Say Hi! ค่าเพื่อนๆ
วันนี้เราจะมารีวิวทริปเที่ยว 2 เมือง
Sendai - Yamagata ภูมิภาค Tohoku
แม้จะไปมาสักพักแล้ว แต่ภาพจำยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกอย่าง
เลยขอมาทำรีวิวให้ชมกันค่ะ ^^
ถ้าอยากไปเที่ยวด้วยกันแล้ว ก็ตามมาเลยค่า
เริ่มต้นการเดินทางวันแรกจากสนามบินนาริตะ เรานั่งรถไฟมาลงที่ภูมิภาคโทโฮขุ เมืองเซนได โดยจุดหมายแรกของเราในวันนี้คือ Rairaikyo Gorge ชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยลงสถานีเซนไดประตูฝั่งทิศตะวันตก นั่งรถบัสประมาณ 50 นาที มุ่งตรงไปสะพาน Nozoki-bashi เพื่อชื่นชมวิว
ถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว เรากับแฟนก็กลับมาเดินเล่นในเมืองเซนได โดยมีรถบัสวิ่งวนลูป (Loople sendai) วิ่งไปตามสถานที่ที่เราจะไปคือ ซุยโฮเด็ง (Zuihoden), ปราสาทเซนได (Sendai Castle Ruins), ศาลเจ้าโอซากิ ฮะจิมังกุ และสถานีเซนได เพื่อไปชิมน้ำถั่วแระปั่น Zunda Shake
เริ่มต้นพิกัดแรกคือซุยโฮเด็ง (Zuihoden) ตั้งอยู่ที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของใจกลางเมืองเมืองเซนได และอยู่ตรงกลางระหว่างแม่น้ำฮิโรเสะ (Hirose River) เป็นสุสานที่อุทิศให้กับท่านดะเตะ มะซะมุเนะ (Date Masamune) ในสมัยสงครามโลกได้ถูกทำลายลงไป จึงได้มีการบูรณะจนกลายมาเป็นอย่างในปัจจุบัน
ความวิจิตรของสถาปัตยกรรมในรายละเอียดต่างๆ ที่สุสานจะเป็นศิลปะแบบ Momoyama เน้นงานไม้และการลงลวดลายด้วยสีสัน มองเห็นชัดเจนจากการใช้สีที่ตัดกันวาดเป็นลวดลายอันอ่อนช้อย ดูโดดเด่นและสวยงามสุดๆ เลยเนอะ
หลังจากคารวะสุสานแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ Sendai Castle ปราสาทเซนได ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของท่าน Date Masamune หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปราสาทอาโอบะ โดยเป็นป้อมปราการธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยหน้าผาทางฝั่งตะวันออกและใต้ แม้ว่าตัวปราสาทจริงๆ จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ก็ยังมีร่องรอยบางส่วนเหลือให้เห็นอยู่นะคะ รวมถึงอนุสาวรีย์ของท่าน Date Masamune ผู้มีฉายาว่ามังกรตาเดียว ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูป พร้อมกับจุดชมวิวเมืองเซนไดแบบพาโนรามา
ในบริเวณที่ตั้งปราสาทเซนได ยังมีพิพิธภัณฑ์ปราสาทอะโอบะ (Aoba Castle Museum) อาคารที่มีรูปแบบเหมือนปราสาทที่เคยมีอยู่ในสมัยเอโดะ โดยนำมาจัดแสดงประวัติความเป็นมา รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่หลงเหลือจากประวัติศาสตร์ให้ผู้ที่สนใจได้ชมด้วยค่ะ
ออกจากปราสาทเซนได เรากับแฟนก็มุ่งหน้าไปเที่ยวต่อที่ศาลเจ้าโอซากิ ฮะจิมังกุ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดมิยากิ เมืองเซนได เขตอาโอบะ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินของชาติ เทพเจ้า ณ ศาลเจ้าแห่งนี้เชื่อกันว่าจะให้พรเพื่อป้องกันความชั่วร้าย ภัยพิบัติต่างๆ ให้มีชัยชนะในสงคราม และให้สามารถคลอดบุตรได้ง่าย ซึ่งผู้คนต่างให้ความเคารพบูชาเป็นอย่างมาก
ไหว้พระขอพรเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาลุยกันต่อที่ Zao Fox Village หมู่บ้านจิ้งจอก บริเวณเทือกเขา Zao จังหวัด Miyagi ค่ะ จะบอกว่าตื่นเต้นมาก เพราะเราเคยเห็นหมาจิ้งจอกแต่ในทีวี วันนี้จะได้เจอตัวเป็นๆ สักที บอกก่อนว่าด้านในแบ่งออกเป็น 2 โซนน๊า ส่วนแรกจะเป็นเหมือนในสวนสัตว์ แยกน้องออกเป็นกรง อีกส่วนคือกรงขนาดใหญ่ บริเวณนี้น้องๆ จะเดินชิลล์ตามอำเภอใจ ส่วนเราก็เดินไปตามทางที่มีป้ายบอก ใครอยากฟินแนะนำกิจกรรมให้อาหารหมาจิ้งจอกค่ะ เขาจะมีกระท่อมไม้เป็นจุดให้อาหารอยู่ น้องๆ จะมารอทำตาแป๋ว ขอบอกว่าน่ารักมากกกก ส่วนอาหารที่โปรยให้นั้นจะเป็นอาหารเม็ดค่ะ
