10 สค. 2018
สวัสดีค่ะ วันนี้แอนจะพานั่งรถไฟไปเที่ยวเมือง Rothenburg ob der Tauber (โรเทนบวก อ๊บ แด เทาบา) นะคะ
ตั้งหัวข้อว่าพาเที่ยวและเล่าเรื่อง เพราะนอกจากจะพาเที่ยวแล้ว ก็อยากจะเล่าประวัติความเป็นมาของเมือง Rothenburg ที่ได้ฟังจากไกด์ท้องถิ่นด้วยค่ะ ข้อมูลอาจจะไม่ครบนะคะ ไม่เข้าใจบ้าง ลืมบ้าง ใครรู้อะไร เสริมได้เลยนะคะ
ถ้าเรารู้ประวัติศาสตร์บ้าง เราจะเที่ยวอย่างสนุกมากขึ้น ตื่นเต้นมากขึ้น มองดูตึกดูรูปปั้นได้อย่างเข้าใจมากขึ้นนะคะ
แนะนำตัวนิดนึง แอนเรียนอยู่ที่ประเทศเยอรมนีนะคะ อยู่รัฐ Nordrhine-Westfalia (NRW)
ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม มีเวลาว่างมากเกินไป คิดนู่นนี่ เพื่อนทั้งเยอทั้งไทยก็ไม่ค่อยอยู่ วัน ๆ คิดถึงอาหารไทย คิดถึงบ้าน มีปัญหาหัวใจเรื้อรังด้วย ฟุ้งซ่านไปหมด
จนแอนรู้สึกไม่ไหวแล้ว ต้องหาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิต ก็เลยตัดสินใจหยุดเรื่องวุ่ยวายใจ ไปซื้อกล้อง ก่อนซื้อเนี่ยแอนคิดแป๊บเดียวจริง ๆ ให้เงินแก้ปัญหาสุด ๆ ทำเอาจนไปเลยค่ะ ได้ Canon EOS M50 Mirrorless มา กล้องที่ยุโรปราคาแพงกว่าที่ไทยด้วย ของแถมอะไรก็ไม่มีเลย แง ๆ
แอนอยากจะลองไปเที่ยวคนเดียว แล้วหมกมุ่นกับการหัดถ่ายรูปดีกว่า ไหน ๆ ก็มาเรียนถึงยุโรปแล้ว ลองเก็บภาพความสวยงามด้วยตาและมือของตัวเองดีกว่า
ทริปแรกก็เลยเกิดขึ้น
ที่จริงแอนเลือกเมืองอยู่นานมาก จะไปเที่ยวไหนดี อยากได้เมืองเล็ก ๆ สวย ๆ มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ ยุคกลางยิ่งดี เพราะแอนเลือกเรียนประวัติศาสตร์ยุคกลางด้วย
แต่หลาย ๆ เมืองของเยอรมนีก็เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยุคกลางทั้งนั้น จิ้ม ๆเอาได้เลย
ในที่สุดแอนก็มาตกลงปลงใจเลือก Rothenburg ob der Tauber (โรเทนบวก อ๊บ แด เทาบา) เพราะเคยได้ยินเพื่อนพูดให้ฟังหลายคนแล้ว พอเลือกเมืองได้ สิ่งแรกที่ทำคือดูราคาที่พักค่ะ กะจะไป 4 วัน 3 คืน ดูซิว่ามีโรงแรมราคาพอรับไหวรึเปล่า
ตอนที่เสิชหาโรงแรมในเว็บ ส่วนใหญ่แอนใช้ Booking ดูโรงแรมและดูรูปของโรงแรมด้วย เกือบทุกโรงแรมจะมีรูปของเมือง Rothenburg ob der Tauber แนบอยู่ 1 รูปถ้วน
เป็นรูปนี้ค่ะ
แอนจองโรงแรม 2 ที่ คืนแรก 27 ยูโร คืนที่ 2 และ 3 คืนละ 36 ยูโร ทั้ง 2 โรงแรมรวมอาหารเช้าแล้ว เริ่ดดด
