[CR] Japan trip : กระทู้ป้ายยา พาไปเจแปน


      ช่วงนี้ใกล้ถึงช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นแล้ว กระทู้นี้ทำขึ้นมาเพื่ออยากจะแชร์ในสิ่งที่เจอมาใน ทริป ที่ไปเจอมาในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีเมื่อปีที่แล้ว และเผื่อมีใครเข้ามาอ่านหรือสนใจข้อมูลตรงไหนก็มาถาม เพิ่มเติมกันได้ แต่อยากจะบอกว่าข้อมูลทั้งหมด แผนการเดินทางต่าง ๆ ผมก็รวบรวมข้อมูลมาจากใน Pantip มากกว่า 80% ซึ่งข้อมูลที่ทุกคนแชร์กันเอาไว้มีเยอะมากและมีประโยชน์มาก  

        เริ่มจาก ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่เดินทางไปญี่ปุ่น โดย ทริป นี้ เดินทางกันช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2017 ผมชอบเที่ยวด้วยตัวเอง เพราะมันค่อนข้างอิสระมากกว่าการไปกับทัวร์  โดยแพลนคร่าว ๆ ของ ทริป นี้มีประมาณนี้ครับ บางอย่างก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกันครับ  ผ่านมาจะปีนึงละ

Day 1 : Tokyo : Shinjuku – Harajuku - Shibuya
Day 2 : Osaka : Osaka castle – Umeda - Dontonburi.
Day 3 : Kyoto : Fushimi Inari Shrine - Tofukuji Temple - Kiyomizu Temple - Ginkakuji Temple - Dontonburi
Day 4 : Kyoto : Arashiyama – Kinkakuji temple - Umeda
Day 5 : Kawaguchiko : Lake kawaguchiko
Day 6 : Kawaguchiko - Tokyo : Lake kawaguchiko - Shinjuku
Day 7 : Tokyo : Disney Sea
Day 8 : Tokyo : Asakusa - Ueno – Odaiba
Day 9 : Tokyo : Ueno – Narita (back to Bangkok)

Day 1 : : Tokyo : Shinjuku – Harajuku - Shibuya
       ทริป นี้ใช้บริการ Japan Airline มาลง Narita Terminal 2 ถึงประมาณ 7:15  ซึ่งก็ หลับ ๆ ตื่น ๆ (ตื่นมากกว่าหลับ)
ขอเล่าในส่วนของ Japan Airline หน่อยครับ เครื่องบินที่ให้บริการค่อนข้างใหม่ (787-Dreamliner) ที่นั่งเป็นแบบ 2-4-2 เนื่องจากเป็นตั๋วโปรเลยยังไม่สามารถเลือกที่นั่งได้ก่อน จนกว่าจะถึงเวลาที่สามารถ check in online ก็จะสามารถเลือกที่นั่งได้ตามที่ที่เหลืออยู่ ของผมเดินทาง 2 คน ก็สามารถเลือกที่นั่งแถว 2 คนได้ แต่ถ้าไป check in ที่ สนามบินเลยอาจจะไม่ได้ที่นั่งตามต้องการ ยังไงแนะนำให้ check in online ดีกว่าครับ  

       วันแรกของการเดินทาง พอถึงสนามบิน Narita ใช้เวลาผ่าน ตม และรับกระเป๋า ไม่เกิน 45 นาทีก็ผ่านไปได้ครับ (ที่นานเพราะไปเข้าห้องน้ำมากกว่า)
หลังจากนั้นก็ไป แลก JR Pass โดยวลาที่ไปถึงประมาณ 8:00 พอดี JR East travel service center ยังไม่เปิด เลยต้องไปแลกที่ Ticket office ฝั่งตรงข้าม แต่คนค่อนข้างเยอะเลยคิดว่าต่อคิวรอ  JR East travel service center เปิดจะเร็วกว่า ซึ่งไม่นานก็มีเจ้าหน้าที่มาให้กรอกรายละเอียดและก็เข้าไปแลก JR Pass พร้อมจองตั๋วรถไฟ (NEX) ไป Shinjuku ได้เลย แนะนำว่าอย่าใช้ JR Pass จองที่นั่งที่นี่เลยครับ ถ้าไม่ได้รีบมากนัก สงสารคนต่อคิวครับ เพราะตอนที่ออกมาคิวค่อนข้างยาวมากแล้ว


       หลังจากนั้นก็เดินทางมา Shinjuku หาข้าวเที่ยงทานแถว ๆ รร ที่พัก ซึ่งเป็นร้านราเมนชื่อว่า Takahashi Ramen รสชาตใช้ได้เลยครับ
หลังจากนั้นก็ไป เดินเล่นที่ Harajuku - Meiji Jingu และ ไปต่อที่ Shibuya แล้วก็กลับมา รร แถว Shijuku





Day 2 :  Osaka : Osaka castle – Umeda - Dontonburi.