[BR] สายลุยห้ามพลาด! บอกต่อ 2 เมืองสวยๆ น่าเที่ยว @Japan
Say Hi! ค่าเพื่อนๆ
วันนี้เราจะมารีวิวทริปเที่ยว 2 เมือง
Sendai - Yamagata ภูมิภาค Tohoku
แม้จะไปมาสักพักแล้ว แต่ภาพจำยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกอย่าง
เลยขอมาทำรีวิวให้ชมกันค่ะ ^^
ถ้าอยากไปเที่ยวด้วยกันแล้ว ก็ตามมาเลยค่า
เริ่มต้นการเดินทางวันแรกจากสนามบินนาริตะ เรานั่งรถไฟมาลงที่ภูมิภาคโทโฮขุ เมืองเซนได โดยจุดหมายแรกของเราในวันนี้คือ Rairaikyo Gorge ชมใบไม้เปลี่ยนสี โดยลงสถานีเซนไดประตูฝั่งทิศตะวันตก นั่งรถบัสประมาณ 50 นาที มุ่งตรงไปสะพาน Nozoki-bashi เพื่อชื่นชมวิว
ถ่ายรูปจนหนำใจแล้ว เรากับแฟนก็กลับมาเดินเล่นในเมืองเซนได โดยมีรถบัสวิ่งวนลูป (Loople sendai) วิ่งไปตามสถานที่ที่เราจะไปคือ ซุยโฮเด็ง (Zuihoden), ปราสาทเซนได (Sendai Castle Ruins), ศาลเจ้าโอซากิ ฮะจิมังกุ และสถานีเซนได เพื่อไปชิมน้ำถั่วแระปั่น Zunda Shake
เริ่มต้นพิกัดแรกคือซุยโฮเด็ง (Zuihoden) ตั้งอยู่ที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของใจกลางเมืองเมืองเซนได และอยู่ตรงกลางระหว่างแม่น้ำฮิโรเสะ (Hirose River) เป็นสุสานที่อุทิศให้กับท่านดะเตะ มะซะมุเนะ (Date Masamune) ในสมัยสงครามโลกได้ถูกทำลายลงไป จึงได้มีการบูรณะจนกลายมาเป็นอย่างในปัจจุบัน
ความวิจิตรของสถาปัตยกรรมในรายละเอียดต่างๆ ที่สุสานจะเป็นศิลปะแบบ Momoyama เน้นงานไม้และการลงลวดลายด้วยสีสัน มองเห็นชัดเจนจากการใช้สีที่ตัดกันวาดเป็นลวดลายอันอ่อนช้อย ดูโดดเด่นและสวยงามสุดๆ เลยเนอะ
หลังจากคารวะสุสานแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ Sendai Castle ปราสาทเซนได ซึ่งเคยเป็นที่อยู่อาศัยของท่าน Date Masamune หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ปราสาทอาโอบะ โดยเป็นป้อมปราการธรรมชาติที่รายล้อมไปด้วยหน้าผาทางฝั่งตะวันออกและใต้ แม้ว่าตัวปราสาทจริงๆ จะถูกทำลายไปแล้ว แต่ก็ยังมีร่องรอยบางส่วนเหลือให้เห็นอยู่นะคะ รวมถึงอนุสาวรีย์ของท่าน Date Masamune ผู้มีฉายาว่ามังกรตาเดียว ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปถ่ายรูป พร้อมกับจุดชมวิวเมืองเซนไดแบบพาโนรามา
ในบริเวณที่ตั้งปราสาทเซนได ยังมีพิพิธภัณฑ์ปราสาทอะโอบะ (Aoba Castle Museum) อาคารที่มีรูปแบบเหมือนปราสาทที่เคยมีอยู่ในสมัยเอโดะ โดยนำมาจัดแสดงประวัติความเป็นมา รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ที่หลงเหลือจากประวัติศาสตร์ให้ผู้ที่สนใจได้ชมด้วยค่ะ
ออกจากปราสาทเซนได เรากับแฟนก็มุ่งหน้าไปเที่ยวต่อที่ศาลเจ้าโอซากิ ฮะจิมังกุ ซึ่งตั้งอยู่ที่จังหวัดมิยากิ เมืองเซนได เขตอาโอบะ ศาลเจ้าแห่งนี้ได้รับการจดทะเบียนเป็นทรัพย์สินของชาติ เทพเจ้า ณ ศาลเจ้าแห่งนี้เชื่อกันว่าจะให้พรเพื่อป้องกันความชั่วร้าย ภัยพิบัติต่างๆ ให้มีชัยชนะในสงคราม และให้สามารถคลอดบุตรได้ง่าย ซึ่งผู้คนต่างให้ความเคารพบูชาเป็นอย่างมาก
ไหว้พระขอพรเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาลุยกันต่อที่ Zao Fox Village หมู่บ้านจิ้งจอก บริเวณเทือกเขา Zao จังหวัด Miyagi ค่ะ จะบอกว่าตื่นเต้นมาก เพราะเราเคยเห็นหมาจิ้งจอกแต่ในทีวี วันนี้จะได้เจอตัวเป็นๆ สักที บอกก่อนว่าด้านในแบ่งออกเป็น 2 โซนน๊า ส่วนแรกจะเป็นเหมือนในสวนสัตว์ แยกน้องออกเป็นกรง อีกส่วนคือกรงขนาดใหญ่ บริเวณนี้น้องๆ จะเดินชิลล์ตามอำเภอใจ ส่วนเราก็เดินไปตามทางที่มีป้ายบอก ใครอยากฟินแนะนำกิจกรรมให้อาหารหมาจิ้งจอกค่ะ เขาจะมีกระท่อมไม้เป็นจุดให้อาหารอยู่ น้องๆ จะมารอทำตาแป๋ว ขอบอกว่าน่ารักมากกกก ส่วนอาหารที่โปรยให้นั้นจะเป็นอาหารเม็ดค่ะ
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน