สวัสดีครับ เกริ่นก่อนว่า ผมเลิกกับแฟนเก่ามาเกือบ 2 เดือนแล้ว โดยที่ฝ่ายหญิงเป็นคนบอกเลิกครับ ช่วงแรกๆก็เศร้ามากทำอะไรไม่ได้ คิดอะไรไม่ออก แต่พอสักพักมาเริ่มตั้งสติกับตัวเอง มาย้อนดูว่าตัวเองได้ทำอะไรผิดพลาดลงไปบ้าง อะไรที่เราได้เรียนรู้จากความรักครั้งนี้ เลยอยากมาแชร์(ง่ายๆหาที่ระบาย)
1. เป็นคนตั้งความหวังกับความสัมพันธ์ที่จริงจังมากเกินไป
เนื่องจากผมเป็นคนที่มีแนวคิดว่า อยากมีแฟนคนเดียว คบคนเดียวไปจนแต่งงาน อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า มันเลยทำให้ผมตั้งความคาดหวังไว้สูงมาก มองความสัมพันธ์เป็นเรื่องจริงจัง ซึ่งมันอาจทำให้อีกฝ่ายอึดอัดเกิดไป (โดยเฉพาะแฟนเก่าผมเป็นคนชอบอิสระด้วย) เรื่องนี้ผมก็ถามเพื่อนๆหลายคนที่มีแฟนดู ปรากฎว่าส่วนใหญ่ยอมรับว่าไม่ได้วางแผนไว้จริงจังขนาดนั้น ขอแค่ตอนนี้มีความสุขด้วยกัน ถ้าวันนึงเข้ากันไม่ได้ก็เลิกได้ ไว้ถึงจุดอยากแต่งก็แต่งเอง (แอบตกใจเบาๆ)
2. เป็นคนตัดสินสิ่งต่างๆด้วยกรอบความคิดที่แคบของตัวเอง
ผมเป็นพวกที่ไม่ค่อยออกเที่ยวสังสรรค์ หรือเข้าสังคมมากนัก ทำให้มองการที่ต้องไปสังสรรค์ดึกๆดื่นๆเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น และไม่ควรทำ (ขอโทษคนที่ชอบสังสรรค์ดึกๆดื่นๆด้วยครับ) ทำให้เวลาแฟนเก่าไปสังสรรค์กับที่ทำงานหลายๆครั้ง ก็ต้องทะเลาะกันอยู่เรื่อยไป ส่วนใหญ่ผมจะพูดถึงสุขภาพกับเรื่องเงิน จนเธอเบื่อไม่อยากไปอยู่พักนึงเพราะไม่อยากทะเลาะกับผม แต่ด้วยนิสัยเธอ สุดท้ายเธอก็ไปอยู่ดี(แน่นอนทะเลาะกันตามระเบียบ) อันนี้ผมรู้ตัวแล้วครับว่า ผมเป็นคนที่โลกแคบ มุมมองแคบเกินไป ตัดสินทุกอย่างตามความคิดของตัวเองมาก ตอนนี้ก็เปิดใจกับเรื่องแบบนี้มากขึ้นแล้วครับ
3. พูดที่สนแต่ความถูกต้อง ไม่นึกถึงความรู้สึกคนฟัง
อันนี้คล้ายๆกับข้อที่แล้ว คือถ้าตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิดไปแล้ว ผมจะมั่นใจในความคิดนั้นมากแล้วก็เอาไปพูดต่อเลยเพราะคิดว่ามันถูกแล้ว ดีแล้ว ซึ่งมันก็จริงครับที่ผมพูดส่วนมากจะถูก (แฟนเก่าก็ยืนยันว่าถูกแล้วนะ) แต่มันบั่นทอนจิตใจคนฟังครับ เช่น เราห้ามเขาไม่ให้ดื่มเพราะเขาเจ็บคออยู่ พอเขาดื้ออยากดื่ม ผมก็เลยว่าเขาไม่สนใจสุขภาพตัวเองได้ยังไง แล้วที่มาดื่มกลับบ้านดึกๆมันก็ไม่ดี พ่อกับแม่เค้าก็เป็นห่วง เราก็เป็นห่วง อะไรงี้ มันก็เหมือนเราจะพูดมีเหตุผล แต่มันก็ทำให้แฟนเก่ารู้สึกแย่ แล้วก็รู้สึกผิดมาก
