บ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เป็นเมืองในหมอก จริงๆค่ะ (ทุกภาพถ่ายจากมือถือค่ะ)
การเดินทางเราเริ่มที่จุด Start กันเลยจ้าาา
เคยมั้ยที่เห็นใครๆไปถ่ายรูปนั้น อยู่ที่ไหน จุดไหน หวังว่าจะช่วยเพื่อนๆไม่ให้พลาดจุดเช็คอินเก๋ๆ นะคะ
ก่อนขึ้นไปปิล๊อก ต้องเติมน้ำมันให้พอนะคะ เพราะจากนี้ไปจะไม่มีปั๊ม สัญญาณมือถือน้อยลงเรื่อยๆจนถึงหายไปเลยค่ะ หน้าฝน จะเจอป้ายเตือน ไหล่ทางชำรุด ดินสไลด์ ทางเป็นหลุม เป็นบ่อ มีการซ่อมทางเป็นระยะค่ะ เกือบครึ่งทางจะมีด่านอุทฯสามารถพักรถและขอเข้าห้องน้ำได้ค่ะ แต่ถ้าใครไหวก็ไปต่อค่ะ
ถึงครึ่งทางจะมีจุดชมวิว มีห้องน้ำ และป้ายรับสัญญาณมือถือค่ะ
ขับต่อไปจะเจอป้ายทางเข้า อุทยานฯทองผาภูมิค่ะ
หากจะเข้าชมน้ำตกจ๊อกกระดิ่น สามารถเข้าอีกทางคือขับผ่านหน้าอุทฯ มานิดนึงจะเห็นป้าย "น้ำตกจ๊อกกระดิ่น" ขับเข้าไปไม่ไกลมาก จะเจอเจ้าหน้าที่คอยให้บริการค่ะ (อายุ 6o ปี เข้าฟรีค่ะ) จากนั้นต้องเดินต่อเข้าไป ทางเดินร่มรื่นค่ะ มีสะพานสีเขียวสวยๆค่ะ แวะถ่ายรูปกันก่อน อิอิ และแล้วก็ถึงน้ำตก ช่วงนี้หน้าฝน น้ำจะเยอะและแรง ลงเล่นน้ำใกล้ๆไม่ได้นะคะ ขยับเล่นน้ำออกมาหน่อยจะดีกว่าจ้าา
พอชุ่มฉ่ำแล้ว เราเข้าหมู่บ้านกันค่ะ
(2)จะเห็นป้ายต้อนรับเด่นมาก
(3)แวะจอดซื้อเค้กสูตรป้าเกล็นก่อนได้ค่ะ ชื่อร้าน ชาวเมือง k.ชาลี เค้กขึ้นชื่อคือเค้กแครอทค่ะ หมดเร็วมาก TT
(4)ต่อมานิดเดียวจะเป็นสน.ค่ะ หน้าสน.จะมีป้ายให้เช็คอิน 2 ป้ายค่ะ คือ ป้ายอ้อมกอดแห่งขุนเขา,ป้ายปิล๊อกดินแดน399โค้ง (อย่าลืมเช็คอินกันน๊าาทุกคน) ด้านหลังมีหมอกเป็นฉากหลัง ฟินมากๆ ข้างๆสน.จะมีสวนกล้วยไม้ จะหลงลืมเวลากันเลยทีเดียว 55
ได้เวลาถึงหมู่บ้านอีต่องแล้วจริงๆ ทีนี้
เมื่อเข้ามา จะเจอทางที่ให้ขับรถขึ้นไปชมวิวเนินช้างศึก
(5)เป็นสถานีอนามัย
(6)เป็นศาลให้เราขอพร ข้างๆเป็นทางเดินเท้า 1.2 กิโล ให้ทดสอบพลังขา เดินขึ้นไปชมวิวเนินช้างศึก ^^
(7)เป็นทางให้รถออกที่วนออกจากเหมือง
(8)บ้านเหมืองที่ใครก็อยากมาเห็น สวย น่าอยู่จัง
(9)ป้ายเหมืองปิล๊อก ที่ต้องมาถ่ายรูปให้ได้
(10)เป็นบ่อน้ำข้างป้อมตำรวจ มีศาลาริมน้ำน่ารักๆให้นั่งชิลๆด้วยนะคะ
(11)เป็นป้อมตำรวจ หน้าป้อมมีที่วัดอุณหภูมิด้วยค่ะ วันที่เราไป ประมาณ 20 องศา กำลังสบายๆเลย ตรงข้าม
