สวัสดีค่ะ ไม่รู้กี่ปีแล้วเนี่ยที่ไม่ได้มาตั้งกระทู้ในพันทิปเลยนะคะ ด้วยงานที่เยอะแยะมากมายจนเรียกได้ว่า ทำโอที (ฟรี) ทุกวัน น้านนานๆ ที จะพอมีเวลาว่าง บวกกับช่วงนี้เพิ่งจะเคลียร์เรื่องการขอสัญชาติจบ ก็เลยมาขอเล่าให้ชาวพันทิปฟัง แบบเป็นความรู้ใหม่ๆ กันบ้างค่ะ
จริงๆ อีกเหตุผลนึงที่อยากมีเขียนก็คือ ตอนที่ตัวเองต้องทำเรื่อง ค่อนข้างมีความสับสนในหลายๆ เรื่อง แล้วก็หาข้อมูลไม่ได้ง่ายๆ เหมือนกับเรื่องขอวีซ่าแต่งงานด้วย เพราะข้อมูลทั้งหลายเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมดเลยค่ะ เคยลองพยายามเสิร์ชอยู่หลายที เพราะก็เห็นแก่ว่า มีคนที่แต่งงานมาอยู่ที่เกาหลีนี่มากมาย ก็น่าจะมีคนที่ขอสัญชาติแล้วบ้างสิ แต่ผลคือ มีแต่คนถาม แต่ไม่มีคนตอบค่ะ

อะ งั้นวันนี้ ดิฉันจะขอเป็นตัวแทนมาเล่าเรื่องนี้ซะเองแล้วกัน
สำหรับการขอสัญชาติเกาหลีนั้น ก็แบ่งได้ใหญ่ๆ เป็น 2 แบบค่ะ (ขอพูดเฉพาะในส่วนที่น่าจะเข้ากับคนไทยเราเท่านั้นนะคะ)
1. ขอสัญชาติจากการแต่งงาน
2. ขอสัญชาติทั่วไป
สำหรับการขอสัญชาติจากการแต่งงาน ก็มีหลักเกณฑ์พื้นฐานง่ายๆ 2 ข้อ ซึ่งขอแค่เราเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งก็พอ
1. กรณีจดทะเบียนสมรสครบ 2 ปีขึ้นไป และมีจำนวนวันที่พักอาศัยอยู่ในเกาหลีครบ 2 ปีขึ้นไป
2. กรณีจดทะเบียนสมรสครบ 3 ปีขึ้นไป และมีจำนวนวันที่พักอาศัยอยู่ในเกาหลีครบ 1 ปีขึ้นไป
ส่วนการขอสัญชาติทั่วไปนั้น ก็คือ ผู้ที่มีวีซ่า และพักอาศัยอยู่ในเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป สามารถยื่นเรื่องขอสอบเพื่อรับสัญชาติได้ค่ะ
ซึ่งในส่วนของการขอสัญชาติแบบทั่วไปนั้น ดิฉันไม่มีประสบการณ์ตรง ดังนั้น อาจจะเล่าได้แค่ผ่านๆ แต่ขอเน้นไปที่ การขอสัญชาติจากการแต่งงานแทนนะคะ
สำหรับตัวดิฉัน จดทะเบียนสมรสเมื่อเดือน มกราคม 2014 และได้ทำเรื่องยื่นขอรับสัญชาติเมื่อเดือนเมษายน 2016 ค่ะ เนื่องจากว่า ในระหว่างที่อยู่เกาหลี ก็มีการเดินทางออกนอกประเทศบ้าง กลับไทยบ้าง เที่ยวญี่ปุ่นบ้าง วันที่พักอาศัยอยู่ในเกาหลีจริง มันก็ร่อยหรอไปตามนั้น ทำให้ต้องเผื่อวันให้ครบเต็ม 2 ปีจริง ก็เลยเลทออกมาเริ่มยื่นเรื่องขอสัญชาติหลังจากจดทะเบียนไปแล้ว 27 เดือนค่ะ
