[CR] กาลครั้งหนึ่งเมื่อชั้นลองวิ่งเทรล - Marathon du Montblanc

สวัสดีฮะ
   คือ อยากจะมาเล่าประสบการณ์การวิ่งเทรลครั้งแรกของเราให้ฟัง เล่าแบลกกราวก่อนละกัน เราเริ่มวิ่งงานครั้งแรก คืองานเขาค้อ ปี 2017 ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เคยวิ่งจริงจังเลย มีออกกำลังกายบ้าง เล็กๆ น้อยๆ แต่ว่าด้วยความชอบเที่ยว เพื่อนๆ ไปกัน ก็เอาวะ ไปด้วย แล้วหลังจากนั้นเราก็ลงงานวิ่งมาเรื่อยๆ โดยมีคุณสา ขับรถไปส่ง ไปคอยถ่ายรูปให้ จนเราแอบเป็นแรงบันดานโทสะ เอ๊ย บันดานใจ ให้เค้าลุกขึ้นมาวิ่งบ้าง แต่เค้าเป็นคนไม่ชอบวิ่งถนน ชอบวิ่งเทรลฮะ เวลามีงานวิ่งเทรล เราก็ไปนะ จากนั่งรอเฉยๆ ก็เบื่อเลยลงฟันรัน ขำๆ งานตะนาวศรี แต่ขำไม่ออกฮะ เหนื่อยชะมัด เราเลยตั้งใจว่า เราจะไม่วิ่งเทรลแน่นอน จนเมื่อปีที่แล้วคุณสา บอกว่า มีงานวิ่งที่มองบลัง สนมะ ชื่อ Marathon do Mont Blanc วิ่งที่เมือง Chamonix ซึ่งเราเคยไปแล้ว ชอบมาก เป็นเมืองที่เหนยอดมองบลังได้ทั้งเมือง แล้วเราก็เข้าใจเอาเองว่า เป็นงานวิ่งถนน (แบบดินลูกรัง ไรแบบนี้) แถมค่าสมัครก็แสนถูก 10 กม. แค่ 20 Euro แถมไม่กำหนดคุณสมบัติใดๆ บอกสา สมัครโลด โดยงานจะวิ่งวันที่ 28 Jun 2018 มีเวลาซ้อม แต่คุณขาาาาา อิชั้นไม่ได้ซ้อมไรเลย ยังคงขี้เกียจ บวกกับป่วยมากสลับป่วยน้อย ทำให้แค่วิ่งถนนยังไม่ได้วิ่งเลยฮะ แถมตอนใกล้ๆ ถึงจะรู้ว่ามันวิ่งเข้าป่าาาาาา แม่อยากจะร้องไห้ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ จองทุกอย่างไว้หมดแล้ว ต้องลุยฮะ
   ตอนสมัคร เราก็พยายามส่องว่ามีคนไทยสมัครมั้ย ตอนแรกๆ มีแค่เรา 2 คน แต่วันใกล้ๆ จะวิ่งพบคนไทยอีกคน ซึ่งเราพยายามมองหาวันแข่ง แต่เราก็หาไม่เจอฮะ
   วันรับบิบ
    นี่เป็นงานวิ่งเมืองนอกครั้งแรกของเรา ตอนไปรับบิบก็ตื่นเต้นนิดหน่อย เค้าบอกให้เอาพาสปอร์ต และแมงดาทะเลเกียร เอ๊ย แมนดาทอรี่เกียรมาโชว์ ในแต่ละระยะจะมีอุปกรณ์บังคับไม่เหมือนกันฮะ แต่สำหรับ 10 โล แค่มีใจก็พอฮะ จริงๆ แต่ละระยะจะมีอุปกรณ์บังคับ และอุปกรณ์แนะนำ แต่เราจะไม่เอาไปก็ได้สำหรับอุปกรณ์แนะนำ อุปกรณ์แนะนำสำหรับเราชาว 10 โล เช่น อุปกรณ์ใส่น้ำ เนื่องจากไม่มีจุดให้น้ำฮะ ย้ำ ไม่มีจุดให้น้ำ ราคาก็ถูกอย่ามาเยอะ (อันนี้เราด่าตัวเอง) แว่นกันแดด (เพราะปล่อยตัวตอนบ่ายโมงฮะ แดดแรงมาก ถ้าไม่มีแว่นนี่หลับตาวิ่งเหอะ) เสื้อกันฝน เพื่อฝนตกอะไรก็เกิดขึ้นได้ มาต่อๆ มารับบิบต่อ พอถึงหน้าเต๊นจะมีคนตรวจพาสปอร์ตเรา ไล่เราเข้าเต๊น มีคนเข้าแถวอยู่ พอถึงคิวเราก็เอา email ยืนยันให้เค้าไป เค้าก็จะให้ถุงอุปกรณ์เรามา ตรวจดูความถูกต้อง เป็นอันเสร็จพิธี รับบิบเสร็จก็ต้องมาถ่ายรูปกะพี่ Kilian ซะหน่อย
    รับบิบเสร็จก็ช้อปซิคะ รออะไร แต่จริงๆ เต๊นขายของจะดักตั้งแต่ทางเข้าเดินเปนงูเลื้อยเข้ามา จุดรับบิบอยู่ด้านในสุด แต่อิชั้นตอนขาเข้าไม่สนไรทั้งสิ้นจะมารับบิบอย่างเดียว ตอนออกค่อยๆ ส่องไป ว่ามีไรน่าสนใจ ของที่มาขาย เช่น Solomon, Hoka, Adidas, Julbo, Fitletic, Black diamond และอื่นๆ อีกมากมาย อันนี้คล้ายงานบ้านเราแต่แค่ไม่มีของก๊อปนาจา แต่สรุปไม่ได้สอยอะไร แต่ดันมาสอยตอนวิ่งเสร็จแล้ว คือไร เดี๋ยวค่อยมาเม้า แปะไว้ก่อน




