10 อันดับ นักเตะค่าตัวแพงในพรีเมียร์ลีค ประจำตลาดปี 2018 ที่ผ่านมา!!

10. ลูคัส ตอร์เรร่า (จาก ซามพ์โดเรีย ไป อาร์เซนอล 26.4 ล้านปอนด์)
มิดฟิลด์ตัวรับทีมชาติอุรุกวัย ฉายฟอร์มโดดเด่นกับ ซามพ์โดเรีย 2 ซีซั่นติดต่อกัน ลงสนาม 74 นัด ยิงได้ 4 ประตู ถนัดในตำแหน่งเกมรับยืนอยู่หน้าแผงกองหลัง
ตอร์เรร่า วัย 22 ปี ทำผลงานเยี่ยมต่อเนื่องจนถึงศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เขาช่วยให้ทัพ “จอมโหด” เข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ลงเล่นครบทุกนัด (ตัวจริง 3 สำรอง 2 นัด)
ตอร์เรร่า ลงสนามประเดิมให้กับ อาร์เซนอล ไปแล้วในเกมลีกนัดล่าสุดที่แพ้แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 โดยลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงกลางครึ่งหลัง


9. ฌอง มิเชล เซรี่ (จาก นีซ ไป ฟูแล่ม 27 ล้านปอนด์)
กองกลางชาวไอวอรี่ โคสต์ เกือบได้ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลนา ตั้งแต่เมื่อซัมเมอร์ 2017 แต่ดีลการซื้อ-ขายถูกยกเลิกไปในวินาทีสุดท้ายของตลาดรอบนั้น

เซรี่ เล่นให้กับ นีซ มาแล้ว 3 ฤดูกาล และทำผลงานได้ดีเยี่ยม เป็นตัวหลักของทีมเรื่อยมา ลงเล่นไป 123 นัด ยิง 12 ประตู ได้รับการยอมรับในฐานะมิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกมที่ดีที่สุดคนหนึ่งในลีก เอิง
เซรี่ เคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ นีซ เมื่อปี 2017 รวมถึงติดทีมยอดเยี่ยมลีก เอิง ฤดูกาล 2016-2017



8. เฟลิเป้ อันแดร์สัน (จาก ลาซิโอ ไป เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 35 ล้านปอนด์)
หลังจากมีข่าวเรื่องย้ายทีมมาโดยตลอด สุดท้ายปีกจอมพลิ้วชาวบราซิเลียน ก็ได้ย้ายทีมจนได้ โดยมาอยู่กับ เวสต์แฮมฯ ด้วยค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร

แนวรุกวัย 25 ปี ค้าแข้งกับ ลาซิโอ 5 ซีซั่น ลงเล่น 177 นัด ยิง 34 ประตู โดยระหว่างนั้นเคยตกเป็นข่าวอย่างหนักกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายกระบวนการซื้อ-ขายไม่เกิดขึ้น
เฟลิเป้ อันแดร์สัน ลงสนามไปแล้วในเกมเปิดซีซั่นใหม่ที่ “ขุนค้อน” บุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล 0-4 โดยได้เล่นไป 60 นาที



7. ริชาร์ลิสัน (จาก วัตฟอร์ด ไป เอฟเวอร์ตัน 35 ล้านปอนด์)
เพิ่งสร้างชื่อเป็นที่รู้จักในพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมานี้เองสำหรับ กองหน้าฝั่งซ้ายชาวบราซิเลียน โดยเล่นให้กับ วัตฟอร์ด 41 นัด ยิง 5 ประตู ค่าตัวปัจจุบันอยู่ที่ 35 ล้านปอนด์ มีออปชั่นเพิ่มอีก 15 ล้านปอนด์

ริชาร์ลิสัน คือนักเตะที่โดนทำฟาวล์มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นก่อน และถือเป็นลูกศิษย์คู่บุญของ มาร์โก ซิลวา กุนซือ เอฟเวอร์ตัน โดยเคยร่วมงานกับที่ วัตฟอร์ต ก่อนย้ายตามกันมาถึง เมอร์ซี่ย์ ไซด์
ดาวเตะวัย 21 ปี ลงประเดิมสนามไปแล้วในเกมลีกที่ “ทอฟฟี่บลูส์” บุกเสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 2-2 โดยเขาเหมายิงคนเดียว 2 ลูก



6. ฟาบินโญ่ (จาก โมนาโก ไป ลิเวอร์พูล 40 ล้านปอนด์)
โมนาโก ฟันกำไรจากการขายนักเตะอื้อซ่า เช่นเดียวกับ ฟาบินโญ่ ที่ตอนซื้อมาจาก ริโอ อาฟ แทบไม่เสียสตางค์สักแดงเดียว

ฟาบินโญ่ เล่นได้ทั้งตำแหน่งแบ็กขวา และ กองกลางเชิงรับ แต่ช่วง 1-2 ปีหลังเขาถูกจับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์เสียมากกว่า โดยเล่นให้ โมนาโก 5 ปีเต็มๆ และอยู่ในทีมชุดคว้าแชมป์ลีก เอิง 2016-2017 รุ่นเดียวกับพวก คีเลียน เอ็มบัปเป้, ตีมูเอ้ บากาโยโก้ และ เบนฌาแม็ง เมนดี้
ดาวเตะชาวบราซิเลียน อยู่ในช่วงการปรับตัวกับทีมใหม่ และไม่ได้เล่นนัดเปิดสนามพรีเมียร์ลีกที่ชนะ เวสต์แฮม 4-0



