ช่วงนี้อินมากกับละครเมีย 2018 ตัวละครที่ชอบมากๆในเรื่องนี้ก็คือกันยา
เค้าดูเป็นตัวละครที่มีมิตินะเป็นตัวละครที่น่าสนใจ
แต่ว่าจากการตามอ่านกระทู้เกี่ยวกับกันยาในแท็กละครเรื่องเมีย 2018 เนี่ย
มันก็ทำให้เราได้รู้ว่ายังมีคนอีกมากมายนะที่ไม่เข้าใจเรื่องการป่วยทางจิตเวชหรือโรคหรืออาการหรือหลายๆอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในฐานะ Admin เพจ Borderline as I know it และผู้ป่วยทางจิตเวช ประสบการณ์ 17 ปี
ก็เลยอยากจะขออนุญาตวิเคราะห์ตัวละครกันยาใน
มุมของของเรา ละกันเนอะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อมูลเบื้องต้น : ตัวเราเองเป็นผู้ป่วยจิตเวชด้วยโรคบุคลิกภาพผิดปกติชนิด Cluster B
ที่เรียกว่า Borderline personality disorder (BPD) และเราได้รับการวินิจฉัยมาตั้งแต่ตอนอายุ 17 (Official Diagnosed)
เดี๋ยวขออนุญาตพูดถึงตัวละครกันยาเลยแล้วกันเนอะ
ก็ตามที่มีหลายๆเพจที่ออกมาวิเคราะห์ตัวละครตัวนี้
อย่างเพจคลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา
คุณหมอท๊อปเขาก็วิเคราะห์พฤติกรรมของกันยาไปแล้วนะว่ากันยาป่วยเป็นอะไร
คุณหมอวินิจฉัยว่ากันยามีลักษณะอาการของ
1 คือ
Histrionic personality disorder
ก็คือมีพฤติกรรมที่ในเชิงยั่วเย้าอารมณ์เพศ ดึงดูดความสนใจด้วยรูปร่างหน้าตา คือเรียกร้องความสนใจ
2 ก็คือบุคลิกภาพชนิดต่อต้านสังคมหรือที่เรียกว่า
Anti Social personality disorder
ก็คือจะมีความหงุดหงิดง่ายความบ้าระห่ำไม่สนใจกฎเกณฑ์ ไม่สนใจความรู้สึกหรืออารมณ์ของคนอื่น
ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มั่นคงทำงานไม่ได้ ไม่มีความเสียใจไม่มี Empathy
ไม่มีความสำนึกผิด อันนี้ก็คือ อาการของ Anti Social personality disorder นะคะ
ส่วนแนวโน้ม... ใช่กันยามี
แนวโน้มที่จะเป็น
Borderline personality disorder ร่วมด้วยเหมือนกัน ยังไงล่ะ ?
ก็ Borderline personality disorder เนี่ยมันจะเป็นมีลักษณะอารมณ์วู่วาม แปรปรวนง่าย
ควบคุมตัวเองไม่ได้อาละวาดฉุนเฉียว ทำร้ายร่างกายตัวเองหรือผู้อื่น และที่สำคัญคือกลัวการถูกทิ้ง
ถ้าได้ดูตอนล่าสุด EP อะไรนะ… EP 24 ก็จะเห็นตอนที่ธาดาพยายามเลิกกับกันยาแล้วกันยาขอร้องว่า
“กันยาขาดพี่ธาดาไม่ได้ กันยาไม่มีพี่กันยาต้องตายแน่ๆ” อะไรอย่างนี้ ก็คือนั่นแหละ
คือการกลัวการถูกทอดทิ้งอย่างมากมันเป็นหนึ่งในอาการหลักของ borderline personality disorder
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขาก็ได้กล่าวเหมือนกัน
แต่ว่าเพจนี้ไม่ได้ไม่ได้เจาะจงลงไปว่าการวินิจฉัยเบื้องต้นมีอะไรบ้าง 2 3 4 อะไรแบบนี้ ไม่มี
แต่เขาก็จะบอกว่าดูแล้วกันยาน่าจะมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบ Cluster B
งั้น เรามาดูกันว่าบุคลิกภาพที่ผิดปกติชนิด Cluster B มันคืออะไรมันมีอะไรบ้าง
จากการอ่านบทความวิชาการตามเพจหรือเวบต่างๆทั้งไทยและเทศ
บุคลิกภาพผิดปกติชนิด Cluster B จะมีอยู่ 4 อย่างก็คือ
1
Histrionic personality disorder มันคืออะไร ?
