ตลาดนิชิคิซึ่งได้ชื่อว่า “โรงครัวแห่งเกียวโต” กำลังประสบปัญหานักท่องเที่ยวแห่กันมาเที่ยวจนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของผู้คนท้องถิ่น
ตลาดนิชิคิแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 400 ปี ทางด้านทิศเหนือของถนนชิโจว ถนนสายแคบๆยาว390 เมตร มีร้านกว่า 130 ร้านค้า ซึ่งส่วนมากขายของสดต่างๆ เช่น ร้านขายผัก ร้านขายปลาสด รวมถึงกับข้าวต่างๆ ซึ่งคนท้องถิ่นจะมาจับจ่ายซื้อของกันทุกวัน แต่ตอนนี้ตลาดแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว มองไปทางไหนก็มีแต่นักท่องเที่ยว ทำให้พื้นที่ทางเดินที่แคบอยู่แล้ว แน่นจนแทบไม่มีทางเดิน หน้าร้านขายปลาสดนักท่องเที่ยวก็มายืนถ่ายวิดีโอกันหน้าสลอน นักท่องเที่ยวเหล่านี้มีทั้งชาวอิตาลี แมคซิโก มาจากบาเซโลน่าก็มี ในมือของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ล้วนถือ “คุชิยากิ” (อาหารแบบเสียบไม้ปิ้งย่าง) วัตถุประสงค์หลักอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอยากมารับประทานหมึกแดงเสียบไม้ย่างสนนราคาไม้ละ 300เยน (ราว 100 บาท) อย่างหนึ่งที่คนญี่ปุ่นไม่ชอบเลยก็คือ “การเดินไปกินไป” ดูเป็นการเสียมารยาท และที่สำคัญ นักท่องเที่ยวยังทิ้งไม้เกลื่อนพื้น
สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือวิถีชีวิต ร้านขายปลาสดบางร้านมีประวัติเก่าแก่กว่า 100 ปีก็เปลี่ยนมาขายปิ้งย่างแบบเสียบไม้ ทำให้ตลาดเต็มไปด้วยร้าน “คุชิยากิ” มากมายหลายเจ้า ทั้งนี้เนื่องจากคนท้องถิ่นลดลง ร้านขายปลาสดก็ขายได้น้อยลง หลายร้านจึงต้องปรับตัวมาขาย “คุชิยากิ” แทน แม้บางร้านจะไม่ยอมตามกระแส แต่ก็น่าเป็นห่วงว่าพวกเขาจะอยู่ได้นานแค่ไหน “โรงครัวแห่งเกียวโต” แห่งนี้กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลง จะเลือกรักษาวิถี หรือจะเอาใจนักท่องเที่ยวจนยอมเสียตัวตนที่มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปีกัน
ในฐานะคนเมืองท่องเที่ยวเข้าใจความรู้สึกคนเกียวโตนะคะ ลำพังเราจะกินไม่พอ ยังมีนักท่องเที่ยวแห่ทะลักมาช่วยกินอีก เชียงใหม่ทุกวันนี้รถติดมหาศาล ไปไหนก็มีแต่คน
ที่มา-
https://www.facebook.com/tbsnews/videos/1927660010634746/
แปลโดย Cheewachon Piyason
เพิ่มเติมประวัติความเป็นมาของตลาดนิชิคิ จากเวปของตลาด
เหตุผลหนึ่งในการเปิดตลาดนิชิคินั้นมีความสัมพันธ์อย่างมากกับแหล่งน้ำใต้ดิน ตลาดนิชิคิในอดีตใช้บ่อจากน้ำใต้ดินแทนตู้เย็นในการช่วยเก็บรักษาของสด ในปัจจุบันเรามีตู้เย็นเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าประจำบ้านกันแทบทุกบ้านช่วยอำนวยความสะดวก แต่ในอดีตบ่อน้ำเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก วิธีการรักษาของสดด้วยความเย็นนั้นจะมีก็แต่ใช้น้ำจากบ่อใต้ดินเพียงเดียว ในปีค.ศ.1615 สมัยเอโดะ ตลาดแห่งนี้ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลทหารโชกุน(บาคุฟุ)ในการขายส่งปลา ตลาดแห่งนี้จึงรุ่งเรืองขึ้นในนามตลาดปลาและจากการกำหนดเขตตลาดการค้ากลางแห่งเกียวโตที่สร้างขึ้นในปีโชวะที่ 2 ( ปี ค.ศ. 1927) ทำให้ตลาดนิชิคิได้เปลี่ยนมาเป็นดังที่เห็นในปัจจุบัน
