ตอนนี้ผมทำงานมาหลายปีแล้วครับ เจอเด็กทั้งสองฝั่งมาหลายรุ่นมาก พบว่าการทนความกดดันที่สามารถทนได้ต่างกันชัดเจน ฝั่งวิศวะหัวจะไวกว่าเยอะ ฝั่งวทอ.เจอมาเหมือนไม่ได้มาจากมหาลัยเดียวกันเลย ก็ทราบมาว่าการเรียนวิชาภาคตัดเกรดแยกกัน วทอเรียนแมคคานิก ส่วนวิศวะเรียนสเเตติก เทอโมก็แยกกัน ยกเว้นวิชาฟิสิกส์ เคมี และเเมทที่เรียนรวมกันนอกนั้นจะแยกกันตัดเกรดหมด ละทราบมาอีกว่าวิชาภาคส่วนมากจะปล่อยเกรดมาก เด็กที่ไม่ผ่านแมทสามารถไปเรียนวิชาภาคที่ใช้เเมทได้...เช่นสเต้งหรือฟูอิด แล้วก็ผ่านเพราะคะแนนเก็บ เกรดได้ง่ายกว่าฝั่งวิศวะมากในวิชาภาค มีปีสี่ปีห้าที่ทำโปรเจคเสร็จแล้วแต่ไม่ผ่านฟิสิกส์ เคมี แมท????? กลับกันวิศวะจะเก็บเกรดกันที่วิชาพื้นฐานแล้วไปโดนกดเกรดตอนขึ้นวิชาภาค พอมาทำงานพบเลยว่าความคิด ตรรกะะจะต่างกันมาก ด้วยความห่วงใยจากลูกหม้อ มจพ.คนนึงที่อยู่มา7ปี ตั้งแต่เตรียมวิศวะ รวมกันเถอะครับ แล้วตัดเกรดรวมกัน เรียนวิชาเดียวกันให้เกิดคความแอคทีฟหน่อย ตัดเกรดฮีท ฟลูอิด สเต้งรวมกันเลยครับไม่ไหวก็รีไทล์ แต่ก็รู้ว่าคณะวิศวะวิชาเดียวกันแต่ละภาคเเยกกันสอน อันนี้ก็อยากให้สอนรวมกันเหมือนกันเป็นรหัสวิชาเดียวกันเลย ถ้าวทอ.กับวิศวะรวมกันได้ผมว่ามจพ.เราจะไปได้ไกลกว่านี้ แต่ถ้าจะบอกว่า วทอ.จบไปมีงานทำกันทุกคน ก็จริงแหละครับ ก็ได้ชื่อเสียงเก่าๆแต่ตอนนี้ยุคนี้ที่อื่นเขาก็พัฒนากันขึ้นมากมายจนเเซงมจพ.หมดแล้วหรือบางที่แซงอยู่แล้วก็ยิ่งนำห่าง ม.สุรนารี มหาลัยน้องไปก็ทิ้งไปแบบไม่เห็นฝุ่นจะมายึดชื่อเสียงสมัยไทย-เยอรมันที่เน้นปฏิบัติไม่ได้หรอกครับ เพราะส่วนมากทำงานจริงๆวิศวกรไม่ได้ลงไปทำเองหรอกครับเขามีแยกแผนกให้ว่าแผนกนี้มีช่างที่ต้องทำงานปฏิบัติ วิศวะก็เรียนทฤษฏีแล้วนะนำเท่านั้นเอง ด้วยความเป็นห่วงสถาบันที่ผมผูกพันครับเป็นความคิดเห็นเสียงนึงนะครับ หวังว่าถ้าผู้ใหญ่เห็นจะนำไปพิจารณา ขอบคุณครับ
ทำไมพระจอมเกล้าพระนครเหนือไม่รวม วทอ.กับคณะวิศวะเข้าด้วยกัน เจอที่ทำงานคุณภาพสองฝั่งต่างกันมากกกกกก