การเมืองภายในระหว่างคณะ เป็นปัญหาที่ฝังลึกกันมานานพอสมควรแล้วครับ

แต่ละคณะต่างเปิดสาขาทับซ้อนกัน และใช้ทรัพยากรณ์แยกกัน ยกตัวอย่าง
วิศวะ อาจารย์ดีกรีสูงๆเยอะมากมาย วิชาคำนวนแน่น แต่แลปโคตรกาก!!  บางวิชาที่ต้องมีแลป ได้เรียนแค่อยู่บนกระดาษ
วอท แลปเจ๋งมาก!! เครื่องมือครบ เหมาะกับสายงานผู้เชี่ยวชาญเฉพาะที่ต้องเน้นประสบการณ์ การวิเคราห์แก้ปัญหาต่างๆ ซึ่งต่างจากสายงานคำนวนที่เน้นการออกแบบ

ผมเรียนที่นี่มาตั้งแต่ เตรียมวิศวะ(ปวช.) และเพื่อนในกลุ่มส่วนหนึ่งก็เรียนที่นี่ ดังนั้นจึงมีข้อมูลที่ได้จากทั้งสองคณะ

เคยนั่งถกปัญหานี้กับอาจารย์ที่ปรึกษาผม(วิศวะ) ว่าทำไม มหาลัยเดียวกันถึงไม่แชร์ทรัพยากรณ์ที่มีอยู่แก่คณะอื่นๆบ้าง
เพราะหลายๆวิชา เรียนในวิศวะไม่ได้เรื่อง เพราะขาดแคลนซึ่งอุปกรณ์ แลปที่มีก็แสนจะเก่า เครื่องมือไม่ค่อยได้เรื่อง
ถ้าไปใช้ของทาง วทอ. หรือครุศาสตร์ ได้ จะเป็นประโยชน์มากกว่านี้เยอะเลย

ส่วนเรื่องเปิดคณะซ้ำซ้อน นี่ผมได้มีโอกาศไปนั่งเรียนวิชาเลือก ที่วทอ.และได้เสวนากับพวกเขา
ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาว่า ส่วนมากจะติดปัญหาเรื่องวิชาสายคำนวนที่ ไม่ผ่านกันเป็นประจำ
และยังมีวิชาที่ต้องถูกบังคับเรียน ซึ่งมันไม่เข้าท่าจริงๆ
บางตัว เรียนในควรเรียน2เทอม แต่ตัดออกเหลือ1เทอม เพราะแค่ต้องการชื่อ ในรายวิชาขอ กว.แค่นั้น

ในปัจจุบัน ผมมองว่า วิศวะเต็มตลาดไปหมด แต่สายเทคโนโลยี ที่เน้นความเป็นผู้เชียวชาญเฉพาะสาขา ซึ่งภาคอุตสหกรรมมีความต้องการสูงมากๆ
กลับถูกลดบทบาทลง ซึ่งก็เกิดจากนโยบายของคณะที่มุ่งแต่จะให้ได้ วิศวะ เพื่อเอาใบ กว. หรือเพื่ออัพฐานเงินเดือนเพราะจบปริญญาตรี(มีเรียนอัพวุฒ เพราะต้องการ15,000กันเต็มไปหมด)

ในตลาดงาน มีงานอีกจำนวนมากที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ ซึ่งรายได้ดีกว่าวิศวะจบใหม่เยอะแยะ
ยกตัวอย่างที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน นี่สายเทคนิคเงินเดือนทะลุแสนกันสบายๆ