(12)เป็นป้ายหมู่บ้าน ทางซ้ายเป็นทางขึ้นไปวัดเหมืองปิล๊อกน๊า
(13)บ้านพักที่ออกแบบเป็นรูปตอไม้ แปลกสุดในหมู่บ้านเลยค่ะ (ถ่ายตอนเย็น เลยมืดๆหน่อย 55)
(14)เป็นซอยที่สวยมาก จะเห็นหลายๆคนมาถ่ายรูปกัน
(15)อีต่องโฮมสเตย์ ซอยที่ว่าสวยๆก็อยู่ข้างๆเลยค่ะ หรือใครสนใจติดต่อรถยกสูงนำเที่ยวได้ที่นี่ก็มีบริการค่ะ
(16)รถสองแถว อีต่อง-ทองผาภูมิ จะจอดรอรับคนที่หน้าซอยตลาดอีต่อง ค่ะ
(17)เป็นทีพักของเราทริปนี้ค่ะ ชื่อ พอเพลินโฮมสเตย์ ค่ะ
(18)เป็นซอยที่เรียกว่า "ตลาดอีต่อง"
(×)เป็นจุดที่ขายหมูปิ้งและแผ่นไม้ ที่เขียนแล้วนำไปแขวน ห้อยไว้ตามราวริมบ่อน้ำ
(19)คือโซนที้พักริมบ่อน้ำ ซึ่งจะเต็มเร็วมาก แต่หากใครจองไม่ทัน ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะบ้านแทบทุกหลังจะเปิดเป็นที่พักค่ะ ไม่ต้องจองล่วงหน้ายังมีพอค่ะ มีเยอะกว่าที่หาจากในเน็ตอีกนะคะ อิอิ
(20)คือจุดที่ชมวิวริมบ่อน้ำ ถ่ายรูปกับป้ายไม้ ที่เขียนเป็นที่ระลึกของการมาเยือนครั้งหนึ่งที่อีต่องจ้า
จากมุมนี้จะเห็นวิวที่เป็นหนึ่งในสัญญาลักษณ์ที่นี่ค่ะ
เวลาเดียวกันแต่แค่แว๊บเดียว บรรยากาศก็เปลี่ยนได้ 555+
(21)ป้ายตลาดอีต่อง
(22)ป้ายสะพานเหมืองแร่ ข้างๆมีต้นไม้ใหญ่ ให้ถ่ายรูปไปอวดได้ด้วยน๊าา ^^
(23)จะเป็นลานแสดงรถ,อุปกรณ์ทำเหมืองเก่าให้เราได้ชมค่ะ
(24)กำแพงเหมือง ใช้เป็นฉากหลังรูปภาพได้แปลกๆอีกแบบค่ะ
ด้านบนกำแพงเป็นโกดังอะไรสักอย่าง
(25)ข้างกำแพงเป็นเหมือนหลุม/ห้องอะไรบางอย่าง ไม่แน่ใจ ^^
เดินตามทางมาจะเห็นทางแยก ซ้ายจะเป็นทางให้รถวนออก ขวาคือทางที่จุดหมายการตั้งใจมาที่นี่
จะเห็นในบางรีวิวที่บอกว่ามีบ่อปลาคราฟในธรรมชาติ มีน้ำตกเล็กๆ ซึ่งดึงดูดให้มาดูสักครั้ง
แต่พอหลายคนมาถึง พอเห็นแค่บ่อที่1 ก็หันกลับ เพราะบ่อนี้มีน้ำตก แต่ไม่มีปลาคราฟ อย่างที่เห็นในรีวิว คริๆ
ก็ไม่แปลก เพราะตอนที่เราเห็นก็คิดจะหันกลับ พร้อมกับบ่นในใจว่า หลอกกันป่ะเนี่ย อิอิ (เกือบไปแล้วน่ะ ดลลี่)
แต่ดีที่ตัดสินใจเดินต่อ ก็พบบ่อน้ำที่2
(26)ระหว่างบ่อ2 กับบ่อ3 จะมีแผงกล้วยไม้(ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไร รบกวนผู้รู้บอกที 55) แต่สวยมาก
