สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ไม่หรอกครับ
ผมมองว่าชีวิตมันมีความมหัศจรรย์ในแต่ละช่วงวัย
ตอนเด็กๆ เจออะไรใหม่ๆ ก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด ข้อเสียคือ ตอนนั้นใครบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำ อยากจะทำงานมีเงินแล้วทำตามใจตัวเอง
ตอนเรียนมัธยม คล้ายๆ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กไปสู่วัยรุ่น เริ่มรู้จักชีวิตมากขึ้นมาหน่อยนึง ปัญหาช่วงนั้นก็เรื่อง เพื่อน แฟน แล้วก็เตรียมตัวเอ็นทรานซ์
ตอนทำงาน ไม่รู้สิ งานผมมันเหมือนจะซ้ำซาก แต่มันไม่ซ้ำซากนะ มีอะไรที่ต้องคิด ต้องแก้ไขใหม่ๆ ตลอด มันก็เลยไม่น่าเบื่อ และเพราะการทำงานนี่แหละทำให้ได้ไปต่างประเทศบ่อย สำหรับผมคือเบิกเนตรมาก ยิ่งไปหลายประเทศ ยิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเราช่างโลกแคบนัก มีอีกมากมายหลายสิ่งเลยที่ยังไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ ยิ่งทำงานมีเงินแล้วด้วย เวลาไปเมืองนอก หรือเที่ยวเมืองไทยก็ช็อปได้ดั่งใจแล้ว
ตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่วัยกลางคนอ่อนๆ เรื่องที่ต้องเรียนรู้คือ ต้องเริ่มหันมาสนใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น ใส่ใจอาหารการกินมากขึ้น และยังต้องห่วงไปถึงสุขภาพของพ่อแม่ด้วย เพราะพ่อแม่ก็กำลังก้าวเข้าสู่วัยชราไปแล้ว นอกจากนี้เพื่อนๆ ก็แต่งงานมีลูกกันแล้ว ก็ต้องไปเรียนรู้เรื่องจิตวิทยาเด็กมาเล่นมาใช้กับเด็กๆ อีก
รู้สึกเหมือนว่า ทุกช่วงวัยมีเรื่องให้เรียนรู้ตลอดครับ มันเลยไม่น่าเบื่อ อีกอย่างคือ ผมไม่ค่อยอยู่ในเซฟโซน ดังนั้นก็กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาครับ มันก็เลยรู้สึกมหัศจรรย์อยู่เรื่อยๆ นั่นแหละ
ผมเคยดูท้องฟ้าจากมุมเดิม เวลาเดิมทุกวันเป็นเวลา 2 เดือน ผมพบว่าถ่ายรูปอีกมาท้องฟ้าไม่เคยเหมือนกันสักวัน ชีวิตคนเราก็คงไม่ต่างกันครับ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในแต่ละวันตามแต่เหตุและปัจจัย
เดี๋ยวพอเข้าสู่วัยกลางคนตอนปลาย ก็คงจะหาเงินน้อยลง หันหน้าเข้าวัดมากขึ้น แล้วก็จัดแจงตัวเองให้พร้อมสำหรับการเป็นวัยชราที่น่ารัก และเตรียมตัวเตรียมใจเผื่อไว้รอวันตายมากขึ้นครับ
ผมมองว่าชีวิตมันมีความมหัศจรรย์ในแต่ละช่วงวัย
ตอนเด็กๆ เจออะไรใหม่ๆ ก็ตื่นตาตื่นใจไปหมด ข้อเสียคือ ตอนนั้นใครบอกให้ทำอะไรก็ต้องทำ อยากจะทำงานมีเงินแล้วทำตามใจตัวเอง
ตอนเรียนมัธยม คล้ายๆ เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจากวัยเด็กไปสู่วัยรุ่น เริ่มรู้จักชีวิตมากขึ้นมาหน่อยนึง ปัญหาช่วงนั้นก็เรื่อง เพื่อน แฟน แล้วก็เตรียมตัวเอ็นทรานซ์