ต้องการความสนใจจากผู้อื่นอย่างมาก ชอบเป็นจุดสนใจ ชอบเอาแต่ใจ
มีการแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกมากเกินจริง พบในเพศหญิงมากกว่าชาย
2
Anti Social personality disorder หรือที่เรียกว่าบุคลิกภาพผิดปกติชนิดต่อต้านสังคม
มีลักษณะเด่นก็คือการละเมิดหรือไม่สนใจสิทธิ์ของคนอื่น ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎของสังคม
ไม่มี Empathy หรือก็คือไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคนอื่น หยาบคายก้าวร้าววู่วาม ขาดจิตสำนึก
ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รู้จักสำนึกผิด ไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ทำผิด ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ
พูดจาปลิ้นปล้อน บ้าระห่ำ ไม่คิดถึงความปลอดภัยและฝ่าฝืนกฎเป็นประจำ
3
Borderline personality disorder หรือบุคลิกภาพผิดปกติชนิด borderline
พบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย มีลักษณะเด่นก็คือความไม่มั่นคงทั้งในส่วนของตัวตน อารมณ์ และภาพลักษณ์ของตนเอง
และความสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อย่างมาก อาการหลักๆก็จะมีกลัวการถูกทอดทิ้ง
รู้สึกว่าตัวเองว่างเปล่า ไร้ค่า รักมากเกลียดมาก เดี๋ยวรักเดี๋ยวเกลียด
บุคลิกไม่คงที่มีการทำร้ายตัวเองหรือพยายามฆ่าตัวตาย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เมื่อโกรธ
อารมณ์แปรปรวนง่าย หวาดระแวงหรือขาดสติ
4
Narcissistic personality disorder หรือบุคลิกภาพผิดปกติชนิดหลงตัวเอง
อันนี้พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ลักษณะก็คือคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่น
อ่อนไหวต่อคำวิจารณ์ คิดว่าตัวเองเลิศเลอเพอร์เฟคกว่าคนอื่น ไม่มีใครดีกว่าตนเองแล้ว อะไรประมาณนี้
ถ้าจะบอกว่ากันยามีบุคลิกภาพผิดปกติชนิด Cluster B ที่เข้าข่ายก็น่าจะมีแค่ 3 อันแรก
ก็คือเรียกร้องความสนใจ ไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น ไม่รู้จักกฎ
ไม่รู้จักสำนึกเสียใจในสิ่งที่ทำผิด ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก แล้วก็อารมณ์แปรปรวนง่าย ซึ่งเราคิดว่ามันก็คงจะอย่างนั้นแหละ
มีบางคนบอกว่ากันยาน่าจะเป็นไบโพล่าร์บวกกับจิตเภท
เราส่วนตัวนะ เราไม่คิดว่ากันยาเป็นไบโพล่าร์เพราะกันยาไม่มีช่วง Mania
โอเคอาจจะมีช่วงดีเพรส แต่ถ้าไม่มี mania ก็ไม่นับว่าเป็นไบโพล่าร์นะ
ส่วนที่บอกว่ากันยาเป็นจิตเภท ( schizophrenia )
เราว่ามันไม่ใช่ตรงที่ schizophrenia มันจะมีอาการพวกหูแว่ว ประสาทหลอน
เห็นภาพหลอน อะไรแบบนี้แต่กันยาไม่มี ดังนั้นตัวนี้ตัดออกไปได้เลย
มีคนสงสัยว่าทำไม ไบโพล่าร์ กับ Borderline ถึงดูคล้ายๆกัน มีอาการคล้ายๆกัน
จะบอกว่าสองโรคนี้นั้นจิตแพทย์เองก็วินิจฉัยผิดบ่อยๆนะ
เพราะมันดูเป็นโรคลูกพี่ลูกน้องกันเลยแหละ
คุณหมอที่เคยรักษาเราอ่ะ บอกไว้ว่า สองโรคนี้มันคล้ายๆกัน
เพียงแต่ว่าไบโพล่ามันจะมีช่วงของมันซึ่งเขาเรียกว่า สม่ำเสมอหรือคงที่กว่า
อย่างเช่นถ้าคุณ mania 2 เดือน คุณปกติ 2 เดือน คุณดีเพรส 2 เดือนแล้วคุณก็กลับไป mania 2 เดือน อะไรเงี้ย วนลูปไปเรื่อยๆ
แต่ Borderline เนี่ยมันจะไม่มี Pattern แบบนี้
มันจะขึ้นลง ขึ้นขึ้น ลงลง ขึ้นลงขึ้นลง ในสเกล 5 นาที 10 นาที ชั่วโมง 2 ชั่วโมง วัน สองวัน 1 เดือน 2 เดือนเลยแบบนี้
แต่มันจะไม่มีเป็น Pattern คุณจะไม่สามารถ Predict ได้เลยว่าอะไรจะเกิดเมื่อไหร่
วินาทีต่อไปคุณจะอารมณ์ไหน คุณจะไม่มีทางคาดเดาได้เลย
อีกอย่างไบโพล่าร์ มันเป็น
mental disorder แต่ Borderline มันจะเป็น
personality disorder
ดังนั้นที่มาของโรคหรือเหตุตั้งต้นของโรคจะไม่เหมือนกันค่ะ
ไบโพล่าร์น่ะมันจะเกิดจากสารเคมีในสมองไม่สมดุลแล้วทำให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ
(แต่อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สารเคมีไม่สมดุลนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆกันไป)
แต่ Borderline มันเกิดจากความผิดปกติในยีนส์หรือโครโมโซม
ที่ส่งผลไปถึงสารเคมีในสมอง ทำให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ
ส่วนใหญ่แล้วการรักษาโรคที่เป็น
mental disorder จะใช้ยาเป็นหลัก และก็จะใช้จิตบำบัดเป็นตัวเสริม
ส่วนการรักษาโรคที่เป็น
Personality disorder จะใช้จิตบำบัดเป็นตัวเป็นตัวหลักและใช้ยาเป็นตัวเสริม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับแนวทางรักษาของจิตแพทย์แต่ละคน ที่เขาจะวินิจฉัยหรือมีแผนการรักษาที่แตกต่างกันออกไป
เพราะว่าคนไข้แต่ละคนก็มี background หรือมีความแตกต่างที่เฉพาะตัว
ดังนั้นการรักษาจะเอาอะไรยืนเป็นหลักหรือจะเอาอะไรเสริม นั่นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ค่ะ
ในปัจจุบันเรามีแหล่งข้อมูลออนไลน์เยอะแยะ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านทาง Notebook หรือมือถือ หรือแท็บเล็ต
เข้าถึงได้เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ไหนก็ตาม อย่างเรื่องข้อมูลทางจิตเวชก็มีคนทำเพจเยอะแยะนะ
อย่างคลินิกสุขภาพจิตคุณหมอเจษฎาหรือ ลานไบโพล่าร์ FC หรือ เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา สาส์นจากผู้ป่วยโรคซึมเศร้า BPD as I know it เป็นต้น
ดังนั้นการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้มันเป็นเรื่องง่ายในในโลกปัจจุบัน คือถ้าเรามีความสนใจ อยากจะรู้จักโรคเหล่านี้เพิ่มเติม
เราก็สามารถ Search หาได้นะ มันก็จะมีบทความวิชาการทั้งภาษาไทย และภาษาต่างประเทศให้อ่านเยอะแยะมากมายเนอะ
