สวัสดีค่ะ เราเพิ่งได้วีซ่าผ่าน เลยอยากมารีวิวประสบการณ์และแชร์ข้อมูลที่ได้มาค่า
ขอเกริ่นก่อนว่า เราอายุ 23 ปี เพิ่งเรียนจบเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว จึงยังไม่มีงานทำ เพราะเราตั้งใจจะไปเรียนภาษาก่อนที่สวิส เนื่องจากมีญาติอยู่ที่นั่นค่ะ เราจะไปเรียนภาษา 3 เดือน ก็เลยเตรียมเอกสารสำหรับขอวีซ่า "นักเรียนระยะสั้น" แต่พอไปยื่นเอกสารที่ TLS เค้าให้เราเปลี่ยนเป็นวีซ่า "เยี่ยมเยียน" เพราะว่าเราให้ญาติที่สวิสเขียนจดหมายเชิญมาเผื่อๆ ซึ่งจากการที่ได้ทราบมาคือ วีซ่าเยี่ยมเยียน เมื่อสัมภาษณ์ที่ TLS เสร็จแล้ว เค้าให้ไปสัมภาษณ์ต่อที่สถานทูตสวิสค่ะ เดี๋ยวเราจะมาชี้แจงให้ฟัง
ขอเริ่มจากการเตรียมเอกสารก่อนนะคะ
อย่างแรกคือเราไปเปิดในเว็บ TLS ค่ะ ว่าวีซ่าที่เราจะขอต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://ch.tlscontact.com/th/BKK/index.php?l=th ในเว็บสามารถเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้นะคะ จะได้อ่านง่าย
และนี่คือตัวอย่างแบบฟอร์มสมัครค่ะ https://static.tlscontact.com/media/th/bkk/ch/visumantrag-schen-en-de.pdf?_ga=2.158251194.1852729310.1535624166-1502871677.1530415730
*** ขอชี้แจงก่อนว่า เนื่องจากเราเป็นผู้หญิง ยังไม่มีงานทำ และเดินทางคนเดียว ด้วยความที่ต้อง safe ที่สุด เราเตรียมเอกสารดังนี้ค่ะ เพราะเหลือดีกว่าขาด
- รูปถ่าย 2 ใบ
- แบบฟอร์มสมัคร
- สำเนาพาสปอร์ตและพาสปอร์ตตัวจริง
- เอกสารแนะนำตัวว่าชื่ออะไร ทำไมถึงอยากไป พักที่ไหน กลับไทยวันที่เท่าไหร่ สามารถหาตัวอย่างใน google ได้ค่ะ เอกสารทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะ
- ใบจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (ทาง TLS ระบุไว้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วก่อน แค่จองได้ค่ะ เพราะถ้าวีซ่าไม่ผ่านจะเสียเงินไปฟรีๆ)
- ใบประกันการเดินทาง วงเงิน 1,500,000 บาท ตามที่ระบุในเว็บ และต้องเป็นบริษัทที่สถานทูตรับรองด้วยนะคะ
- เนื่องจากเราไปเรียนภาษาด้วย เราก็มีเอกสารการรับรองการจ่ายเงินกับทางโรงเรียน และเอกสารรับเข้าเรียนที่สวิสค่ะ
- statement ย้อนหลัง 6 เดือน ภาษาอังกฤษ มีตราประทับธนาคาร เราไปขอมา เสีย 200 บาทค่ะ และเนื่องจากเรายังไม่มีเงินเดือน เราก็ให้ผู้ปกครองเราขอ statement ด้วยเพื่อเป็นการรับรอง เอาชัวร์ๆไว้ก่อน แล้วก็ต้องให้ทางผู้ที่เชิญเราที่สวิสขอมาด้วยนะคะ