(27)ถึงบรรลุเป้าหมายแล้ววว พอเห็นแว๊บแรกเลย บอกได้คำเดียว "ว๊าวๆๆ" คุ้มแล้ว คุ้มสุดๆ
เป็นบ่อปลาคราฟที่น้ำใสมาก สะอาดมาก มีน้ำไหลจากน้ำตก และท้ายบ่อจะมีประตูน้ำให้น้ำไหลออกไปสู่บ่อ2
เหมาะกับการเติบโตจริงๆ เราไปเจอลูกปลาคราฟเล็กๆเยอแยะเลย (โตเร็วๆน่ะ) ส่วนปลาคราฟ ช่างแสนรู้จริงๆ น่ารัก เพราะไม่ว่าเราจะเดินไปมุมไหน พอเค้าได้ยินเสียงเรา เค้าจะว่ายมาตามเสียงเราเลยค่ะ แบบนี้ไม่ให้หลงรักได้ไง จริงไมคะเพื่อนๆ อิอิ
วีดีโอ มีน่ะ แต่เดี๋ยวหาวิธีก่อน จะลงอัพเดทให้น่ะคะ แฮร่ๆๆ
(28)บันไดทางขึ้นโบสถ์ วัดเหมืองปิล๊อก โบสถ์สวยมากๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะจริงๆ แปลกกว่าที่เคยเห็น ตรงข้าม
(31)เป็นลานกว้าง สำหรับกางเต้นค่ะ
(32)ข้างๆเป็นศูนย์เตรียมพร้อมป้องกันภัยประจำหมู่บ้าน
หากเดิน/ขับรถผ่านทางขึ้นโบสถ์ทางนี้ไป อีกนิดนึงจะเข้าทางด้านหน้าวัด จะเจอน้ำพุกลางลาน ทางซ้ายจะเป็นบันไดทางขึ้นไปสักการะพระเจดีย์บนภูเขา ทางเดินขึ้นไปมีรูปปั้นแสดงการกราบแบบของที่นี่ ตลอดทางขึ้นไปจนถึงเจดีย์ มีรูปปั้นพระถือบาตร (กี่องค์ ลืมนับ อิอิ ใครมีโอกาสได้ไป กลับมาบอกหน่อยน๊าาา แฮร่ๆ) พอขึ้นไปสวยมาก สีทองอร่าม หากมองสูงขึ้นไปเหนือเจดีย์ จะมีพระพุทธรูป น่าจะปรางค์นาคปรก แต่หมอกลง ท้องฟ้าไม่เปิดเลยมองเห็นเพียงเงา
เมื่อมองกลับลงมา จะเห็นวิวโบสถ์และหมู่บ้านที่มีหมอกปกคลุม ตลอดเวลา
โซนA
-ที่อยู่ใกล้ป้ายหมู่บ้านจะมีระฆัง เป็นบันไดเก่า
-ตอนเช้าประมาณ7.30 น. เราได้ทันใส่บาตรพระที่ตรงนี้ค่ะ
-มีร้านขายกาแฟสด
-บันไดที่มีดอกไม้สีแดงๆ น่าจะโป๊ยเซียน,ดอกน่าวัว มั้ง(แอบลืม 55+) น่าถ่ายรูปนะ เราว่า
โซนB
-จะมีบ้านไม้ ประตูสวย น่าเก็บสักภาพ แต่มีเชือกกั้นไว้
-เดินมาเรื่อยๆจะเจอลุงเท่ง เป็นร้านหมูกะทะ (อีต่องมีหมูกะทะแล้วน๊า) หอมยั่วน้ำลายมากๆๆๆ
-ถัดมาจะเป็นป้าย "ผุพังโฮมสเตย์" ป้ายนี้น่าถ่ายรูปเอาไปฝากเพื่อน 555+
มาฝั่งตรงข้าม คือ โซน C
-จะเป็นร้าน "ครัวเจ๊นี" ร้านนี้คนเต็ม แน่นร้านตลอด อาหารอร่อย เมนูแนะนำ ปูทะเลผักผงกะหรี่
ถ้าถามว่าต่างจากปูบ้านเราอย่างไร?
สำหรับเรา เราว่า รสชาติ ไม่ต่าง แต่ต่างตรงที่ เนื้อของปูน้อย อิอิ
-ข้างๆจะมีหลักกิโล ที่เขียนว่า "ปิล๊อก 0 กม."
