หากพูดถึงกระบี่ หลายคงจะนึกถึงสิ่งมีคมที่จอมยุทธ์ในหนังจีนใช้ฟาดฟันกัน เดี๋ยวๆ เราว่ามันน่าจะคนละกระบี่กันแล้วล่ะ อิอิ ซึ่งกระบี่ ที่เราหมายถึงนี้คือ จังหวัดกระบี่ ดินแดนที่อยู่ฟากฝั่งทะเลอันดามัน จัดว่าเป็นเมืองโปรดของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะกระบี่นั้นมีสถานที่อันสวยงามขึ้นชื่อมากมายไม่ว่าจะเป็นเกาะพีพี  เกาะห้อง ทะเลแหวก และสระมรกต

แต่เดี๋ยวก่อน… ย้ำว่าเดี๋ยวก่อน ไหนๆ ทาง Pantip Check-in จะพาเพื่อนๆ ไปท่องเที่ยวทั้งที จะให้ไปสถานที่โด่งดังอยู่แล้วมันก็จะดูไม่ค่อยเฟี้ยวฟ้าวสักเท่าไหร่ เพราะในการเดินทางมาจังหวัดกระบี่ครั้งนี้เรามีจุดมุ่งหมายที่จะพาทุกคนออกไปสัมผัสกับบรรยากาศของวิถีชุมชนในรูปแบบ Go Local ซึ่งเราขอบอกเลยว่าแต่ละที่ที่เราจะพาไปน่าสนใจมากจริงๆ และพูดเลยว่า “กระบี่ฤดูไหนก็เที่ยวได้” แต่จะมีที่ไหน อะไรยังไงบ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็เก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปพร้อมกับเรากันเล้ยยยย ฮิฮิ้ววววว

สำหรับสถานที่แรกเราขอพาเพื่อนๆ ออกไปท่องเที่ยวในวิถีชุมชนกัน ซึ่งชุมชนที่เราจะพาไปก็มีชื่อว่า ชุมชนบ้านถ้ำเสือ ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ในอดีตเป็นสถานที่ยากแก่การเข้าถึง เนื่องจากเป็นป่าดิบเขตร้อน แต่ปัจจุบันไม่แล้วจ้า สามารถเดินทางไปแบบง่ายแสนง่ายเลย และเมื่อเรามาถึงชุมชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็ขอแวะชมศูนย์ OTOP กันสักหน่อย ภายในตลาดจะมีสินค้าที่น่าสนใจของผู้คนในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นข้าวของเครื่องใช้ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ ขนมพื้นบ้านต่างๆ

ก้าวแรกที่เราย่างเข้ามา เราก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักของผู้คน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่กำลังนั่งสานอุปกรณ์อะไรสักอย่างอยู่แบบขมักเขม้น จนเราต้องเดินเข้าไปดูว่าคุณป้า คุณยายกำลังทำอะไรกันอยู่น้าา เมื่อเราเดินเขาไปใกล้ๆ เราก็ถามว่ากำลังทำอะไรกันอยู่เหรอจ๊ะ คุณยายตอบกลับมาว่า “ทำพรือ” แล้วก็หัวเราะลั่นด้วยความอารมณ์ดี เราต่างพูดคุย เฮฮากัน ช่างเป็นภาพที่เห็นแล้วทำให้เรายิ้มกริ่มขึ้นมาเอง ฮาๆ












หลายคนอาจจะสับสนว่าผ้าปาเต๊ะคืออะไร เหมือนผ้าบาติกหรือไม่ ผ้าปาเต๊ะ หรือว่า บาเต๊ะนั้น เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อผ้าชนิดหนึ่งที่มีวิธีการทำโดยใช้เทียนปิดส่วนที่ไม่ต้องการให้ติดสี หรือบางคนอาจรู้จักกันดีในชื่อผ้าบาติก แต่ที่ต่างกันก็คือลวดลายของผ้า หากเป็นลวดลายที่ซับซ้อน ตั้งแต่สองลายขึ้นไปบนผ้าผืนเดียว จะนิยมเรียกผ้าชนิดนั้นว่าผ้าปาเต๊ะ มากกว่าผ้าบาติก


ถ้านักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยียนก็จะได้ลองปั๊มลายและลงสีด้วยนะเออ โดยผ้าที่ให้ปั๊มจะเป็นผืนใหญ่ เมื่อทำเสร็จแล้วต้องรอลงน้ำยา 6 ชม. แล้วนำไปต้ม หากนักท่องเที่ยวรีบสามารถนำกลับไปต้มเองได้ และนักท่องเที่ยวชาวไทยจะมีบริการส่งกลับไปให้ที่บ้านอีกด้วย


จริงๆ สิ่งที่น่าสนใจของชุมชนถ้ำเสือยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจเป็นอย่างมากรอให้เราได้ไปสัมผัสกัน เช่น น้ำผุดเริ่งร่า / ถ้ำลอด-ถ้ำผีหัวโต / สปาธรรมชาติหาดทรายร้อน ที่สำคัญนี้สปาธรรมชาติจะเป็นสปาโคลนที่สามารถเที่ยวได้เพียง 8 วันต่อเดือนเท่านั้น เพราะต้องดูช่วงน้ำขึ้นน้ำลง 3-6 ค่ำ ราคาจะอยู่ที่ 6 คน 2,500 บาท แต่ด้วยความที่เรามีเวลาค่อนข้างจำกัดเลยไม่ได้ไปเก็บภาพมาให้เพื่อนๆ ได้ชื่นชมกัน