ตอนทำงาน ไม่รู้สิ งานผมมันเหมือนจะซ้ำซาก แต่มันไม่ซ้ำซากนะ มีอะไรที่ต้องคิด ต้องแก้ไขใหม่ๆ ตลอด มันก็เลยไม่น่าเบื่อ และเพราะการทำงานนี่แหละทำให้ได้ไปต่างประเทศบ่อย สำหรับผมคือเบิกเนตรมาก ยิ่งไปหลายประเทศ ยิ่งรู้ตัวว่าที่ผ่านมาเราช่างโลกแคบนัก มีอีกมากมายหลายสิ่งเลยที่ยังไม่เคยเห็น ไม่เคยรู้ ยิ่งทำงานมีเงินแล้วด้วย เวลาไปเมืองนอก หรือเที่ยวเมืองไทยก็ช็อปได้ดั่งใจแล้ว
ตอนนี้กำลังก้าวเข้าสู่วัยกลางคนอ่อนๆ เรื่องที่ต้องเรียนรู้คือ ต้องเริ่มหันมาสนใจสุขภาพตัวเองมากขึ้น ใส่ใจอาหารการกินมากขึ้น และยังต้องห่วงไปถึงสุขภาพของพ่อแม่ด้วย เพราะพ่อแม่ก็กำลังก้าวเข้าสู่วัยชราไปแล้ว นอกจากนี้เพื่อนๆ ก็แต่งงานมีลูกกันแล้ว ก็ต้องไปเรียนรู้เรื่องจิตวิทยาเด็กมาเล่นมาใช้กับเด็กๆ อีก
รู้สึกเหมือนว่า ทุกช่วงวัยมีเรื่องให้เรียนรู้ตลอดครับ มันเลยไม่น่าเบื่อ อีกอย่างคือ ผมไม่ค่อยอยู่ในเซฟโซน ดังนั้นก็กล้าที่จะลองอะไรใหม่ๆ เรียนรู้อะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาครับ มันก็เลยรู้สึกมหัศจรรย์อยู่เรื่อยๆ นั่นแหละ
ผมเคยดูท้องฟ้าจากมุมเดิม เวลาเดิมทุกวันเป็นเวลา 2 เดือน ผมพบว่าถ่ายรูปอีกมาท้องฟ้าไม่เคยเหมือนกันสักวัน ชีวิตคนเราก็คงไม่ต่างกันครับ เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ในแต่ละวันตามแต่เหตุและปัจจัย
เดี๋ยวพอเข้าสู่วัยกลางคนตอนปลาย ก็คงจะหาเงินน้อยลง หันหน้าเข้าวัดมากขึ้น แล้วก็จัดแจงตัวเองให้พร้อมสำหรับการเป็นวัยชราที่น่ารัก และเตรียมตัวเตรียมใจเผื่อไว้รอวันตายมากขึ้นครับ
แสดงความคิดเห็น
เคยคิดเหมือนกันไหมโตเป็นผู้ใหญ่วัยทำงาน ชีวิตก็ไม่ได้มหัศจรรย์เหมือนคิดตอนเด็ก และก็ไม่ได้โหดร้ายมากเหมือนคิดตอนวัยรุ่น
โตมาแล้วโลกมันก็ไม่ได้มหัศจรรย์อะไรขนาดนั้น
ตอนเป็นวัยรุ่น โลกก็ดูมีแต่การแข่งขัน แข่งทั้งการเรียน กีฬา ดนตรี การเป็นคนปอปปูลาร์ มีคนมาสนใจเยอะๆ ความรัก หน้าตา การแต่งตัว มันแข่งขันไปหมดทุกด้าน เพื่อนก็แบ่งกลุ่มกันไป อันนี้เพื่อนกลุ่มเรียน อันนี้เพื่อนกลุ่มเตะบอล อันนี้เพื่อนกลุ่มเที่ยวเล่นไม่ค่อยตั้งใจเรียน จากประถมเป็นเด็กๆโตมานิดเดียวอยู่มัธยมทำไมมันช่างต่างกันจริง
แต่พอโตมาแล้วมันก็ไม่ได้น่ากลัวแบบที่เคยคิดฝันไว้
ชีวิตการทำงานเป็นเรื่องที่แต่ละวันทำกันซ้ำๆ แม้ตอนไปเที่ยวยังไปเที่ยวซ้ำๆที่กับคนอื่นเลย พอทุกอย่างมันลงตัวก็แค่ทำตามแบบแผน สนใจกับการหาเงิน โลกมันไม่ได้มหัศจรรย์และโลกมันก็ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้น จริงๆแล้วค่อนไปทางน่าเบื่อมากกว่า
ก็อย่างที่บอกมันไม่มีหรอกมายากล มีแต่ทริก กลวิธีที่เรายังไม่รู้เท่านั้น ถ้ารู้แล้วมายากลมันก็ไม่ได้ตื่นเต้นอีกต่อไป