สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ส่วนตัวคิดว่า มันเป็นเรื่องสามัญสำนึก และมารยาทสากลที่พึงกระทำ โดยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก
ส่วนเรื่องพนักงานเลือกปฎิบัติ ว่าฝรั่งทำได้ ไม่ห้าม พอคนไทยทำ กลับโดนพนักงานเตือน
อยากบอกว่า บางโรงแรม ที่ไม่ใช่ห้าดาว หลายๆโรงแรม พนักงานไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษกันทุกคน
ถ้าจะให้ไปไฝว้ท์กับฝรั่ง โดยภาษาก็ไม่ได้ ไม่น่าจะรอด เลยเลือกที่จะเพิกเฉย กับลูกค้าที่เป็นฝรั่ง ( กูคุยกับมันไม่รู้เรื่อง กูก็เลยปล่อย)
ส่วนคนไทย แหง๋ล่ะ คุยกันรู้เรื่องกว่า เตือนได้ ห้ามได้เต็มที่ มันคือตลกร้าย ที่คนไทยเรามองว่า อาจถูกเลือกปฎิบัติ
พนักงานบางคน ไม่ได้ภาษาจริงๆ อย่าว่าแต่ฝรั่งเลย คนจีนถ้าไม่พูดอังกฤษ ก็ยากที่จะไปสื่อสารห้ามเค้า
พนักงานที่ว่า จึงเพิกเฉยกับลูกค้าต่างชาติแทน เพราะไม่ได้ภาษา และคุยกันไม่รู้เรื่อง
ส่วนเรื่องการที่ลูกค้า ไปฟ้อง หรือร้องเรียน เจ้าของโรงแรม หรือผู้จัดการ แหง๋ล่ะ ใครมันจะไปยอมรับล่ะ เค้าก็ต้องโบ้ยความผิด
ไปให้พนักงานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงมาปะทะกับลูกค้าด้วยตัวเอง เพื่อความพึงพอใจอันสูงสุดในการเข้าพักของลูกค้า
จะได้ไม่ต้องโดนรีวิว วิจารณ์เสียๆหายๆให้เป็นผลลบให้กับโรงแรมตัวเอง ในรีวิวการเข้าใช้งานจริงในเพจดังๆ เช่น ทริปแอดไวเซอร์ ฯลฯ
ส่วนเรื่องพนักงานเลือกปฎิบัติ ว่าฝรั่งทำได้ ไม่ห้าม พอคนไทยทำ กลับโดนพนักงานเตือน
อยากบอกว่า บางโรงแรม ที่ไม่ใช่ห้าดาว หลายๆโรงแรม พนักงานไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษกันทุกคน
ถ้าจะให้ไปไฝว้ท์กับฝรั่ง โดยภาษาก็ไม่ได้ ไม่น่าจะรอด เลยเลือกที่จะเพิกเฉย กับลูกค้าที่เป็นฝรั่ง ( กูคุยกับมันไม่รู้เรื่อง กูก็เลยปล่อย)
ส่วนคนไทย แหง๋ล่ะ คุยกันรู้เรื่องกว่า เตือนได้ ห้ามได้เต็มที่ มันคือตลกร้าย ที่คนไทยเรามองว่า อาจถูกเลือกปฎิบัติ
พนักงานบางคน ไม่ได้ภาษาจริงๆ อย่าว่าแต่ฝรั่งเลย คนจีนถ้าไม่พูดอังกฤษ ก็ยากที่จะไปสื่อสารห้ามเค้า
พนักงานที่ว่า จึงเพิกเฉยกับลูกค้าต่างชาติแทน เพราะไม่ได้ภาษา และคุยกันไม่รู้เรื่อง
ส่วนเรื่องการที่ลูกค้า ไปฟ้อง หรือร้องเรียน เจ้าของโรงแรม หรือผู้จัดการ แหง๋ล่ะ ใครมันจะไปยอมรับล่ะ เค้าก็ต้องโบ้ยความผิด
ไปให้พนักงานอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องลงมาปะทะกับลูกค้าด้วยตัวเอง เพื่อความพึงพอใจอันสูงสุดในการเข้าพักของลูกค้า
จะได้ไม่ต้องโดนรีวิว วิจารณ์เสียๆหายๆให้เป็นผลลบให้กับโรงแรมตัวเอง ในรีวิวการเข้าใช้งานจริงในเพจดังๆ เช่น ทริปแอดไวเซอร์ ฯลฯ
