หลังจากเรียนจบเราก็ตะลุยสมัครแอร์เลยค่ะ ทั้งสายไทย ต่างชาติไปหมด
นี่ก็ครั้งที่ 8 แล้ว เราไม่ผ่านพรีสกรีนสายไทยเลยซักสาย แต่ผ่านสายต่างชาติ และดั๊นมาตกรอบ skin check
ซึ่งเราเป็นคนผืวเป็นสิวบ่อยค่ะ มีหลุมสิว หน้าแพ้ง่าย
เราไปทำเลเซอร์อยู่ค่ะ แต่มันก็ไม่สามารถหายกริบ 100 เปอร์เซนได้ โดยเฉพาะตรงหน้าผาก เป็นหนักเลยค่ะ
เราท้อมาก รักษามา 7 เดือน และมันก็ไม่เนียนกริบซักที หมอบอกเลยว่าตรงหน้าผากยากหน่อยนะ เพราะมันไม่มีคอลลาเจ้น เป็นหนังเนื้อติดกระดูก
ทำไมผิวต้องมาเป็นอุปสรรคให้เราด้วย เราเลือกได้มั้ยว่าสิวห้ามขึ้น เราห้ามไม่ได้เลย เราท้อแล้ว
ตอนแรกเราอีโก้สูงมาก ว่า หน้าตาเราก็ไม่ได้แย่ ขาเราก็สวย หุ่นก็ดี ภาษาก็ดี ประวัติก็ดี แต่ทำไมเรายังไม่ผ่านซักที
ภาษาอังกฤษฝึกได้ บุคลิกภาพฝึกได้ แต่ผิวมันทำให้เนียนเหมือนคนผิวหน้าเงาๆ ไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนนี้เรามีความรู้สึกว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของเราคือผิว
“ ผิว “ ที่ไม่มีวันรักษาให้เนียนได้
เราพยายามปลอบใจตัวเองว่าเอาหน่า เดี๋ยวมันก็หาย ดูรีวิวในกูเกิ้ลคนที่ทำเลเซอร์มา ว่าเนี่ยเค้าทำก็ดีขึ้นนะ เราก็ต้องหายสิ
แต่ความจริงคือไม่เลย เราเหมือนคนโรคจิต ส่องกระจกทั้งวัน ไม่ทำอะไร มองแต่หลุมสิวตัวเองว่าเมื่อไหร่จะหาย
ทำ E-matrix ก็แพงมาก คอร์สละ 3 หมื่น เราไม่ไหว แต่เลเซอร์ที่ทำอยู่มันแค่ดีขึ้นแต่ไม่สามารถหาย 100 เปอร์เซนได้
บวกกับเรากลายเป็นคนผิวแพ้ง่ายไปแล้ว ใช้ครีมอะไรไม่ได้เลย นอกจากครีมหมอ ใช้อะไรก็ผดขึ้น เดี่ยวสิวอักเสบก็มาละ
ด้วยความที่ตอนแรกเราอีโก้สูง พอไม่ได้หลายๆครั้งกลายเป็นว่าเราเริ่มเสีย 0 เราเสียความมั่นใจ เราคิดตอดว่าชั้นทำอะไรผิด ชั้นไม่ดีตรงไหน
จากตอนแรกที่มีสนามไหนเปิด เราจะไปทุกสนาม จนตอนนี้กลายเป็นว่า เราจะมาคิดดีๆก่อน ว่าไปดีมั้ย เราจะยอมรับความเสียใจได้มั้ย
เพื่อนที่เคยฟังเราร้องไห้เสียใจ กลายเป็นว่าตอนนี้ก็ดูจะไม่เข้าใจเราแล้ว จนบอกให้เราลองหาอย่างอื่นทำดีมั้ย อย่าไปโฟกัสตรงนี้มาก
เราบอกได้เลยว่าอาชีพแอร์ คืออาชีพที่เราฝันไว้ตั้งแต่เด็ก หนังสือที่บ้านจะเต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับแอร์ เราซื้อมาอ่านแล้วเราสนุก
มัน inspired ให้เราว่าเราอยากเป็นแบบนั้นบ้าง เราชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว เราชอบเจอผู้คน เราอยากทำงานที่ไม่อยู่กับที่
หลายๆคนบอกว่า เป็นแอร์งานหนักนะ พักผ่อนไม่เป็นเวลา ต้องมารองรับอารมณ์ผู้โดยสาร ต้องทำงานกันเป็นทีม
เราคิดว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ณ จุดๆนั้นมันต้องทำ เราคิดว่าเราทำไ้ด้
เราคิดว่าเราเกิดมาแล้วไม่ได้ทำตามฝัน มันไม่คุ้มค่าเอาซะเลย เกิดมาทั้งทีควรได้ทำในสิ่งที่อยากทำ
