พ่อแม่ไม่มีเงินให้

ถ้าไม่อยากอ่านยาวๆไปอ่านข้างล่างสรุปได้เลยครับ  



           ค่าใช้จ่ายที่ผมได้ออผมได้เงินรายอาทิตย์นะอาทิตย์ละ1000  -- -- 6,000/ด.  หรือน้อยกว่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าพ่อป้ามีให้ไหมบ้างครั้งได้แค่ 4,000-5,000/ด.  ไม่รวมค่าหอนะค่าไฟค่าน้ำมาจากเงินที่ผมจ่าย  ใช้ชีวิตในมหาลัยมันไม่ได้มีแค่ค่าใช้เงินแค่นี้มันยังมีค่าหนังสือ ค่าชีท ค่าน้ำมันรถ ค่าโดนปรับแบบซวยเจอตำรวจ จิปาถะในมหาลัย


            จริงๆจะเรียกว่าพ่อแม่ก็คงจะไม่ใช่เพราะว่า แม่ผมทิ้งผมไปตั้งแต่เด็ก ส่วนพ่อก็ไปทำงานต่างจังหวัดทิ้งผมไว้ให้อยู่กับป้าปู่ย่า ตั้งแต่ผมอายุ3-4ขวบ ซึ้งตลอดชีวิตของผมตั้งแต่เกิดจนถึง8ขวบผมอยู่กับป้า และปู่ย่ามาตลอด ชีวิตครอบครัวฐานะผมไม่ได้รวยหรือจะปานกลางเลย เพราะตอนนั้นป้า(ผมจะชอบเรียกว่า"แม่" ) ก็ทำอาชีพครู ครูน้อยแบบพึ่งจะเข้ารับเป็นครูที่รู้ๆกันอยู่ครูก็ไม่ได้เงินเยอะอะไรเลยแถมป้าผมก็ยังมีลูกอีก2คนซึ่งอายุห่างจากผมก็ตั้ง10กว่าปี
ตายายผมก็ทำนา เข้าเรื่องเลยนะครับ  ผมถูกป้าเลี้ยงมาป้าดูแลผมเหมือนลูกคนหนึ่งทั้งส่งผมเรียนตั้งแต่อนุบาลจนมัธยม3   ตลอดชีวิต10กว่าปีที่ผ่านมา ทั้งพ่อและแม่จริงของผมไม่เคยจะส่งเงินมาเลี้ยงผมเลยหรือไม่เคยจะมาดูผมเลยมีแต่พ่อที่จะกลับมาบ้านที่ก็เฉพาะสงกราน มาวันสองวันก็กลับแค่นั้น ผมไม่รู้ว่าพ่อผมได้ส่งเงินให้ปู่ย่ารึป่าว      

ผมไม่มีรถใช้นะไม่ว่าจะเป็นมอไซหรือรถยนต์  มีแต่จักรยาน  โทรศัพท์ผมก็ไม่มีใช้นะ   ****ผมกำลังขอกู้ยืมเรียนตอนปี3 ถามว่าทำไมผมไม่กู้ตอนปี1ละ เพราะผมก็คิดเหมือนกันว่ามันจะมาเป็นแบบนี้********