       วันนี้ไปวันที่จะเดินทางจาก สถานี Tokyo ไป Osaka ด้วยรถไฟ Shinkansen  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำในทริปนี้ และเพื่อให้ครบถ้วนต้องหา Bento ขึ้นไปเป็นอาหารเช้าบนรถไฟด้วย ซึ่งหาได้ที่สถานีรถไฟเลย มีหลากหลายมาก น่าตาน่าจัดทุกกล่อง
       เมื่อถึง Osaka ก็ไป  Check in ที่ รร Hotel Monterey Osaka (รร นี้ใกล้สถานี Osaka มาก ) และสามารถซื้อบัตร Osaka Amazing Pass (OAP) ที่ รร นี้ได้เลย หลังจากนั้นหาอาหารเที่ยง มื้อนี้เลือกที่ใกล้ รร ชื่อร้าน Ushio เมนูอะไรจำชื่อไม่ได้แต่เป็นข้าวราดด้วยเนื้อย่าง เด็ดเลยเมนูนี้


       เสร็จแล้วก็ไป Osaka Castle กันต่อสามารถใช้ OAP ทั้งค่าเข้าปราสาท และ ค่ารถไฟใต้ดิน คนค่อนข้างเยอะทีเดียว


       ที่นี่ผมชอบวิวข้างบนปราสาทมากเลย ได้เห็นใบไม้เริ่มที่จะเปลี่ยนสี รวมถึงอากาศกำลังเย็นสบาย แต่บางช่วงลมแรง ๆ ก็มีหนาวเลยทีเดียว


       หลังจากนั้นก็กลับมาแถว Umeda เพื่อไปขึ้น HEP Five


       ใครที่กลัวความสูงก็ระวังไว้หน่อครับ เพราะค่อนข้างสูงและใช้เวลาต่อรอบนานพอสมควร แต่วิวนี่สุดยอดครับ


       และ ไปชมวิวต่อที่  Umeda sky building โดยสามารถใช้ OAP ได้ทั้ง HEP Five และ Umeda sky building แค่นี้ก็คุ้มค่าบัตรแล้ว
ครับ วิวจากบนนี้สวยมาก ถ้าเป็นไปได้แนะนำมาก่อนช่วงพระอาทิตย์ตกครับ



       หลังจากนั้นก็หาข้าวเย็นทานที่ตึกนี้โดยด้านล่างของตึกจะมีร้าน Kiji Okonomiyaki (เป็นร้าน Okonomiyaki ชื่อดังอยู่) ซึ่งพอเป็นร้านดังก็ต้องเข้าคิวไม่ต่ำกว่า ชั่วโมง ส่วนรสชาตก็ถือว่าอร่อยใช้ได้ครับ  หลังจากนั้นก็ไปย่าน Dontonburi ที่ทุกคนต้องมา เมื่อมาถึง OSAKA


      แถวนี้ร้านอาหารเยอะมาาาาาาาาก อยากกินอะไร ก็ตามดูตามรูปหน้าร้านได้เลย


       ก่อนจบวันที่ 2 เพื่อความคุ้มค่าในการใช้บัตร OAP และ เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องทำเมื่อมาญี่ปุ่น ก็คือต้องไปแช่ Onsen โดยในบัตร OAP จะมีให้เลือก Onsen ได้ 2 ที่ ผมเลือกที่จะไป naniwa no yu onsen เพราะใกล้ที่พักมากกว่า อันนี้อยากให้คนที่ยังไม่เคยลองต้องลอง เพราะมันได้อารมณ์แบบผ่อนคลายและสบายจริง ๆ หลังจากเดินเมื่อยมาทั้งวัน  ถึงแม้จะอาย ๆ บ้าง โดยครั้งแรกที่เดินเข้าไป ถึงกับชะงักแล้วเดินกลับออกมานั่งตั้งหลักก่อน แล้วค่อยเข้าไปใหม่ พยายามรีบถอดให้เร็วไม่ต้องไปสนใจอะไร เพราะไม่มีใครสนใจเรา แล้วรีบไปอาบน้ำก่อน แล้วค่อยเราไปแช่ สำหรับคนไทยยังไม่ค่อยชินแนะนำบ่อที่ร้อนไม่มากก่อนนะครับ แล้วค่อยไปบ่อที่ร้อนขึ้น และก่อนลงไปแช่พยายามแช่ขาก่อนหรือเอาน้ำมาลูบ ๆ ก่อน ให้คุ้นเคยแล้วค่อยลงแช่  ถ้ามีบ่อ outdoor แนะนำเลยครับ มันดีจริง ๆ
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุนด้วยตนเอง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่