ความคิดเห็นที่ 14
การศึกษา
ปัจจุบัน ผมอายุ 43 แล้ว ราวๆตอนผมป.6 หรือม.ต้น รร.เอกชนเล็กๆ เค้ามีสอนการแต่งกาย การใช้ช้อนซ่อม อะไรต่างๆที่เกี่ยวกับมารยาท และการอยู่ร่วมกันทางสังคม
จำไม่ได้ว่าเป็น สปช. สลน. หรือ กพอ. ผมเข้าใจว่าวิชาพวกนี้เป็นของกระทรวงศึกษาธิการเค้าบังคับมา
ผมไม่ได้เรียนม.ปลายครับ ผมเข้าเรียนสายปวช. หนักเข้าไปอีกขั้นคือ สอนจับแก้วไวน์เลย
ตอนมหาลัย ผมเรัยนคณะบริหาร ก็ยังมีการย้ำที่วิชาอะไรซักวิชาจำไม่ได้แล้ว
ไม่รู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ๆได้เรียนเรื่องพวกนี้กันบ้างหรือเปล่า ถ้าเปล่า ผมก็ไม่ถือกันครับ
แต่ถ้าเรียน ก็เป็นอันรู้กันว่าตอนเรียนคงไม่ตั้งใจเรียน
ครอบครัว
ผมเกิดในครอบครัวคนจีนครับ พ่อผมก็เด็กเยาวราชเก่า เรียนจบป.7 ซึ่งเอาตรงๆนะ พ่อผมก็รู้จักมารยาททางสังคมของพวกรร.ชั้นสูงก็จากแม่ผมที่เรัยนจบพาณิชย์นี่แหละ แต่แกค่อนข้างอึดอัดเวลาใช้ชีวิตตามรร.หรูๆพอควร แต่ก็ไม่เคยทำอะไรผิดกฏนะครับ เต็มที่คือ พาลไม่ไปกันเลยทีเดียว
และแม่ผมก็จะคอยสอนผมเสมอๆเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ดังนั้น ถ้าการศึกษาดี ครอบครัวดี ผมเชื่อว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้นะครับ
แต่ เดี๋ยวนี้ เท่าที่ผมสังเกตคือ คนก้าวข้ามจุดการเรียนรู้เหล่านี้ มาพักรร.4-5 ดาวกันเยอะขึ้น
ไม่ว่าสาเหตุใดๆก็ตาม และ รร.เองก็งกเงินมากขึ้น
เมื่อสองอย่างนี้บรรจบกัน เราก็จะเห็นการร้องเรียน หรือการโพสท์ฆ่าตัวตายบ่อยขึ้น คือ ไม่รู้จักมารยาทไม่ว่า ดันจะปกป้องสิทธิตัวเองในพื้นที่สาธารณะ
รร.ก็เอ๋อเหรอโอ๋แขกเพียงเพราะเงิน
จนบางที... ผมเองที่ตอนนี้เป็นคนกลางๆในสังคม ไม่รู้จะพักแบบไหนดีเหมือนกัน
พัก 5 ดาวมีแบรนด์ ก็แพงเกินไป
พัก 5 ดาวไร้แบรนด์ ก็เสี่ยงเจอ กลิ่นทุเรียน กลิ่นปลาร้า เมาเหล้าร้องเพลงตอนกลางคืน
ดีไม่ดีเจอมนุษย์ป้าแบบกระทู้นั้นอีก อูยยย
อยู่อยากขึ้นจริงๆนะสังคมไทย
ปัจจุบัน ผมอายุ 43 แล้ว ราวๆตอนผมป.6 หรือม.ต้น รร.เอกชนเล็กๆ เค้ามีสอนการแต่งกาย การใช้ช้อนซ่อม อะไรต่างๆที่เกี่ยวกับมารยาท และการอยู่ร่วมกันทางสังคม
จำไม่ได้ว่าเป็น สปช. สลน. หรือ กพอ. ผมเข้าใจว่าวิชาพวกนี้เป็นของกระทรวงศึกษาธิการเค้าบังคับมา
ผมไม่ได้เรียนม.ปลายครับ ผมเข้าเรียนสายปวช. หนักเข้าไปอีกขั้นคือ สอนจับแก้วไวน์เลย
ตอนมหาลัย ผมเรัยนคณะบริหาร ก็ยังมีการย้ำที่วิชาอะไรซักวิชาจำไม่ได้แล้ว
ไม่รู้ว่าเด็กรุ่นใหม่ๆได้เรียนเรื่องพวกนี้กันบ้างหรือเปล่า ถ้าเปล่า ผมก็ไม่ถือกันครับ
แต่ถ้าเรียน ก็เป็นอันรู้กันว่าตอนเรียนคงไม่ตั้งใจเรียน
ครอบครัว
ผมเกิดในครอบครัวคนจีนครับ พ่อผมก็เด็กเยาวราชเก่า เรียนจบป.7 ซึ่งเอาตรงๆนะ พ่อผมก็รู้จักมารยาททางสังคมของพวกรร.ชั้นสูงก็จากแม่ผมที่เรัยนจบพาณิชย์นี่แหละ แต่แกค่อนข้างอึดอัดเวลาใช้ชีวิตตามรร.หรูๆพอควร แต่ก็ไม่เคยทำอะไรผิดกฏนะครับ เต็มที่คือ พาลไม่ไปกันเลยทีเดียว
และแม่ผมก็จะคอยสอนผมเสมอๆเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้
ดังนั้น ถ้าการศึกษาดี ครอบครัวดี ผมเชื่อว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้นะครับ
แต่ เดี๋ยวนี้ เท่าที่ผมสังเกตคือ คนก้าวข้ามจุดการเรียนรู้เหล่านี้ มาพักรร.4-5 ดาวกันเยอะขึ้น
ไม่ว่าสาเหตุใดๆก็ตาม และ รร.เองก็งกเงินมากขึ้น
เมื่อสองอย่างนี้บรรจบกัน เราก็จะเห็นการร้องเรียน หรือการโพสท์ฆ่าตัวตายบ่อยขึ้น คือ ไม่รู้จักมารยาทไม่ว่า ดันจะปกป้องสิทธิตัวเองในพื้นที่สาธารณะ
รร.ก็เอ๋อเหรอโอ๋แขกเพียงเพราะเงิน
จนบางที... ผมเองที่ตอนนี้เป็นคนกลางๆในสังคม ไม่รู้จะพักแบบไหนดีเหมือนกัน
พัก 5 ดาวมีแบรนด์ ก็แพงเกินไป
พัก 5 ดาวไร้แบรนด์ ก็เสี่ยงเจอ กลิ่นทุเรียน กลิ่นปลาร้า เมาเหล้าร้องเพลงตอนกลางคืน
ดีไม่ดีเจอมนุษย์ป้าแบบกระทู้นั้นอีก อูยยย
อยู่อยากขึ้นจริงๆนะสังคมไทย
ความคิดเห็นที่ 20
ไม่เคยอ่านกระทู้นั้น และ ไม่ทราบเรื่องราว และ ไม่ทราบว่าครอบครัวไหน
แต่อ่านเรื่องแบบแนวๆ ที่คุณ จขกท เล่ามาในเนื้อหากระทู้ก็ไม่แปลกใจนะ
เพราะจากการที่เจอคนมาหลายชาติ เป็นร้อยๆ สัญชาติ เราพบว่า พลเมืองส่วนใหญ่ของ ปท กำลังพัฒนา
หรือ พลเมืองของ ปท ที่พัฒนาแล้วแต่เป็นในกลุ่มคนระดับล่างที่ไม่มีระเบียบ
หรือ พวกคนเอเชียหลายๆ ชาติที่ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ มักจะมีพฤติกรรมแนวๆ นี้
คือ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เอาโลกมาหมุนรอบตัวเอง เมื่อมีคนมาเตือน คนพวกนี้จะโกรธ
และ จะยิ่งทำประชดแหกกฏมากขึ้น
เพราะไม่ได้ถูกสอนมาในเรื่องของการเคารพผู้อื่น มารยาทสังคมไม่มี และ นิสัยจะออกแนวเด็กๆ
ขาดวุฒิภาวะ ขาดการอบรม
และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าเป็นพลเมืองของหลายๆ ปท ที่เติบโตมากับวัฒนธรรมประเพณีบางอย่าง
โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการได้หน้าเสียหน้า ส่วนใหญ่เลย คนประเภทนี้ เมื่อทำผิดกฏ แล้วถ้าถูกตักเตือน
มักจะรับไม่ได้ ขอโทษไม่เป็น และ พาล
_________
แล้วชุดนอนสุภาพเป็นอย่างไร อยากทราบ อยากเห็นภาพ
แต่ชุดนอนก็คือชุดนอนนะ
_________
เราเคยเจอคนไทยลงมารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมในภูฏาน
ใส่ชุดนอน เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เข้าชุดกัน เป็นผ้าสำลี มีลายการ์ตูนเล็กๆ สีหวานๆ
แล้วใส่รองเท้าผ้าสลิปเป้อร์แบบที่เอาไว้ใส่เดินในบ้านในห้องที่โรงแรม เรามองด้วยความตะลึง ว่าช่างกล้ามาก
แขกทุกคนมองกันใหญ่
คือต่อให้ไม่ได้แต่งชุดนอนโป๊ๆ บางๆ สั้นๆ แต่ใส่เป็นแขนยาว ขายาว แต่มันก็คือชุดนอนหน่ะนะ
แล้วถึงจะไม่ได้เดินเท้าเปล่าลงมาทานอาหาร แต่รองเท้าที่ใส่ มันคือรองเท้าแบบใส่เดินในบ้านในห้องหน่ะนะ
มันไม่ใช่เครื่องแต่งกายที่จะใส่เดินลงมาตักบุฟเฟ่ท์อาหารเช้า แล้วนั่งรับประทานในชุดนั้นในห้องอาหารของโรงแรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าห้องอาหารนั้นอยู่ติดกับล็อบบี้โรงแรม
คือถ้าจะนอน ถ้าจะใส่ชุดนอนกินอาหารเช้าในโรงแรม ควรจะสั่งบริการรูมเซอร์วิสนะ
สั่งรูมเซอร์วิสมากิน จะใส่ชุดนอน ชุดว่ายน้ำกิน นุ่งกุงเกงลิงตัวเดียวกิน หรือ จะแก้ผ้ากินยังได้เลย
เพราะกินในห้องส่วนตัว
_________
หลายๆ เรื่องหน่ะ เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบ
แต่หลายๆ เรื่อง ไม่จำเป็นต้องมีเขียนเป็นกฏ เพราะมันเป็นมารยาทสังคมที่พึงกระทำ
เป็นสิ่งที่ต้องใช้สามัญสำนึกขั้นพื้นฐาน หรือ ใช้คอมม่อนเซ้นส์ในการคิดปฏิบัติ
_________
กระทู้หัวเรื่อง ถามคนที่อยู่เมืองไทย และอยู่ต่างประเทศ เวลาทานอาหารเช้าที่โรงแรมแต่งตัวกันอย่างไร ?( โรงแรม 4 ดาว หรือ 5 ดาว )
https://ppantip.com/topic/36347885/comment34
เราเคยไปตอบเอาไว้ที่ คห 34 ดังนี้.....
แต่งตัวสุภาพตามกาละเทศะ ตามสถานที่ตั้งของโรงแรม ตามระดับความหรู หรือ ระดับลำลองของโรงแรม ตามประเภทของโรงแรม
ดูตามสถานะการณ์ ตามความเหมาะสมของมารยาทสังคม ไม่มีกฏตายตัว
แต่สิ่งที่ไม่เคยทำ และ ไม่ทำเด็ดขาด คือการใส่ชุดนอน และ สวมรองเท้าแตะที่ทำจากผ้า เพื่อลง
ไปรับประทานอาหารบุฟเฟ่ท์โรงแรมในตอนเช้า
เคยเห็นทัวร์ไทย ทัวร์จีน ทำแบบนี้บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้มารยาทสังคม
🏢
แต่อ่านเรื่องแบบแนวๆ ที่คุณ จขกท เล่ามาในเนื้อหากระทู้ก็ไม่แปลกใจนะ
เพราะจากการที่เจอคนมาหลายชาติ เป็นร้อยๆ สัญชาติ เราพบว่า พลเมืองส่วนใหญ่ของ ปท กำลังพัฒนา
หรือ พลเมืองของ ปท ที่พัฒนาแล้วแต่เป็นในกลุ่มคนระดับล่างที่ไม่มีระเบียบ
หรือ พวกคนเอเชียหลายๆ ชาติที่ถูกเลี้ยงมาแบบตามใจ มักจะมีพฤติกรรมแนวๆ นี้
คือ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง เอาโลกมาหมุนรอบตัวเอง เมื่อมีคนมาเตือน คนพวกนี้จะโกรธ
และ จะยิ่งทำประชดแหกกฏมากขึ้น
เพราะไม่ได้ถูกสอนมาในเรื่องของการเคารพผู้อื่น มารยาทสังคมไม่มี และ นิสัยจะออกแนวเด็กๆ
ขาดวุฒิภาวะ ขาดการอบรม