          " พ่อผมพึ่งจะเคยส่งเงินมาให้ผมเรียนหนังสือตอนม.5 ม.6 เฉพาะค่าเทอม ค่าเทอมก็แค่ประมาณพันกว่าบาทเพราะมีของรัฐบาลมาช่วยมั้งที่ว่าเรียนฟรี15ปี ผมก็จำไม่ได้ละ  ซึ่งประเด็นสำคัญมันอยู่ตรงนี้ "" ผมได้เข้ามหาลัยที่ภาคอีสานแห่งหนึ่ง ค่าเทอมแต่ละเทอมตกเป็นแบบเหมาจ่ายจะอยู่ที่ 15,000 บาท/เทอม     ส่วนค่าหอตอนปี1ผมอยู่หอในอยู่แบบ4คนต่อห้อง ห้องเล็กมากและค่อนข้างจะสกปรกซึ่งตอนแรกที่ผมเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ ผมมีอาการแพ้ทางผิวหนัง มันจะเป็นผืน  ผมก็ไม่ได้ซีอะไรก็ไปหาหมอ ไม่ได้รังเกจหรือบอกพ่อแม่ว่าอยากย้ายหออย่างไร  ค่าหอตอนนี้พ่อผมจ่ายให้แบบเหมา 9900/จนจบปี1เลย ยังไม่รวมค่าไฟนะ      (ออค่าน้ำฟรีเพราะหอเอาน้ำมาจากสระจะเรียกสระหรือหนองดี ในมหาลัยมาให้ใช้น่าจะกรองแล้วละ)    พอผมขึ้นปี2 ผมมีความรัก แฟนคนแรกของผมเลยผมก็เลยได้ย้ายออกมาอยู่หอนอก   ออตอนปี1 ผมไปเรียนโดยใช้จักรยานตลอดเทอมจนจบปี1เลย  ในใจผมก็ขอพ่อกับป้าและว่าผมอยากได้มอไซแต่ก็ไม่ได้  จนจบปี1>>ขึ้นปี2  และค่าหอพักที่ผมอยู่จะอยู่ที่1500 ต่อเดือนรวมน้ำไฟแล้ว   ตอนที่ผมเข้าเรียนปี1มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร พอขึ้นปี2 ผมก็ได้มอไซจากพ่อผมได้มาผมก็ดีใจนะเพราะมันเป็นมอไซคันแรกของผม จนมันมีปัญหาที่ว่าพ่อผมบอกผมว่าไม่มีเงินให้ผมเนื่องจากต้องจ่ายทั้งค่ารถมอไซและค่าเทอมค่าหอและค่ากินผม โอเครตอนแรกผมก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับพ่อเลยไม่รุ้ว่าพ่อทำงานได้เงินเท่าไหร่ รู้แต่ว่าทำงานเป็นหัวหน้างานก่อสร้าง ผมก็พึ่งมารู้  โอเครอันนี้ผมยอมรับผิดเองที่มันผิดที่ผมที่ผมอยากได้รถมอไซที่ทำให้พ่อไปทำบากอีก แต่ผ่อนรถอะไรยังไงผมไม่รู้เลยว่าเท่าไหร่ตอนออกรถ พ่อพึ่งมาบอกผมตอนออกรถมาแล้ว แล้วผมก็พึ่งมารู้มันทำให้ผมรู้สึกผิดเลยนะเพราะว่ามันค่อนข้างเยอะเพราะพ่อดาวน์น้อยมาก   ตอนนี้ป้าผมไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายต่างๆตอนผมเข้าเรียนมหาลัยเลยนะเพราะป้าผมเองก็มีภาระทางครอบครัวเค้าเหมือนกัน  จนรถผมว่าจะโดนยึดกลับ มันก็ยืดเวลามาได้จนผมจบปี2 ช่วงปิดเทอมตอนปี1ผมก็ไม่ได้ไปทำงานพาร์ไทมอะไรเลยนะผมกลับไปช่วยงานที่บ้านผมบ้านป้าก็ไมได้ใช้จ่ายอะไรปี2ก็เหมือนกันจนมามีปัญหาผมก็คิดอยู่ผมอยากช่วยแต่ก็ได้แต่ผมก็ไปทำไม่ได้เพราะมันไกลและผมเองก็ไม่มีรถมอไซ  >> ขึ้นปี3  รถผมก็โดนยึดกลับไป  โอเครผมก็ยอมปล่อยรถกลับคืนไปผมไม่ได้ขอร้องพ่อหรืออยากจะขอให้พ่อเอาไปนะผมเข้าใจ ถามว่ามีเสียใจไหมใช่ผมก็เสียใจร้องไห้ แต่ก็เข้าใจ  ปัญหาเริ่มใหญ่เมื่อพ่อผมเริ่มไม่ส่งเงินให้ผมใช้ และผมก็ต้องไปขอป้าเเทน ค่าหอพ่อก็ไม่มีให้ ผมก็ต้องไปหาป้าแทน และจบไปที่ค่าเทอมพ่อผมก็ไม่มีจ่าย จนต้องไปขอป้า  และจนแล้วจนรอด ก็มาถึงเดือนนี้เดือนที่ผมมานั่งพิมพ์บอกความรู้สึกชีวิตผมอยุ่นี้ คือ ผมได้เงิน4,500 เดือนนี้ ซึ่งอย่างที่ผมพูดไว้ตรงหน้ากระดาน มันเป็นอาทิตย์สุดท้ายของเดือนที่ผมจะต้องได้เงิน1000 แต่ผมไม่ได้ทำให้ทั้งอาทิตย์นี้ผมไม่มีเงินเลย ถามว่าผมอยู่มาได้ไง ผมมีแฟนครับผมมาดีตรงนี้ละแฟนที่ผมคบตั้งแต่ปี2 เค้ายังอยู่กับผมอยุ่ เค้ารู้ชีวิตผมหมดนะเพราะผมมีอะไรผมก็บอกเค้าหมดแต่เค้าก็ยังไม่ทิ้งผมไปครอบครัวเค้าเองก็ไม่ได้รวยอะไรมากเลยปานกลาง แต่เค้าก็ยังช่วยผม ผมรู้สึกขอบคุณเค้ามากที่ค่อยอยุ่ข้างผม(จนบ้างครั้งผมก็รู้สึกว่าเหมือนผมเกาะเค้ากินผมก็รู้สึกไม่โอเครนะ ) ถ้าจะให้ถามว่าทำไมพอเงินหมดถึงไม่ขอป้าละใช่ผมก็อยากขอนะแต่ผมก็เข้าใจว่าเองก็ลำบาก ผมก็เลยไม่กล้าขอ  ออในหนึ่งวันผมกินข้าวแค่วันละมื้อนะ ถ้าดีหน่อยที่ว่าเกาะแฟนกินก็ตรงนี้ละเพราะบางวันจะได้ไปกินข้าวกับแฟนวันละ2มื้อ 555+ตลกไปอีก  ออปี3ผมใช้รถมอไซแฟนไปใช้
และก็ชีวิตผมนี้เหมือนตลกร้าย ลูกป้าลูกชายเค้าก็เหมือนหวงเงินแม่เค้าเพราะเวลาที่ผมเอาเงินแม่เค้ามาจ่ายค่าเทอมให้เค้าจะโทรมาด่าผมมาว่าผมว่าอ้าวแล้วทำไมไม่ไปทำเรื่องผ่อนผันค่าเทอมละ ใช่ผมอะไปทำมันมีเวลาทำให้จนกว่าจะหมดเขตสิ้นการผ่อน ผมก็บอกเค้าไปแต่เค้าจะชอบว่าผมอารมณ์ไม่ ไม่ไม่ฟังจะฟังแต่ความคิดเราเท่านั้น และผมก็พูดไปจนผมรู้สึกเสียใจกับคำพูดที่เค้าพูดผมเสียใจมากจนร้องไห้แบบที่ไม่เคยร้องไห้หนักมาก เเละผมก็ทะเลาะกับเค้า ออลูกชายป้าอายุ30แล้วนะครับพึ่งจะได้มาทำงานตอนเค้าหนีทหาร


