ทริปนี้ไม่มีคำไหนจะอธิบายได้ดีไปกว่าคำว่า โอ้ยยยยยยยยยย
โอ้ยยังไงอะหรอคะ...ก็
โอ้ยรถติดดดด
โอ้ยมอไซค์ปาดหน้า
โอ้ยไก่วิ่งตัดหน้ารถรอบที่ล้าน
โอ้ยถนนแคบสุด
โอ้ยไหว้พระเจองู
โอ้ยเมาเรืออ้วก
โอ้ยสุดท้าย โอ้ยแผ่นดินไหวอิ*อกกกกก
โอ้ยยยยทริปนี้คือคือมันส์ สุดๆจริงๆ ชายก็หล่อจริงง ปาดน้ำตา ชุ่มฉ่ำไปทั้งเกาะ ครั้งนี้เราเดินทางกับเพื่อนสาวโสด สุดที่รักนามว่าเจินๆ อาหมวย ลูกสาวคนเดียวโสดมา 20ล้านปี
วันเดินทาง
เราออกเดินทางวันที่ 2-6 สิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง
ตั๋วเครื่องบิน
เราเลือกกเดินทางด้วยหางแดงAirasia มีบินตรงดอนเมืองบาหลี 3ไฟล้ต่อวัน โดยเราเลือกไฟล้ 11.35 และถึงบาหลี 16.55 โดยเวลาที่บาหลีจะเร็วกว่าไทย 1ชม ดังนั้น เราจะไปถึงบาหลี 17.55 เวลาท้องถิ่น
การเดินทาง
เราเช่ารถขับเอง เพราะชอบขับรถเองสะดวกดี เราเป็นคนต่างจังหวัดคืดว่าขับได้ไม่ยาก เราเลือกเช่ารถของบริษัท balicar4rent เพราะมีกระทู้ในพันทิป แนะนำมา พนักงานตรงเวลา พูดจาดี เรานัดรับ และส่งรถที่สนามบินเลย ค่าเสียหายบวกประกันตลอดระยะเวลาท่องเที่ยว ตกอยู่ที่ประมาณ 3800 บาท 5วัน 4คืน หารสอง คุ้มม
ที่พัก
เราจองที่พักแยกไว้สองที่ คือพักฝั่งอูบุด 2คืน และ คูต้าบีช 2คืน โดยเราจองจากใน booking.com จองก่อนจ่ายทีหลังเช่นเคย
แลกเงิน
เราแลกสกุลเงินของรูเปียอินโดนีเซีย เราเลือกใช้บริการแลกเงินของ Superrich มีสาขามากมาย คุ้มกว่าเยอะ
Simโทรศัพท์
เราเลือกใช้บริการของ SimtoFly สัญญาณเค้าดีจริงๆ สามารถซื้อซิมที่ดอนเมืองได้เลย สะดวกโคตร
DAY 1
เราเลือกไฟลท์ QZ 521 ของแอร์เอเชียอินโดนีเซีย ออกเดินทาง 11.35 โดยเค้าเตอร์จะเปิดเช็คอินก่อนการเดินทาง 3ชม สำหรับไฟลท์ต่างประเทศ เราทำself check ผ่านโทรศัพท์มาก่อนเลยได้สิทธิ์ไปดรอปกระเป๋า ณ เค้าเตอร์ bag drop เลยย สบายย
เช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จ เราต้องไปผ่านด่าน ตม. ผ่านง่ายสะดวกรวดเร็ว เสร็จแล้วเข้ามานั่งรอขึ้นเครื่องที่เกท เตรียมความพร้อมสำหรับไฟล้ 4 ชั่วโมง 25นาที
ลำนี้สินะจะพาเราไป
นั่งเครื่องมานานมาก หลับบ้างตื่นบ้าง จนได้ยินเสียงประกาศว่าใกล้ถึง เจินๆเพื่อนรักก็หยิบกล้องมาถ่ายรูปทันใด พร้อมแสดงอาการตื่นเต้นออกนอกหน้า
ถึงแล้วบาหลี เครื่องมาถึงตรงเวลาเป๊ะ เรารีบเดินดุ่มๆไปผ่าน ตม.