การเปิดกว้างเป็นเรื่องที่ดีค่ะ
Ignorance is blindness
กิ
16082018333PM
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้www.facebook.com/BPD.asiknowit
//แก้คำสะกดผิด
การป่วยของกันยากับความรู้ทางจิตเวช
เค้าดูเป็นตัวละครที่มีมิตินะเป็นตัวละครที่น่าสนใจ
แต่ว่าจากการตามอ่านกระทู้เกี่ยวกับกันยาในแท็กละครเรื่องเมีย 2018 เนี่ย
มันก็ทำให้เราได้รู้ว่ายังมีคนอีกมากมายนะที่ไม่เข้าใจเรื่องการป่วยทางจิตเวชหรือโรคหรืออาการหรือหลายๆอย่าง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในฐานะ Admin เพจ Borderline as I know it และผู้ป่วยทางจิตเวช ประสบการณ์ 17 ปี
ก็เลยอยากจะขออนุญาตวิเคราะห์ตัวละครกันยาใน มุมของของเรา ละกันเนอะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เดี๋ยวขออนุญาตพูดถึงตัวละครกันยาเลยแล้วกันเนอะ
ก็ตามที่มีหลายๆเพจที่ออกมาวิเคราะห์ตัวละครตัวนี้
อย่างเพจคลินิกสุขภาพจิตนายแพทย์เจษฎา
คุณหมอท๊อปเขาก็วิเคราะห์พฤติกรรมของกันยาไปแล้วนะว่ากันยาป่วยเป็นอะไร
คุณหมอวินิจฉัยว่ากันยามีลักษณะอาการของ
1 คือ Histrionic personality disorder
ก็คือมีพฤติกรรมที่ในเชิงยั่วเย้าอารมณ์เพศ ดึงดูดความสนใจด้วยรูปร่างหน้าตา คือเรียกร้องความสนใจ
2 ก็คือบุคลิกภาพชนิดต่อต้านสังคมหรือที่เรียกว่า Anti Social personality disorder
ก็คือจะมีความหงุดหงิดง่ายความบ้าระห่ำไม่สนใจกฎเกณฑ์ ไม่สนใจความรู้สึกหรืออารมณ์ของคนอื่น
ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่มั่นคงทำงานไม่ได้ ไม่มีความเสียใจไม่มี Empathy
ไม่มีความสำนึกผิด อันนี้ก็คือ อาการของ Anti Social personality disorder นะคะ
ส่วนแนวโน้ม... ใช่กันยามีแนวโน้มที่จะเป็น Borderline personality disorder ร่วมด้วยเหมือนกัน ยังไงล่ะ ?
ก็ Borderline personality disorder เนี่ยมันจะเป็นมีลักษณะอารมณ์วู่วาม แปรปรวนง่าย
ควบคุมตัวเองไม่ได้อาละวาดฉุนเฉียว ทำร้ายร่างกายตัวเองหรือผู้อื่น และที่สำคัญคือกลัวการถูกทิ้ง
ถ้าได้ดูตอนล่าสุด EP อะไรนะ… EP 24 ก็จะเห็นตอนที่ธาดาพยายามเลิกกับกันยาแล้วกันยาขอร้องว่า
“กันยาขาดพี่ธาดาไม่ได้ กันยาไม่มีพี่กันยาต้องตายแน่ๆ” อะไรอย่างนี้ ก็คือนั่นแหละ
คือการกลัวการถูกทอดทิ้งอย่างมากมันเป็นหนึ่งในอาการหลักของ borderline personality disorder
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วก็เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขาก็ได้กล่าวเหมือนกัน
แต่ว่าเพจนี้ไม่ได้ไม่ได้เจาะจงลงไปว่าการวินิจฉัยเบื้องต้นมีอะไรบ้าง 2 3 4 อะไรแบบนี้ ไม่มี
แต่เขาก็จะบอกว่าดูแล้วกันยาน่าจะมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบ Cluster B