       >>>>>ร้องไห้((สรุป)))นี้ละสรุปพ่อไม่ให้เงินผมใช้เลย พึ่งจะมาให้ผมใช้ตอนขึ้นมหาลัยและพ่อขึ้นปี3พ่อก็ขาดการส่งเงิน ผมเลยอยากจะรู้ชีวิตเพื่อนว่าๆเพื่อนพี่ๆใช้ชีวิตอยู่ในมหาลัยกันยังไง ได้เงินกันเดือนละเท่าไหร่กัน      ผมก็เเค่อยากรู้นะว่าตลอด10กว่าปีที่พ่อทิ้งผมไป พ่อไปทำอะไรอยู่วางแผนเก็บเงินเพื่อให้ลูกได้เรียนไหมวางแผนชีวิตว่าจะทำยังให้ลูกคนนี้ได้เรียนไหม หรือยังไงหรือได้คิดไหมว่ายังมีลูกคนนี้อยู่ไหม    ผมอยากรู้ว่าพ่อแม่คิดยังไงได้คิดถึงลูกไหมว่าจะอยู่ยังไงพอลูกไม่ถามไม่ขอพ่อจะคิดไหมนะว่าลูกมีเงินไหม  ออคือครอบครัวผมถ้าไม่ขอก็คือไม่ให้นะครับ      ผมเข้าใจนะและผมก็ยอมรับผิดเองเรื่องมอไซที่ผมขอ       ผมขอโทษ                              

  ((เรื่องในชีวิตก็ยังอธิบายไม่หมดมันเยอะและละเอียดมากว่าที่ผมพิมพ์มา)))




