
เขาซื้อโปสการ์ดกับตุ๊กตาเกาะแก้วให้ในวันที่เขาเจอโปสการ์ดสวยๆ เพราะเขาบอกว่าเขารู้ว่าเราชอบโปสการ์ดและตุ๊กตาเกาะแก้ว

เราชอบเขามากขึ้น
แอบหวังนิดๆว่าวันนึงน่าจะได้เป็นแฟนกัน
เพราะเราไม่มีใครไม่มองใคร
ทุกวันเกือบหนึ่งปีคือไม่สนใจใคร
เหมือนมีเขาเป็นส่วนนึงในชีวิตเราไปแล้ว
แม้ว่าจะอยู่ไกลกันก็เถอะ

ฝ่ายเขาก็ไม่มีใคร
เพื่อนๆเขาก็รู้ว่าคุยกับเรา
เพื่อนเราก็รู้ว่าคุยกับเขา

ต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา
เราอยากไปหาเขาอีก
เขาให้เราไปเดือนเมษา
เราและเขามาเปิดดูวันว่าง
แต่ว่างไม่ตรงกันเลย
ยาวไปถึงสิ้นปีเลยบอกกันว่าไว้สิ้นปีค่อยมาว่ากันใหม่
ต้นๆเดือนเมษาพ่อเราก็ไม่ค่อยสบาย
เราไม่อยากไปเที่ยว(เรากับพ่ออยู่กันคนละที่มาตั้งแต่เราเด็กๆ แต่เราก็รักพ่อเรามาก ถ้าไปเที่ยวโดยที่รู้ว่าพ่อเราไม่สบายอยู่ ก็จะอึดอัดใจ)
และงานก็เยอะ
และเราก็ต้องอ่านหนังสือสอบงานราชการ ถ้าสอบปีหน้าไม่ได้แล้วเพราะอายุเกิน เราก็บอกเหตุผลที่เราไปไม่ได้นะ

พอเดือนพฤษภาเรารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลง ไม่เหมือนเดิม บอกไม่ได้ว่าทำไมไม่เหมือนเดิม หรือเราคิดมากไปเอง

ถึงวันวิสาขบูชา เราไปเวียนเทียน
เราอธิษฐาน "ลูกไม่สบายใจ อยู่ดีๆคนที่ลูกคุยด้วยเปลี่ยนไป คือลูกรู้สึกถึงความเปลี่ยนไป ลูกไม่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้อีกแล้ว ถ้าใครที่เป็นคู่กับลูก ขอให้ลูกเจอ ให้คนที่เป็นคู่กันแสดงตัวตนพูดหรือกระทำการใดๆให้ลูกได้รับรู้ แต่ถ้าใครที่ไม่ใช่คู่แท้ของลูก ขอให้เราจากกัน จากกันด้วยความเป็นนี่แหล่ะ"

หลังจากอธิษฐานไปสองวัน จู่ๆผู้ชายต่างชาติที่เราคุยกันเป็นเพื่อนกันมาประมาณสองปีเขาก็ถามขึ้นมาว่า ต้องการที่จะเป็นผู้หญิงของเขามั๊ย?
เราไม่ตอบแต่ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร
แค่ย้อนกลับไปเล่นว่า แล้วผู้ชายอยากเป็นผู้ชายของเรามั๊ย?
ผู้ชายตอบกลับว่า ก็อยากจะอยู่นะ

จากนั้นเรากับผู้ชายต่างเงียบ อันที่จริงเป็นเรื่องปกติ เพราะผู้ชายจะมาคุยกับเราแค่อาทิตย์ละครั้งสองครั้งเท่านั้น

จากนั้นวันที่ 3 มิถุนา เราไปสอบก่อนสอบหลังสอบเราก็ส่งภาพเข้าไลน์กลุ่มว่าเราสอบนะวันนี้และสอบเสร็จแล้ว
และส่งเข้าไลน์ทอม
ทอมไม่อ่าน เราต้องไปทำงานต่างจังหวัด
พอถึงต่างจังหวัดตอนตีสี่เราก็ส่งข้อความบอกว่าตอนนี้ถึงต่างจังหวัดแล้วนะ

หกโมงเช้าบ้านเรา เท่ากับเจ็ดโมงเช้าบ้านทอม
ทอมส่งข้อความมา
เราดีใจมาก แต่ยังไม่อ่าน
แต่ก็แปลกใจเพราะปกติทอมจะไม่ตื่นเช้า
เพราะเกือบหนึ่งปีเราโทรไปปลุกเขาตอนแปดโมงเช้าไทย เก้าโมงเช้าบ้านทอม

เราตั้งใจจะเปิดอ่านข้อความตอนแปดโมงเช้า เพราะจะโทรไปปลุกเขาเหมือนวันที่ผ่านๆมา
แต่แล้วข้อความที่เราได้รับคือ "สวัสดี เป็นไงบ้าง มีเรื่องที่ให้เราร่วมมีความสุขและยินดีกับเขา ตอนนี้เขามีแฟนแล้วนะ เขาคิดกับเราแค่เพื่อน เราคือเพื่อนที่ดีของเขา แต่ตอนนี้เขาจะไม่อ่านไลน์หรือตอบกลับข้อความของเราอย่างน้อยชั่วขณะหนึ่ง เพราะอยากให้แฟนของเขาเชื่อมั่นในตัวเขา เขายืนยันอีกครั้งว่า เขาคิดกับเราแค่เพื่อน ขอบคุณอีกครั้ง เพื่อน"

เราร้องไห้ไม่มีเสียง
แต่น้ำตามันไหลรินอัตโนมัติ

มานั่งทบทวน
ที่ผ่านมาคนที่เรารักเขาก็ไม่รักเรา
คนที่เราไม่รักเขาก็รักเรา
หรือเราไม่เหมาะกับคบทอม
เราไม่อยากเสียใจกับทอมอีกแล้ว
เราอยากเก็บเขาไว้ในความทรงจำที่ดีและเป็นทอมคนสุดท้ายที่เราจะรู้สึกแบบที่มากกว่าเพื่อน

เรากลับไปบอกผู้ชายว่า
วันนี้เรารู้สึกผิดหวัง อกหัก เราเสียใจ
เราตกลงเปิดใจที่จะเป็นผู้หญิงของเขา

แต่ผู้ชายรู้ใช่มั๊ยว่าเราเป็นเลสเบี้ยน(ในไทยเราคือดี้)

ผู้ชายตอบว่าเขารู้ และขอบคุณที่เรายอมเปิดใจ...

จากวันที่ 4 มิถุนา จนถึงวันนี้ มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่ทอมส่งข้อความหาเรา คือในวันเกิดเรา นอกนั้นเรายังคิดเลยว่า ไม่น่าอธิษฐานเลย เพราะทอมไม่ยอมคุยกับเราอีก ในไลน์กลุ่มบางทีเขาก็อ่านนะ เพราะกลุ่มนั้นมีกันสี่คน แต่เขาไม่ส่งข้อความใดๆ แค่อ่านเฉยๆ....

(ไปกินข้าวก่อนเดี๋ยวมาต่อค่ะ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่