- จดหมายแนะนำตัวของผู้เชิญ สำเนาพาสปอร์ตผู้เชิญ จดหมายเชิญ
- และเราเพิ่งสำเร็จการศึกษา เราก็แนบใบ transcript ใบจบการศึกษา และ CV ไปด้วยค่ะ
เราถ่ายสำเนาของทุกเอกสารไปเผื่อๆอย่างละ 1 ชุด แต่สุดท้ายทาง TLS เค้าก็เก็บตัวจริง (ที่สามารถเก็บไปได้) ของเราไปค่ะ แล้วเราก็ยื่นสำเนาทะเบียนบ้าน (ภาษาอังกฤษ)ไปเผื่อๆด้วยค่ะ แต่ทาง TLS ก็เก็บเอกสารของเราไปหมด
** คนที่ต้องการแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษหรือเยอรมัน ต้องแปลกับร้านที่สถานทูตรับรองเท่านั้นนะคะ
เราแปลทะเบียนบ้านที่ร้าน express translation service & travel co. ltd อยู่ที่ bts เพลินจิตค่ะ ใบละ 300 บาท ประมาณ 1 ชั่วโมงได้รับค่ะ
เมื่อสมัครสมาชิกในเว็บไซต์ และกรอกแบบฟอร์มเสร็จแล้ว เค้าจะให้เรานัดหมายวันและเวลากับ TLS ค่ะ
เมื่อถึงวันนัดหมายก็เช็คเอกสารให้พร้อม ทำใจให้สบายๆ แล้วเดินทางไปที่ TLS โดยลงสถานีช่องนนทรี ออกทางออกเลข 5 เดินตามสะพานลอยฟ้าไปสุดแล้วลงสะพานลอย แล้วหาอาคารชื่อ "สาทรซิตี้ทาวเวอร์" ค่ะ ชั้นล่างสุดมีร้านอาหาร ถ้าไปถึงก่อนเวลามากๆก็ทานอาหารที่นั่นได้ เสร็จแล้วก็นำบัตรประชาชนไปแลกบัตรขึ้นชั้นบนค่ะ จำไม่ได้ว่าชั้นอะไร 5555 แต่ถามพนักงานได้ค่ะ เมื่อขึ้นไปถึงเค้าจะให้ฝากโทรศัพท์ไว้ข้างนอกค่ะ เมื่อเข้าไปแล้วก็กดบัตรคิว แล้วรอเรียก เพื่อยื่นเอกสารและสัมภาษณ์ค่ะ
เมื่อถึงคิวเราก็เข้าไปนั่ง และยื่นเอกสารทั้งหมดที่เตรียมมา พนักงานที่เราเจอ เป็นผู้หญิงค่ะ น่ารัก ใจดี เค้าดูเอกสารเราไปเรื่อยๆ แล้วก็ถามลองเชิง ว่าแบบเงินที่จ่ายค่าเรียนไป แปลเป็นเงินไทยกี่บาท พ่อแม่ไม่ไปด้วยหรอ แล้วจะพักกับใคร เค้าเป็นอะไรกับเรา ชิวมากค่ะ หลังจากนั้นด้วยความที่เราเตรียมเอกสารมาเพื่อจะขอวีซ่านักเรียนตั้งแต่แรก แต่เมื่อเค้าเหนจดหมายเชิญของญาติที่สวิส เค้าก็บอกว่าให้เปลี่ยนเป็นวีซ่าเยี่ยมเยียนนะ ถ้าไม่เปลี่ยนตอนนี้ สถานทูตก็เปลี่ยนให้อยู๋ดี เราก็ถามว่ามันแตกต่างกันอย่างไง เค้าก็บอกว่าไม่ต่าง เพราะอยู่ได้ไม่เกิน 90 วันเหมือนกัน เราก็ตอบว่าค่ะๆ แล้วเค้าก็บอกว่าให้ไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตต่อ!!! ด้วยความที่ไม่รู้มาก่อนว่าวีซ่าเยี่ยมเยียนต้องไปสัมที่สถานทูตด้วย เราก็ตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น ก็งงๆ หลังจากนั้นเค้าก็เอาเอกสารเราใส่ซอง เพื่อเค้าจะนำไปส่งที่สถานฑูตให้ แล้วให้เราไปจ่ายเงิน และหลังจากนั้นก็สแกนนิ้วมือ ถ่ายรูป
