ดูๆแล้วก็ยุ่งเหยิงเหมือนกันครับ มันไม่สอดคล้องกับวิถีการดำรงชีวิตในปัจจุบัน จะไปอ้างอิงเรื่องการนั่งแคปในรถกระบะ แบบใดก็แบบนั้น

ถามว่า การปรับเป็นเงินทีสูงขึ้น ของการไม่มีใบขับขี่ กับ ลืมใบขับขี่สอดคล้องกัน และถ้าผ่านกฎหมายนี้มา จะมีคนเกรงกลัวขึ้น หรือการจราจรที่มันติดจนเรียกว่า บ้าไปแล้ว จะลดความตึงเครียดลงได้หรือไม่ คนจะมีวินัยจราจรกันมากขึ้นหรือไม่

ด้วยประการทั่งปวง การลืมใบขับขี่ น่าจะอนุโลมกันได้ ถ้ามีเกราะป้องกัน และช่วยเหลือผู้ขับขี่ในทางใดทางหนึ่ง เช่นมีการใช้เครื่องมือตรวจได้เลยจากบัตรประชาชนว่า คนนั้นได้รับอนุญาตขับขี่ประเภทใดบ้าง ไม่ใช้เอากฎหมายการลืมใบขับขี่มาเป็นประเด็นเพื่อให้เสียค่าปรับ

หรือการไม่มีใบขับขี่แล้วไปขับรถ ต้องเสียค่าปรับที่มากโข ถามว่าคนไม่มีใบขับขี่แล้วไปขับรถก็คงยังขับอยู่ดี อาจจะมีลดจำนวนไปบ้าง แต่ก็คงไม่กี่เปอร์เซ็นต์

แต่รับรองได้เลยว่า จะมีการตกลงกันตรงจุดตรวจ จะได้หรือไม่ อันนี้ไม่ทราบครับ

เพียงแต่ ถ้าจะมองให้ลึก ณ เวลานี้คนมีใบขับขี่ก็ใข่ว่า จะไม่ทำผิดกฎหมายจราจรนะครับ เห็นว่าใบสั่งออกไปทีปีละหลายล้านใบ

อยากให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั่งคุยกัน โดยมีประชาชนจำนวนหนึ่งเข้าร่วม เสวนาด้วย จะเห็นปัญหาที่น่าจะแก้ง่ายขึ้น

ยิ่งตอนนี้ มีพิธีกรบางช่อง ยุส่งให้มีการผ่านกฎหมายนี้โดยเร็ว แบบว่า ยิ่งปรับเยอะๆ ยิ่งดี

หันมาสนใจ ความเป็นอยู่ ความเดือดร้อนของคนใช้รถใช้ถนนดีกว่าครับ ถนนหลายสาย สัญญาณจราจรตามแยกก็ไม่มี เส้นแบ่งเลนถนนก็เลือนลาง จุดกลับรถไม่เหมาะสม ถึงเป็นสาเหตุหลักให้เกิดคดีการจราจร เฉี่ยวชนกันบ่อยครั้ง

แก้ตรงหลักก่อนครับ ตรงรองทำคู่กันไป อย่างน้อยต้อง win win กันทั้งสองฝ่ายครับ