The Bourne Identity ล่าจารชน ยอดคนอันตราย (2002)
ผู้กำกับ Doug Liman (Mr.& Mrs.Smith)
เขียนบท Tony Gilroy
นักแสดง Matt Damon (Good Will Hunting), Brain Coxx, Clieve Owen, Franka Potente, Chris Cooper
ค่ายหนัง Universal Pictures
เรื่องย่อ หลังฟื้นตัวขึ้นบนเรือประมงนอกชายฝั่งเมติเตอเรเนียน ชายนิรนามพบกระสุนสองนัดฝังหลัง พร้อมกับแท่งเหล็กปริศนาที่มีแสงส่องเป็นเบอร์บัญชีธนาคารในซูริก เขาฟื้นขึ้นมา แต่กลับจำเหตุการณ์ก่อนหน้า สองสัปดาห์ไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ชื่อของตัวเอง เขาได้ออกตามหาตัวตนหลังเรือขึ้นฝั่งจากสิ่งของที่มีติดตัว คือ เบอร์บัญชีธนาคารในซูริก เมื่อเขาพบกับความจริงที่ปรากฏอยู่ในตู้เซฟธนาคาร คือ เขานั่นมีพาสปอร์ตหลายเล่ม หลายชื่อ เงินหลายสกุลเยอะมาก และ ปืนพกหนึ่งกระบอก ในตู้เซฟ เขาได้รู้ว่าเขานั่น ชื่อ "เจสัน บอร์น" เป็นคนอเมริกันที่อาศัยอยู่ในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังจากนั่นเขาได้เดินทางตามสืบเรื่องตัวเองต่อไป โดยถูกทางตำรวจไล่ล่าตามจับเขา บอร์นได้พบกับสาวเยอรมันที่กำลังถังแตกคนหนึ่ง มารี เขาได้จ้างเธอด้วยเงินสองหมื่นเหรียญในการขับรถจากซูริกไปปารีส ระหว่างทางการสืบหาตัวตนของบอร์น ถึงเขาจะจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้แต่เขากลับพบสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่าของเขา ไหวพริบ ความคิด หลายภาษาที่เขาพูดได้ และฝีมือการต่อสู้ โดยเขากลับรู้ว่าตนถูกทางหน่วยข่าวกรองซีไอเอส่งสายลับมาเก็บเขาเพราะความลับในอดีตที่เขามี จะส่งผลเสียแก่คนใหญ่คนโตในซีไอเออีกด้วย การไล่ล่า ปมปริศนาต่างๆ เริ่มคลี่คลายลงพร้อมความระอุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
10/10 หนังระทึกมากๆ ดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้รีบร้อนที่จะเล่าเรื่อง ค่อยๆคลี่คลายความลับของบอร์นลง ได้เห็นการทำงานของเหล่าซีไอเอ อุปกรณ์ติดตามต่างๆ ฉากแอ็คชั่นมือเปล่าดุเด็ดเผ็ดมันโคตรสมจริง แมตต์ เดม่อนแสดงได้ดีมากๆในบทนี้ ดูสุขุม นิ่งๆ ดูลึกลับหน่อย นักฆ่าที่ส่งมาเก็บบอร์นแต่ละคนก็มีทักษะการต่อสู้ที่เก่งไม่แพ้บอร์น ฉากไล่ล่าทำดีมาก ไหนจะดนตรีประกอบ เพลงออกแนวเศร้า ดราม่าหน่อย เข้ากับเรื่องราวของบอร์น และเป็นภาคเดียวที่มีฉากจบที่ Happy Ending ดีกว่าฉากจบภาคอื่น (คหสต.)
รีวิวหนัง The Bourne ไตรภาค
ผู้กำกับ Doug Liman (Mr.& Mrs.Smith)
เขียนบท Tony Gilroy
นักแสดง Matt Damon (Good Will Hunting), Brain Coxx, Clieve Owen, Franka Potente, Chris Cooper
ค่ายหนัง Universal Pictures
เรื่องย่อ หลังฟื้นตัวขึ้นบนเรือประมงนอกชายฝั่งเมติเตอเรเนียน ชายนิรนามพบกระสุนสองนัดฝังหลัง พร้อมกับแท่งเหล็กปริศนาที่มีแสงส่องเป็นเบอร์บัญชีธนาคารในซูริก เขาฟื้นขึ้นมา แต่กลับจำเหตุการณ์ก่อนหน้า สองสัปดาห์ไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ชื่อของตัวเอง เขาได้ออกตามหาตัวตนหลังเรือขึ้นฝั่งจากสิ่งของที่มีติดตัว คือ เบอร์บัญชีธนาคารในซูริก เมื่อเขาพบกับความจริงที่ปรากฏอยู่ในตู้เซฟธนาคาร คือ เขานั่นมีพาสปอร์ตหลายเล่ม หลายชื่อ เงินหลายสกุลเยอะมาก และ ปืนพกหนึ่งกระบอก ในตู้เซฟ เขาได้รู้ว่าเขานั่น ชื่อ "เจสัน บอร์น" เป็นคนอเมริกันที่อาศัยอยู่ในเมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส หลังจากนั่นเขาได้เดินทางตามสืบเรื่องตัวเองต่อไป โดยถูกทางตำรวจไล่ล่าตามจับเขา บอร์นได้พบกับสาวเยอรมันที่กำลังถังแตกคนหนึ่ง มารี เขาได้จ้างเธอด้วยเงินสองหมื่นเหรียญในการขับรถจากซูริกไปปารีส ระหว่างทางการสืบหาตัวตนของบอร์น ถึงเขาจะจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้แต่เขากลับพบสัญชาตญาณความเป็นนักฆ่าของเขา ไหวพริบ ความคิด หลายภาษาที่เขาพูดได้ และฝีมือการต่อสู้ โดยเขากลับรู้ว่าตนถูกทางหน่วยข่าวกรองซีไอเอส่งสายลับมาเก็บเขาเพราะความลับในอดีตที่เขามี จะส่งผลเสียแก่คนใหญ่คนโตในซีไอเออีกด้วย การไล่ล่า ปมปริศนาต่างๆ เริ่มคลี่คลายลงพร้อมความระอุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
10/10 หนังระทึกมากๆ ดำเนินเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้รีบร้อนที่จะเล่าเรื่อง ค่อยๆคลี่คลายความลับของบอร์นลง ได้เห็นการทำงานของเหล่าซีไอเอ อุปกรณ์ติดตามต่างๆ ฉากแอ็คชั่นมือเปล่าดุเด็ดเผ็ดมันโคตรสมจริง แมตต์ เดม่อนแสดงได้ดีมากๆในบทนี้ ดูสุขุม นิ่งๆ ดูลึกลับหน่อย นักฆ่าที่ส่งมาเก็บบอร์นแต่ละคนก็มีทักษะการต่อสู้ที่เก่งไม่แพ้บอร์น ฉากไล่ล่าทำดีมาก ไหนจะดนตรีประกอบ เพลงออกแนวเศร้า ดราม่าหน่อย เข้ากับเรื่องราวของบอร์น และเป็นภาคเดียวที่มีฉากจบที่ Happy Ending ดีกว่าฉากจบภาคอื่น (คหสต.)