4. วางแผนอนาคต จนลืมปัจจุบัน
ผมกับแฟนทำงานคนละจังหวัด ทำให้โอกาสเจอกันค่อนข้างน้อย แต่เราก็วางแผนกันว่า อะไรหลายๆอย่าง เอาไว้แต่งงานแล้วมาอยู่ด้วยกันก็จะได้ทำ วางแผนว่าเราจะทำงานไปก่อน 2 ปี เรียน ป.โท อีกคนละ 2 ปี จบป.โททั้งคู่ก็แต่งงาน เขาก็ย้ายมาอยู่กับผม แล้ว 1-2 ปีเที่ยวกัน 2 คน แล้วค่อยคิดจะมีลูก หลังจากนั้นก็ช่วยกันเลี้ยงลูกไปด้วย เก็บเงินบางส่วนไว้เที่ยวบ้าง บลาๆ จนถึงเกษียณ ซึ่งแฟนจะเกษียณก่อน ผมอาจจะต้องถือพวกมาลัยไปไหวเขา
แต่ปัจจุบันความจริงที่ว่า เราอยู่ไกลกัน มันทำให้เธอเหงา ผมเองก็มองแค่ว่า อดทนไว้เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ซึ่งจริงๆผมควรหาเวลา และโอกาสไปเจอเธอมากกว่านี้ ถึงแม้จะได้เจอกันไม่นานมันก็ดีกว่าไม่เจอเลย
นี้เป็นสิ่งที่ผมคิดได้ตอนที่เธอไม่อยู่แล้ว แล้วก็ได้แต่นึกเสียใจว่า ถ้าเราคิดได้แบบนี้ก่อนหน้านี้ เธอคงไม่ต้องเสียใจ เสียความรู้สึก หรือบางทีเธออาจจะยังอยู่ตรงนี้ก็ได้ สุดท้ายเผื่อว่าแฟนเก่าได้มาเห็นกระทู้นี้โดยบังเอิญอยากจะบอกว่า "ขอโทษคนดื้อด้วยนะครับ จากคนดี"
แล้วทุกท่านล่ะครับ จากประสบการณ์ความรักที่จบลงไป ทำให้คิดได้อะไรบ้างครับ อยากเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นๆเยอะๆ ขอบคุณครับ
คิดว่าความรักที่จบลงไป สอนอะไรบ้างครับ
1. เป็นคนตั้งความหวังกับความสัมพันธ์ที่จริงจังมากเกินไป
เนื่องจากผมเป็นคนที่มีแนวคิดว่า อยากมีแฟนคนเดียว คบคนเดียวไปจนแต่งงาน อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า มันเลยทำให้ผมตั้งความคาดหวังไว้สูงมาก มองความสัมพันธ์เป็นเรื่องจริงจัง ซึ่งมันอาจทำให้อีกฝ่ายอึดอัดเกิดไป (โดยเฉพาะแฟนเก่าผมเป็นคนชอบอิสระด้วย) เรื่องนี้ผมก็ถามเพื่อนๆหลายคนที่มีแฟนดู ปรากฎว่าส่วนใหญ่ยอมรับว่าไม่ได้วางแผนไว้จริงจังขนาดนั้น ขอแค่ตอนนี้มีความสุขด้วยกัน ถ้าวันนึงเข้ากันไม่ได้ก็เลิกได้ ไว้ถึงจุดอยากแต่งก็แต่งเอง (แอบตกใจเบาๆ)
2. เป็นคนตัดสินสิ่งต่างๆด้วยกรอบความคิดที่แคบของตัวเอง