ส่วนค่ารถไฟของแอนไม่เกิน 60 ยูโรค่ะ นั่งจากเมือง Siegen ที่แอนเรียน จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ เพราะมี Bahncard 25 อยู่ บัตรนี้เป็นเหมือนบัตรลดราคาของ Deutsche Bahn หรือการรถไฟเยอรมัน นะคะ ค่าบัตรน่าจะประมาณ 50 ยูโรกว่า ๆ มีอายุ 1 ปี ตอนที่จะกดซื้อ จะมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลย เช่น นั่ง 6 เที่ยว ก็คุ้มค่าบัตรแล้วค่ะ ที่จริงแอนได้มาด้วยความผิดพลาด ตอนนั้นโกรธตัวเองมาก ที่ซื้อมา แต่ตอนนี้ดีใจมากค่า เที่ยวกระจายเลย
เห็นมั้ยคะ สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดีเสมอ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายเหมือนแอนเนอะ
ไปค่ะ วันนี้ได้นั่งที่ VIP ด้วย ต้นขบวนเชียว
ถ่ายจากตรงที่นั่งนะคะ ส่วนที่นั่งในภาพ ของเจ้าหน้าที่เค้าค่ะ
ที่จริง ไม่ได้ VIP อะไรหรอก เป็นที่นั่งชั้น 2 ธรรมดา แต่เพิ่งเคยมานั่งครั้งแรก เราเพิ่มความพิเศษใส่ไข่ซะหน่อยละกัน อิอิ
ในรถไฟมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียนั่งไปกับเราค่อนข้างเยอะค่ะ รวมทั้งวัยรุ่นที่แบกเป้และสัมภาระเยอะแยะ
ตอนนั้นก็คิดว่าเค้าคงไปเที่ยวป่า นอนเต็นท์ แต่ที่จริงแล้ว มีคอนเสิร์ต Open Air ใกล้กับเมืองเก่า เสียงดังตึง ๆ ทั้งคืน ทุกคืนเลย เอิ๊ก ๆ เลือกไปถูกวันจริงจริ๊งงงง
มาถึงสถานีเมือง Rothenburg ob der Tauber แอนก็เสิชแผนที่หาโรงแรมที่จองไว้ โรงแรมอยู่ห่างจากสถานี 600 เมตร ใกล้มาก
ตอนที่เดินออกมาจากสถานี จำได้ว่าภาพเมืองที่เห็น ก็เป็นเมืองเยอรมันธรรมดานี่นา สงสัยเมืองเก่าต้องเข้าไปอีก (จำได้ใช่มั้ยคะ ว่าแอนมีภาพเมือง Rothenburg อยู่ในหัวแค่ภาพเดียว นอกนั้นไม่รู้เลยว่า Rothenburg ob der Tauber เนี่ย มันเป็นยังไง)
แอนก็เดินดุ่ม ๆ ไป จนเจอโรงแรม ตั้งอยู่หัวมุม เดินเกือบจะรอบตัวโรงแรมถึงจะเจอทางเข้า ก็เข้าไปจะเช็คอิน พนักงานหาชื่อแอน แล้วยื่นกุญแจให้ไปดูห้องก่อน
เอ้า มีงี้ด้วยแฮะ ให้ไปดูห้องก่อน แล้วค่อยเช็คอิน
แอนก็รับกุญแจมาอย่างงง ๆ แต่ก็เดินไปดูห้องอย่างที่เค้าบอก
ห้องเตียงเดี่ยว มีห้องน้ำในตัว และมีทีวีด้วยยยย ที่หอแอนไม่มีทีวีค่ะ เลยตื่นเต้นเสียหน่อย อิอิ
สภาพห้องคืนละ 27 ยูโร พร้อมอาหารเช้า ใช้ได้เลยใช่มั้ยคะ ขนาดกำลังดี ห้องน้ำไม่แคบ เตียงสะอาด ผ้าเช็ดตัวขาวจั๊วะ
โรงแรมชื่อ Hotel Gasthof zur Linde นะคะ
ไม่ใช่แค่ “ใช้ได้” แล้วล่ะ นี่มันดีเกินคาด
พอจัดของเสร็จ ก็ได้เวลาออกไปสำรวจเมือง เมื่อกี๊พนักงานให้แผนที่เมืองมาด้วย ซึ่งมีประโยชน์มาก แอนใช้ทุกวันเลยค่ะ ในแผ่นพับมีข้อมูลท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญด้วย แผ่นเดียว ครบ จบ
แอนก็เดินออกจากโรงแรม
อ๊ะ หันมาถ่ายโรงแรมซะหน่อย หน้าตาดูดีเลยใช่มั้ยคะ
พอเดินไปสัก 100 เมตร ก็ลอดประตูเมืองเก่า หน้าตาประมาณนี้