งั้น เรามาดูกันว่าบุคลิกภาพที่ผิดปกติชนิด Cluster B มันคืออะไรมันมีอะไรบ้าง
จากการอ่านบทความวิชาการตามเพจหรือเวบต่างๆทั้งไทยและเทศ
บุคลิกภาพผิดปกติชนิด Cluster B จะมีอยู่ 4 อย่างก็คือ
1 Histrionic personality disorder มันคืออะไร ?
ต้องการความสนใจจากผู้อื่นอย่างมาก ชอบเป็นจุดสนใจ ชอบเอาแต่ใจ
มีการแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกมากเกินจริง พบในเพศหญิงมากกว่าชาย
2 Anti Social personality disorder หรือที่เรียกว่าบุคลิกภาพผิดปกติชนิดต่อต้านสังคม
มีลักษณะเด่นก็คือการละเมิดหรือไม่สนใจสิทธิ์ของคนอื่น ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎของสังคม
ไม่มี Empathy หรือก็คือไม่เข้าใจความเจ็บปวดของคนอื่น หยาบคายก้าวร้าววู่วาม ขาดจิตสำนึก
ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่รู้จักสำนึกผิด ไม่เคยเสียใจในสิ่งที่ทำผิด ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ
พูดจาปลิ้นปล้อน บ้าระห่ำ ไม่คิดถึงความปลอดภัยและฝ่าฝืนกฎเป็นประจำ
3 Borderline personality disorder หรือบุคลิกภาพผิดปกติชนิด borderline
พบมากในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย มีลักษณะเด่นก็คือความไม่มั่นคงทั้งในส่วนของตัวตน อารมณ์ และภาพลักษณ์ของตนเอง
และความสัมพันธ์กับผู้อื่น ไม่สามารถควบคุมตนเองได้อย่างมาก อาการหลักๆก็จะมีกลัวการถูกทอดทิ้ง
รู้สึกว่าตัวเองว่างเปล่า ไร้ค่า รักมากเกลียดมาก เดี๋ยวรักเดี๋ยวเกลียด
บุคลิกไม่คงที่มีการทำร้ายตัวเองหรือพยายามฆ่าตัวตาย ควบคุมอารมณ์ไม่ได้เมื่อโกรธ
อารมณ์แปรปรวนง่าย หวาดระแวงหรือขาดสติ
4 Narcissistic personality disorder หรือบุคลิกภาพผิดปกติชนิดหลงตัวเอง
อันนี้พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง ลักษณะก็คือคิดว่าตัวเองสำคัญกว่าคนอื่น
อ่อนไหวต่อคำวิจารณ์ คิดว่าตัวเองเลิศเลอเพอร์เฟคกว่าคนอื่น ไม่มีใครดีกว่าตนเองแล้ว อะไรประมาณนี้
ถ้าจะบอกว่ากันยามีบุคลิกภาพผิดปกติชนิด Cluster B ที่เข้าข่ายก็น่าจะมีแค่ 3 อันแรก
ก็คือเรียกร้องความสนใจ ไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจคนอื่น ไม่รู้จักกฎ
ไม่รู้จักสำนึกเสียใจในสิ่งที่ทำผิด ไม่รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก แล้วก็อารมณ์แปรปรวนง่าย ซึ่งเราคิดว่ามันก็คงจะอย่างนั้นแหละ
มีบางคนบอกว่ากันยาน่าจะเป็นไบโพล่าร์บวกกับจิตเภท
เราส่วนตัวนะ เราไม่คิดว่ากันยาเป็นไบโพล่าร์เพราะกันยาไม่มีช่วง Mania
โอเคอาจจะมีช่วงดีเพรส แต่ถ้าไม่มี mania ก็ไม่นับว่าเป็นไบโพล่าร์นะ
ส่วนที่บอกว่ากันยาเป็นจิตเภท ( schizophrenia )
เราว่ามันไม่ใช่ตรงที่ schizophrenia มันจะมีอาการพวกหูแว่ว ประสาทหลอน
เห็นภาพหลอน อะไรแบบนี้แต่กันยาไม่มี ดังนั้นตัวนี้ตัดออกไปได้เลย
มีคนสงสัยว่าทำไม ไบโพล่าร์ กับ Borderline ถึงดูคล้ายๆกัน มีอาการคล้ายๆกัน