มาถึงก็เข้าแถว แต่แถวผ่านตม.ก็ยาวไปนะ ใครมาเจอสถานการณ์แบบนี้แนะนำให้ไปแถวซ้ายสุด เราลองมาแล้ว เร็วสุด
กว่าจะหลุดจากตม ออกมาได้ทำเอาเราเสียเวลาไปนานพอสมควร พอออกมาได้แล้วก็จะเจอกับบรรยากาศแบบนี้ พี่ๆคนขับรถทั้งหลายที่มายืนชูป้ายรอ ลูกค้า
เรานัดกับบริษัทรถไว้ที่ประชาสัมพันธ์ เราเดินมารอสักพัก พนักงานก็เดินชูป้ายมาแต่ไกล มาได้เวลาพอดีเลยยย และนี่คือผู้อุปการะคุณของทริปนี้ น้องหนูดี brio คู่ใจที่เราทำการเช่าไว้
เราทำการเซ็นต์เอกสารตรวจดูฝาน้ำมัน นิดหน่อยแล้วพร้อมออกเดินทาง
เราเริ่มจากตรงดิ่งไปเข้าที่พักที่อูบุด โดยเราขับรถตามgps ไป ในgpsบอก45 นาที เอาเข้าจริงเราใช้เวลา เกือบ 2ชม เพราะตอนเย็นที่นี่รถติดมากกก บวกกกับไม่คุ้นทางขับรถย้อนศรโดนกระพริบไฟใส่ เลยต้องหงายการ์ดนักท่องเที่ยว555 แล้วมอไซค์นี่ขี่กันไม่เกรงใจรถยนต์เล้ยยยย
เราแวะทานข้าวกันระหว่างทาง เป็นไก่ทอด กับน้ำพริก โดยการทานของคนบาหลีเค้าจะใช้มือ ในการรับประทานอาหาร เราว่าอร่อยดีนะ
ถึงแล้วที่พักของเรา
เราจองที่พักชื่อว่า kampoeng joglo abangan อยู่ในตัวเมืองอูบุดเลย จะบอกว่าที่พักเลิศมากกกกกกก beyond expectations มากกก คือสวยและดีสุด
เนื่องจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทางเรา เลยไม่ออกไปไหน ตัดสินใจนอนพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า
Day 2
เราตื่นนอนตอน 6.30น อาบน้ำแต่งตัว วันนี้เราจะไป Pura lempuyang โดยระยะทางหากดูจาก GPS ใช้เวลา 1.29 ชม แต่เวลาจริงๆเราใช้ไปเกือบสองชั่วโมง เพราะฝนตก ถนนลื่น และที่สำคัญมอไซค์ขี่กันไม่กรงใจพี่เลยยยย ทั้งตัดหน้า ตัดหลัง แซงซ้ายแซงขวา
ถึงแล้วLempuyang หรืออีกชื่อหนึ่งคือ heaven gate เรามาถึงพร้อมฝนตกปรอยๆ ทำให้มองไม่เห็นภูเขาไฟอากุงซึ่งอยู่ด้านหลัง
ที่นี่จะมีคนถ่ายรูปให้โดยใช้กล้องของเรา ไม่คิดเงิน ถ่ายฟรี แถมรูปสวยด้วย
ใครจะมาแนะนำให้สำหรับสาวๆ ถ้าใส่สายเดี่ยวมาอย่าลืมพกผ้าคลุมมาด้วยเด้อ
เสร็จจากวัดLempuyang แพลนแรกที่เราวางแผนกันคือจะไปวัด besikih แต่เนื่องด้วยเวลา เราเลยตัดสินใจไม่ไป และขับรถมุ่งหน้าไปยัง วัด Ulun danu beratan แทน โดยเราใช้เส้นทางนี้
ระหว่างทางเป็นป่าเขา โค้งเยอะทางชัน ฝนตก และอันตราย เราให้เพื่อนขับ เป็นเพื่อนที่ดีจริมๆ หุหุ ขับมาสักพัก ก็หิวเลยแวะทานอาหารร้านข้างทาง วันนี้เราทานเมนูหมูเผา บวกหมูสะเต๊ะ บวกน้ำพริกบาหลี อร่อยดีค่ะชอบบ
เจ้าของร้านใส่ช้อนมาให้ด้วย แต่เราว่าทานกับมืออร่อยกว่า
ขับรถมาสักพัก ฝนหยุดเราสังเกตว่าคนข้างๆทาง ใส่เสื้อหนาว เราเลยลองเปิดกระจกดู โอ้แม่เจ้าดอยสุเทพดีดีนี่เอง อากาศคือหนาวมากกก อากาศดีสุดดด บรรยากาศดีสุด เราลงกระจกขับรถพร้อมยื่นมืออกนอกหน้าต่าง คันข้างหลังคงแปลกใจว่ามันทำอะไรกัน
ความโชคดีของเราในทริปนี้คือ เราขับผ่านจุดชมวิวแบบไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเรามารู้ภายหลังว่าทางที่เราขับรถมานั้นคือทางไปชมภูเขาไฟคิณตามณี นั่งเอง โชคดีอะไรเบอร์นี้
เราขับรถไปเรื่อยๆก็เจอกับวิวสุดสวยตลอดทาง ยิ่งสูงยิ่งสวยจริงๆ
จากภูเขาไฟคิณตามณี เราใช้เวลาอีกพักใหญ่กล่าจะถึง วัด Ulundanu ทั้งขึ้นเขาลงเขา ทางโค้ง ทางตรง จนในที่สุดเราก็มาถึง
เรามาถึงพร้อมอากาศหนาวสุด ประมาณ 15 องศา หมอกลงมองไม่เห็นวิวภูเขาด้านหลัง แต่ก็ยังสวยอยู่ดี เราเดินเข้าไปด้านใน แอบเห็นทัวร์คนไทย คนอินเดีย ทัวร์จีน มากันเต็มเลย เราถ่ายรูปกันจนเพลิน
อากาศหนาวสุดๆแต่พี่ไม่หวั่นค่ะ
เดินออกมาด้านหน้าเห็นซุ้มประตูสวยมาก เราเลยไม่ลืมที่จะแวะถ่ายรูป
ถ่ายรูปเพลิน ดูเวลา เย็นแล้วใกล้มืดเราเลยกลับอูบุดกัน ขับรถกลับถึงอูบุด ระหว่างทางเราแวะทานข้าวข้างทาง ที่บาหลีร้านอาหารข้างทางเยอะมาก ถูกใจเราจริงๆ โดยเราเลือกทาน ไก่ทอด บวกน้ำพริกอินโด ไก่ที่นี่แอบชิ้นเล็ก หมือนไก่ไม่มีโอกาสได้เติบโต ต้องมาเป็นอาหารซะก่อน น้ำส้มคั้นผสมน้ำปล่าว อร่อยมากกก Recommended เลยค่ะ และแน่นอนที่สุดเราทานกับมือ อร่อยยยยชอบบบบ
ขับรถผ่านร้านไก่สเต๊ะ แวะชิมหน่อย ปรากฎว่าอร่อยมากกกกกก ต้องซื้อกลับไปทานอีกถุง
เราถึงที่พักประมาณ 2ทุ่ม และตั้งใจว่าวันนี้จะออกไปเดินเล่นตลาดอูบุดกัน จากโรงแรมเราเดินไปอูบุด ใช้เวลาแค่ 5นาที ระหว่างทางเจอวัด pura dalem ubud แวะถ่ายรูปหน่อยคนเยอะมากก
ระหว่างทางเดินผ่านร้านไอศกรีม เราเลยถามรสยอดนิยม ได้ความว่าคือรสนี้
ไม่รอช้ารีบสั่งทันใด ปรากฎว่าอร่อยมากกก อร่อยจริงๆ ใครมาบาหลีอย่าลืมทานนะคะ
ตลาดอูบุดยามค่ำคืน ส่วนมากจะเป็นร้านอาหารที่เอาไว้ขายฝรั่ง คล้ายๆป่าตอง สมุยบ้านเรา เราไม่สนอาหารอินเตอร์ เราทานแค่ข้างทาง เลยเดินเล่นอยู่สักพักแล้วก็กลับห้องไปพักผ่อน
เดี๋ยวเรามาต่อ day 3 ให้นะคะ
[CR] Bali เกาะสวาทหาดสวรรค์ รีวิวขับรถเอง | Bali x DreamyJenner and her bff |
โอ้ยยยยทริปนี้คือคือมันส์ สุดๆจริงๆ ชายก็หล่อจริงง ปาดน้ำตา ชุ่มฉ่ำไปทั้งเกาะ ครั้งนี้เราเดินทางกับเพื่อนสาวโสด สุดที่รักนามว่าเจินๆ อาหมวย ลูกสาวคนเดียวโสดมา 20ล้านปี
วันเดินทาง
เราออกเดินทางวันที่ 2-6 สิงหาคมที่ผ่านมานี่เอง
ตั๋วเครื่องบิน
เราเลือกกเดินทางด้วยหางแดงAirasia มีบินตรงดอนเมืองบาหลี 3ไฟล้ต่อวัน โดยเราเลือกไฟล้ 11.35 และถึงบาหลี 16.55 โดยเวลาที่บาหลีจะเร็วกว่าไทย 1ชม ดังนั้น เราจะไปถึงบาหลี 17.55 เวลาท้องถิ่น
การเดินทาง
เราเช่ารถขับเอง เพราะชอบขับรถเองสะดวกดี เราเป็นคนต่างจังหวัดคืดว่าขับได้ไม่ยาก เราเลือกเช่ารถของบริษัท balicar4rent เพราะมีกระทู้ในพันทิป แนะนำมา พนักงานตรงเวลา พูดจาดี เรานัดรับ และส่งรถที่สนามบินเลย ค่าเสียหายบวกประกันตลอดระยะเวลาท่องเที่ยว ตกอยู่ที่ประมาณ 3800 บาท 5วัน 4คืน หารสอง คุ้มม
ที่พัก
เราจองที่พักแยกไว้สองที่ คือพักฝั่งอูบุด 2คืน และ คูต้าบีช 2คืน โดยเราจองจากใน booking.com จองก่อนจ่ายทีหลังเช่นเคย
แลกเงิน
เราแลกสกุลเงินของรูเปียอินโดนีเซีย เราเลือกใช้บริการแลกเงินของ Superrich มีสาขามากมาย คุ้มกว่าเยอะ
Simโทรศัพท์
เราเลือกใช้บริการของ SimtoFly สัญญาณเค้าดีจริงๆ สามารถซื้อซิมที่ดอนเมืองได้เลย สะดวกโคตร
เราเลือกไฟลท์ QZ 521 ของแอร์เอเชียอินโดนีเซีย ออกเดินทาง 11.35 โดยเค้าเตอร์จะเปิดเช็คอินก่อนการเดินทาง 3ชม สำหรับไฟลท์ต่างประเทศ เราทำself check ผ่านโทรศัพท์มาก่อนเลยได้สิทธิ์ไปดรอปกระเป๋า ณ เค้าเตอร์ bag drop เลยย สบายย
เช็คอินโหลดกระเป๋าเสร็จ เราต้องไปผ่านด่าน ตม. ผ่านง่ายสะดวกรวดเร็ว เสร็จแล้วเข้ามานั่งรอขึ้นเครื่องที่เกท เตรียมความพร้อมสำหรับไฟล้ 4 ชั่วโมง 25นาที
ลำนี้สินะจะพาเราไป
นั่งเครื่องมานานมาก หลับบ้างตื่นบ้าง จนได้ยินเสียงประกาศว่าใกล้ถึง เจินๆเพื่อนรักก็หยิบกล้องมาถ่ายรูปทันใด พร้อมแสดงอาการตื่นเต้นออกนอกหน้า
ถึงแล้วบาหลี เครื่องมาถึงตรงเวลาเป๊ะ เรารีบเดินดุ่มๆไปผ่าน ตม.