พอลอดประตูเมืองไปเท่านั้นแหละ หันไปทางซ้ายมือ เห็นกำแพงเมืองตั้งแต่ยุคกลาง ก็ตะลึงแล้วค่ะ
ไม่คิดมาก่อนว่าจะยังเจอกำแพงเมืองที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ ปกติไปเที่ยวไหน จะเจอแต่ซากซะเป็นส่วนใหญ่
ยิ่งเดินไปเรื่อย ๆ ยิ่งตะลึงเข้าไปอีก ทำไมเมืองมันน่ารักแบบนี้เนี่ย
น่ารัก น่ารักไปหมด
แอนเดินตรงไปเรื่อย ๆ ทำหน้าเพ้อ ๆ ไปด้วย
ประตูเมืองชั้นในที่สร้างขึ้นก่อนขยายเมืองเพิ่ม
เมืองโรเทนบวร์กนี้มีความสวยงามอยู่อีกอย่างนึง คือเหล่าป้ายร้านค้าร้านอาหารทั้งหลาย เดินไป มองทางที่เป็นหิน มองซ้ายขวาดูรูปทรงอาคาร แล้วยังต้องมองบนเพื่อดูป้ายพวกนี้ด้วย สวยไปหมดทั้งเมืองเลยค่ะ
ถ่ายป้ายพวกนี้ยากจังเลยอะ ถ่ายหลายป้ายมาก แต่ไม่ค่อยพอใจเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าลงรูปใหญ่ไปรึเปล่านะคะ งง ๆ ทุกรูปไม่มีการปรับสีเพิ่มเติมหลังถ่ายนะคะ แค่หมุนให้มันตรง คร็อปบางส่วนออก และ resize รูปแนวตรงไม่ให้มันใหญ่เกินไป
*
ใครที่กำลังจะอยากไปที่นี่ อ่านแค่นี้พอนะคะ
เพราะก่อนแอนมา อย่างที่พิมบอกไปตอนต้นว่า ไม่รู้เลยว่าเมืองนี้เป็นยังไง พอมาเห็นเอง ก็เลยตะลึง ตะลึง ตะลึง
ถ้าเห็นภาพหมดแล้ว รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์บ้างแล้ว อาจจะไม่ตะลึงแบบแอนนะค้า เตือนแล้วน้าาา
[CR] พาเที่ยว + เล่าเรื่อง ณ เมือง Rothenburg ob der Tauber, Germany
สวัสดีค่ะ วันนี้แอนจะพานั่งรถไฟไปเที่ยวเมือง Rothenburg ob der Tauber (โรเทนบวก อ๊บ แด เทาบา) นะคะ
ตั้งหัวข้อว่าพาเที่ยวและเล่าเรื่อง เพราะนอกจากจะพาเที่ยวแล้ว ก็อยากจะเล่าประวัติความเป็นมาของเมือง Rothenburg ที่ได้ฟังจากไกด์ท้องถิ่นด้วยค่ะ ข้อมูลอาจจะไม่ครบนะคะ ไม่เข้าใจบ้าง ลืมบ้าง ใครรู้อะไร เสริมได้เลยนะคะ
ถ้าเรารู้ประวัติศาสตร์บ้าง เราจะเที่ยวอย่างสนุกมากขึ้น ตื่นเต้นมากขึ้น มองดูตึกดูรูปปั้นได้อย่างเข้าใจมากขึ้นนะคะ
แนะนำตัวนิดนึง แอนเรียนอยู่ที่ประเทศเยอรมนีนะคะ อยู่รัฐ Nordrhine-Westfalia (NRW)
ช่วงนี้เป็นช่วงปิดเทอม มีเวลาว่างมากเกินไป คิดนู่นนี่ เพื่อนทั้งเยอทั้งไทยก็ไม่ค่อยอยู่ วัน ๆ คิดถึงอาหารไทย คิดถึงบ้าน มีปัญหาหัวใจเรื้อรังด้วย ฟุ้งซ่านไปหมด
จนแอนรู้สึกไม่ไหวแล้ว ต้องหาอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิต ก็เลยตัดสินใจหยุดเรื่องวุ่ยวายใจ ไปซื้อกล้อง ก่อนซื้อเนี่ยแอนคิดแป๊บเดียวจริง ๆ ให้เงินแก้ปัญหาสุด ๆ ทำเอาจนไปเลยค่ะ ได้ Canon EOS M50 Mirrorless มา กล้องที่ยุโรปราคาแพงกว่าที่ไทยด้วย ของแถมอะไรก็ไม่มีเลย แง ๆ