-ติดกัน คือร้าน ฮักปิล๊อก ที่มีจุดเด่นคือ หุ่นนายแบบผู้ชาย ที่ใครๆต้องมารุ่มถ่ายรูปด้วย (หล่อที่สุดในอีต่อง ก็งี้แหละ 555+) ร้านนี้มีการ์ดให้เขียนส่งด้วยค่ะ
ถ้าจำไม่ผิด ใบละ 15 บาท ถ้าให้ส่ง คิดเพิ่ม 5 บาท
ข้างๆร้านนี้ จะเห็นตู้ไปรษณีย์ มีหุ่นที่บางคนอาจตกใจ แต่คนก็ชอบมาถ่ายรูป เช่นกัน
-ถัดมา ต้องถ่ายรูปกับป้ายร้านกาแฟ "-ม่ะ กาแฟสด" มันชัดเจนจริงๆ อิอิ
-ตรงข้ามเยื้องๆจะเป็นสถานไปรษณีย์อีต่องค่ะ
ส่วนโซน E
โซนนี้ เสียดายมากที่ไม่ได้ไป เพราะตอนแรกหาไม่เจอ
เจออีกทีตอนนั่งรถออกมาจากหมู่บ้าน
พิกัด หากยืนที่ตลาดอีต่อง เดินไปตามทางจนสุด แล้วหันขวา นั่นแหละค่ะ
มันคือ กำแพงไม้เลื้อย และบันไดที่มีไม้เลื้อย ดูคลาสสิก และรับรองว่าสวยถูกใจแน่นอนค่ะ
ใครได้แวะไปโซนนี้ถ่ายรูปมาอวดเราด้วยน๊าา แล้วพื่อนๆจะอิจฉาคุณมากจริงๆ
ปล.หากคุณเดินๆเล่นรอบหมูบ้านแล้วเกิดฝนตก อย่าเพิ่งรีบกลับที่พักนะคะ เพราะฝนที่นี่ ตกไม่เกิน 5-10 นาที จะหยุด สักพักใหญ่ๆเลย ถึงจะตกมาอีกรอบ แล้วก็หยุด แบบนี้ตลอด ฉะนั้น ให้หาที่หลบ แล้วพอฝนหยุดให้เดินต่อจ้าๆๆ
มาดูวิวเนินช้างศึกมาบ้างน่ะ สุดท้ายแหละ
เราจ้างรถยกสูงจากอีต่องโฮมสเตย์ 700 บาท นั่ง10 คน ตกคนละ 70 บาท เค้าจะพาไป ชมวิวเนิช้างศึกและน้ำตกจ๊อกกระดิ่นค่ะ เพราะฝนตกทางจะลื่น และขึ้นไปสูงมาก เรานั่งหลังรถ สนุกมาก ทั้งกรี๊ด ทั้งหัวเรา ตลอดทาง
แต่หมอกก็มากเช่นกัน ขาวไปหมดเลย ได้ปะทะกับหมอกเต็มๆ อากาศบริสุทธิ์สุดๆ ตรงข้ามลานจอดรถจะมี อนุสรณ์สถาน พลเอก ตะวัน เรืองศรี (ผู้ประกอบความดีความชอบมากมาย (หาอ่านได้)
บรรยากาศ กลางคืน เดินสบายมาก(ถ้าฝนยังไม่ตก 55)
ตอนเย็นประมาณ 6 โมง - 1 ทุ่ม จะได้ยินเสียงเครื่องปั่นไฟ และมีได้กลิ่นน้ำมัน ที่ใช้ปั่นไฟ ร้านขายของจะขายถึงประมาณ 3 ทุ่มค่ะ
ส่วนของฝาก
-ขึ้นชื่อคือ ปลาหัวยุ่ง (อร่อยน๊า) ขายเป็นถุง ถุงละ 50 บาท ถุงใหญ่ 100 บาท
-กาแฟพม่า ห่อสีเขียว หอมมากๆๆ
-แป้งพม่า เอามาพอก หน้าใส อิอิ
-ครีมกันแดด รองพื้น(อันนี้ยังไม้ได้ลองใช้ แต่ซื้อมาไว้ก่อน คริๆ)
-ที่นี่มีผ้าพม่า ทั้งเสื้อ กางเกง ผ้าุถง ผ้าคลุม จะบอกว่า เนื้อผ้าดี นุ่มไม่แข็ง ใส่สบาย ราคาถูกอีกด้วยจ้าา
ที่นี่เป็นที่ ที่มาแล้ว อยากมาอีกหลายๆครั้งเลย
ผู้คนที่นี่ น่ารัก ใจดี ความปลอดภัยหายห่วงค่ะ ตอนกลางคืนจะมีรถสายตรวจมาจอดที่กลางหมู่บ้าน ค่ะ รู้สึกสบายใจมากค่ะ