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นที่ TLS แล้วเราก็นั่ง bts ต่อไปยังสถานทูตเลยค่ะ
โดยสถานทูตสวิส อยู๋ที่สถานนีเพลินจิต ออกทางออก 5 เดินตรงไป แล้วเลี้ยวเข้าทางโฮมโปร ลงไปชั้นล่าง แล้วเดินตรงไป ก็จะเห็นค่ะ
ซึ่งในระหว่างการเดินทาง เราก็เปิดหาข้อมูลว่าสัมภาษณ์ที่สถานทูตจะเป็นอะไรยังไง ก็เตรียมใจไว้ในระดับนึง
เมื่อไปถึงเวลาบ่ายโมงตรง (จริงๅ สถานทูตปิดทำการ 11:30 แต่ไม่ต้องตกใจ สำหรับคนไปสัมภาษณ์เค้าให้เข้าไปได้ ยังเปิดอยู่ค่ะ ) เราก็ยื่นบัตรปชช แลกบัตรเข้าไป แล้วก็นั่งรอตรง visa section มีพนักงานมาเรียกให้ไปสัมภาษณ์ที่ช่อง คล้ายๆช่องธนาคาร เราไม่ได้กดบัตรคิว เพราะเค้าปิดเครื่องค่ะ เมื่อไปถึงพนักงานก็พูดอังกฤษใส่เลยค่า ให้แนะนำตัว แล้วถามว่าไปพักที่สวิสเป็นบ้านใคร เป็นอะไรกับเรา ก็ต้องไล่ความสัมพันธ์ไปค่า เราไปพักกับป้า ซึ่งมันอธิบายซับซ้อน เราถามเค้าว่าขอพูดไทยได้ไหม เค้าบอกว่า No!!! (คนสัมภาษณ์เป็นคนไทยค่ะ) แล้วเราก็ต้องพยายามอธิบายต่อไป 5555 แล้วก็ถามอีกว่าเคยเจอกันไหม กี่ครั้ง ที่ไหนมั่ง ติดต่อกันทางไหน แล้วไปทำอะไร เราก็บอกไปเรียนภาษา เค้าก็ถามว่าไปเรียนอย่างเดียวหรอ แล้วมีงานทำยัง เราบอกว่ายัง เค้าก็มองหน้าประมาณ 3 วิ แล้วถามย้ำอีกว่ามีงานทำยัง 555555 ตอนนั้นเราสติหลุดไปเลยค่ะ ลืมบอกซะด้วยซ้ำว่าเพิ่งจบมา แล้วมีแผนว่าจะไปเรียนภาษาเลย ณ จุดๆนั้นคือสติหลุด หัวใจเต้นแรงมากค่ะ (คือเอกสารที่เราส่งไปที่ tls ยังมาไม่ถึงสถานทูต เค้าก็เลยยังไม่รู้รายละเอียด) แล้วเค้าก็เปลี่ยนมาถามเราเป็นภาษาไทย เพื่อให้อธิบายความสัมพันธ์กับป้าที่สวิส ที่เชิญเราให้ชัดเจน แล้วถามเราว่า คิดจะทำงานที่นั่นไหม อะไรแบบนี้ค่ะ เมื่อถามเสร็จก็บอกว่าเสร็จแล้ว เชิญกลับบ้านได้ 555555
หลังจากนั้นก็รอผลค่ะ สามารถติดตามผลได้ทางเว็บ tls ว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว หลังจากวันสัมภาษณ์ประมาณ 7 วัน ก็มีเอกสารส่งถึงบ้าน (เพราะเราแจ้งที่ tls ว่าให้ส่งพาสปอร์ตกลับทางไปรษณีย์ ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ ร้อยกว่าๆ ใช้เวลาส่ง 1-2 วัน) ในซองมี 3 อย่างค่ะ
- พาสปอร์ตอยู๋ในห่อสีฟ้า ยังไม่มี visa!!!!
