เม่งจื้อกล่าวว่า…
“ประชาชนสำคัญที่สุด ประเทศชาติรองลงมา ส่วนผู้ปกครองนั้นสำคัญน้อยที่สุด”
นักปกครองเวลามีอำนาจมักจะลืมตัว สำคัญตนเองว่าเป็นประเทศชาติเสียเอง
นึกว่าความเห็นของตัวจะต้องเป็นความเห็นของคนทั้งชาติ
เม่งจื้อ จึงสอนให้ นักปกครองสำนึกตนอยู่เสมอว่าตนไม่ใช่คนสำคัญจะได้ไม่ลืมตัว
การจะครอบครองอำนาจได้ยืนยาว คือจักทำอย่างไรให้ประชาชนนิยมนับถืออย่างจริงใจขึ้นมาได้
ต้องทำให้ประชาชนเกิดศรัทธาในตัวผู้ปกครองขึ้นมาก่อน การจะสร้างศรัทธาในใจประชาชนขึ้นมาได้
ก่อนอื่นผู้ปกครองต้องนำสิ่งที่ประชาชนเขาปราถนามาให้ประชาชน ช่วยประชาชน
สิ่งใดที่ประชาชนคัดค้านไม่ยินดี ก็จงระงับอย่าทำเสีย…
…หากทำได้อย่างนี้ เลือกตั้งทุกครั้งไฉนเลยจะมิได้กลับมา…
:
:
:
อดีตนายกทักษิณ ท่านตีแตกคำสอนของ เม่งจื้อ ท่านจึงคิดโครงการช่วยเหลือประชาชนขึ้นมามาก ที่ใครๆเรียกว่า “ประชานิยม”
เมื่อประชานิยม ประชาก็เลยรักและศรัทธาท่าน เลือกตั้งครั้งใดพรรคท่านก็มา เลยเป็นที่มาของการถูกโจมตี ถูกกระหน่ำซ่ะจนน่วม
ประชานิยมกลายเป็นผู้ร้าย แต่สุดท้ายก็ยังไม่วายแจกกันอยู่ดี แต่เลี่ยงบาลี ตีความหมายภายใต้ชื่อโครงการ “ไทยนิยม”
:
:
:
นอกจากเม่งจื๊อ ขงจื๊อ ยังเคยกล่าวว่า การปกครองรัฐ จงปกครองให้ประชาชนมีอาหารบริโภคอุดม มีกองทัพแข้มแข็ง
และให้ประชาชนเชื่อถือในรัฐบาล คือรัฐบาลต้องมีคุณธรรม
หากจำเป็นต้องตัดข้อใดข้อหนึ่งในสามข้อ ขงจื๊อตอบว่า ให้ตัด กองทัพออก และหากจำเป็นต้องตัดออกอีก
ให้ตัดอาหาร เนื่องด้วยขงจื๊อมองว่า คนเรามีความตายเป็นธรรมดา แม้จะต้องอดตาย ก็ยังดีกว่ามีรัฐบาลที่ประชาเขาไม่นิยมศรัทธา
หรือแปลกลับกันง่ายๆก็คือว่า ถ้ารัฐบาลมิมีคุณธรรม จนประชาชนหมดศรัทธา นั่นร้ายแรงยิ่งกว่าความอดอยากเสียอีก
ยุคนี้แม้กองทัพจะดูแข้มแข็ง ได้งบประมาณไปมากมาย แต่หากปล่อยให้ประชาชนอดอยาก ก็ยากที่จะสร้างศรัทธาน่ะครับเจ้านาย
:
:
:
อยากได้ใจชาวประชา
อย่ากล่าวหาประชานิยม
ช่วยประชาเขาชื่นชม
ดีกว่าอมไว้กินพวกเดียว
—-ผลึกหิน—-
@@@เลี่ยงบาลี ตีความหมาย สุดท้ายมันก็คือๆกัน@@@ —-ผลึกหิน—-
“ประชาชนสำคัญที่สุด ประเทศชาติรองลงมา ส่วนผู้ปกครองนั้นสำคัญน้อยที่สุด”
นักปกครองเวลามีอำนาจมักจะลืมตัว สำคัญตนเองว่าเป็นประเทศชาติเสียเอง
นึกว่าความเห็นของตัวจะต้องเป็นความเห็นของคนทั้งชาติ
เม่งจื้อ จึงสอนให้ นักปกครองสำนึกตนอยู่เสมอว่าตนไม่ใช่คนสำคัญจะได้ไม่ลืมตัว
การจะครอบครองอำนาจได้ยืนยาว คือจักทำอย่างไรให้ประชาชนนิยมนับถืออย่างจริงใจขึ้นมาได้
ต้องทำให้ประชาชนเกิดศรัทธาในตัวผู้ปกครองขึ้นมาก่อน การจะสร้างศรัทธาในใจประชาชนขึ้นมาได้
ก่อนอื่นผู้ปกครองต้องนำสิ่งที่ประชาชนเขาปราถนามาให้ประชาชน ช่วยประชาชน
สิ่งใดที่ประชาชนคัดค้านไม่ยินดี ก็จงระงับอย่าทำเสีย…
…หากทำได้อย่างนี้ เลือกตั้งทุกครั้งไฉนเลยจะมิได้กลับมา…
:
:
:
อดีตนายกทักษิณ ท่านตีแตกคำสอนของ เม่งจื้อ ท่านจึงคิดโครงการช่วยเหลือประชาชนขึ้นมามาก ที่ใครๆเรียกว่า “ประชานิยม”
เมื่อประชานิยม ประชาก็เลยรักและศรัทธาท่าน เลือกตั้งครั้งใดพรรคท่านก็มา เลยเป็นที่มาของการถูกโจมตี ถูกกระหน่ำซ่ะจนน่วม
ประชานิยมกลายเป็นผู้ร้าย แต่สุดท้ายก็ยังไม่วายแจกกันอยู่ดี แต่เลี่ยงบาลี ตีความหมายภายใต้ชื่อโครงการ “ไทยนิยม”
:
:
:
นอกจากเม่งจื๊อ ขงจื๊อ ยังเคยกล่าวว่า การปกครองรัฐ จงปกครองให้ประชาชนมีอาหารบริโภคอุดม มีกองทัพแข้มแข็ง
และให้ประชาชนเชื่อถือในรัฐบาล คือรัฐบาลต้องมีคุณธรรม
หากจำเป็นต้องตัดข้อใดข้อหนึ่งในสามข้อ ขงจื๊อตอบว่า ให้ตัด กองทัพออก และหากจำเป็นต้องตัดออกอีก
ให้ตัดอาหาร เนื่องด้วยขงจื๊อมองว่า คนเรามีความตายเป็นธรรมดา แม้จะต้องอดตาย ก็ยังดีกว่ามีรัฐบาลที่ประชาเขาไม่นิยมศรัทธา
หรือแปลกลับกันง่ายๆก็คือว่า ถ้ารัฐบาลมิมีคุณธรรม จนประชาชนหมดศรัทธา นั่นร้ายแรงยิ่งกว่าความอดอยากเสียอีก
ยุคนี้แม้กองทัพจะดูแข้มแข็ง ได้งบประมาณไปมากมาย แต่หากปล่อยให้ประชาชนอดอยาก ก็ยากที่จะสร้างศรัทธาน่ะครับเจ้านาย
:
:
:
อยากได้ใจชาวประชา
อย่ากล่าวหาประชานิยม
ช่วยประชาเขาชื่นชม
ดีกว่าอมไว้กินพวกเดียว
—-ผลึกหิน—-