ไม่ใช่ว่าเราไม่พยายาม เราพยายามแล้ว แต่ติดเรื่องผิวที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรามาก เราท้อ เราเหนื่อย เราร้องไห้คนเดียวบ่อยมาก
เกิดมาในชีวิตไม่เคยเศร้าและซึมนานขนาดนี้มาก่อน เราเสียใจยิ่งกว่าอกหักอีก เราเสียใจมาก
เราอิจฉาทุกคนที่ผิวดี ไม่มีสิว ผิวเนียนกริบ ไม่ต้องมานั่งเครียดแบบเรา
เพื่อนเราหลายๆคนเคยบอกเราว่าไปทำอย่างอื่นดีมั้ย ลองเปลี่ยนสายงานดูมั้ย สิ่งที่เราคิดหลังจากที่เพื่อนบอกเราคือ เราทำไม่ได้
มันคือความฝันเรา เราอยากเป็นแอร์ จะให้เราล้มเลิก มันยากมาก เราทำไม่ได้
แต่ตอนนี้เราเริ่มคิดแล้ว ว่าเราเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีมั้ย เพราะเราเหนื่อย เราท้อแล้ว
เราเริ่มเดินสายสมัครตั้งแต่ มิถุนา จนตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ซักที่ และ เราก็ไม่มีงานทำ
เราว่าง เราเบื่อ เรารู้สึกว่า เราไร้ค่า เรียนมาก็ตั้งสูง ไม่ยอมทำงานเพราะกลัวว่ามีสายไหนมาเปิดจะไปสมัครแอร์ไม่ได้
===========================================================
สรุปประเดนนะคะ ปัญหาหลักๆคือเราเศร้าเรื่องผิวเรามาก ผิวเราไม่ดี แต่เรามั่นใจในศักยภาพเรา ว่าเราสามารถทำอาชีพนี้ได้
แต่ที่เราไม่ผ่านพรีสกรีนสายในไทยเลยน่าจะติดเรื่องผิว ซึ่งเราก็รักษาอยู่ แต่มันก็ไม่สามารถเนียนได้ร้อยเปอร์เซน ยิ่งถ้าจะไปสายต่างชาติ 5 ดาวคือต้องเนียนมาก
จนทำให้เราท้อ เราอยากจะเลิก แต่การที่จะเลิกทำตามฝันมันยากมาก มันเจ็บปวดมาก ที่ตอนเด็กๆ เราวาดฝันเราตอนโตไว้ ว่าเราจะเป็นแอร์
ให้บริการผู้โดยสารและดูแลความปลอดภัย เราที่ได้ไปต่างประเทศ เราที่ได้เดินทางรอบโลก ได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ
แต่เราไม่สามารถเป็นได้ เราไม่สามารถทำตามความฝันเราได้ เพราะติดปัจจัยอื่น ที่เราไม่สามารถควบคุมได้
บางทีเราก็น้อยใจเหมือนกัน ที่คนหน้าตาดี ผิวดี มักได้รับโอกาสดีๆไปก่อนเสมอ แต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง
ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไม ทำไม เรามีคำถามเยอะมาก แต่พอเรามาคิดดีๆ ทบทวนดีๆ สายการบินไหนก็ต้องอยากได้แอร์ที่สวย ผิวดี หุ่นดี เป็นหน้าตาให้บริษัทจริงมั้ย
ซึ่งเรื่องนี้เรายอมรับ เราแค่น้อยใจในตัวเองมากกว่า ว่าทำไมเราต้องผิวเป็นแบบนี้ด้วย เราเสียเงินเป็นแสนแล้ว สำหรับการสมัครแอร์
แต่เราไม่สามารถคว้าปีกมาได้เลย เราทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวเราไม่ได้เลย เราไม่อยากยอมแพ้ แต่พอเราต้องมานั่งเครียดเรื่องผิว มันทำให้เราเหนื่อยมาก
เราเหนื่อยจนแบบเราไม่ไหวแล้ว ทำไมเราถึงอยากเป็นแอร์ด้วย ทำไมเราไม่อยากทำอาชีพอื่น มันทำให้กลายเป็นความทุกข์แล้ว
ใครอ่านมาถึงตรงนี้ เรารบกวนขอกำลังใจด้วยค่ะ เราไม่ไหวแล้วจริงๆ เราคิดว่าเราเข้มแข็ง เราแข็งแกร่ง แต่จริงๆคือไม่เลย ตอนนี้อ่อนแอทางจิตใจสุดๆ
