[SR] [Mr. Coffee รีวิว 7/2561] ขุนพันธ์ 2 (ไม่สปอยล์)

ขุนพันธ์ 2 - ยอมพี่โขมเลย นี่มันจอนวิคผสมกับลองของหรืออย่างไร ถึงออกมาได้ลงตัวเข้าท่าแบบนี้ ชอบครึ่งหลังมากๆ เดาทางไม่ได้จริงๆว่าจะไปทางไหน แม้กระทั่งช่วงใกล้จบ สำหรับผม มันดีกว่าภาคแรกไปเยอะมาก และพร้อมตามดูภาคต่อไปแน่นอน


    สวัสดีครับ เมื่อวานนี้ ผมก็ได้มีโอกาสชมหนังไทยเรื่อง "ขุนพันธ์ 2" ในรอบสื่อมวลชน ขอขอบคุณทางค่ายสหมงคลฟิล์ม มา ณ ที่นี้ด้วยครับ

    "ขุนพันธ์ 2" ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้ว ว่าเป็นหนังภาคต่อ ที่ในภาคแรก "ขุนพันธ์" (อ่านรีวิวได้ที่นี่ครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้) ซึ่งเข้าฉายเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผลงานการกำกับของ โขม - ก้องเกียรติ โขมสิริ ผู้กำกับมากฝีมือ ผลงานก่อนหน้านี้ก็อาทิเช่น "เฉือน" "อันธพาล" ซึ่งได้นำเอาเรื่องราวของบุคคลที่มีจริงในประวัติศาสตร์ไทย พลตำรวจตรี ขุนพันธรักษ์ราชเดช (บุตร พันธรักษ์) มือปราบชื่อดังที่ปราบมาแล้วทุกเสือ เชี่ยวชาญในไสยศาสตร์ เวทมนตร์ ของขลัง อาคม คาถา เป็นตำรวจสายลุยที่เป้นตำนานของวงการตำรวจไทย

      จากตัวอย่าง รอบนี้มาแปลกไปนะครับ ดูจะเล่นประเด็นตำรวจดี ตำรวจเลว โจรดี โจรเลว และตำรวจกลายเป็นโจรได้อย่างน่าสนใจ ความโม้แบบ superhero ไม่ต้องพูดถึง ยังมาเต็มเหมือนเดิม หลายช่วงของตัวอย่าง ทำออกมาได้น่าสนใจ ดูจะมีอะไรมากกว่าภาคแรก แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่า มันจะมีแค่ที่เห็นในตัวอย่างหรอืเปล่า เพราะภาคแรกนั้นเอาตรงๆ ก็ต้องบอกว่า ถึงจะมัน แตก็มั่วหนักอยู่เหมือนกัน ตอนได้ยินว่ามีภาค 2 ยังแอบคิดว่า จะไหวหรือครับพี่

      ช่วงแรก หนังมาในฟอร์มที่ดูค่อนข้างดี แต่มันมาตามหนังตัวอย่างเป๊ะๆเลย ฉากต่อสู้ยังโม้สะบัดเหมือนเดิม แต่ก็สนุก รวมถึง CG ที่ทำออกมาได้ดีไม่ดูพยายามเกินเหมือนในภาคแรก ทำให้ดูลงตัวมากขึ้น การปรากฎตัวของเสือใบและเสื้อฝ้าย ตรงนี้สิ ทำให้หนังดูน่าสนใจขึ้นทันที ประเด็นดราม่าในช่วงแรก ก็ยังดูธรรมดา ไม่มากมาย

      ช่วงกลาง ตรงนี้เริ่มน่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเนื้อเรื่องสร้างความสัมพันธ์ให้มีความหนาแน่นมกขึ้น background ของแต่ละคนก็มีน้ำหนัก มีดราม่าให้เสพได้อย่างต่อเนื่อง และเริ่มทำให้คนดูไม่แน่ใจว่า เราควรเชียร์ใคร ใครดี ใครเลว ในบางช่วงพาไปถึงจุดที่ ทุกคนก็มีเหตุผลที่ดีเป็นของตัวเอง ความถูกต้องของแต่ละคนมันขัดกันด้วยหลักการ แล้วเราจะเชียร์ใครดีล่ะ โดยมีขุนพันธ์ เป็นศูนย์กลาง ทำให้รับรู้ได้ว่าบทของเรื่อง วางโครงมาดีพอสมควร ไม่เบาเหมือนภาคก่อนแล้ว

       ช่วงท้าย เหมือแต่ละปมขมวดเข้ามา อันนี้น่าทึ่งมากครับ เพราะบทช่วงท้ายนี้ไม่ธรรมดา ผมพยายามเดาตามสูตร แต่เดาไม่ถูก หนังหัก หลอก บิด คนดูไปมา ไม่สามารถเดาชะตากรรมได้ว่าใครจะเป็นอย่างไร แถมยังพาไปสู่ช่วงจบที่มีทั้งการเสียดสีระบบสังคม การปกครอง และแน่นอน เสียดสียุคปัจจุบัน ส่วนการต่อสู้ ก็ยิ่งเข้มข้น คาถา อาคม มาเต็ม จนดูเหมือนหนัง Marvel กลายๆได้เลย แต่ละวิชานี่เจ๋งมากๆ แถมยังมี Last Boss ที่เจ๋งทีเดียว เรียกว่าจัดมาได้ครบรสชาติของภาพยนตร์ชั้นดี

