เบื่อทั้งหัวหน้าและรองหัวหน้า ที่มีความ "เยอะ" กันทั้งคู่

เรารู้สึกไม่สบายใจจนต้องมาโพสต์ รู้สึกเอือมระอากับความเยอะของทั้งคู่

หัวหน้า

- นิสัยใจร้อน ชอบเหวี่ยง แล้วก็ชอบบอกเราว่าเป็นสไตล์ของเขา แต่พอเรามีนิสัยบางอย่างที่ต่างจากเขา และเขาไม่ชอบ เขากลับอยากให้เราเปลี่ยนแปลง มีการบอกอีกว่าถ้าเราไม่เปลี่ยนก็จะมีผลต่อคะแนนประเมินเรา

- เรากลับบ้านหลังคนอื่นๆ มาหลายวันแล้ว หลายครั้งก็กลับหลังหัวหน้า พอวันหนึ่งเรากลับเร็วขึ้น เพราะไม่มีงานให้ทำ หัวหน้ากลับถามแซวว่า "นัดใครไว้เหรอ" เราก็เป็นคนซื่อๆจึงตอบไปว่าไม่ได้นัดใครไว้ แล้วก็กลับ ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ คิดในใจว่าเราจะกลับบ้านเร็วบ้างไม่ได้เหรอ ทีคนอื่นๆเขายังกลับตรงเวลาเป๊ะๆได้ โอเค หัวหน้าอาจแค่แซวเล่น แต่แซวเรื่องแบบนี้ บางคนเขาก็คิดมาก อย่างเช่นเรา ที่ระแวงในใจว่าหัวหน้าแค่แซวแล้วก็จบแค่นั้นหรือเปล่า หรือว่าจะมีอะไรตามมาอีก

- เราเป็นคนพูดน้อย เขาก็อยากให้เราพูดเยอะๆ และแสดงความคิดเห็นเยอะๆ แต่พอความคิดเราไม่ถูกใจเขา เขาก็ไม่รับฟัง เขาก็จะยึดมั่นในความคิดตัวเอง และเราก็ไม่เคยเถียงเขาได้ สุดท้ายก็ต้องทำตามความคิดเขาตลอด
.................

รองหัวหน้า

- เข้ากันได้ดีกับหัวหน้ามาก อย่างกับเป็นลูกสมุน (แต่พอลับหลังหัวหน้า ก็นินทาหัวหน้าเหมือนกัน) หลายครั้งที่เวลาหัวหน้าเรียกเราไปตำหนิ รองฯคนนี้ก็เข้าไปฟังด้วย แต่เวลาเราโดนตำหนิเกินจริง เขาไม่เคยช่วยพูดปกป้องเราเลย มีแต่จะออกตัวเข้าข้างหัวหน้า เขาจะเกรงใจคนที่อายุมากกว่าเขา กับคนที่มีนิสัยแรงๆ แต่เราอายุน้อยกว่าเขามาก เราไม่แรงกับเขา เขาจึงไม่ค่อยเกรงใจเรา

- เขาเป็นเลขาตอนประชุมด้วย และเราก็ต้องเข้าประชุมกับเขาบ่อยๆ เพราะหัวหน้าสั่ง ทั้งๆที่การประชุมบางอย่างไม่เกี่ยวกับงานเรา แต่หัวหน้าต้องการให้เราเข้าไปช่วยเลขา(หรือรองหัวหน้า) และเราก็มักจะชอบง่วงนอนตอนประชุม เพราะนั่งฟังเฉยๆ ไม่ได้ออกความเห็น ที่ฟังๆไปก็ไม่ได้เข้าหัวเลย รองหัวหน้าคนนี้ก็เหมือนจะคอยมองเราตลอด แค่เรามีอาการง่วงจะหลับ เขาก็จะเรียกหรือสะกิดเรา ทั้งๆที่ผู้เข้าร่วมประชุมคนอื่นๆเขาก็ง่วงนอนเหมือนกัน แต่เรากลับง่วงนอนบ้างไม่ได้ บางทีมีพนักงานอีกคนเข้าไปทำหน้าที่เลขาร่วมกับเขา เราเห็นเลขาอีกคนนั่งหลับต่อหน้าต่อตา แต่เขาคนนี้ก็ปล่อยผ่าน ไม่เห็นจะเรียกหรือสะกิดให้ตื่นบ้าง สงสัยคงเพราะเลขาอีกคนอายุมากกว่าเขาละสิ