ขอกำลังใจหน่อยค่ะ กำลังคิดจะล้มเลิกความฝัน สมัครแอร์มา 8 ครั้งแล้วไม่ได้ซักทีเลย เสียใจ ท้อ สิ้นหวังแล้วค่ะ
นี่ก็ครั้งที่ 8 แล้ว เราไม่ผ่านพรีสกรีนสายไทยเลยซักสาย แต่ผ่านสายต่างชาติ และดั๊นมาตกรอบ skin check
ซึ่งเราเป็นคนผืวเป็นสิวบ่อยค่ะ มีหลุมสิว หน้าแพ้ง่าย
เราไปทำเลเซอร์อยู่ค่ะ แต่มันก็ไม่สามารถหายกริบ 100 เปอร์เซนได้ โดยเฉพาะตรงหน้าผาก เป็นหนักเลยค่ะ เราท้อมาก รักษามา 7 เดือน และมันก็ไม่เนียนกริบซักที หมอบอกเลยว่าตรงหน้าผากยากหน่อยนะ เพราะมันไม่มีคอลลาเจ้น เป็นหนังเนื้อติดกระดูก
ทำไมผิวต้องมาเป็นอุปสรรคให้เราด้วย เราเลือกได้มั้ยว่าสิวห้ามขึ้น เราห้ามไม่ได้เลย เราท้อแล้ว
ตอนแรกเราอีโก้สูงมาก ว่า หน้าตาเราก็ไม่ได้แย่ ขาเราก็สวย หุ่นก็ดี ภาษาก็ดี ประวัติก็ดี แต่ทำไมเรายังไม่ผ่านซักที
ภาษาอังกฤษฝึกได้ บุคลิกภาพฝึกได้ แต่ผิวมันทำให้เนียนเหมือนคนผิวหน้าเงาๆ ไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนนี้เรามีความรู้สึกว่าอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของเราคือผิว
“ ผิว “ ที่ไม่มีวันรักษาให้เนียนได้
เราพยายามปลอบใจตัวเองว่าเอาหน่า เดี๋ยวมันก็หาย ดูรีวิวในกูเกิ้ลคนที่ทำเลเซอร์มา ว่าเนี่ยเค้าทำก็ดีขึ้นนะ เราก็ต้องหายสิ
แต่ความจริงคือไม่เลย เราเหมือนคนโรคจิต ส่องกระจกทั้งวัน ไม่ทำอะไร มองแต่หลุมสิวตัวเองว่าเมื่อไหร่จะหาย
ทำ E-matrix ก็แพงมาก คอร์สละ 3 หมื่น เราไม่ไหว แต่เลเซอร์ที่ทำอยู่มันแค่ดีขึ้นแต่ไม่สามารถหาย 100 เปอร์เซนได้
บวกกับเรากลายเป็นคนผิวแพ้ง่ายไปแล้ว ใช้ครีมอะไรไม่ได้เลย นอกจากครีมหมอ ใช้อะไรก็ผดขึ้น เดี่ยวสิวอักเสบก็มาละ
ด้วยความที่ตอนแรกเราอีโก้สูง พอไม่ได้หลายๆครั้งกลายเป็นว่าเราเริ่มเสีย 0 เราเสียความมั่นใจ เราคิดตอดว่าชั้นทำอะไรผิด ชั้นไม่ดีตรงไหน
จากตอนแรกที่มีสนามไหนเปิด เราจะไปทุกสนาม จนตอนนี้กลายเป็นว่า เราจะมาคิดดีๆก่อน ว่าไปดีมั้ย เราจะยอมรับความเสียใจได้มั้ย
เพื่อนที่เคยฟังเราร้องไห้เสียใจ กลายเป็นว่าตอนนี้ก็ดูจะไม่เข้าใจเราแล้ว จนบอกให้เราลองหาอย่างอื่นทำดีมั้ย อย่าไปโฟกัสตรงนี้มาก
เราบอกได้เลยว่าอาชีพแอร์ คืออาชีพที่เราฝันไว้ตั้งแต่เด็ก หนังสือที่บ้านจะเต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับแอร์ เราซื้อมาอ่านแล้วเราสนุก
มัน inspired ให้เราว่าเราอยากเป็นแบบนั้นบ้าง เราชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว เราชอบเจอผู้คน เราอยากทำงานที่ไม่อยู่กับที่
หลายๆคนบอกว่า เป็นแอร์งานหนักนะ พักผ่อนไม่เป็นเวลา ต้องมารองรับอารมณ์ผู้โดยสาร ต้องทำงานกันเป็นทีม
เราคิดว่า ไม่มีอะไรที่เราทำไม่ได้ ณ จุดๆนั้นมันต้องทำ เราคิดว่าเราทำไ้ด้
เราคิดว่าเราเกิดมาแล้วไม่ได้ทำตามฝัน มันไม่คุ้มค่าเอาซะเลย เกิดมาทั้งทีควรได้ทำในสิ่งที่อยากทำ