- เอกสาร declaration of sponsorship ที่เป็นภาษาเยอรมันทั้งแผ่น
- ใบแนบขนาดครึ่งเอสี่ภาษาไทย ระบุว่าเอกสารที่ส่งมาเป็น declaration of sponsorship ให้ส่งให้ทางผู้เชิญที่สวิส ได้ทั้งทางไปรษณีย์ email หรือ fax ก็ได้ เราสแกนแล้วส่งทางอีเมลค่ะ แล้วให้ทางผู้เชิญส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองค่ะ ที่อยู่ตามในใบที่เป็นภาษาเยอรมันนั่นแหละค่ะ โดยเราสามารถสอบถามผลพิจารณาทาง ban.visa@eda.admin.ch (ภาษาอังกฤษหรือภาษาทางราชการสวิสเท่านั้นค่ะ)
ซึ่งเมื่อทางป้าที่เป็นผู้เชิญของเราส่งเอกสารไปยังหน่วยงานก็รอ 7 วันค่ะ หรือว่า 5 วันทำการ หรือใกล้ๆวันดังกล่าวก็เมลถาม email ข้างต้นได้ค่ะ เค้าตอบเร็วนะคะ เมื่อตอนใกล้ๆจะครบ 7 วัน เราส่งเมลไปถาม เค้าบอกเราว่าเอกสารยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินงาน ถ้าเอกสารมาถึงเค้าจะเมลบอก ซึ่งก็ใช้เวลา 5 วันทำการพอดี นับตั้งแต่ทางผู้เชิญส่งไปที่หน่วยงานค่ะ เมื่อเอกสารมาถึงสถานทูตสวิสที่ไทย เค้าก็เมลบอกว่าให้ไปยื่นพาสปอร์ตที่สถานทูต
เมื่อได้รับเมลดังกล่าวเราก็รีบไปด้วยความตื่นเต้นเลยค่ะ เมื่อไปถึงเราก็กดบัตรคิว แล้วก็บอกว่ายื่นพาสปอร์ตขอวีซ่าเยี่ยมเยียน เค้าก็ถามว่ายังเดินทางวันเดิมไหม (ถ้าเปลี่ยนวันเดินทางต้องยื่นหลักฐานการสำรองที่นั่งและประกันสุขภาพระหว่างการเดินทางไปด้วยนะคะ) เราก็บอกว่าเหมือนเดิมค่ะ ก็ยื่นไปแค่พาสปอร์ต เค้าก็เก็บพาสปอร์ตเรา พร้อมให้ใบนัดมารับพาสปอร์ตคืนวันถัดไปค่ะ แล้วบอกว่าไม่ต้องกดบัตรคิว
วันต่อมาก็เข้ามาที่สถานทูตเหมือนเดิมค่ะ ยื่นใบนัดที่ช่อง แล้วก็ได้รับวีซ่าเยี่ยมเยียนค่าาา
หวังว่าข้อมูลคงเป็นประโยชน์นะคะ ถ้าใช้คำพูดผิดพลาด หรือข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ เพราะเราตั้งใจสมัครพันทิปเพื่อมารีวิวประสบการณ์ครั้งนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ
[CR] ขอวีซ่าเยี่ยมเยียนสวิส 2018!!!
ขอเกริ่นก่อนว่า เราอายุ 23 ปี เพิ่งเรียนจบเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว จึงยังไม่มีงานทำ เพราะเราตั้งใจจะไปเรียนภาษาก่อนที่สวิส เนื่องจากมีญาติอยู่ที่นั่นค่ะ เราจะไปเรียนภาษา 3 เดือน ก็เลยเตรียมเอกสารสำหรับขอวีซ่า "นักเรียนระยะสั้น" แต่พอไปยื่นเอกสารที่ TLS เค้าให้เราเปลี่ยนเป็นวีซ่า "เยี่ยมเยียน" เพราะว่าเราให้ญาติที่สวิสเขียนจดหมายเชิญมาเผื่อๆ ซึ่งจากการที่ได้ทราบมาคือ วีซ่าเยี่ยมเยียน เมื่อสัมภาษณ์ที่ TLS เสร็จแล้ว เค้าให้ไปสัมภาษณ์ต่อที่สถานทูตสวิสค่ะ เดี๋ยวเราจะมาชี้แจงให้ฟัง
ขอเริ่มจากการเตรียมเอกสารก่อนนะคะ
อย่างแรกคือเราไปเปิดในเว็บ TLS ค่ะ ว่าวีซ่าที่เราจะขอต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง
สามารถเข้าไปดูได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ https://ch.tlscontact.com/th/BKK/index.php?l=th ในเว็บสามารถเปลี่ยนเป็นภาษาไทยได้นะคะ จะได้อ่านง่าย