- ต่อจากข้อบน ดังนั้นเราจึงแก้ปัญหาด้วยการดื่มกาแฟก่อนเข้าประชุมต่างๆ แต่ตอนประชุมครั้งล่าสุดเราไม่ได้ดื่มกาแฟ เพราะไม่รู้ล่วงหน้าว่าจะมีประชุม บวกกับตอนนั้นเป็นช่วงบ่าย เราเพิ่งกินอาหารมาอิ่มๆ ก็เลยง่วงในห้องประชุม แต่เราก็พยายามฟังเนื้อหาการประชุมอยู่ รองหัวหน้าไม่เข้าใจ สะกิดเราอีกแล้ว และก็บอกเบาๆว่าอย่าหลับ ตอนนั้นห้องประชุมเงียบ เราคิดว่าคนอื่นๆก็คงได้ยินที่เขาพูดกับเรา เราก็รู้สึกอาย แต่ไม่ได้พูดอะไร(จริงๆก็อยากพูดบ้างเหมือนกัน)

- ต่อจากข้อบน สักพักหนึ่งเราก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาตอบไลน์คนที่บ้าน แค่นิดเดียว รองฯคนนี้ก็บ่นเราอีกว่าช่วยฟังการประชุมหน่อย เขาคนเดียวฟังไม่ทัน เราก็เก็บโทรศัพท์ แต่ก็รู้สึกไม่พอใจเขา เพราะผู้เข้าร่วมคนอื่นๆก็หยิบโทรศัพท์มากดโน่นกดนี่ ก็ไม่เห็นมีปัญหา(เราว่ามันเป็นวิธีช่วยบรรเทาความง่วงนอนด้วย) บางทีตัวเขาเองยังกดมือถือเลย แต่พอเป็นเรากลับมีปัญหา เขาจะเยอะไปไหน ทั้งที่เราก็กำลังฟังเนื้อหาประชุมอยู่ โอเค เราอาจจะผิด แต่ก็อยากให้เขาคิดบ้างว่าการประชุมแบบนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับงานเรา ไม่ใช่หน้าที่งานเราด้วย คนอื่นที่ตำแหน่งงานเหมือนเราก็ไม่ได้ต้องเข้าประชุมด้วย แต่เราต้องเข้า เพียงเพราะหัวหน้าสั่ง ส่วนเนื้อหาประชุมเราฟังไปก็ไม่เข้าใจ และเราก็ต้องยอมเสียเวลาทำงานของเราเองเพื่อมาช่วยเขา ถ้าเราไม่มาช่วยเขา แล้วใครจะมา อะไรที่เราช่วยได้ก็พยายามช่วย เขาก็ไม่น่าจะเยอะกับเราขนาดนี้ อะไรที่ผ่อนปรนได้บ้างก็น่าจะผ่อนปรน
...........

เรารู้สึกเบื่อพวกคนแบบนี้มาก อายุเยอะกันทั้งคู่ แต่เป็นซะแบบนี้ เราไม่มีนิสัยแบบพวกเขา เราไม่ได้ "เยอะ" กับคนอื่น ไม่ใช่แค่เราที่ไม่ชอบนิสัยพวกเขา รองหัวหน้าอีกคนก็ไม่ค่อยชอบและไม่ค่อยคุยกับพวกเขาเหมือนกัน แต่เราก็ต้องทำเป็นนิ่งๆ แสดงอาการไม่พอใจออกไปก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะโดนเรียกไปปรับทัศนคติ และเราไม่เคยเถียงพวกเขาได้อยู่แล้ว ได้แต่เก็บความอึดอัดไว้เอง จริงๆก็รู้สึกอิจฉาคนที่มีนิสัยแรงๆ ไม่ยอมใคร เวลาโดนใครด่ามาก็สวนกลับโดยไม่สนใจว่าจะเป็นหัวหน้าหรือเปล่า คนแบบนี้จะได้รับความเกรงใจ แต่เรามันใจดีและยอมคนอื่นมากไป จึงต้องเป็นแบบนี้
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่