    วันวิ่ง
     มาถึงวันวิ่งเลยเนอะ เราวิ่งวันที่ 28 มิย. ตอนบ่ายโมงฮะ แดดร้อนมาก แล้วที่พีคคือ ตอน 10 โมงเช้าเราพบว่า แว่นโอ๊คลี่ สุดบอบบางของพี่สลายร่าง แยกออกจากกันอย่างกู่ไม่กลับ ตายฮะ งานเข้า เราเลยตัดสินใจวิ่งไปร้าน Decathlon สอยแว่นมา 1 อัน ใช้แก้ขัด พีคที่ 2 คือ จากที่พักเดินไปจุดปล่อยตัว 1 กม. ฮะ โคตรตัดกำลังอะ เราพกกระเป๋าคาดเอวของ fitletic ไปแบบ 2 ขวดเล็ก คิดเอาเองว่าน่าจะพอ แว่น หมวก ผ้าบัฟ พร้อมฮะ
    ตอนสมัครเค้าจะถามระยะเวลาที่เราคาดว่าจะวิ่งจบ เพื่อเอาเราไปจัดเข้าบล็อกปล่อยตัว วิ่งเร็งแบบพี่ บล็อก D สิฮะ บล็อกสุดท้าย โดนเค้าจะปล่อยแต่ละบล็กห่างกันประมาณ 5 นาที แต่เอาเข้าจริงๆ เกือบครึ่งชมนะ กว่าเราจะได้ออกไป ช่วงกิโลแรก วิ่งเข้าป่า เป็นเนิน (เราเริ่ม) ซึมๆ ฝุ่นเยอะมาก โชคดีที่เอาบัฟไปปิดปากปิดจมูกได้ หายใจเริ่มยาก เพราะแพ้ฝุ่น พอกิโลที่ 3 มั้ง เริ่มขึ้นเขา แล้วก็ขึ้นเขา ขึ้นๆๆๆ ขึ้นไปเรื่อย เราเหนื่อยมาก ร้อนมาก กินน้ำจนหมด ยังไม่ได้ 70% ของระยะทั้งหมดเลย อยากจะร้องไห้ละ สาก็คอยตามถ่ายรูปให้ แต่เราไม่ไหวละ ไม่คุย ไม่พูดไม่จา มีหยุดพักด้วย