มาถึงก็เข้าแถว แต่แถวผ่านตม.ก็ยาวไปนะ ใครมาเจอสถานการณ์แบบนี้แนะนำให้ไปแถวซ้ายสุด เราลองมาแล้ว เร็วสุด
กว่าจะหลุดจากตม ออกมาได้ทำเอาเราเสียเวลาไปนานพอสมควร พอออกมาได้แล้วก็จะเจอกับบรรยากาศแบบนี้ พี่ๆคนขับรถทั้งหลายที่มายืนชูป้ายรอ ลูกค้า
เรานัดกับบริษัทรถไว้ที่ประชาสัมพันธ์ เราเดินมารอสักพัก พนักงานก็เดินชูป้ายมาแต่ไกล มาได้เวลาพอดีเลยยย และนี่คือผู้อุปการะคุณของทริปนี้ น้องหนูดี brio คู่ใจที่เราทำการเช่าไว้
เราทำการเซ็นต์เอกสารตรวจดูฝาน้ำมัน นิดหน่อยแล้วพร้อมออกเดินทาง
เราเริ่มจากตรงดิ่งไปเข้าที่พักที่อูบุด โดยเราขับรถตามgps ไป ในgpsบอก45 นาที เอาเข้าจริงเราใช้เวลา เกือบ 2ชม เพราะตอนเย็นที่นี่รถติดมากกก บวกกกับไม่คุ้นทางขับรถย้อนศรโดนกระพริบไฟใส่ เลยต้องหงายการ์ดนักท่องเที่ยว555 แล้วมอไซค์นี่ขี่กันไม่เกรงใจรถยนต์เล้ยยยย
เราแวะทานข้าวกันระหว่างทาง เป็นไก่ทอด กับน้ำพริก โดยการทานของคนบาหลีเค้าจะใช้มือ ในการรับประทานอาหาร เราว่าอร่อยดีนะ
ถึงแล้วที่พักของเรา
เราจองที่พักชื่อว่า kampoeng joglo abangan อยู่ในตัวเมืองอูบุดเลย จะบอกว่าที่พักเลิศมากกกกกกก beyond expectations มากกก คือสวยและดีสุด
เนื่องจากความเหนื่อยล้าจากการเดินทางเรา เลยไม่ออกไปไหน ตัดสินใจนอนพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า
เราตื่นนอนตอน 6.30น อาบน้ำแต่งตัว วันนี้เราจะไป Pura lempuyang โดยระยะทางหากดูจาก GPS ใช้เวลา 1.29 ชม แต่เวลาจริงๆเราใช้ไปเกือบสองชั่วโมง เพราะฝนตก ถนนลื่น และที่สำคัญมอไซค์ขี่กันไม่กรงใจพี่เลยยยย ทั้งตัดหน้า ตัดหลัง แซงซ้ายแซงขวา
ถึงแล้วLempuyang หรืออีกชื่อหนึ่งคือ heaven gate เรามาถึงพร้อมฝนตกปรอยๆ ทำให้มองไม่เห็นภูเขาไฟอากุงซึ่งอยู่ด้านหลัง
ที่นี่จะมีคนถ่ายรูปให้โดยใช้กล้องของเรา ไม่คิดเงิน ถ่ายฟรี แถมรูปสวยด้วย
ใครจะมาแนะนำให้สำหรับสาวๆ ถ้าใส่สายเดี่ยวมาอย่าลืมพกผ้าคลุมมาด้วยเด้อ
เสร็จจากวัดLempuyang แพลนแรกที่เราวางแผนกันคือจะไปวัด besikih แต่เนื่องด้วยเวลา เราเลยตัดสินใจไม่ไป และขับรถมุ่งหน้าไปยัง วัด Ulun danu beratan แทน โดยเราใช้เส้นทางนี้
ระหว่างทางเป็นป่าเขา โค้งเยอะทางชัน ฝนตก และอันตราย เราให้เพื่อนขับ เป็นเพื่อนที่ดีจริมๆ หุหุ ขับมาสักพัก ก็หิวเลยแวะทานอาหารร้านข้างทาง วันนี้เราทานเมนูหมูเผา บวกหมูสะเต๊ะ บวกน้ำพริกบาหลี อร่อยดีค่ะชอบบ