อากาศ ไม่ต้องพูดถึง ดี100% สูดเก็บไว้ให้เต็มปอดเลยค่ะ สงบเหมาะกับการเพิ่มแบตให้ร่างกายกลับไปลุยงานต่อ 5555+
ที่สำคัญ อยากมาดู ปลาคราฟฟฟฟฟฟ อีกๆๆ
และที่สำคัญ ไม่ว่าจะมาคนเดียว หรือ เป็นกลุ่ม ก็อาจจะได้เพื่อนเพิ่มอีดเยอะเลยนะค่ะ เลิฟๆๆ
เจ้าของกระทู้เอง ก็ได้มิตรภาพใหม่ ทั้งได้แม่ พี่สาว เพิ่มอีกเยอะเลย
เป็นอีกทริปในความทรงจำจริงๆค่ะ
ปล.หวังว่าจะช่วยเพื่อนได้บ้างนะคะ สำหรับจุดเช็คอิน รูปเก๋ๆ จ้าาาา
[CR] อีต่อง ปิล๊อก น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
เป็นเมืองในหมอก จริงๆค่ะ (ทุกภาพถ่ายจากมือถือค่ะ)
การเดินทางเราเริ่มที่จุด Start กันเลยจ้าาา
เคยมั้ยที่เห็นใครๆไปถ่ายรูปนั้น อยู่ที่ไหน จุดไหน หวังว่าจะช่วยเพื่อนๆไม่ให้พลาดจุดเช็คอินเก๋ๆ นะคะ
ก่อนขึ้นไปปิล๊อก ต้องเติมน้ำมันให้พอนะคะ เพราะจากนี้ไปจะไม่มีปั๊ม สัญญาณมือถือน้อยลงเรื่อยๆจนถึงหายไปเลยค่ะ หน้าฝน จะเจอป้ายเตือน ไหล่ทางชำรุด ดินสไลด์ ทางเป็นหลุม เป็นบ่อ มีการซ่อมทางเป็นระยะค่ะ เกือบครึ่งทางจะมีด่านอุทฯสามารถพักรถและขอเข้าห้องน้ำได้ค่ะ แต่ถ้าใครไหวก็ไปต่อค่ะ
ถึงครึ่งทางจะมีจุดชมวิว มีห้องน้ำ และป้ายรับสัญญาณมือถือค่ะ
ขับต่อไปจะเจอป้ายทางเข้า อุทยานฯทองผาภูมิค่ะ
หากจะเข้าชมน้ำตกจ๊อกกระดิ่น สามารถเข้าอีกทางคือขับผ่านหน้าอุทฯ มานิดนึงจะเห็นป้าย "น้ำตกจ๊อกกระดิ่น" ขับเข้าไปไม่ไกลมาก จะเจอเจ้าหน้าที่คอยให้บริการค่ะ (อายุ 6o ปี เข้าฟรีค่ะ) จากนั้นต้องเดินต่อเข้าไป ทางเดินร่มรื่นค่ะ มีสะพานสีเขียวสวยๆค่ะ แวะถ่ายรูปกันก่อน อิอิ และแล้วก็ถึงน้ำตก ช่วงนี้หน้าฝน น้ำจะเยอะและแรง ลงเล่นน้ำใกล้ๆไม่ได้นะคะ ขยับเล่นน้ำออกมาหน่อยจะดีกว่าจ้าา
พอชุ่มฉ่ำแล้ว เราเข้าหมู่บ้านกันค่ะ
(2)จะเห็นป้ายต้อนรับเด่นมาก
(3)แวะจอดซื้อเค้กสูตรป้าเกล็นก่อนได้ค่ะ ชื่อร้าน ชาวเมือง k.ชาลี เค้กขึ้นชื่อคือเค้กแครอทค่ะ หมดเร็วมาก TT
(4)ต่อมานิดเดียวจะเป็นสน.ค่ะ หน้าสน.จะมีป้ายให้เช็คอิน 2 ป้ายค่ะ คือ ป้ายอ้อมกอดแห่งขุนเขา,ป้ายปิล๊อกดินแดน399โค้ง (อย่าลืมเช็คอินกันน๊าาทุกคน) ด้านหลังมีหมอกเป็นฉากหลัง ฟินมากๆ ข้างๆสน.จะมีสวนกล้วยไม้ จะหลงลืมเวลากันเลยทีเดียว 55
ได้เวลาถึงหมู่บ้านอีต่องแล้วจริงๆ ทีนี้
เมื่อเข้ามา จะเจอทางที่ให้ขับรถขึ้นไปชมวิวเนินช้างศึก
(5)เป็นสถานีอนามัย
(6)เป็นศาลให้เราขอพร ข้างๆเป็นทางเดินเท้า 1.2 กิโล ให้ทดสอบพลังขา เดินขึ้นไปชมวิวเนินช้างศึก ^^
(7)เป็นทางให้รถออกที่วนออกจากเหมือง
(8)บ้านเหมืองที่ใครก็อยากมาเห็น สวย น่าอยู่จัง
(9)ป้ายเหมืองปิล๊อก ที่ต้องมาถ่ายรูปให้ได้
(10)เป็นบ่อน้ำข้างป้อมตำรวจ มีศาลาริมน้ำน่ารักๆให้นั่งชิลๆด้วยนะคะ
(11)เป็นป้อมตำรวจ หน้าป้อมมีที่วัดอุณหภูมิด้วยค่ะ วันที่เราไป ประมาณ 20 องศา กำลังสบายๆเลย ตรงข้าม
(12)เป็นป้ายหมู่บ้าน ทางซ้ายเป็นทางขึ้นไปวัดเหมืองปิล๊อกน๊า
(13)บ้านพักที่ออกแบบเป็นรูปตอไม้ แปลกสุดในหมู่บ้านเลยค่ะ (ถ่ายตอนเย็น เลยมืดๆหน่อย 55)
(14)เป็นซอยที่สวยมาก จะเห็นหลายๆคนมาถ่ายรูปกัน
(15)อีต่องโฮมสเตย์ ซอยที่ว่าสวยๆก็อยู่ข้างๆเลยค่ะ หรือใครสนใจติดต่อรถยกสูงนำเที่ยวได้ที่นี่ก็มีบริการค่ะ
(16)รถสองแถว อีต่อง-ทองผาภูมิ จะจอดรอรับคนที่หน้าซอยตลาดอีต่อง ค่ะ
(17)เป็นทีพักของเราทริปนี้ค่ะ ชื่อ พอเพลินโฮมสเตย์ ค่ะ
(18)เป็นซอยที่เรียกว่า "ตลาดอีต่อง"
(×)เป็นจุดที่ขายหมูปิ้งและแผ่นไม้ ที่เขียนแล้วนำไปแขวน ห้อยไว้ตามราวริมบ่อน้ำ
(19)คือโซนที้พักริมบ่อน้ำ ซึ่งจะเต็มเร็วมาก แต่หากใครจองไม่ทัน ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะบ้านแทบทุกหลังจะเปิดเป็นที่พักค่ะ ไม่ต้องจองล่วงหน้ายังมีพอค่ะ มีเยอะกว่าที่หาจากในเน็ตอีกนะคะ อิอิ
(20)คือจุดที่ชมวิวริมบ่อน้ำ ถ่ายรูปกับป้ายไม้ ที่เขียนเป็นที่ระลึกของการมาเยือนครั้งหนึ่งที่อีต่องจ้า
จากมุมนี้จะเห็นวิวที่เป็นหนึ่งในสัญญาลักษณ์ที่นี่ค่ะ
เวลาเดียวกันแต่แค่แว๊บเดียว บรรยากาศก็เปลี่ยนได้ 555+
(21)ป้ายตลาดอีต่อง
(22)ป้ายสะพานเหมืองแร่ ข้างๆมีต้นไม้ใหญ่ ให้ถ่ายรูปไปอวดได้ด้วยน๊าา ^^
(23)จะเป็นลานแสดงรถ,อุปกรณ์ทำเหมืองเก่าให้เราได้ชมค่ะ
(24)กำแพงเหมือง ใช้เป็นฉากหลังรูปภาพได้แปลกๆอีกแบบค่ะ
ด้านบนกำแพงเป็นโกดังอะไรสักอย่าง
(25)ข้างกำแพงเป็นเหมือนหลุม/ห้องอะไรบางอย่าง ไม่แน่ใจ ^^
เดินตามทางมาจะเห็นทางแยก ซ้ายจะเป็นทางให้รถวนออก ขวาคือทางที่จุดหมายการตั้งใจมาที่นี่
จะเห็นในบางรีวิวที่บอกว่ามีบ่อปลาคราฟในธรรมชาติ มีน้ำตกเล็กๆ ซึ่งดึงดูดให้มาดูสักครั้ง
แต่พอหลายคนมาถึง พอเห็นแค่บ่อที่1 ก็หันกลับ เพราะบ่อนี้มีน้ำตก แต่ไม่มีปลาคราฟ อย่างที่เห็นในรีวิว คริๆ
ก็ไม่แปลก เพราะตอนที่เราเห็นก็คิดจะหันกลับ พร้อมกับบ่นในใจว่า หลอกกันป่ะเนี่ย อิอิ (เกือบไปแล้วน่ะ ดลลี่)