และนี่คือตัวอย่างแบบฟอร์มสมัครค่ะ https://static.tlscontact.com/media/th/bkk/ch/visumantrag-schen-en-de.pdf?_ga=2.158251194.1852729310.1535624166-1502871677.1530415730
*** ขอชี้แจงก่อนว่า เนื่องจากเราเป็นผู้หญิง ยังไม่มีงานทำ และเดินทางคนเดียว ด้วยความที่ต้อง safe ที่สุด เราเตรียมเอกสารดังนี้ค่ะ เพราะเหลือดีกว่าขาด
- รูปถ่าย 2 ใบ
- แบบฟอร์มสมัคร
- สำเนาพาสปอร์ตและพาสปอร์ตตัวจริง
- เอกสารแนะนำตัวว่าชื่ออะไร ทำไมถึงอยากไป พักที่ไหน กลับไทยวันที่เท่าไหร่ สามารถหาตัวอย่างใน google ได้ค่ะ เอกสารทุกอย่างต้องเป็นภาษาอังกฤษนะคะ
- ใบจองตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (ทาง TLS ระบุไว้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วก่อน แค่จองได้ค่ะ เพราะถ้าวีซ่าไม่ผ่านจะเสียเงินไปฟรีๆ)
- ใบประกันการเดินทาง วงเงิน 1,500,000 บาท ตามที่ระบุในเว็บ และต้องเป็นบริษัทที่สถานทูตรับรองด้วยนะคะ
- เนื่องจากเราไปเรียนภาษาด้วย เราก็มีเอกสารการรับรองการจ่ายเงินกับทางโรงเรียน และเอกสารรับเข้าเรียนที่สวิสค่ะ
- statement ย้อนหลัง 6 เดือน ภาษาอังกฤษ มีตราประทับธนาคาร เราไปขอมา เสีย 200 บาทค่ะ และเนื่องจากเรายังไม่มีเงินเดือน เราก็ให้ผู้ปกครองเราขอ statement ด้วยเพื่อเป็นการรับรอง เอาชัวร์ๆไว้ก่อน แล้วก็ต้องให้ทางผู้ที่เชิญเราที่สวิสขอมาด้วยนะคะ
- จดหมายแนะนำตัวของผู้เชิญ สำเนาพาสปอร์ตผู้เชิญ จดหมายเชิญ
- และเราเพิ่งสำเร็จการศึกษา เราก็แนบใบ transcript ใบจบการศึกษา และ CV ไปด้วยค่ะ
เราถ่ายสำเนาของทุกเอกสารไปเผื่อๆอย่างละ 1 ชุด แต่สุดท้ายทาง TLS เค้าก็เก็บตัวจริง (ที่สามารถเก็บไปได้) ของเราไปค่ะ แล้วเราก็ยื่นสำเนาทะเบียนบ้าน (ภาษาอังกฤษ)ไปเผื่อๆด้วยค่ะ แต่ทาง TLS ก็เก็บเอกสารของเราไปหมด
** คนที่ต้องการแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษหรือเยอรมัน ต้องแปลกับร้านที่สถานทูตรับรองเท่านั้นนะคะ
เราแปลทะเบียนบ้านที่ร้าน express translation service & travel co. ltd อยู่ที่ bts เพลินจิตค่ะ ใบละ 300 บาท ประมาณ 1 ชั่วโมงได้รับค่ะ
เมื่อสมัครสมาชิกในเว็บไซต์ และกรอกแบบฟอร์มเสร็จแล้ว เค้าจะให้เรานัดหมายวันและเวลากับ TLS ค่ะ
เมื่อถึงวันนัดหมายก็เช็คเอกสารให้พร้อม ทำใจให้สบายๆ แล้วเดินทางไปที่ TLS โดยลงสถานีช่องนนทรี ออกทางออกเลข 5 เดินตามสะพานลอยฟ้าไปสุดแล้วลงสะพานลอย แล้วหาอาคารชื่อ "สาทรซิตี้ทาวเวอร์" ค่ะ ชั้นล่างสุดมีร้านอาหาร ถ้าไปถึงก่อนเวลามากๆก็ทานอาหารที่นั่นได้ เสร็จแล้วก็นำบัตรประชาชนไปแลกบัตรขึ้นชั้นบนค่ะ จำไม่ได้ว่าชั้นอะไร 5555 แต่ถามพนักงานได้ค่ะ เมื่อขึ้นไปถึงเค้าจะให้ฝากโทรศัพท์ไว้ข้างนอกค่ะ เมื่อเข้าไปแล้วก็กดบัตรคิว แล้วรอเรียก เพื่อยื่นเอกสารและสัมภาษณ์ค่ะ