และ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากว่าเป็นพลเมืองของหลายๆ ปท ที่เติบโตมากับวัฒนธรรมประเพณีบางอย่าง
โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับการได้หน้าเสียหน้า ส่วนใหญ่เลย คนประเภทนี้ เมื่อทำผิดกฏ แล้วถ้าถูกตักเตือน
มักจะรับไม่ได้ ขอโทษไม่เป็น และ พาล
_________
แล้วชุดนอนสุภาพเป็นอย่างไร อยากทราบ อยากเห็นภาพ
แต่ชุดนอนก็คือชุดนอนนะ
_________
เราเคยเจอคนไทยลงมารับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมในภูฏาน
ใส่ชุดนอน เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เข้าชุดกัน เป็นผ้าสำลี มีลายการ์ตูนเล็กๆ สีหวานๆ
แล้วใส่รองเท้าผ้าสลิปเป้อร์แบบที่เอาไว้ใส่เดินในบ้านในห้องที่โรงแรม เรามองด้วยความตะลึง ว่าช่างกล้ามาก
แขกทุกคนมองกันใหญ่
คือต่อให้ไม่ได้แต่งชุดนอนโป๊ๆ บางๆ สั้นๆ แต่ใส่เป็นแขนยาว ขายาว แต่มันก็คือชุดนอนหน่ะนะ
แล้วถึงจะไม่ได้เดินเท้าเปล่าลงมาทานอาหาร แต่รองเท้าที่ใส่ มันคือรองเท้าแบบใส่เดินในบ้านในห้องหน่ะนะ
มันไม่ใช่เครื่องแต่งกายที่จะใส่เดินลงมาตักบุฟเฟ่ท์อาหารเช้า แล้วนั่งรับประทานในชุดนั้นในห้องอาหารของโรงแรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าห้องอาหารนั้นอยู่ติดกับล็อบบี้โรงแรม
คือถ้าจะนอน ถ้าจะใส่ชุดนอนกินอาหารเช้าในโรงแรม ควรจะสั่งบริการรูมเซอร์วิสนะ
สั่งรูมเซอร์วิสมากิน จะใส่ชุดนอน ชุดว่ายน้ำกิน นุ่งกุงเกงลิงตัวเดียวกิน หรือ จะแก้ผ้ากินยังได้เลย
เพราะกินในห้องส่วนตัว
_________
หลายๆ เรื่องหน่ะ เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบ
แต่หลายๆ เรื่อง ไม่จำเป็นต้องมีเขียนเป็นกฏ เพราะมันเป็นมารยาทสังคมที่พึงกระทำ
เป็นสิ่งที่ต้องใช้สามัญสำนึกขั้นพื้นฐาน หรือ ใช้คอมม่อนเซ้นส์ในการคิดปฏิบัติ
_________
กระทู้หัวเรื่อง ถามคนที่อยู่เมืองไทย และอยู่ต่างประเทศ เวลาทานอาหารเช้าที่โรงแรมแต่งตัวกันอย่างไร ?( โรงแรม 4 ดาว หรือ 5 ดาว )
https://ppantip.com/topic/36347885/comment34
เราเคยไปตอบเอาไว้ที่ คห 34 ดังนี้.....
แต่งตัวสุภาพตามกาละเทศะ ตามสถานที่ตั้งของโรงแรม ตามระดับความหรู หรือ ระดับลำลองของโรงแรม ตามประเภทของโรงแรม
ดูตามสถานะการณ์ ตามความเหมาะสมของมารยาทสังคม ไม่มีกฏตายตัว
แต่สิ่งที่ไม่เคยทำ และ ไม่ทำเด็ดขาด คือการใส่ชุดนอน และ สวมรองเท้าแตะที่ทำจากผ้า เพื่อลง
ไปรับประทานอาหารบุฟเฟ่ท์โรงแรมในตอนเช้า
เคยเห็นทัวร์ไทย ทัวร์จีน ทำแบบนี้บ้าง ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่รู้มารยาทสังคม
🏢
แสดงความคิดเห็น
สวมชุดนอนรับประทานอาหารเช้าในโรงแรมหรู ทำได้หรือไร้มารยาท??????