ซึ่งๆๆๆๆ เอกสารต่างๆ ที่จะใช้ในการยื่นขอนั้น สามารถตรวจสอบรายการได้จากเว็บไซต์ ตม.ของทางเกาหลี แต่ๆๆๆ มันไม่ครบค่ะ!!! ซึ่ง ณ จุดนี้ ทำให้กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจคนที่ไม่มีสำนักงาน ตม. อยู่ในท้องที่บ้านมาก
สิ่งที่ดิฉันโดนมากับตัวคือ ตรวจสอบรายการเอกสาร (ที่คิดว่าละเอียดแล้ว) จากหน้าเว็บ ตม. แต่เมื่อถึงเวลาไปยื่นจริง (ตัวดิฉันอยู่ต่างจังหวัด และไปยื่นเรื่องที่แทกูค่ะ สำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัด ต้องไปยื่นเรื่องที่สำนักงาน ตม.ที่เป็นศูนย์ของเขตนั้นๆ นะคะ) เจ้าหน้าที่ ตม. ก็ให้ใบรายการใบนี้มาแทน

แล้วบอกว่า ไปจัดเอกสารมาตามนี้นะ งั้นดิฉันก็จะสรุปให้นะคะว่า เราต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
1. ใบคำร้อง (รับที่ ตม. แล้วเขียนเอาตอนนั้นเลยก็ได้ค่ะ อย่าลืมติดรูปถ่าย 3.5*4.5 ซม. ไปด้วยนะคะ)
2. เอกสารของคนต่างชาติ : หนังสือเดินทาง+สำเนา, บัตรประชาชน (ไทย) + สำเนา, บัตรประจำตัวคนต่างชาติ+สำเนา
3. เอกสารของคนเกาหลี : ตรงนี้ขอลงรายละเอียดเป็นภาษาเกาหลีนะคะ เพราะไม่เกี่ยวกับเรา 555 ให้คุณพ่อบ้านเตรียมเอาเองได้เลยค่ะ
- 기본증명서
- 혼인관계증명서
- 가족관계증명서
- 등본
- 민증 사본
- ใบสถานภาพครอบครัว ในกรณีที่มีบุตรที่เกิดระหว่างการแต่งงาน โดยใบต้องออกในชื่อลูกนะคะ ลูกกี่คนก็ไปขอใบตามจำนวนลูก เป็นชื่อลูกแต่ละคน (ของดิฉันข้ามข้อนี้ไป เพราะไม่มีเบบี๋)
4. เอกสารเกี่ยวกับครอบครัว ตรงนี้ ถ้าดูในใบที่ ตม.ให้มา จะสังเกตว่า เค้ากาดาว และวงกลมมาด้วย คือบอกเลยว่าเป็นเอกสารส่วนที่สำคัญที่สุดค่ะ พยายามเอาไปให้ได้มากที่สุดและดีที่สุดค่ะ
- สเตทเม้นต์ธนาคารย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 6 เดือน มีจำนวนเงินในบัญชีไม่น้อยกว่า 30 ล้านวอน (ข้อมูล ณ ปี 2016)
- ใบแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของ หรือเช่า (ใช้ได้ทั้งวอลเซและจอนเซ) มูลค่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านวอนทั้งตัวจริงและสำเนา (ข้อมูล ณ ปี 2016)
- ในกรณีที่ทำงานบริษัท : หนังสือรับรองการทำงาน และใบรับรองจดทะเบียนบริษัท
- กรณีเป็นเจ้าของกิจการ : สัญญาเช่าสถานที่ตั้งบริษัท, ใบรับรองจดทะเบียนบริษัท
- กรณีทำการเกษตร : ก็เป็นพวกหนังสือรับรองต่างๆ ค่ะ
5. เอกสารเกี่ยวกับที่อยู่ : เอกสารตัวนี้ใช้ร่วมกับข้อด้านบนได้เลย ไม่ต้องยื่นซ้ำกันสองชุดนะคะ