5. จอร์จินโญ่ (จาก นาโปลี ไป เชลซี 51 ล้านปอนด์)
มิดฟิลด์ทีมชาติอิตาลี เกือบได้ย้ายไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในตลาดรอบล่าสุด แต่สุดท้ายเขาเลือกมา เชลซี ตามเจ้านายเก่า เมาริซิโอ ซาร์รี่ ซึ่งย้ายมาคุม เชลซี

จอร์จินโญ่ ถือเป็นกองกลางฝีเท้าดีของเวทีกัลโช่ เซเรีย อา ถนัดการคุมจังหวะในระบบ 4-3-3 ยืนต่ำอยู่หน้าแผงกองหลัง เขาเป็นขุนพลคู่ใจของ ซาร์รี่ ตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา
กองกลางวัย 26 ปี ลงเล่นให้ เชลซี ในเกมคอมมูนิตี้ ชิลด์ ที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 และเกมลีกนัดเปิดซีซั่นที่ชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 3-0 โดยยิงได้ 1 ลูกด้วย



4. เฟร็ด (จาก ชัคเตอร์ฯ ไป แมนฯ ยูไนเต็ด 53 ล้านปอนด์)
เป็นนักเตะที่ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือ “ปีศาจแดง” ให้การยอมรับเป็นอย่างยิ่ง มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิล ย้ายเข้ามาร่วมทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ก่อนที่ฟุตบอลโลก 2018 จะเปิดฉากขึ้น

เฟร็ด สูงแค่ 169 ซม. มีจุดเด่นที่ความพลิ้ว ไปกับลูกบอลได้ดี รวมถึงจ่ายบอลแม่นและคม ถึงตัวจะเล็กแต่ตำแหน่งการยืนของเขาแทบจะเป็นตัวรับด้วยซ้ำ
เฟร็ด ลงประเดิมสนามให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วในเกมลีกที่ชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 โดยเล่นไป 75 นาที



3. อลิสซง เบ็คเกอร์ (จาก โรมา ไป ลิเวอร์พูล 56 ล้านปอนด์)
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ยอมลงทุนควักเงินมหาศาลเพื่อตำแหน่งผู้รักษาประตู หลังจากแพ้นัดชิงแชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อ เรอัล มาดริด

อลิสซง เพิ่งยึดตำแหน่งมือ 1 ของโรมา แบบเต็มตัวเมื่อซีซั่นล่าสุดนี่เอง ซึ่งเขาเล่นได้ดีมากๆพาทีมผ่านถึงรอบตัดเชือก ชปล. และจบอันดับที่ 3 ของลีก
นายทวารทีมชาติบราซิล เปิดตัวด้วยการเก็บคลีนชีต หลังทัพ “หงส์แดง” ถล่ม เวสต์แฮมฯ 4-0



2. ริยาด มาห์เรซ (จาก เลสเตอร์ ไป แมนฯ ซิตี้ 61 ล้านปอนด์)
ปีกหุ่นสะโอดสะองเกือบได้ย้ายมา แมนฯ ซิตี้ ตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ฝั่ง “จิ้งจอกสยาม” ขอรั้งตัวไว้ช่วยงานจนจบซีซั่น และสุดท้าย มาห์เรซ ก็ได้ย้ายสมใจ

ดาวเตะทีมชาติแอลจีเรีย ถนัดในตำแหน่งปีกขวา ด้วยสไตล์เลี้ยงตัดเข้าในแล้วยิงประตู เขาอยู่กับ เลสเตอร์ 5 ปี และเป็น 1 ในแกนหลัดชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2015-2016
มาห์เรซ กวาดรางวัลส่วนตัวใหญ่ๆได้ครบทั้ง นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีพรีเมียร์ลีก จากการโหวตของแฟนบอล, นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ เลสเตอร์



1. เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า (จาก แอธเลติก บิลเบา ไป เชลซี 71.6 ล้านปอนด์)
กลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในตลาดรอบนี้แบบช็อกๆอยู่เหมือนกัน เกป้า ย้ายเข้ามาแทนตำแหน่ง ธิโบต์ กูร์กตัวส์ ที่ย้ายไป เรอัล มาดริด ในเวลาไล่เลี่ยกัน

เกป้า วัย 23 ปี ก็เพิ่งสร้างชื่อกับ แอธฯ บิลเบา ได้แค่ซีซั่นเดียวเท่านั้น แถมเมื่อมกราคมก่อน เขาก็เกือบได้ย้ายไป เรอัล มาดริด แต่โดน ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือ “ราชันชุดขาว” ในเวลานั้นคัดค้านเสียก่อน
จากเดิมค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 25 ล้านปอนด์ พอฟอร์มเริ่มดูดีก็ต่อเพิ่มเป็น 71.6 ล้านปอนด์ โดยที่ เชลซี ก็ไม่ได้ยี่หระ ยอมควักเงินเข้าร่วมทีมแบบไม่ต้องคิดมาก
สถานะของ เกป้า คือนายด่านมือ 2 ทีมชาติสเปน และปัจจุบันคือมือ 1 ของ เชลซี แบบไร้คู่แข่ง เขาเปิดตัวในเกมลีกนัดเปิดซีซั่นที่ชนะ ฮัดเดอร์สฟิลด์ 3-0


https://soiball.com/10-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B0-%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่