แอนอยากจะลองไปเที่ยวคนเดียว แล้วหมกมุ่นกับการหัดถ่ายรูปดีกว่า ไหน ๆ ก็มาเรียนถึงยุโรปแล้ว ลองเก็บภาพความสวยงามด้วยตาและมือของตัวเองดีกว่า
ทริปแรกก็เลยเกิดขึ้น
ที่จริงแอนเลือกเมืองอยู่นานมาก จะไปเที่ยวไหนดี อยากได้เมืองเล็ก ๆ สวย ๆ มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ ยุคกลางยิ่งดี เพราะแอนเลือกเรียนประวัติศาสตร์ยุคกลางด้วย
แต่หลาย ๆ เมืองของเยอรมนีก็เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ยุคกลางทั้งนั้น จิ้ม ๆเอาได้เลย
ในที่สุดแอนก็มาตกลงปลงใจเลือก Rothenburg ob der Tauber (โรเทนบวก อ๊บ แด เทาบา) เพราะเคยได้ยินเพื่อนพูดให้ฟังหลายคนแล้ว พอเลือกเมืองได้ สิ่งแรกที่ทำคือดูราคาที่พักค่ะ กะจะไป 4 วัน 3 คืน ดูซิว่ามีโรงแรมราคาพอรับไหวรึเปล่า
ตอนที่เสิชหาโรงแรมในเว็บ ส่วนใหญ่แอนใช้ Booking ดูโรงแรมและดูรูปของโรงแรมด้วย เกือบทุกโรงแรมจะมีรูปของเมือง Rothenburg ob der Tauber แนบอยู่ 1 รูปถ้วน
เป็นรูปนี้ค่ะ
แอนจองโรงแรม 2 ที่ คืนแรก 27 ยูโร คืนที่ 2 และ 3 คืนละ 36 ยูโร ทั้ง 2 โรงแรมรวมอาหารเช้าแล้ว เริ่ดดด
ส่วนค่ารถไฟของแอนไม่เกิน 60 ยูโรค่ะ นั่งจากเมือง Siegen ที่แอนเรียน จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ เพราะมี Bahncard 25 อยู่ บัตรนี้เป็นเหมือนบัตรลดราคาของ Deutsche Bahn หรือการรถไฟเยอรมัน นะคะ ค่าบัตรน่าจะประมาณ 50 ยูโรกว่า ๆ มีอายุ 1 ปี ตอนที่จะกดซื้อ จะมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจเลย เช่น นั่ง 6 เที่ยว ก็คุ้มค่าบัตรแล้วค่ะ ที่จริงแอนได้มาด้วยความผิดพลาด ตอนนั้นโกรธตัวเองมาก ที่ซื้อมา แต่ตอนนี้ดีใจมากค่า เที่ยวกระจายเลย
เห็นมั้ยคะ สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดีเสมอ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายเหมือนแอนเนอะ
ไปค่ะ วันนี้ได้นั่งที่ VIP ด้วย ต้นขบวนเชียว
ถ่ายจากตรงที่นั่งนะคะ ส่วนที่นั่งในภาพ ของเจ้าหน้าที่เค้าค่ะ ที่จริง ไม่ได้ VIP อะไรหรอก เป็นที่นั่งชั้น 2 ธรรมดา แต่เพิ่งเคยมานั่งครั้งแรก เราเพิ่มความพิเศษใส่ไข่ซะหน่อยละกัน อิอิ
ในรถไฟมีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียนั่งไปกับเราค่อนข้างเยอะค่ะ รวมทั้งวัยรุ่นที่แบกเป้และสัมภาระเยอะแยะ ตอนนั้นก็คิดว่าเค้าคงไปเที่ยวป่า นอนเต็นท์ แต่ที่จริงแล้ว มีคอนเสิร์ต Open Air ใกล้กับเมืองเก่า เสียงดังตึง ๆ ทั้งคืน ทุกคืนเลย เอิ๊ก ๆ เลือกไปถูกวันจริงจริ๊งงงง