หลังจากขึ้นเขากันมายาวๆ ก็ได้เวลาออกจากป่าฮะ อ๋อ ลืมบอก ป้ายบอกทางของพี่เค้าคือ ยูต้องสังเกตุริ้บบิ้นที่ผูกไว้ตามต้นไม้ บางทีก็พ่นลูกศรตามก้อนหิน บางครั้งก็จะงงๆ ทิศนิดหน่อย ดีที่พี่ฉลาด ฮ่าๆๆๆๆ อย่าบอกให้ตามคนข้างหน้าสิง่ายๆ คนข้างหน้าหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ มารูทีหลัง คือ เค้าเข้าเส้นชัยไปหมดแล้วยัยเต่า!!!



ตลอดการวิ่ง 10 โล จะมีเจ้าหน้าที่มายืนให้กำลังใจเป็นระยะๆ สักประมาณ 4-5 จุด มาคอยเชียรให้เราวิ่งสิเอ๋วิ่ง บางคนเห็นหน้าเราทัก หนีห่าว เดี๋ยวนะ ดูเสื้อตรูนิสนุง ชื่อปท หราอยู่ ส่วนตากล้องนั้น 1 ถ้วน นั่งซ้ายขวา 2 คนถ้วนเช่นกัน แถมจะวิ่งวนให้เค้าถ่ายหลายรอบแบบพี่ไทยใจดี ไม่มีนะฮะ แต่ช่างมัน ค่ารูปโคตรแพง เซ็ตนึง 4 ใบ 35 Euro (ถ้าจำไม่ผิด แพงจัด ลบทิ้งไปแล้ว) และแล้วในที่สุด เราก็เข้าเส้นชัยฮะ

หลังจากวิ่งจบ คิดว่า จะไม่วิ่งอีกแล้วเทรล เข็ดฮะ ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่มีรีวิวเทรลหน้าให้เพื่อนๆ ได้ชมเนอะ
ยังๆ ยังไม่จบ วิ่งเสร็จต้องหาของกินตามธรรมเนียมพี่ไทย เดินไปที่เต๊น โอ๊ววว คนน้อย ดีจัง แหงมสิ เค้าไปกันหมดแล้วยัยเต่า มาต่อๆ อยากรู้ละสิของกินมีไร มีชอกโกแลตบาร์ที่หักๆ ไว้ แตงโม น้ำเปล่า น้ำสปาร์กกิ้ง โค้กไม่เย็น จบฮะ เราเลยกินโค้ก แตงโม น้ำเปล่า แล้วกลับบ้าน ขากลับเดินผ่านงานแฟร์ต่อ เลยถอยแว่น Julbo สำหรับวิ่งเทรลมา 1 อัน คือไร สาก็งง มะกี้โวยวายฟูมฟายว่าไม่วิ่งเทรล ถอยทำไม ก็ของมันต้องมีเนอะ วิ่งไม่วิ่งไม่รู้อะ แต่ก็งงตัวเองทำไมไม่ถอยก่อนวิ่ง ไร้สาระเนอะ
   แต่เราอยากแนะนำงานวิ่งนี้ ไว้ในอ้อมใจของเพื่อนๆ ที่ชอบวิ่งเทรลนะ แม้จะไม่ใช่งานใหญ่แบบ UTMB แต่ความงามของเมือง Chamonix ความสวยของยอดเขามองบลัง เหมือนกันเลยนะ นี่เราก็ว่าจะยุให้สาไปวิ่งมาราธอนที่งานนี้ปีหน้า เราจะกลับไปยืนเชียรตรงจุดเข้าเส้นชัย มันคงจะเป็นภาพที่สวยงามนะ

บรรยากาศก่อนปล่อยตัวนักวิ่งมาราธอน วันที่ 29 มิย 2018 คึกคักมากฮะ

ขอจบด้วยภาพมองบลังเนอะ
ชื่อสินค้า:   Marathon du Mont Blanc
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่