"โรงครัวแห่งเกียวโต" กับปัญหาที่ตามมาจากนักท่องเที่ยวที่ล้นทะลัก
ตลาดนิชิคิแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 400 ปี ทางด้านทิศเหนือของถนนชิโจว ถนนสายแคบๆยาว390 เมตร มีร้านกว่า 130 ร้านค้า ซึ่งส่วนมากขายของสดต่างๆ เช่น ร้านขายผัก ร้านขายปลาสด รวมถึงกับข้าวต่างๆ ซึ่งคนท้องถิ่นจะมาจับจ่ายซื้อของกันทุกวัน แต่ตอนนี้ตลาดแห่งนี้เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวไปแล้ว มองไปทางไหนก็มีแต่นักท่องเที่ยว ทำให้พื้นที่ทางเดินที่แคบอยู่แล้ว แน่นจนแทบไม่มีทางเดิน หน้าร้านขายปลาสดนักท่องเที่ยวก็มายืนถ่ายวิดีโอกันหน้าสลอน นักท่องเที่ยวเหล่านี้มีทั้งชาวอิตาลี แมคซิโก มาจากบาเซโลน่าก็มี ในมือของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ล้วนถือ “คุชิยากิ” (อาหารแบบเสียบไม้ปิ้งย่าง) วัตถุประสงค์หลักอย่างหนึ่งที่นักท่องเที่ยวอยากมารับประทานหมึกแดงเสียบไม้ย่างสนนราคาไม้ละ 300เยน (ราว 100 บาท) อย่างหนึ่งที่คนญี่ปุ่นไม่ชอบเลยก็คือ “การเดินไปกินไป” ดูเป็นการเสียมารยาท และที่สำคัญ นักท่องเที่ยวยังทิ้งไม้เกลื่อนพื้น
สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงไปคือวิถีชีวิต ร้านขายปลาสดบางร้านมีประวัติเก่าแก่กว่า 100 ปีก็เปลี่ยนมาขายปิ้งย่างแบบเสียบไม้ ทำให้ตลาดเต็มไปด้วยร้าน “คุชิยากิ” มากมายหลายเจ้า ทั้งนี้เนื่องจากคนท้องถิ่นลดลง ร้านขายปลาสดก็ขายได้น้อยลง หลายร้านจึงต้องปรับตัวมาขาย “คุชิยากิ” แทน แม้บางร้านจะไม่ยอมตามกระแส แต่ก็น่าเป็นห่วงว่าพวกเขาจะอยู่ได้นานแค่ไหน “โรงครัวแห่งเกียวโต” แห่งนี้กำลังเผชิญการเปลี่ยนแปลง จะเลือกรักษาวิถี หรือจะเอาใจนักท่องเที่ยวจนยอมเสียตัวตนที่มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปีกัน
ในฐานะคนเมืองท่องเที่ยวเข้าใจความรู้สึกคนเกียวโตนะคะ ลำพังเราจะกินไม่พอ ยังมีนักท่องเที่ยวแห่ทะลักมาช่วยกินอีก เชียงใหม่ทุกวันนี้รถติดมหาศาล ไปไหนก็มีแต่คน
ที่มา-https://www.facebook.com/tbsnews/videos/1927660010634746/
แปลโดย Cheewachon Piyason
เพิ่มเติมประวัติความเป็นมาของตลาดนิชิคิ จากเวปของตลาด
เหตุผลหนึ่งในการเปิดตลาดนิชิคินั้นมีความสัมพันธ์อย่างมากกับแหล่งน้ำใต้ดิน ตลาดนิชิคิในอดีตใช้บ่อจากน้ำใต้ดินแทนตู้เย็นในการช่วยเก็บรักษาของสด ในปัจจุบันเรามีตู้เย็นเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าประจำบ้านกันแทบทุกบ้านช่วยอำนวยความสะดวก แต่ในอดีตบ่อน้ำเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก วิธีการรักษาของสดด้วยความเย็นนั้นจะมีก็แต่ใช้น้ำจากบ่อใต้ดินเพียงเดียว ในปีค.ศ.1615 สมัยเอโดะ ตลาดแห่งนี้ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลทหารโชกุน(บาคุฟุ)ในการขายส่งปลา ตลาดแห่งนี้จึงรุ่งเรืองขึ้นในนามตลาดปลาและจากการกำหนดเขตตลาดการค้ากลางแห่งเกียวโตที่สร้างขึ้นในปีโชวะที่ 2 ( ปี ค.ศ. 1927) ทำให้ตลาดนิชิคิได้เปลี่ยนมาเป็นดังที่เห็นในปัจจุบัน