        ในด้านการแสดง บทเสือใบที่ เป้-อารักษ์ อมรศุภศิริ เล่นนั้น เป้เล่นได้ดีมาก ทั้งยียวนกวนประสาท ทั้งเศร้า ทั้งเดือด ฉากต่อสู้ก็เยี่ยม สมกับเป็นนักแสดงคู่ใจของพี่โขม อนันดาก็ไม่มีอะไรต้องห่วง ระดับนี้ทั้งดราม่าทั้ง action ครับถ้วน ผู้พันเบิร์ด (พันเอก วันชนะ สวัสดี) ในบทเสือฝ้าย ก็น่าทึ่ง หลุดจากภาพที่เราเคยเห็นในหนังเรื่องก่อนๆออกมาได้พอสมควร นักแสดงท่านอื่นทั้ง ก้อย-รัชวิน วงศ์วิริยะ ในบท บุษรา และ แมกกี้-อาภา ภาวิไล ในบททับทิม ก็ทำหน้าที่ได้ วุฒิ-นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์ ในบท ร้อยตำรวจเอกอัศวิน คนนี้สิน่าสนใจ อยากให้ไปดูในหนัง นักแสดงสมทบท่านอื่นก็ทำหน้าที่ได้ดีกันทุกคนครับ

       สิ่งที่ทำให้ภาคนี้ต่างจากภาคก่อนเป็นอย่างมากคือ การลดฉาก Action ที่งาน CG ทำให้เนียนได้ยากลง และเพิ่มฉากต่อสู่ที่ออกแบบมาได้เจ๋งสุดๆ เข้ามาแทน มันทำให้หนังไม่มีอะไรดูขัดสายตา ทำให้เชื่อในหนังที่ดูได้มากขึ้น และความโม้ที่เคยติดขัดในความรู้สึกภาคแรกเพราะว่าท่านขุนพันธ์เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆในประวัติศาสตร์นั้น ภาค 2 นี้ผมชินซะแล้วกับความโม้ (อ้าว!) เข้าใจถึงความเป็นหนัง superhero ซึ่งเมื่อยอมรับได้ มันก็ดูสนุกขึ้นมากๆ

       แต่เหนืออื่นใดคือบท เพราะเมื่อทำบทมาดี เนื้อเรื่องก็สามารถสร้างเส้นเรื่องและความต่อเนื่องได้ แน่นอนว่ามันไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดไม่มีอะไรติดใจ แต่ก็พอปล่อยผ่านได้ และเมื่อเจาะลึกลงไปถึงประเด็น ตำรวจ โจร ภาครัฐ ชาวบ้าน นักการเมือง มันก็ยิ่งขยี้ได้ชัดเจนว่า สังคมเรา ก็แทบจะไม่ได้เปลี่ยนอะไรไปเลยจากเมื่อก่อน อาชีพไหนเคยเปลี่ยนเป็นอาชีพไหนได้ ปัจจุบันเราก็ยังพบเห็นได้เสมอ เมื่อได้เห็นขุนพันธ์ ต้องเข้าสู่ช่วงการตัดสินใจ เมื่อคนดี คนเลว ไม่ได้ตัดสินด้วยอาชีพเสมอไป อะไรคือสิ่งที่ขุนพันธ์ยึดเหนี่ยวไว้ ตรงนี้คือสิ่งที่สำคัญครับ หนังสื่อออกมาได้เยี่ยมมาก สำหรับผมมันดีกว่าภาคแรกแน่ๆในประเด็นนี้

       สรุป- หนังเรื่องนี้เป็นหนัง action ไทย ที่ดีที่สุดในปีนี้จนถึง ณ ปัจจุบัน มีความครบในทุกด้าน แม้ไม่สมบูรณ์ไปทุกอย่าง แต่มันก็ดีมากๆแล้ว และแน่นอนว่า ดีกว่าภาคแรกแบบคนละชั้น จะให้เปรียบเทียบก็เหมือนตอนดู Terminator ภาคแรกกับภาค 2 หรือจอนวิค ภาคแรกกับภาค 2 นั่นแหล่ะครับ แนะนำสำหรับคอหนัง Action โดยเฉพาะสาย superhero สนุกแน่ๆ แต่ที่ขอเตือนสำหรับท่านที่จะพาเด็กๆเข้าไปดู ภาพหนังค่อนข้างรุนแรงมาก เลือดท่วม ตรงนี้ผู้ปกครองควรพิจารณาด้วยครับ และหากถามว่าจำเป็นต้องดูภาคแรกมาก่อนไหม เอาตรงๆ ดูภาคนี้เลยดีกว่าครับ

ความคาดหวังก่อนชม / หลังชม – คาดหวังกลางๆ / ดีกว่าที่หวังไว้เยอะ

เกรดหนัง – ประทับใจมาก

คะแนนเฉลี่ย  7.75/10

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   ขุนพันธ์ 2
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ

    ข้อมูลเพิ่มเติม

  • ได้ตั๋วหนังรอบสื่อมวลชน เพราะต้องดูก่อนรอบปกติเพื่อเขียนรีวิว ไม่ได้เงินค่าจ้างใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่