แต่ดีที่ตัดสินใจเดินต่อ ก็พบบ่อน้ำที่2
(26)ระหว่างบ่อ2 กับบ่อ3 จะมีแผงกล้วยไม้(ไม่รู้ว่าพันธุ์อะไร รบกวนผู้รู้บอกที 55) แต่สวยมาก
(27)ถึงบรรลุเป้าหมายแล้ววว พอเห็นแว๊บแรกเลย บอกได้คำเดียว "ว๊าวๆๆ" คุ้มแล้ว คุ้มสุดๆ
เป็นบ่อปลาคราฟที่น้ำใสมาก สะอาดมาก มีน้ำไหลจากน้ำตก และท้ายบ่อจะมีประตูน้ำให้น้ำไหลออกไปสู่บ่อ2
เหมาะกับการเติบโตจริงๆ เราไปเจอลูกปลาคราฟเล็กๆเยอแยะเลย (โตเร็วๆน่ะ) ส่วนปลาคราฟ ช่างแสนรู้จริงๆ น่ารัก เพราะไม่ว่าเราจะเดินไปมุมไหน พอเค้าได้ยินเสียงเรา เค้าจะว่ายมาตามเสียงเราเลยค่ะ แบบนี้ไม่ให้หลงรักได้ไง จริงไมคะเพื่อนๆ อิอิ
วีดีโอ มีน่ะ แต่เดี๋ยวหาวิธีก่อน จะลงอัพเดทให้น่ะคะ แฮร่ๆๆ
(28)บันไดทางขึ้นโบสถ์ วัดเหมืองปิล๊อก โบสถ์สวยมากๆ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะจริงๆ แปลกกว่าที่เคยเห็น ตรงข้าม
(31)เป็นลานกว้าง สำหรับกางเต้นค่ะ
(32)ข้างๆเป็นศูนย์เตรียมพร้อมป้องกันภัยประจำหมู่บ้าน
หากเดิน/ขับรถผ่านทางขึ้นโบสถ์ทางนี้ไป อีกนิดนึงจะเข้าทางด้านหน้าวัด จะเจอน้ำพุกลางลาน ทางซ้ายจะเป็นบันไดทางขึ้นไปสักการะพระเจดีย์บนภูเขา ทางเดินขึ้นไปมีรูปปั้นแสดงการกราบแบบของที่นี่ ตลอดทางขึ้นไปจนถึงเจดีย์ มีรูปปั้นพระถือบาตร (กี่องค์ ลืมนับ อิอิ ใครมีโอกาสได้ไป กลับมาบอกหน่อยน๊าาา แฮร่ๆ) พอขึ้นไปสวยมาก สีทองอร่าม หากมองสูงขึ้นไปเหนือเจดีย์ จะมีพระพุทธรูป น่าจะปรางค์นาคปรก แต่หมอกลง ท้องฟ้าไม่เปิดเลยมองเห็นเพียงเงา
เมื่อมองกลับลงมา จะเห็นวิวโบสถ์และหมู่บ้านที่มีหมอกปกคลุม ตลอดเวลา
โซนA
-ที่อยู่ใกล้ป้ายหมู่บ้านจะมีระฆัง เป็นบันไดเก่า
-ตอนเช้าประมาณ7.30 น. เราได้ทันใส่บาตรพระที่ตรงนี้ค่ะ
-มีร้านขายกาแฟสด
-บันไดที่มีดอกไม้สีแดงๆ น่าจะโป๊ยเซียน,ดอกน่าวัว มั้ง(แอบลืม 55+) น่าถ่ายรูปนะ เราว่า
โซนB
-จะมีบ้านไม้ ประตูสวย น่าเก็บสักภาพ แต่มีเชือกกั้นไว้
-เดินมาเรื่อยๆจะเจอลุงเท่ง เป็นร้านหมูกะทะ (อีต่องมีหมูกะทะแล้วน๊า) หอมยั่วน้ำลายมากๆๆๆ
-ถัดมาจะเป็นป้าย "ผุพังโฮมสเตย์" ป้ายนี้น่าถ่ายรูปเอาไปฝากเพื่อน 555+
มาฝั่งตรงข้าม คือ โซน C
-จะเป็นร้าน "ครัวเจ๊นี" ร้านนี้คนเต็ม แน่นร้านตลอด อาหารอร่อย เมนูแนะนำ ปูทะเลผักผงกะหรี่
ถ้าถามว่าต่างจากปูบ้านเราอย่างไร?
สำหรับเรา เราว่า รสชาติ ไม่ต่าง แต่ต่างตรงที่ เนื้อของปูน้อย อิอิ
-ข้างๆจะมีหลักกิโล ที่เขียนว่า "ปิล๊อก 0 กม."