ผมเป็นพวกที่ไม่ค่อยออกเที่ยวสังสรรค์ หรือเข้าสังคมมากนัก ทำให้มองการที่ต้องไปสังสรรค์ดึกๆดื่นๆเป็นเรื่องที่ไม่จำเป็น และไม่ควรทำ (ขอโทษคนที่ชอบสังสรรค์ดึกๆดื่นๆด้วยครับ) ทำให้เวลาแฟนเก่าไปสังสรรค์กับที่ทำงานหลายๆครั้ง ก็ต้องทะเลาะกันอยู่เรื่อยไป ส่วนใหญ่ผมจะพูดถึงสุขภาพกับเรื่องเงิน จนเธอเบื่อไม่อยากไปอยู่พักนึงเพราะไม่อยากทะเลาะกับผม แต่ด้วยนิสัยเธอ สุดท้ายเธอก็ไปอยู่ดี(แน่นอนทะเลาะกันตามระเบียบ) อันนี้ผมรู้ตัวแล้วครับว่า ผมเป็นคนที่โลกแคบ มุมมองแคบเกินไป ตัดสินทุกอย่างตามความคิดของตัวเองมาก ตอนนี้ก็เปิดใจกับเรื่องแบบนี้มากขึ้นแล้วครับ
3. พูดที่สนแต่ความถูกต้อง ไม่นึกถึงความรู้สึกคนฟัง
อันนี้คล้ายๆกับข้อที่แล้ว คือถ้าตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิดไปแล้ว ผมจะมั่นใจในความคิดนั้นมากแล้วก็เอาไปพูดต่อเลยเพราะคิดว่ามันถูกแล้ว ดีแล้ว ซึ่งมันก็จริงครับที่ผมพูดส่วนมากจะถูก (แฟนเก่าก็ยืนยันว่าถูกแล้วนะ) แต่มันบั่นทอนจิตใจคนฟังครับ เช่น เราห้ามเขาไม่ให้ดื่มเพราะเขาเจ็บคออยู่ พอเขาดื้ออยากดื่ม ผมก็เลยว่าเขาไม่สนใจสุขภาพตัวเองได้ยังไง แล้วที่มาดื่มกลับบ้านดึกๆมันก็ไม่ดี พ่อกับแม่เค้าก็เป็นห่วง เราก็เป็นห่วง อะไรงี้ มันก็เหมือนเราจะพูดมีเหตุผล แต่มันก็ทำให้แฟนเก่ารู้สึกแย่ แล้วก็รู้สึกผิดมาก
4. วางแผนอนาคต จนลืมปัจจุบัน
ผมกับแฟนทำงานคนละจังหวัด ทำให้โอกาสเจอกันค่อนข้างน้อย แต่เราก็วางแผนกันว่า อะไรหลายๆอย่าง เอาไว้แต่งงานแล้วมาอยู่ด้วยกันก็จะได้ทำ วางแผนว่าเราจะทำงานไปก่อน 2 ปี เรียน ป.โท อีกคนละ 2 ปี จบป.โททั้งคู่ก็แต่งงาน เขาก็ย้ายมาอยู่กับผม แล้ว 1-2 ปีเที่ยวกัน 2 คน แล้วค่อยคิดจะมีลูก หลังจากนั้นก็ช่วยกันเลี้ยงลูกไปด้วย เก็บเงินบางส่วนไว้เที่ยวบ้าง บลาๆ จนถึงเกษียณ ซึ่งแฟนจะเกษียณก่อน ผมอาจจะต้องถือพวกมาลัยไปไหวเขา
แต่ปัจจุบันความจริงที่ว่า เราอยู่ไกลกัน มันทำให้เธอเหงา ผมเองก็มองแค่ว่า อดทนไว้เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง ซึ่งจริงๆผมควรหาเวลา และโอกาสไปเจอเธอมากกว่านี้ ถึงแม้จะได้เจอกันไม่นานมันก็ดีกว่าไม่เจอเลย
นี้เป็นสิ่งที่ผมคิดได้ตอนที่เธอไม่อยู่แล้ว แล้วก็ได้แต่นึกเสียใจว่า ถ้าเราคิดได้แบบนี้ก่อนหน้านี้ เธอคงไม่ต้องเสียใจ เสียความรู้สึก หรือบางทีเธออาจจะยังอยู่ตรงนี้ก็ได้ สุดท้ายเผื่อว่าแฟนเก่าได้มาเห็นกระทู้นี้โดยบังเอิญอยากจะบอกว่า "ขอโทษคนดื้อด้วยนะครับ จากคนดี"
แล้วทุกท่านล่ะครับ จากประสบการณ์ความรักที่จบลงไป ทำให้คิดได้อะไรบ้างครับ อยากเรียนรู้จากประสบการณ์ของคนอื่นๆเยอะๆ ขอบคุณครับ