Watchdog Thailand แจ้งสมสู่สุนัข คล้ายสมัยพุทธกาลสู่อเวจีมหานรกอย่างไร?

ฉบับที่ ๖๓ วันอังคารที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เรื่อง  Watchdog Thailand แจ้งสมสู่สุนัข คล้ายสมัยพุทธกาลสู่อเวจีมหานรกอย่างไร?      
    
        จากกรณีเพจ WATCHDOG THAILAND เผยแพร่เรื่องราวที่ชายคนหนึ่งไปกระทำชำเราหมาแม่ลูกอ่อน แล้วฉุดหมาหลบหนีไปด้วย ทำให้เจ้าของสุนัขโร่แจ้งความที่ สภ.เพ จ.ระยอง
        ต่อมา ทางตำรวจสามารถจับหนุ่มข่มขืนหมาแม่ลูกอ่อนได้ ที่แท้เป็น รปภ.เจ้าตัวรับเป็นคนรักหมา ปฎิเสธข่มขืน จึงถูกดำเนินคดีเพียงการลักทรัพย์เอาสุนัขไปโดยไม่ขอเจ้าของ  แต่ยังมีพิรุธหลายเรื่องทั้งหลอกว่าเป็นทหารจนคนเชื่อ ชอบโกหก และมีคนเคยเห็นคาตากำลังชำเราสุนัข
        หลายท่านคงตั้งคำถามว่า มีด้วยหรือ? การสมสู่สุนัข ในฐานะผู้เขียนศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงขอนำเสนอข้อคิด 2 เรื่องด้วยกันที่มีในพระไตรปิฎกและอรรถกถา คือ 1. แรงอธิษฐานของคู่รัก หลังจากเกิดใหม่ มีหนึ่งไปเกิดเป็นสัตว์ เมื่อมาพบกันจึงเกิดความรักใคร่ตามสิ่งที่อธิษฐาน เรื่องแรกนี้ต้องระมัดระวัง ส่วนเรื่องที่ 2 คือ การโกหก ว่าไม่ได้สมสู่ แต่หารู้ไม่ว่า ในสมัยพุทธกาล วิบากกรรมนี้ ต้องลงสู่อเวจีแม้ทำบุญมามากก็ตาม มีเรื่องย่อ ดังนี้
        พระนางมัลลิกา มเหสีของพระเจ้าปเสนทิโกศล ไปสมสู่สุนัทในที่สรงน้ำ แต่เผอิญพระองค์เห็น ซึ่งพระนางปฏิเสธ อีกทั้งกล่าวตู่ว่าพระองค์สมสู่กับแพะเช่นกัน จึงทำให้ข้อกล่าวหาเป็นโมฆะไป
        อย่างไรก็ตาม พระนางมัลลิกา แม้สั่งสมบุญ ถวายอทิสทานอย่างมากมาย แต่ภาพการสมสู่และโกหกนั้นติดอยู่ในใจกระทั่งลมหายใจสุดท้าย วิบากกรรมนี้ทำให้ไปเกิดในอเวจีมหานรกถึง 7 วัน
       หลังจากพระราชารับสั่งให้พระราชทานเพลิงพระศพของพระนางแล้ว ก็ทรงครุ่นคิดอยู่เสมอว่า จะทรงกราบทูลถามพระศาสดาถึงสถานที่บังเกิดใหม่ของพระเทวี แต่พระศาสดาได้ทรงบันดาลให้พระราชาทรงลืมถึงเรื่องที่จะทูลถามนั้นทุกครั้งที่ท้าวเธอเสด็จมา เป็นเวลา 7 วัน ที่พระศาสดาทรงกระทำเช่นนี้ ก็เพราะไม่ทรงต้องการทำลายความรู้สึกของพระราชา และไม่ทรงต้องการให้พระราชาสิ้นศรัทธาในพระศาสนา ด้วยเหตุทรงเข้าพระทัยผิดว่า คนที่บำเพ็ญกุศลไว้มากมายอย่างพระนางเทวีไปเกิดในอเวจี
        เมื่อ ครบ 7 วัน พระนางมัลลิกา พ้นจากอเวจี ไปบังเกิดบนสวรรค์ชั้น ดุสิตบุรี และตรัสตอบพระราชา พระราชาทรงสดับแล้วก็ดีพระทัยเป็นอย่างยิ่ง กราบทูลว่า หากคนดีมีศรัทธาในพระศาสนาอย่างพระนางมัลลิกาเทวีไม่ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต คนอื่นใครเล่าจะไปบังเกิดได้จากนั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมท่ามกลางสมาคม ท้ายสุดมีผู้บรรลุธรรมเป็นอริยบุคคลมากมาย มีพระโสดาบันเป็นต้น
       สรุป การทำสิ่งที่น่าอับอายไปแล้ว หากยังโกหก ไม่ยอมรับความจริง ผลของกรรมจะยิ่งทับทวีคูณ แม้จะทำความดีมามากมายก็ตาม ดังนั้น การมีสติยับยั้งช่างใจตลอดเวลา เป็นสิ่งสำคัญ ต้องหมั่นเจริญจิตอยู่เสมอ ถ้าพลาดพลั้งไป ก็อย่าทำกรรมใหม่เพิ่ม ด้วยการโกหก สร้างเรื่อง แต่จงทำความดีให้ยิ่งๆขึ้นไป เป็นสิ่งที่น่าพิจารณา
       ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ

                  B.S.
            21 ส.ค. 2561
      
ตอน  Watchdog Thailand แจ้งสมสู่สุนัข คล้ายสมัยพุทธกาลสู่อเวจีมหานรกอย่างไร? เวลา 14.00-14.20 น. https://youtu.be/uFhNhq6efc0คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่