-ติดกัน คือร้าน ฮักปิล๊อก ที่มีจุดเด่นคือ หุ่นนายแบบผู้ชาย ที่ใครๆต้องมารุ่มถ่ายรูปด้วย (หล่อที่สุดในอีต่อง ก็งี้แหละ 555+) ร้านนี้มีการ์ดให้เขียนส่งด้วยค่ะ
ถ้าจำไม่ผิด ใบละ 15 บาท ถ้าให้ส่ง คิดเพิ่ม 5 บาท
ข้างๆร้านนี้ จะเห็นตู้ไปรษณีย์ มีหุ่นที่บางคนอาจตกใจ แต่คนก็ชอบมาถ่ายรูป เช่นกัน
-ถัดมา ต้องถ่ายรูปกับป้ายร้านกาแฟ "-ม่ะ กาแฟสด" มันชัดเจนจริงๆ อิอิ
-ตรงข้ามเยื้องๆจะเป็นสถานไปรษณีย์อีต่องค่ะ
ส่วนโซน E
โซนนี้ เสียดายมากที่ไม่ได้ไป เพราะตอนแรกหาไม่เจอ
เจออีกทีตอนนั่งรถออกมาจากหมู่บ้าน
พิกัด หากยืนที่ตลาดอีต่อง เดินไปตามทางจนสุด แล้วหันขวา นั่นแหละค่ะ
มันคือ กำแพงไม้เลื้อย และบันไดที่มีไม้เลื้อย ดูคลาสสิก และรับรองว่าสวยถูกใจแน่นอนค่ะ
ใครได้แวะไปโซนนี้ถ่ายรูปมาอวดเราด้วยน๊าา แล้วพื่อนๆจะอิจฉาคุณมากจริงๆ
ปล.หากคุณเดินๆเล่นรอบหมูบ้านแล้วเกิดฝนตก อย่าเพิ่งรีบกลับที่พักนะคะ เพราะฝนที่นี่ ตกไม่เกิน 5-10 นาที จะหยุด สักพักใหญ่ๆเลย ถึงจะตกมาอีกรอบ แล้วก็หยุด แบบนี้ตลอด ฉะนั้น ให้หาที่หลบ แล้วพอฝนหยุดให้เดินต่อจ้าๆๆ
มาดูวิวเนินช้างศึกมาบ้างน่ะ สุดท้ายแหละ
เราจ้างรถยกสูงจากอีต่องโฮมสเตย์ 700 บาท นั่ง10 คน ตกคนละ 70 บาท เค้าจะพาไป ชมวิวเนิช้างศึกและน้ำตกจ๊อกกระดิ่นค่ะ เพราะฝนตกทางจะลื่น และขึ้นไปสูงมาก เรานั่งหลังรถ สนุกมาก ทั้งกรี๊ด ทั้งหัวเรา ตลอดทาง
แต่หมอกก็มากเช่นกัน ขาวไปหมดเลย ได้ปะทะกับหมอกเต็มๆ อากาศบริสุทธิ์สุดๆ ตรงข้ามลานจอดรถจะมี อนุสรณ์สถาน พลเอก ตะวัน เรืองศรี (ผู้ประกอบความดีความชอบมากมาย (หาอ่านได้)
บรรยากาศ กลางคืน เดินสบายมาก(ถ้าฝนยังไม่ตก 55)
ตอนเย็นประมาณ 6 โมง - 1 ทุ่ม จะได้ยินเสียงเครื่องปั่นไฟ และมีได้กลิ่นน้ำมัน ที่ใช้ปั่นไฟ ร้านขายของจะขายถึงประมาณ 3 ทุ่มค่ะ
ส่วนของฝาก
-ขึ้นชื่อคือ ปลาหัวยุ่ง (อร่อยน๊า) ขายเป็นถุง ถุงละ 50 บาท ถุงใหญ่ 100 บาท
-กาแฟพม่า ห่อสีเขียว หอมมากๆๆ
-แป้งพม่า เอามาพอก หน้าใส อิอิ
-ครีมกันแดด รองพื้น(อันนี้ยังไม้ได้ลองใช้ แต่ซื้อมาไว้ก่อน คริๆ)
-ที่นี่มีผ้าพม่า ทั้งเสื้อ กางเกง ผ้าุถง ผ้าคลุม จะบอกว่า เนื้อผ้าดี นุ่มไม่แข็ง ใส่สบาย ราคาถูกอีกด้วยจ้าา
ที่นี่เป็นที่ ที่มาแล้ว อยากมาอีกหลายๆครั้งเลย
ผู้คนที่นี่ น่ารัก ใจดี ความปลอดภัยหายห่วงค่ะ ตอนกลางคืนจะมีรถสายตรวจมาจอดที่กลางหมู่บ้าน ค่ะ รู้สึกสบายใจมากค่ะ
อากาศ ไม่ต้องพูดถึง ดี100% สูดเก็บไว้ให้เต็มปอดเลยค่ะ สงบเหมาะกับการเพิ่มแบตให้ร่างกายกลับไปลุยงานต่อ 5555+
ที่สำคัญ อยากมาดู ปลาคราฟฟฟฟฟฟ อีกๆๆ
และที่สำคัญ ไม่ว่าจะมาคนเดียว หรือ เป็นกลุ่ม ก็อาจจะได้เพื่อนเพิ่มอีดเยอะเลยนะค่ะ เลิฟๆๆ
เจ้าของกระทู้เอง ก็ได้มิตรภาพใหม่ ทั้งได้แม่ พี่สาว เพิ่มอีกเยอะเลย
เป็นอีกทริปในความทรงจำจริงๆค่ะ
ปล.หวังว่าจะช่วยเพื่อนได้บ้างนะคะ สำหรับจุดเช็คอิน รูปเก๋ๆ จ้าาาา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้