6. เอกสารอื่นๆ : อันนี้ไม่จำเป็นต้องยื่นก็ได้ ดิฉันก็ไม่ได้ยื่นเลยสักข้อค่ะ
- รูปถ่ายครอบครัว
- หนังสือที่เพื่อนบ้านเขียนให้ เพื่อรับรองว่า เราอยู่กันฉันท์สามีภรรยาเป็นครอบครัวจริงๆ นะ (ทำนองนี้)
7. ใบเสร็จค่าขอสัญชาติ 3 แสนวอน (อันนี้ ระหว่างที่เรายื่นเอกสารอยู่ ตม. จะสั่งให้คุณพ่อบ้านไปจ่ายเงินให้ที่อีกเคาน์เตอร์นึง แล้วเอาใบเสร็จกลับมาแนบค่ะ ไม่ต้องเตรียมไปล่วงหน้าค่ะ)
8. หนังสือรับรองประวัติอาชญากรรม : อันนี้คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนะคะ 555 ต้องไปขอที่เมืองไทย และทำเรื่องประทับตราด้วยค่ะ เอาไปประทับตราที่สถานทูตเกาหลีด้วยนะคะ แล้วก็แปลเป็นภาษาเกาหลีด้วยค่ะ แปลเองก็ได้ค่ะ แล้วให้คุณพ่อบ้านเซ็นรับรองแปลให้ 555 ได้ฝึกภาษาไปในตัวด้วย
9. เอกสารเกี่ยวกับครอบครัวต่างชาติ : สูติบัตรคนไทยเรานี่แหละค่ะ เอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เอาไปประทับตรารับรองการแปลที่กงศุล จากนั้นก็เอาไปประทับตราที่สถานทูตเกาหลีอีกทีด้วยนะคะ
อะ คร่าวๆ ก็มีเอกสารตามนี้แหละค่ะ แต่บอกเลยว่า กว่าจะเตรียมครบ เลือดตาแทบกระเด็น โดยเฉพาะข้อ 8
เอาล่ะค่ะ เมื่อเราเตรียมครบแล้ว เราก็จะไปยื่นเรื่องค่ะ ใช้เวลายื่น (กรณีที่เอกสารครบ) ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้นเองค่ะ แล้วเราก็จะได้ใบรับรองสมัครยื่นขอสัญชาติมาแบบนี้ค่ะ

แล้วหลังจากนั้น ให้ทำอะไรต่อล่ะ?? คำตอบก็คือ ร้องเพลงชาติรอวนไปค่ะ
[แบ่งปันประสบการณ์] การขอสัญชาติเกาหลี
จริงๆ อีกเหตุผลนึงที่อยากมีเขียนก็คือ ตอนที่ตัวเองต้องทำเรื่อง ค่อนข้างมีความสับสนในหลายๆ เรื่อง แล้วก็หาข้อมูลไม่ได้ง่ายๆ เหมือนกับเรื่องขอวีซ่าแต่งงานด้วย เพราะข้อมูลทั้งหลายเป็นภาษาเกาหลีทั้งหมดเลยค่ะ เคยลองพยายามเสิร์ชอยู่หลายที เพราะก็เห็นแก่ว่า มีคนที่แต่งงานมาอยู่ที่เกาหลีนี่มากมาย ก็น่าจะมีคนที่ขอสัญชาติแล้วบ้างสิ แต่ผลคือ มีแต่คนถาม แต่ไม่มีคนตอบค่ะ
อะ งั้นวันนี้ ดิฉันจะขอเป็นตัวแทนมาเล่าเรื่องนี้ซะเองแล้วกัน
สำหรับการขอสัญชาติเกาหลีนั้น ก็แบ่งได้ใหญ่ๆ เป็น 2 แบบค่ะ (ขอพูดเฉพาะในส่วนที่น่าจะเข้ากับคนไทยเราเท่านั้นนะคะ)
1. ขอสัญชาติจากการแต่งงาน
2. ขอสัญชาติทั่วไป
สำหรับการขอสัญชาติจากการแต่งงาน ก็มีหลักเกณฑ์พื้นฐานง่ายๆ 2 ข้อ ซึ่งขอแค่เราเข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่งก็พอ