ขอบคุณที่อ่านนะครับ ประเด็นผมยังสรุปไม่ได้เลยว่าผมพิมพ์อะไรจะถามอะไร555+ เหมือนมาเล่าชีวิตตัวเองเลย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
คุณยังโชคดีกว่าเรามากนะคะ
แม่เราเสียตอนปีหนึ่ง
เรากู้ กยศ. มาตั้งแต่เริ่มเรียนแล้วค่ะ ได้เดือนละสองพัน
นอกนั้นแม่ให้อีกเดือนละสองพัน
พอแม่เสีย เรามีแค่เงิน กยศ.ค่ะที่ได้รายเดือนเดือนละสองพัน นอกนั้นเราต้องทำงานหาเองค่ะ

เราไม่มีรถ เลยไปทำงานตอนเปิดเทอมไม่ได้ เพราะเราอยู่หอใน จะออกไปทำงานข้างนอกคือไกล
ที่อยู่หอในเพราะมันถูก กินข้าวก็กินในโรงอาหารของ ม. นานๆจะไปกินข้างนอก

เราไม่คิดจะมีแฟนตอนเรียนค่ะ เงินยังไม่มีจะใช้ จะไปมีแฟนทำไมอีก

เราทำทุกวิธีให้ตัวเองได้อยู่หอใน เพราะถ้าอยู่หอนอกเงินเราไม่พอเรียนแน่ๆ ไปหาผู้จัดการหอบอกเขาตรงๆนี่แหละว่าจำเป็นต้องอยู่หอใน ขออยู่ และจะช่วยงานที่หอแลกเปลี่ยน
(ที่ต้องขอให้เขาช่วยเพราะหอในต้องย้ายออกและไปจองเพื่อขอเข้าอยู่ใหม่ทุกปี ซึ่งเราติดงานเลยไปจองเองไม่ได้ แต่เราก็จ่ายเงินค่าหอปกตินะคะ ไม่มีนอกมีในอะไร)
ปิดเทอมทุกเทอมก็ขนของไปฝากหอเพื่อน เพราะต้องย้ายออก

ขนเสร็จก็ตีกรุงเทพแถวนิคมอุตสาหกรรม เช้าทำงานในโรงงาน ค่ำๆเลิกงานไปทำงานเด็กเสิร์ฟต่อ
ตื่นตีห้าครึ่ง กว่าจะได้นอนก็ตีสอง เป็นอย่างนี้ทุกปิดเทอมค่ะ

เงินที่ทำงานได้ช่วงปิดเทอมเราต้องเอามาบริหาร
หนึ่งจ่ายค่าหอรายปีหรือรายเทอม สองซื้ออุปกรณ์การเรียนหนังสือชีท เพราะ กยศ. ไม่ได้จ่ายตรงนี้ให้
ที่เหลือเอามาเฉลี่ยรายเดือนว่าจะใช้ได้เท่าไร บวกกับเงิน กยศ. เดือนละสองพัน
เราต้องบริหารการใช้เงินให้พอ
และมีเผื่อฉุกเฉินด้วยค่ะ แล้วเราไม่เคยหยิบยืมเงินหรือรบกวนเงินใครเลย

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนนะคะ จขกท โตแล้ว ปิดเทอมควรไปหางานทำดูนะ
ความคิดเห็นที่ 4
อ่านดู ไม่มีความคิดจะทำงานเลยเหรอ ทำไมจะใช้ขออย่างเดียว
ไม่รู้สึกอะไรบ้างเหรอที่ต้องขอ ป้า ขอ พ่อ เรื่องรถ น่าเสียดาย ไม่พร้อม ไม่ไหว ออกมาทำไม แบบนี้เรียกใช้เงินเกินตัวนะ มันไม่จเป็น ถ้าทำงาน ค่อยน่าซื้อ
อย่างคุณเรียกว่าได้จนชิน ขอจนเคย กลายเป็นเรื่องปกติ ที่ป้าที่พ่อต้องมีหน้าที่ให้  ไม่คิดหาบ้างเหรอ น่าจะทำงานพิเศษได้นี่นา
  เพราบางคนหาเลี้ยงตัวเอง ส่งตัวเองเรียนก็มี บางคน หาให้คนเลี้ยงดูใช้ด้วยก็มี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่