การรักษาโรคหลอดเลือดสมองนั้น ต้องใช้การรักษาในโรงพยาบาลเป็นหลัก ได้แก่
* การให้ยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolytic therapy)
* การควบคุมความดัน
* การให้ยาต้านเกล็ดเลือด
* การรักษาในหอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Unit)
ซึ่งการรักษาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วทันทีเช่น การให้ยาละลายลิ่มเลือด สามารถให้ได้เฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ ที่มีอาการมาภายใน 3-4.5 ชั่วโมงเท่านั้นทำให้ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถได้รับยานี้
TMS ช่วยรักษาภาวะอัมพฤกษ์-อัมพาต ได้อย่างไร ?
ถึงแม้ได้รับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันเต็มที่แล้ว ก็ยังมีผู้ป่วยส่วนหนึ่ง ยังคงมีปัญหาด้านการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนขา และการเกร็งของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้มีปัญหาต่อการช่วยเหลือตัวเอง และการประกอบกิจวัตรประจำวัน จากการศึกษาพบว่าหลังจากการกายภาพบำบัดฟื้นฟูแล้ว 6 เดือน ก็ยังมีผู้ป่วยประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่สามารถเดินเองได้
ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีหนึ่งที่เข้ามาช่วยในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ทั้งชนิดหลอดเลือดสมองตีบและแตก ได้แก่ เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (Transcranial Magnetic Stimulation) ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วยังมีอาการอ่อนแรงหรือการเกร็งของกล้ามเนื้อ การบำบัดด้วยเครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (Transcranial Magnetic Stimulation) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูและลดอาการเกร็งของผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมองได้
** การรักษาจะต้องทำต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ประมาณ 5-10 ครั้งขึ้นไปถึงจะเห็นผล **
TMS ทำงานอย่างไร ?
โดยหลักการของเครื่อง คือ การส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นสมองจากภายนอก โดยสามารถทำได้ทั้งการกระตุ้นสมองข้างที่มีปัญหาหรือยับยั้งสมองข้างตรงข้ามเพื่อปรับสมดุลในการทำงานของสมอง ซึ่งการกระตุ้นดังกล่าวจะเป็นการเร่งการเชื่อมต่อกันใหม่ของเซลล์ประสาท เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูและการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อดีขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถกระตุ้นกล้ามเนื้อที่แขนขาเพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
TMS ทำให้คนไข้เจ็บหรือไม่ ?
วีธีการทำเป็นเพียงการนำหัวส่งสัญญาณแม่เหล็กมาวางที่ศีรษะ หรือแขนขาเท่านั้น ขณะทำผู้ป่วยอาจพบการกระตุกของกล้ามเนื้อบ้าง แต่ไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วยแต่อย่างใด และสามารถมาทำเป็นครั้งๆ โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
TMS มีข้อควรระวังหรือไม่ ?
ถึงแม้การใช้เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (Transcranial Magnetic Stimulation) จะมีความปลอดภัยมากและผลข้างเคียงต่ำ แต่ก็จะไม่สามารถทำได้ในผู้ป่วยมีอาการชักมาก่อน มีโลหะฝังอยู่ในสมอง เช่น คลิปหนีบเส้นเลือดโป่งพองในสมอง เป็นต้น ฝังอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ต่างๆ เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น
ฟื้นฟูภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต ด้วยเทคโนโลยีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
* การให้ยาละลายลิ่มเลือด (Thrombolytic therapy)
* การควบคุมความดัน
* การให้ยาต้านเกล็ดเลือด
* การรักษาในหอผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke Unit)
ซึ่งการรักษาที่กล่าวมาข้างต้นนั้น จำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วทันทีเช่น การให้ยาละลายลิ่มเลือด สามารถให้ได้เฉพาะผู้ป่วยที่เป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบ ที่มีอาการมาภายใน 3-4.5 ชั่วโมงเท่านั้นทำให้ผู้ป่วยจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถได้รับยานี้
TMS ช่วยรักษาภาวะอัมพฤกษ์-อัมพาต ได้อย่างไร ?
ถึงแม้ได้รับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบันเต็มที่แล้ว ก็ยังมีผู้ป่วยส่วนหนึ่ง ยังคงมีปัญหาด้านการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อแขนขา และการเกร็งของกล้ามเนื้อ ส่งผลให้มีปัญหาต่อการช่วยเหลือตัวเอง และการประกอบกิจวัตรประจำวัน จากการศึกษาพบว่าหลังจากการกายภาพบำบัดฟื้นฟูแล้ว 6 เดือน ก็ยังมีผู้ป่วยประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ที่ยังไม่สามารถเดินเองได้
ปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีหนึ่งที่เข้ามาช่วยในการฟื้นฟูผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง ทั้งชนิดหลอดเลือดสมองตีบและแตก ได้แก่ เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (Transcranial Magnetic Stimulation) ในผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วยังมีอาการอ่อนแรงหรือการเกร็งของกล้ามเนื้อ การบำบัดด้วยเครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (Transcranial Magnetic Stimulation) ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูและลดอาการเกร็งของผู้ป่วยโรคเส้นเลือดสมองได้
** การรักษาจะต้องทำต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ประมาณ 5-10 ครั้งขึ้นไปถึงจะเห็นผล **
TMS ทำงานอย่างไร ?
โดยหลักการของเครื่อง คือ การส่งคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเข้าไปกระตุ้นสมองจากภายนอก โดยสามารถทำได้ทั้งการกระตุ้นสมองข้างที่มีปัญหาหรือยับยั้งสมองข้างตรงข้ามเพื่อปรับสมดุลในการทำงานของสมอง ซึ่งการกระตุ้นดังกล่าวจะเป็นการเร่งการเชื่อมต่อกันใหม่ของเซลล์ประสาท เพื่อให้เกิดการฟื้นฟูและการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อดีขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถกระตุ้นกล้ามเนื้อที่แขนขาเพื่อลดการเกร็งของกล้ามเนื้อได้อีกด้วย
TMS ทำให้คนไข้เจ็บหรือไม่ ?
วีธีการทำเป็นเพียงการนำหัวส่งสัญญาณแม่เหล็กมาวางที่ศีรษะ หรือแขนขาเท่านั้น ขณะทำผู้ป่วยอาจพบการกระตุกของกล้ามเนื้อบ้าง แต่ไม่สร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ป่วยแต่อย่างใด และสามารถมาทำเป็นครั้งๆ โดยไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
TMS มีข้อควรระวังหรือไม่ ?
ถึงแม้การใช้เครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (Transcranial Magnetic Stimulation) จะมีความปลอดภัยมากและผลข้างเคียงต่ำ แต่ก็จะไม่สามารถทำได้ในผู้ป่วยมีอาการชักมาก่อน มีโลหะฝังอยู่ในสมอง เช่น คลิปหนีบเส้นเลือดโป่งพองในสมอง เป็นต้น ฝังอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ต่างๆ เช่น เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ เป็นต้น