ลูกน้องพาลูกอ่อนมาเลี้ยงที่ทำงาน จะทำยังไงดีคะ ?

สวัสดีค่ะ มาตั้งกระทู้หลังจากที่ไม่ได้ตั้งมาน๊านนน

  ตอนนี้เรามาเปิดร้านอาหารค่ะ เป็นร้านของแฟนตอนคบแรกๆช่วงวันหยุดก็มาช่วยงานเค้าบ้าง จนเค้าชวนให้ลาออกจากงานประจำ มาช่วยกันทำ

  อ่ะ มาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ ออกทะเลไปเยอะเลย 😂😂
ตอนนี้มีพนักงานที่ร้านคนนึงพึ่งคลอดลูกค่ะ ก็ได้พักลาคลอดไปตามระเบียบ จนถึงกำหนดมาทำงาน ปัญหาคือเค้าไม่มีคนเลี้ยงลูกค่ะ เค้าเลยขออนุญาตเอาลูกมาที่ร้าน ตอนค่ำๆถึงจะส่งให้ยายของเด็กมารับ แรกๆเราก็โอเคนะคะ เพราะเวลาสองสามชั่วโมงแรกที่เปิดร้านจะยังไม่มีลูกค้าเข้า แต่หลังๆมานี้ บางทียายของเด็กก็ทำงานกะดึก ไม่ว่าง ไม่มารับ เด็กน้อยก็จะอยู่ร้านปิดตอนเที่ยงคืน ระหว่างเวลาทำงานถ้าลูกร้อง ก็ต้องออกไปดูลูก ทำให้พนักงานอีกคนที่ทำหน้าที่เดียวกับเค้ารับภาระในหน้าที่คนเดียว แถมยังพาน้องและพาหลานที่อยู่ในวัยประถมมาอยู่ที่ร้านด้วย เหตุผลคือไม่มีผู้ใหญ่อยู่ที่บ้าน ที่ร้านเราจะมีอาหารเย็นให้พนักงาน 2 มื้อ พอน้องและหลานของพนักงานคนนั้นมาที่ร้าน ก็จะต้องทานข้าวเย็นของทางร้านด้วย ซึ่งจริงๆมันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร แต่บางครั้งที่เราเห็น คือเค้าจะตักข้าวกันมาเยอะๆเพื่อตัวน้องที่เป็นแม่ลูกอ่อนเอง แฟนของน้องที่เป็นพนักงานล้างจาน พร้อมทั้งน้องและหลานของเค้าอีกรวมสี่คน ตักเผื่อสองมื้อด้วยเลย ทำให้มื้อที่สองพนักงานบางคนไม่ได้ทาน เราเลยให้ทานอาหารในร้านแทน เรารู้สึกว่าแม้จะยอมให้เค้ามาทำงานและลดเงินบางส่วนของเค้าลงไป ก็ยังไม่คุ้มต่อเนื้องานที่เค้าต้องรับผิดชอบอยู่ดี

  ที่จะปรึกษาคือ ให้น้องเค้าหยุดพักไปเลี้ยงลูกดีกว่าไหมคะ ถ้าทำงานก็ทำงานได้ไม่เต็มที่ เลี้ยงลูกก็ไม่เต็มที่ ก็อยากจะให้เค้าเอาเวลาไปเลี้ยงลูกให้เต็มที่เลยดีไหมคะ

** ขอบคุณทุกความคิดเห็นล่วงหน้านะคะ **

ปล. ที่ต้องแท็กปัญหาวัยรุ่นเพราะน้องอายุยังไม่ถึง 20 เลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
อ่านกระทู้นี้แล้วมันอดไม่ได้จริง ๆ ขอพูดหน่อยเถอะเรื่องนี้ ในฐานะคนที่เลยวัยกลางคนมาแล้ว ผมห่วงอนาคตประเทศไทยจริง ๆ