เจ้าของร้านใส่ช้อนมาให้ด้วย แต่เราว่าทานกับมืออร่อยกว่า
ขับรถมาสักพัก ฝนหยุดเราสังเกตว่าคนข้างๆทาง ใส่เสื้อหนาว เราเลยลองเปิดกระจกดู โอ้แม่เจ้าดอยสุเทพดีดีนี่เอง อากาศคือหนาวมากกก อากาศดีสุดดด บรรยากาศดีสุด เราลงกระจกขับรถพร้อมยื่นมืออกนอกหน้าต่าง คันข้างหลังคงแปลกใจว่ามันทำอะไรกัน
ความโชคดีของเราในทริปนี้คือ เราขับผ่านจุดชมวิวแบบไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเรามารู้ภายหลังว่าทางที่เราขับรถมานั้นคือทางไปชมภูเขาไฟคิณตามณี นั่งเอง โชคดีอะไรเบอร์นี้
เราขับรถไปเรื่อยๆก็เจอกับวิวสุดสวยตลอดทาง ยิ่งสูงยิ่งสวยจริงๆ
จากภูเขาไฟคิณตามณี เราใช้เวลาอีกพักใหญ่กล่าจะถึง วัด Ulundanu ทั้งขึ้นเขาลงเขา ทางโค้ง ทางตรง จนในที่สุดเราก็มาถึง
เรามาถึงพร้อมอากาศหนาวสุด ประมาณ 15 องศา หมอกลงมองไม่เห็นวิวภูเขาด้านหลัง แต่ก็ยังสวยอยู่ดี เราเดินเข้าไปด้านใน แอบเห็นทัวร์คนไทย คนอินเดีย ทัวร์จีน มากันเต็มเลย เราถ่ายรูปกันจนเพลิน
อากาศหนาวสุดๆแต่พี่ไม่หวั่นค่ะ
เดินออกมาด้านหน้าเห็นซุ้มประตูสวยมาก เราเลยไม่ลืมที่จะแวะถ่ายรูป
ถ่ายรูปเพลิน ดูเวลา เย็นแล้วใกล้มืดเราเลยกลับอูบุดกัน ขับรถกลับถึงอูบุด ระหว่างทางเราแวะทานข้าวข้างทาง ที่บาหลีร้านอาหารข้างทางเยอะมาก ถูกใจเราจริงๆ โดยเราเลือกทาน ไก่ทอด บวกน้ำพริกอินโด ไก่ที่นี่แอบชิ้นเล็ก หมือนไก่ไม่มีโอกาสได้เติบโต ต้องมาเป็นอาหารซะก่อน น้ำส้มคั้นผสมน้ำปล่าว อร่อยมากกก Recommended เลยค่ะ และแน่นอนที่สุดเราทานกับมือ อร่อยยยยชอบบบบ
ขับรถผ่านร้านไก่สเต๊ะ แวะชิมหน่อย ปรากฎว่าอร่อยมากกกกกก ต้องซื้อกลับไปทานอีกถุง
เราถึงที่พักประมาณ 2ทุ่ม และตั้งใจว่าวันนี้จะออกไปเดินเล่นตลาดอูบุดกัน จากโรงแรมเราเดินไปอูบุด ใช้เวลาแค่ 5นาที ระหว่างทางเจอวัด pura dalem ubud แวะถ่ายรูปหน่อยคนเยอะมากก
ระหว่างทางเดินผ่านร้านไอศกรีม เราเลยถามรสยอดนิยม ได้ความว่าคือรสนี้
ไม่รอช้ารีบสั่งทันใด ปรากฎว่าอร่อยมากกก อร่อยจริงๆ ใครมาบาหลีอย่าลืมทานนะคะ
ตลาดอูบุดยามค่ำคืน ส่วนมากจะเป็นร้านอาหารที่เอาไว้ขายฝรั่ง คล้ายๆป่าตอง สมุยบ้านเรา เราไม่สนอาหารอินเตอร์ เราทานแค่ข้างทาง เลยเดินเล่นอยู่สักพักแล้วก็กลับห้องไปพักผ่อน
เดี๋ยวเรามาต่อ day 3 ให้นะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น