ไม่ใช่ว่าเราไม่พยายาม เราพยายามแล้ว แต่ติดเรื่องผิวที่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเรามาก เราท้อ เราเหนื่อย เราร้องไห้คนเดียวบ่อยมาก
เกิดมาในชีวิตไม่เคยเศร้าและซึมนานขนาดนี้มาก่อน เราเสียใจยิ่งกว่าอกหักอีก เราเสียใจมาก
เราอิจฉาทุกคนที่ผิวดี ไม่มีสิว ผิวเนียนกริบ ไม่ต้องมานั่งเครียดแบบเรา
เพื่อนเราหลายๆคนเคยบอกเราว่าไปทำอย่างอื่นดีมั้ย ลองเปลี่ยนสายงานดูมั้ย สิ่งที่เราคิดหลังจากที่เพื่อนบอกเราคือ เราทำไม่ได้
มันคือความฝันเรา เราอยากเป็นแอร์ จะให้เราล้มเลิก มันยากมาก เราทำไม่ได้
แต่ตอนนี้เราเริ่มคิดแล้ว ว่าเราเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นดีมั้ย เพราะเราเหนื่อย เราท้อแล้ว
เราเริ่มเดินสายสมัครตั้งแต่ มิถุนา จนตอนนี้เราก็ยังไม่ได้ซักที่ และ เราก็ไม่มีงานทำ
เราว่าง เราเบื่อ เรารู้สึกว่า เราไร้ค่า เรียนมาก็ตั้งสูง ไม่ยอมทำงานเพราะกลัวว่ามีสายไหนมาเปิดจะไปสมัครแอร์ไม่ได้
===========================================================
สรุปประเดนนะคะ ปัญหาหลักๆคือเราเศร้าเรื่องผิวเรามาก ผิวเราไม่ดี แต่เรามั่นใจในศักยภาพเรา ว่าเราสามารถทำอาชีพนี้ได้ แต่ที่เราไม่ผ่านพรีสกรีนสายในไทยเลยน่าจะติดเรื่องผิว ซึ่งเราก็รักษาอยู่ แต่มันก็ไม่สามารถเนียนได้ร้อยเปอร์เซน ยิ่งถ้าจะไปสายต่างชาติ 5 ดาวคือต้องเนียนมาก
จนทำให้เราท้อ เราอยากจะเลิก แต่การที่จะเลิกทำตามฝันมันยากมาก มันเจ็บปวดมาก ที่ตอนเด็กๆ เราวาดฝันเราตอนโตไว้ ว่าเราจะเป็นแอร์
ให้บริการผู้โดยสารและดูแลความปลอดภัย เราที่ได้ไปต่างประเทศ เราที่ได้เดินทางรอบโลก ได้เจอประสบการณ์ใหม่ๆ
แต่เราไม่สามารถเป็นได้ เราไม่สามารถทำตามความฝันเราได้ เพราะติดปัจจัยอื่น ที่เราไม่สามารถควบคุมได้
บางทีเราก็น้อยใจเหมือนกัน ที่คนหน้าตาดี ผิวดี มักได้รับโอกาสดีๆไปก่อนเสมอ แต่นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง
ตอนแรกเราก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไม ทำไม เรามีคำถามเยอะมาก แต่พอเรามาคิดดีๆ ทบทวนดีๆ สายการบินไหนก็ต้องอยากได้แอร์ที่สวย ผิวดี หุ่นดี เป็นหน้าตาให้บริษัทจริงมั้ย
ซึ่งเรื่องนี้เรายอมรับ เราแค่น้อยใจในตัวเองมากกว่า ว่าทำไมเราต้องผิวเป็นแบบนี้ด้วย เราเสียเงินเป็นแสนแล้ว สำหรับการสมัครแอร์
แต่เราไม่สามารถคว้าปีกมาได้เลย เราทำให้พ่อแม่ภูมิใจในตัวเราไม่ได้เลย เราไม่อยากยอมแพ้ แต่พอเราต้องมานั่งเครียดเรื่องผิว มันทำให้เราเหนื่อยมาก
เราเหนื่อยจนแบบเราไม่ไหวแล้ว ทำไมเราถึงอยากเป็นแอร์ด้วย ทำไมเราไม่อยากทำอาชีพอื่น มันทำให้กลายเป็นความทุกข์แล้ว
ใครอ่านมาถึงตรงนี้ เรารบกวนขอกำลังใจด้วยค่ะ เราไม่ไหวแล้วจริงๆ เราคิดว่าเราเข้มแข็ง เราแข็งแกร่ง แต่จริงๆคือไม่เลย ตอนนี้อ่อนแอทางจิตใจสุดๆ