จะบอกว่าสองโรคนี้นั้นจิตแพทย์เองก็วินิจฉัยผิดบ่อยๆนะ
เพราะมันดูเป็นโรคลูกพี่ลูกน้องกันเลยแหละ
คุณหมอที่เคยรักษาเราอ่ะ บอกไว้ว่า สองโรคนี้มันคล้ายๆกัน
เพียงแต่ว่าไบโพล่ามันจะมีช่วงของมันซึ่งเขาเรียกว่า สม่ำเสมอหรือคงที่กว่า
อย่างเช่นถ้าคุณ mania 2 เดือน คุณปกติ 2 เดือน คุณดีเพรส 2 เดือนแล้วคุณก็กลับไป mania 2 เดือน อะไรเงี้ย วนลูปไปเรื่อยๆ
แต่ Borderline เนี่ยมันจะไม่มี Pattern แบบนี้
มันจะขึ้นลง ขึ้นขึ้น ลงลง ขึ้นลงขึ้นลง ในสเกล 5 นาที 10 นาที ชั่วโมง 2 ชั่วโมง วัน สองวัน 1 เดือน 2 เดือนเลยแบบนี้
แต่มันจะไม่มีเป็น Pattern คุณจะไม่สามารถ Predict ได้เลยว่าอะไรจะเกิดเมื่อไหร่
วินาทีต่อไปคุณจะอารมณ์ไหน คุณจะไม่มีทางคาดเดาได้เลย
อีกอย่างไบโพล่าร์ มันเป็น mental disorder แต่ Borderline มันจะเป็น personality disorder
ดังนั้นที่มาของโรคหรือเหตุตั้งต้นของโรคจะไม่เหมือนกันค่ะ
ไบโพล่าร์น่ะมันจะเกิดจากสารเคมีในสมองไม่สมดุลแล้วทำให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ
(แต่อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้สารเคมีไม่สมดุลนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆกันไป)
แต่ Borderline มันเกิดจากความผิดปกติในยีนส์หรือโครโมโซม
ที่ส่งผลไปถึงสารเคมีในสมอง ทำให้เกิดพฤติกรรมต่างๆ
ส่วนใหญ่แล้วการรักษาโรคที่เป็น mental disorder จะใช้ยาเป็นหลัก และก็จะใช้จิตบำบัดเป็นตัวเสริม
ส่วนการรักษาโรคที่เป็น Personality disorder จะใช้จิตบำบัดเป็นตัวเป็นตัวหลักและใช้ยาเป็นตัวเสริม
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับแนวทางรักษาของจิตแพทย์แต่ละคน ที่เขาจะวินิจฉัยหรือมีแผนการรักษาที่แตกต่างกันออกไป
เพราะว่าคนไข้แต่ละคนก็มี background หรือมีความแตกต่างที่เฉพาะตัว
ดังนั้นการรักษาจะเอาอะไรยืนเป็นหลักหรือจะเอาอะไรเสริม นั่นก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์ค่ะ
ในปัจจุบันเรามีแหล่งข้อมูลออนไลน์เยอะแยะ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ผ่านทาง Notebook หรือมือถือ หรือแท็บเล็ต
เข้าถึงได้เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ไหนก็ตาม อย่างเรื่องข้อมูลทางจิตเวชก็มีคนทำเพจเยอะแยะนะ
อย่างคลินิกสุขภาพจิตคุณหมอเจษฎาหรือ ลานไบโพล่าร์ FC หรือ เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา สาส์นจากผู้ป่วยโรคซึมเศร้า BPD as I know it เป็นต้น
ดังนั้นการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้มันเป็นเรื่องง่ายในในโลกปัจจุบัน คือถ้าเรามีความสนใจ อยากจะรู้จักโรคเหล่านี้เพิ่มเติม
เราก็สามารถ Search หาได้นะ มันก็จะมีบทความวิชาการทั้งภาษาไทย และภาษาต่างประเทศให้อ่านเยอะแยะมากมายเนอะ
การเปิดกว้างเป็นเรื่องที่ดีค่ะ
Ignorance is blindness
กิ
16082018333PM
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
//แก้คำสะกดผิด