มีใครเคยรู้สึกมั้ยว่า ตัวเองทำงานมากกว่าเงินเดือนที่ได้มา
เพื่อนเราทำงานแม่บ้านโรงแรม แล้วเพื่อนเราทราบราคาห้องพักจากแผนกฟร้อน เห็นว่าราคายิ่งอยู่ยิ่งลดราคา คือลดแบบผิดปกติ ลดจนถูกกว่าราคาห้องเกรด superior แล้วอ้ะ ลดเกินความเป็นจริง แต่แขกมีทุกวัน ทำห้องเหนื่อยมาก วันนึงห้องมีเกือบเต็มทั้งโรงแรมตลอด เราไม่เข้าใจนะจะขายราคาถูกแบบนั้นทำไม บางทีเห็นว่าพวกเซลลดมากไป หรือยังไง?? หรือเป็นกลยุตอะไรยังงั้นหรอ?? เราเองยังเห็นว่ามันขายแบบราคาถูกแต่ค่าซักผ้า ค่าน้ำไฟโรงแรมมันยังต้องใช้เหมือนทุกครั้งตามการใช้งาน
แต่ทีราคารถแท็กซีกับขายทัวร์กลับพุ่งกระฉูดจนแขกไม่เอา แขกคอมเพลนกับราคาที่สูง ยอดขายน้อยลง
เช่น ราคาแท็กซีไปสนามบิน 1000฿ / ไปสถานที่ๆไม่ไกลเมืองรวมรถติดไฟแดงประมาณ 10-15นาที ก็เริ่มต้นที่ 500฿ แล้ว
แต่เพื่อนเราเองมีความรู้สึกงานหนักขึ้นทุกวัน งานเพิ่มขึ้นทุกวัน เงินเดือนก็น้อย ค่าแรงจูงใจไม่มี คือเราก็เข้าใจความรู้สึกเค้านะคะว่าเค้าเหนื่อยแรงกายมาก แต่พวกเราทำอะไรไม่ได้
เพื่อนๆเคยเป็นมั้ยคะ รู้สึกโดนทำงานมากกว่าความคุ้มค่าเงินเดือน
มีใครเคยรู้สึกมั้ยว่า ตัวเองทำงานมากกว่าเงินเดือนที่ได้มา
เพื่อนเราทำงานแม่บ้านโรงแรม แล้วเพื่อนเราทราบราคาห้องพักจากแผนกฟร้อน เห็นว่าราคายิ่งอยู่ยิ่งลดราคา คือลดแบบผิดปกติ ลดจนถูกกว่าราคาห้องเกรด superior แล้วอ้ะ ลดเกินความเป็นจริง แต่แขกมีทุกวัน ทำห้องเหนื่อยมาก วันนึงห้องมีเกือบเต็มทั้งโรงแรมตลอด เราไม่เข้าใจนะจะขายราคาถูกแบบนั้นทำไม บางทีเห็นว่าพวกเซลลดมากไป หรือยังไง?? หรือเป็นกลยุตอะไรยังงั้นหรอ?? เราเองยังเห็นว่ามันขายแบบราคาถูกแต่ค่าซักผ้า ค่าน้ำไฟโรงแรมมันยังต้องใช้เหมือนทุกครั้งตามการใช้งาน
แต่ทีราคารถแท็กซีกับขายทัวร์กลับพุ่งกระฉูดจนแขกไม่เอา แขกคอมเพลนกับราคาที่สูง ยอดขายน้อยลง
เช่น ราคาแท็กซีไปสนามบิน 1000฿ / ไปสถานที่ๆไม่ไกลเมืองรวมรถติดไฟแดงประมาณ 10-15นาที ก็เริ่มต้นที่ 500฿ แล้ว
แต่เพื่อนเราเองมีความรู้สึกงานหนักขึ้นทุกวัน งานเพิ่มขึ้นทุกวัน เงินเดือนก็น้อย ค่าแรงจูงใจไม่มี คือเราก็เข้าใจความรู้สึกเค้านะคะว่าเค้าเหนื่อยแรงกายมาก แต่พวกเราทำอะไรไม่ได้
เพื่อนๆเคยเป็นมั้ยคะ รู้สึกโดนทำงานมากกว่าความคุ้มค่าเงินเดือน