1. กรณีจดทะเบียนสมรสครบ 2 ปีขึ้นไป และมีจำนวนวันที่พักอาศัยอยู่ในเกาหลีครบ 2 ปีขึ้นไป
2. กรณีจดทะเบียนสมรสครบ 3 ปีขึ้นไป และมีจำนวนวันที่พักอาศัยอยู่ในเกาหลีครบ 1 ปีขึ้นไป
ส่วนการขอสัญชาติทั่วไปนั้น ก็คือ ผู้ที่มีวีซ่า และพักอาศัยอยู่ในเกาหลีอย่างถูกต้องตามกฎหมายตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป สามารถยื่นเรื่องขอสอบเพื่อรับสัญชาติได้ค่ะ
ซึ่งในส่วนของการขอสัญชาติแบบทั่วไปนั้น ดิฉันไม่มีประสบการณ์ตรง ดังนั้น อาจจะเล่าได้แค่ผ่านๆ แต่ขอเน้นไปที่ การขอสัญชาติจากการแต่งงานแทนนะคะ
สำหรับตัวดิฉัน จดทะเบียนสมรสเมื่อเดือน มกราคม 2014 และได้ทำเรื่องยื่นขอรับสัญชาติเมื่อเดือนเมษายน 2016 ค่ะ เนื่องจากว่า ในระหว่างที่อยู่เกาหลี ก็มีการเดินทางออกนอกประเทศบ้าง กลับไทยบ้าง เที่ยวญี่ปุ่นบ้าง วันที่พักอาศัยอยู่ในเกาหลีจริง มันก็ร่อยหรอไปตามนั้น ทำให้ต้องเผื่อวันให้ครบเต็ม 2 ปีจริง ก็เลยเลทออกมาเริ่มยื่นเรื่องขอสัญชาติหลังจากจดทะเบียนไปแล้ว 27 เดือนค่ะ
ซึ่งๆๆๆๆ เอกสารต่างๆ ที่จะใช้ในการยื่นขอนั้น สามารถตรวจสอบรายการได้จากเว็บไซต์ ตม.ของทางเกาหลี แต่ๆๆๆ มันไม่ครบค่ะ!!! ซึ่ง ณ จุดนี้ ทำให้กลายเป็นเรื่องสะเทือนใจคนที่ไม่มีสำนักงาน ตม. อยู่ในท้องที่บ้านมาก
สิ่งที่ดิฉันโดนมากับตัวคือ ตรวจสอบรายการเอกสาร (ที่คิดว่าละเอียดแล้ว) จากหน้าเว็บ ตม. แต่เมื่อถึงเวลาไปยื่นจริง (ตัวดิฉันอยู่ต่างจังหวัด และไปยื่นเรื่องที่แทกูค่ะ สำหรับคนที่อยู่ต่างจังหวัด ต้องไปยื่นเรื่องที่สำนักงาน ตม.ที่เป็นศูนย์ของเขตนั้นๆ นะคะ) เจ้าหน้าที่ ตม. ก็ให้ใบรายการใบนี้มาแทน
แล้วบอกว่า ไปจัดเอกสารมาตามนี้นะ งั้นดิฉันก็จะสรุปให้นะคะว่า เราต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
1. ใบคำร้อง (รับที่ ตม. แล้วเขียนเอาตอนนั้นเลยก็ได้ค่ะ อย่าลืมติดรูปถ่าย 3.5*4.5 ซม. ไปด้วยนะคะ)
2. เอกสารของคนต่างชาติ : หนังสือเดินทาง+สำเนา, บัตรประชาชน (ไทย) + สำเนา, บัตรประจำตัวคนต่างชาติ+สำเนา
3. เอกสารของคนเกาหลี : ตรงนี้ขอลงรายละเอียดเป็นภาษาเกาหลีนะคะ เพราะไม่เกี่ยวกับเรา 555 ให้คุณพ่อบ้านเตรียมเอาเองได้เลยค่ะ
- 기본증명서
- 혼인관계증명서
- 가족관계증명서
- 등본
- 민증 사본
- ใบสถานภาพครอบครัว ในกรณีที่มีบุตรที่เกิดระหว่างการแต่งงาน โดยใบต้องออกในชื่อลูกนะคะ ลูกกี่คนก็ไปขอใบตามจำนวนลูก เป็นชื่อลูกแต่ละคน (ของดิฉันข้ามข้อนี้ไป เพราะไม่มีเบบี๋)