เมื่อถึงคิวเราก็เข้าไปนั่ง และยื่นเอกสารทั้งหมดที่เตรียมมา พนักงานที่เราเจอ เป็นผู้หญิงค่ะ น่ารัก ใจดี เค้าดูเอกสารเราไปเรื่อยๆ แล้วก็ถามลองเชิง ว่าแบบเงินที่จ่ายค่าเรียนไป แปลเป็นเงินไทยกี่บาท พ่อแม่ไม่ไปด้วยหรอ แล้วจะพักกับใคร เค้าเป็นอะไรกับเรา ชิวมากค่ะ หลังจากนั้นด้วยความที่เราเตรียมเอกสารมาเพื่อจะขอวีซ่านักเรียนตั้งแต่แรก แต่เมื่อเค้าเหนจดหมายเชิญของญาติที่สวิส เค้าก็บอกว่าให้เปลี่ยนเป็นวีซ่าเยี่ยมเยียนนะ ถ้าไม่เปลี่ยนตอนนี้ สถานทูตก็เปลี่ยนให้อยู๋ดี เราก็ถามว่ามันแตกต่างกันอย่างไง เค้าก็บอกว่าไม่ต่าง เพราะอยู่ได้ไม่เกิน 90 วันเหมือนกัน เราก็ตอบว่าค่ะๆ แล้วเค้าก็บอกว่าให้ไปสัมภาษณ์ที่สถานทูตต่อ!!! ด้วยความที่ไม่รู้มาก่อนว่าวีซ่าเยี่ยมเยียนต้องไปสัมที่สถานทูตด้วย เราก็ตกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น ก็งงๆ หลังจากนั้นเค้าก็เอาเอกสารเราใส่ซอง เพื่อเค้าจะนำไปส่งที่สถานฑูตให้ แล้วให้เราไปจ่ายเงิน และหลังจากนั้นก็สแกนนิ้วมือ ถ่ายรูป
ก็เป็นอันเสร็จสิ้นที่ TLS แล้วเราก็นั่ง bts ต่อไปยังสถานทูตเลยค่ะ
โดยสถานทูตสวิส อยู๋ที่สถานนีเพลินจิต ออกทางออก 5 เดินตรงไป แล้วเลี้ยวเข้าทางโฮมโปร ลงไปชั้นล่าง แล้วเดินตรงไป ก็จะเห็นค่ะ
ซึ่งในระหว่างการเดินทาง เราก็เปิดหาข้อมูลว่าสัมภาษณ์ที่สถานทูตจะเป็นอะไรยังไง ก็เตรียมใจไว้ในระดับนึง
เมื่อไปถึงเวลาบ่ายโมงตรง (จริงๅ สถานทูตปิดทำการ 11:30 แต่ไม่ต้องตกใจ สำหรับคนไปสัมภาษณ์เค้าให้เข้าไปได้ ยังเปิดอยู่ค่ะ ) เราก็ยื่นบัตรปชช แลกบัตรเข้าไป แล้วก็นั่งรอตรง visa section มีพนักงานมาเรียกให้ไปสัมภาษณ์ที่ช่อง คล้ายๆช่องธนาคาร เราไม่ได้กดบัตรคิว เพราะเค้าปิดเครื่องค่ะ เมื่อไปถึงพนักงานก็พูดอังกฤษใส่เลยค่า ให้แนะนำตัว แล้วถามว่าไปพักที่สวิสเป็นบ้านใคร เป็นอะไรกับเรา ก็ต้องไล่ความสัมพันธ์ไปค่า เราไปพักกับป้า ซึ่งมันอธิบายซับซ้อน เราถามเค้าว่าขอพูดไทยได้ไหม เค้าบอกว่า No!!! (คนสัมภาษณ์เป็นคนไทยค่ะ) แล้วเราก็ต้องพยายามอธิบายต่อไป 5555 แล้วก็ถามอีกว่าเคยเจอกันไหม กี่ครั้ง ที่ไหนมั่ง ติดต่อกันทางไหน แล้วไปทำอะไร เราก็บอกไปเรียนภาษา เค้าก็ถามว่าไปเรียนอย่างเดียวหรอ แล้วมีงานทำยัง เราบอกว่ายัง เค้าก็มองหน้าประมาณ 3 วิ แล้วถามย้ำอีกว่ามีงานทำยัง 555555 ตอนนั้นเราสติหลุดไปเลยค่ะ ลืมบอกซะด้วยซ้ำว่าเพิ่งจบมา แล้วมีแผนว่าจะไปเรียนภาษาเลย ณ จุดๆนั้นคือสติหลุด หัวใจเต้นแรงมากค่ะ (คือเอกสารที่เราส่งไปที่ tls ยังมาไม่ถึงสถานทูต เค้าก็เลยยังไม่รู้รายละเอียด) แล้วเค้าก็เปลี่ยนมาถามเราเป็นภาษาไทย เพื่อให้อธิบายความสัมพันธ์กับป้าที่สวิส ที่เชิญเราให้ชัดเจน แล้วถามเราว่า คิดจะทำงานที่นั่นไหม อะไรแบบนี้ค่ะ เมื่อถามเสร็จก็บอกว่าเสร็จแล้ว เชิญกลับบ้านได้ 555555
หลังจากนั้นก็รอผลค่ะ สามารถติดตามผลได้ทางเว็บ tls ว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว หลังจากวันสัมภาษณ์ประมาณ 7 วัน ก็มีเอกสารส่งถึงบ้าน (เพราะเราแจ้งที่ tls ว่าให้ส่งพาสปอร์ตกลับทางไปรษณีย์ ต้องเสียเงินเพิ่มค่ะ ร้อยกว่าๆ ใช้เวลาส่ง 1-2 วัน) ในซองมี 3 อย่างค่ะ
- พาสปอร์ตอยู๋ในห่อสีฟ้า ยังไม่มี visa!!!!