มาถึงสถานีเมือง Rothenburg ob der Tauber แอนก็เสิชแผนที่หาโรงแรมที่จองไว้ โรงแรมอยู่ห่างจากสถานี 600 เมตร ใกล้มาก ตอนที่เดินออกมาจากสถานี จำได้ว่าภาพเมืองที่เห็น ก็เป็นเมืองเยอรมันธรรมดานี่นา สงสัยเมืองเก่าต้องเข้าไปอีก (จำได้ใช่มั้ยคะ ว่าแอนมีภาพเมือง Rothenburg อยู่ในหัวแค่ภาพเดียว นอกนั้นไม่รู้เลยว่า Rothenburg ob der Tauber เนี่ย มันเป็นยังไง)
แอนก็เดินดุ่ม ๆ ไป จนเจอโรงแรม ตั้งอยู่หัวมุม เดินเกือบจะรอบตัวโรงแรมถึงจะเจอทางเข้า ก็เข้าไปจะเช็คอิน พนักงานหาชื่อแอน แล้วยื่นกุญแจให้ไปดูห้องก่อน
เอ้า มีงี้ด้วยแฮะ ให้ไปดูห้องก่อน แล้วค่อยเช็คอิน
แอนก็รับกุญแจมาอย่างงง ๆ แต่ก็เดินไปดูห้องอย่างที่เค้าบอก ห้องเตียงเดี่ยว มีห้องน้ำในตัว และมีทีวีด้วยยยย ที่หอแอนไม่มีทีวีค่ะ เลยตื่นเต้นเสียหน่อย อิอิ สภาพห้องคืนละ 27 ยูโร พร้อมอาหารเช้า ใช้ได้เลยใช่มั้ยคะ ขนาดกำลังดี ห้องน้ำไม่แคบ เตียงสะอาด ผ้าเช็ดตัวขาวจั๊วะ
โรงแรมชื่อ Hotel Gasthof zur Linde นะคะ
ไม่ใช่แค่ “ใช้ได้” แล้วล่ะ นี่มันดีเกินคาด
พอจัดของเสร็จ ก็ได้เวลาออกไปสำรวจเมือง เมื่อกี๊พนักงานให้แผนที่เมืองมาด้วย ซึ่งมีประโยชน์มาก แอนใช้ทุกวันเลยค่ะ ในแผ่นพับมีข้อมูลท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญด้วย แผ่นเดียว ครบ จบ
แอนก็เดินออกจากโรงแรม อ๊ะ หันมาถ่ายโรงแรมซะหน่อย หน้าตาดูดีเลยใช่มั้ยคะ
พอเดินไปสัก 100 เมตร ก็ลอดประตูเมืองเก่า หน้าตาประมาณนี้
พอลอดประตูเมืองไปเท่านั้นแหละ หันไปทางซ้ายมือ เห็นกำแพงเมืองตั้งแต่ยุคกลาง ก็ตะลึงแล้วค่ะ
ไม่คิดมาก่อนว่าจะยังเจอกำแพงเมืองที่สมบูรณ์แบบขนาดนี้ ปกติไปเที่ยวไหน จะเจอแต่ซากซะเป็นส่วนใหญ่
ยิ่งเดินไปเรื่อย ๆ ยิ่งตะลึงเข้าไปอีก ทำไมเมืองมันน่ารักแบบนี้เนี่ย น่ารัก น่ารักไปหมด
แอนเดินตรงไปเรื่อย ๆ ทำหน้าเพ้อ ๆ ไปด้วย
ประตูเมืองชั้นในที่สร้างขึ้นก่อนขยายเมืองเพิ่ม
เมืองโรเทนบวร์กนี้มีความสวยงามอยู่อีกอย่างนึง คือเหล่าป้ายร้านค้าร้านอาหารทั้งหลาย เดินไป มองทางที่เป็นหิน มองซ้ายขวาดูรูปทรงอาคาร แล้วยังต้องมองบนเพื่อดูป้ายพวกนี้ด้วย สวยไปหมดทั้งเมืองเลยค่ะ
ถ่ายป้ายพวกนี้ยากจังเลยอะ ถ่ายหลายป้ายมาก แต่ไม่ค่อยพอใจเลยค่ะ
ไม่รู้ว่าลงรูปใหญ่ไปรึเปล่านะคะ งง ๆ ทุกรูปไม่มีการปรับสีเพิ่มเติมหลังถ่ายนะคะ แค่หมุนให้มันตรง คร็อปบางส่วนออก และ resize รูปแนวตรงไม่ให้มันใหญ่เกินไป
* ใครที่กำลังจะอยากไปที่นี่ อ่านแค่นี้พอนะคะ
เพราะก่อนแอนมา อย่างที่พิมบอกไปตอนต้นว่า ไม่รู้เลยว่าเมืองนี้เป็นยังไง พอมาเห็นเอง ก็เลยตะลึง ตะลึง ตะลึง
ถ้าเห็นภาพหมดแล้ว รู้เรื่องราวประวัติศาสตร์บ้างแล้ว อาจจะไม่ตะลึงแบบแอนนะค้า เตือนแล้วน้าาา
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้