สวัสดีค่ะ คืออยากขอคำปรึกษาหน่อยคะ พอดีว่าพ่อกับแม่ได้จ้างบริษัทหนึ่งในการสร้างบ้าน โดยทางบริษัทรับงานไว้แล้วไปจ้างวิศวะกรรับช่วงต่ออีกทีคะ แต่ผลปรากฎว่างานไม่เดิน ของที่ใช้ก็ไม่ตรงตามสเป็คที่คุยกันไว้ แล้วก็ไม่มีคนมาทำงานบ้านเลยหยุดชะงักไปเป็นเดือนเลยคะ พอคุยกับทางวิศวะกรเขาบอกว่าบริษัทไม่เอาเวินให้เลยไม่มีจ้างคนงานแต่ทางบริษัทเบิกเงินล่วงหน้าไปแล้ว เหลืออีกแค่งวดเดียว สุดท้ายพอแม่จ้างทนายกับวิศวะกรข้างนอกมาตรวจสอบและตีมูลค่าความเสียหาย แล้วโล๊ะคนงานชุดนี้พร้อมกับบริษัทออกหมด แล้วหาคนมาทำเองทั้งหมดจนเสร็จ ทุกวันนี้เข้าอยู่ได้สองเดือนละค่ะ แต่เป็นคดีความและขึ้นศาลกับทางบริษัท โดยที่แม่ฟ้องร้องไปที่ 1,200,000 บาท โดยมีจำเลยที่1 คือบริษัท จำเลยที่2 คือลูกสาว จำเลยที่3 คือพ่อ และจำเลยที่4 คือแม่ แต่บริษัทเป็นชื่อของจำเลยที่2 ซึ่งถูกยกฟ้องไปแล้ว และศาลตัดสินให้ชดใช้ค่าเสียหาย 700,000 บาท แต่พอเวลาผ่านมาเลยกำหนดเรื่องไม่คืบหน้าเลยคะตอนแรกคิดว่าทางฝั่งจำเลยจะยื่นอุทร แต่ไม่ได้ยื่นคะ ส่วนฝั่งเราก็ไม่ยื่นเพราะพ่อแม่ไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวายกว่านี้คะ ซึ่งวันนี้แม่เลยจ้างทนายใหม่ และไปดูสำนวนคดีที่ศาล พบว่าศาลยกฟ้องจำเลยที่2,3,4 แล้วแต่ตอนนี้ตั้งเจ้าพนักงานสืบทรัพย์เรียบร้อยแล้วคะ แต่ทางทนายบอกกับพ่อแม่ว่า ให้เผื่อใจว่าอาจไม่ได้อะไรเลยหากว่าจำเลยที่1 ซึ่งก็คือบริษัทไม่มีสินทรัพย์ใดๆ เลยอยากถามว่าเป็นไปได้เหรอคะ ที่จะไม่ได้อะไรเลยเพราะเราคือผู้เสียหายจากการโคดโกง แล้วพ่อแม่ควรทำยังไงบ้างคะ?? คือสงสารพ่อแม่มากค่ะ แต่เราเองก็ไม่มีความรู้ด้านนี้ เลยอยากขอคำปรึกษาในกรณีนี้หน่อยคะ ขอบคุณทุกๆคำปรึกษาไว้ล่วงหน้านะคะ 🙏🏼