- เอกสาร declaration of sponsorship ที่เป็นภาษาเยอรมันทั้งแผ่น
- ใบแนบขนาดครึ่งเอสี่ภาษาไทย ระบุว่าเอกสารที่ส่งมาเป็น declaration of sponsorship ให้ส่งให้ทางผู้เชิญที่สวิส ได้ทั้งทางไปรษณีย์ email หรือ fax ก็ได้ เราสแกนแล้วส่งทางอีเมลค่ะ แล้วให้ทางผู้เชิญส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองค่ะ ที่อยู่ตามในใบที่เป็นภาษาเยอรมันนั่นแหละค่ะ โดยเราสามารถสอบถามผลพิจารณาทาง ban.visa@eda.admin.ch (ภาษาอังกฤษหรือภาษาทางราชการสวิสเท่านั้นค่ะ)
ซึ่งเมื่อทางป้าที่เป็นผู้เชิญของเราส่งเอกสารไปยังหน่วยงานก็รอ 7 วันค่ะ หรือว่า 5 วันทำการ หรือใกล้ๆวันดังกล่าวก็เมลถาม email ข้างต้นได้ค่ะ เค้าตอบเร็วนะคะ เมื่อตอนใกล้ๆจะครบ 7 วัน เราส่งเมลไปถาม เค้าบอกเราว่าเอกสารยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินงาน ถ้าเอกสารมาถึงเค้าจะเมลบอก ซึ่งก็ใช้เวลา 5 วันทำการพอดี นับตั้งแต่ทางผู้เชิญส่งไปที่หน่วยงานค่ะ เมื่อเอกสารมาถึงสถานทูตสวิสที่ไทย เค้าก็เมลบอกว่าให้ไปยื่นพาสปอร์ตที่สถานทูต
เมื่อได้รับเมลดังกล่าวเราก็รีบไปด้วยความตื่นเต้นเลยค่ะ เมื่อไปถึงเราก็กดบัตรคิว แล้วก็บอกว่ายื่นพาสปอร์ตขอวีซ่าเยี่ยมเยียน เค้าก็ถามว่ายังเดินทางวันเดิมไหม (ถ้าเปลี่ยนวันเดินทางต้องยื่นหลักฐานการสำรองที่นั่งและประกันสุขภาพระหว่างการเดินทางไปด้วยนะคะ) เราก็บอกว่าเหมือนเดิมค่ะ ก็ยื่นไปแค่พาสปอร์ต เค้าก็เก็บพาสปอร์ตเรา พร้อมให้ใบนัดมารับพาสปอร์ตคืนวันถัดไปค่ะ แล้วบอกว่าไม่ต้องกดบัตรคิว
วันต่อมาก็เข้ามาที่สถานทูตเหมือนเดิมค่ะ ยื่นใบนัดที่ช่อง แล้วก็ได้รับวีซ่าเยี่ยมเยียนค่าาา
หวังว่าข้อมูลคงเป็นประโยชน์นะคะ ถ้าใช้คำพูดผิดพลาด หรือข้อมูลผิดพลาดประการใดต้องขออภัยด้วยค่ะ เพราะเราตั้งใจสมัครพันทิปเพื่อมารีวิวประสบการณ์ครั้งนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้