ประเทศไทยกำลังเข้าสู่วัยสังคมผู้สูงอายุก็จริง แต่ไม่เหมือนญี่ปุ่น มันน่ากลัวกว่าญี่ปุ่นเยอะ เพราะประชากรที่เพิ่มขึ้นมา มีแต่ตลาดล่างด้อยคุณภาพ  ที่ทุกวันนี้ ยังใช้แรงงาน หาเช้ากินค่ำ มีความบันเทิงราคาถูกแบบไม่ต้องลงทุนก็คือ เอากัน แล้วก็ติดลูกแบบโนว์สนโนว์แคร์ง่าย ๆ ไม่คิดก่อนหน้าหลัง ไม่รู้จักป้องกัน ขอให้ได้ฟัน มัน และฟินในวันนี้ก็พอแล้ว ไม่ได้คิดเลยว่า เด็กเกิดมาจะมีปัญญาเลี้ยงไหม จะส่งเสียลูกมันเรียนได้ไหม แล้วชีวิตข้างหน้าจะเป็นยังไง แล้วมันก็วนลูปกลับไปเป็นวัฎจรอุบาทว์ของการผลิตประชากรคุณภาพแบบเดียวกันออกมานี้ ที่ยาย 35 แม่ 16 ลูก 1 ขวบ กับในท้องอีก 1 คน จาก 3 ผัว ...เหมือนอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณ จขกท ตอนนี้ สุดท้ายเด็กที่เกิดมาก็กลายเป็นโจร เป็นอันธพาล เป็นขยะสังคม จิตใจหยาบกร้านตามประสาครอบครัวที่ไม่มีเวลาอบรมดูแลสั่งสอนลูก เพราะต้องปากกัดตีนถีบหารายได้

เรื่องมันเลวร้ายลงอีก เพราะกลายเป็นว่าชนชั้นกลางที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ เลือกที่จะไม่มีลูก หรือมีลูกน้อยลง เพราะคิดมากไง รับผิดชอบต่อสังคม กลัวว่ามีลูกแล้วจะเลี้ยงดูได้ไม่ดี รายได้ยังไม่มั่นคง ลูกจะลำบากหรือเปล่า ถ้ามีแล้วเลี้ยงได้ไม่ดี ส่งเสียเรียนดี ๆ ไม่ได้ก็ไม่มีเลยดีกว่า หรือไม่ก็มีแค่คนเดียว หลายคนกว่าจะคิดได้ ก็เลยวันเจริญพันธุ์ไปแล้ว กลายเป็นมีลูกยากอีก หรือมีไม่ได้ไปเลย

คนเกิดน้อย ทำให้คนเข้าสู่ระบบการศึกษาน้อยอยู่แล้ว แล้วคนพวกนี้ ก็ไม่มี "เงิน" จะส่งลูกเข้าสู่ระบบการศึกษาได้อีก แล้วก็ยังผลิตเพิ่มเรื่อย ๆ อย่างไร้ความรัผิดชอบ สุดท้ายประเทศไทยจะได้ทรัพยากรมนุษย์แบบไหนมาพัฒนาประเทศ แรงงานระดับล่าง ก็โดนเพื่อนบ้านยึดหัวหาดไปหมดแล้ว
ความคิดเห็นที่ 1
ทำได้สิ
ต้องเริ่มด้วยการไม่ให้เอาลูกและญาติมาทำงานด้วย
ถ้าทำตามข้างบนไม่ได้ต้องให้พิจารณาตัว
สุดท้ายคือให้ออก
เพราะตามรูปการณ์แล้ว ถ้าเค้าได้คืบเอาศอก คุณจะเสียลูกน้องคนอื่นแล้วได้ครอบครัวนี้มาแทนค่ะ
ความคิดเห็นที่ 4
เห็นใจ จขกท. คนบางคนก็มักจะอาศัยฐานะ สภาพความเป็นอยู่ ที่แย่กว่ามาเป็นตัวเอาเปรียบคนอื่น
   คุณทำตามที่ใจคิดเลยค่ะ ให้ผช.อยู่ทำงานล้างจานต่อได้  ส่วนผญ. ให้หยุดไปเคลียร์เรื่องลูกให้เรียบร้อย และห้ามนำคนอื่นที่ไม่ใช่พนง. มาที่ร้านอีก
ความคิดเห็นที่ 21
พี่สาวกับพี่เขยดิฉันใช้วิธีผลัดกันไปทำงานค่ะ พี่สาวจะทำงานตอนกลางวัน แล้วให้พี่เขยดูลูก พอตกกลางคืนพี่เขยก็ออกไปทำงาน พี่สาวก็ดูลูกช่วงกลางคืนแทน รายได้ก็ไม่หาย ได้อยู่กับลูกด้วยทั้งคู่ เวลาเด็กหลับก็หลับไปกับเด็ก
ความคิดเห็นที่ 30
ขนาดงานในออฟฟิต
มีพนักงานเอาลูกมาคนยังเครียด
นับประสากับงานบริการ
คุณกล้าให้ลูกน้องเอามาได้ยังไง
เม่าตกใจ แถมยังพ่วงหลานมาอีก !!!!!!

บอกเลยเคสนี้ถ้าไม่รีบจัดการ
พนักงานคนอื่นๆ มีเอฟเฟคแน่ๆ
บอกไปตรงๆ ห้ามเอามา
จะจัดการชีวิตยังไงก็เป็นเรื่องของเค้า

จำไว้อย่าง ....เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่