4. เอกสารเกี่ยวกับครอบครัว ตรงนี้ ถ้าดูในใบที่ ตม.ให้มา จะสังเกตว่า เค้ากาดาว และวงกลมมาด้วย คือบอกเลยว่าเป็นเอกสารส่วนที่สำคัญที่สุดค่ะ พยายามเอาไปให้ได้มากที่สุดและดีที่สุดค่ะ
- สเตทเม้นต์ธนาคารย้อนหลังไม่ต่ำกว่า 6 เดือน มีจำนวนเงินในบัญชีไม่น้อยกว่า 30 ล้านวอน (ข้อมูล ณ ปี 2016)
- ใบแสดงหลักฐานการเป็นเจ้าของ หรือเช่า (ใช้ได้ทั้งวอลเซและจอนเซ) มูลค่าไม่ต่ำกว่า 30 ล้านวอนทั้งตัวจริงและสำเนา (ข้อมูล ณ ปี 2016)
- ในกรณีที่ทำงานบริษัท : หนังสือรับรองการทำงาน และใบรับรองจดทะเบียนบริษัท
- กรณีเป็นเจ้าของกิจการ : สัญญาเช่าสถานที่ตั้งบริษัท, ใบรับรองจดทะเบียนบริษัท
- กรณีทำการเกษตร : ก็เป็นพวกหนังสือรับรองต่างๆ ค่ะ
5. เอกสารเกี่ยวกับที่อยู่ : เอกสารตัวนี้ใช้ร่วมกับข้อด้านบนได้เลย ไม่ต้องยื่นซ้ำกันสองชุดนะคะ
6. เอกสารอื่นๆ : อันนี้ไม่จำเป็นต้องยื่นก็ได้ ดิฉันก็ไม่ได้ยื่นเลยสักข้อค่ะ
- รูปถ่ายครอบครัว
- หนังสือที่เพื่อนบ้านเขียนให้ เพื่อรับรองว่า เราอยู่กันฉันท์สามีภรรยาเป็นครอบครัวจริงๆ นะ (ทำนองนี้)
7. ใบเสร็จค่าขอสัญชาติ 3 แสนวอน (อันนี้ ระหว่างที่เรายื่นเอกสารอยู่ ตม. จะสั่งให้คุณพ่อบ้านไปจ่ายเงินให้ที่อีกเคาน์เตอร์นึง แล้วเอาใบเสร็จกลับมาแนบค่ะ ไม่ต้องเตรียมไปล่วงหน้าค่ะ)
8. หนังสือรับรองประวัติอาชญากรรม : อันนี้คงคุ้นหน้าคุ้นตากันดีนะคะ 555 ต้องไปขอที่เมืองไทย และทำเรื่องประทับตราด้วยค่ะ เอาไปประทับตราที่สถานทูตเกาหลีด้วยนะคะ แล้วก็แปลเป็นภาษาเกาหลีด้วยค่ะ แปลเองก็ได้ค่ะ แล้วให้คุณพ่อบ้านเซ็นรับรองแปลให้ 555 ได้ฝึกภาษาไปในตัวด้วย
9. เอกสารเกี่ยวกับครอบครัวต่างชาติ : สูติบัตรคนไทยเรานี่แหละค่ะ เอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เอาไปประทับตรารับรองการแปลที่กงศุล จากนั้นก็เอาไปประทับตราที่สถานทูตเกาหลีอีกทีด้วยนะคะ
อะ คร่าวๆ ก็มีเอกสารตามนี้แหละค่ะ แต่บอกเลยว่า กว่าจะเตรียมครบ เลือดตาแทบกระเด็น โดยเฉพาะข้อ 8
เอาล่ะค่ะ เมื่อเราเตรียมครบแล้ว เราก็จะไปยื่นเรื่องค่ะ ใช้เวลายื่น (กรณีที่เอกสารครบ) ประมาณ 5-10 นาทีเท่านั้นเองค่ะ แล้วเราก็จะได้ใบรับรองสมัครยื่นขอสัญชาติมาแบบนี้ค่ะ
แล้วหลังจากนั้น ให้ทำอะไรต่อล่ะ?? คำตอบก็คือ ร้องเพลงชาติรอวนไปค่ะ