เห็นมีคนโดนขโมยของในปารีส เลยอยากตั้งกระทู้มาร่วมแชร์ และจะได้สอบถามท่านอื่นๆ ด้วยว่า คนที่เดินทางบ่อยๆ มีวิธีป้องกันตัวเองอย่างไร
กระทู้นี้เน้นปกป้องทรัพย์สินและของมีค่าที่โรงแรมและระหว่างเดินทาง:
แนะนำในฐานะคนเดินทางบ่อยนะครับ ผ่านปารีส อิตาลี เวียดนาม จีน ... ฯลฯ มาแล้ว ผมจัดเตรียมของพวกนี้เป็นนิสัย
ลองหยิบไปใช้ดูตามเหมาะสม แต่ละทริปผมไม่ได้พกไปทั้งหมด แต่เลือกดูตามความจำเป็น ทริปไหนมีคนฝากซื้อของแพง ก็จะป้องกันเยอะหน่อย
ทรัพย์สินที่ต้องทิ้งไว้โรงแรม
1. อย่าฝากกุญแจห้องกับโรงแรม ผมไม่เคยฝาก เคยโดนบังคับฝาก ก็บอกให้เค้าเขียนจดหมายมาว่า จะรับผิดชอบหากของหาย
เพราะการฝากคีย์การ์ดหรือกุญแจ ทำให้คนรู้ความเคลื่อนไหว
2. แยกเก็บเงิน
* กระเป๋าสตางค์
* กระเป๋าคล้องคอซ่อนในเสื้อ
* กระเป๋าเดินทาง
* ตู้เซฟโรงแรม
* และในที่ที่คนไม่คิดจะค้น เช่น ถุงเสื้อผ้าเก่า หนังสือ ฯลฯ
จะแยกกี่ที่ก็แล้วแต่ครับ ปกติผมจะแยกเงินเป็น 3 กอง
ผมใช้กระเป๋าซ่อนในตัวสองแบบ แต่ชอบแบบคล้องคอมากกว่า
3. ของมีค่าที่ซื้อมา ควรเก็บใส่กระเป๋าเดินทางและล็อกอย่างดี จะอยู่โรงแรมกี่ดาวไม่ต้องสนใจ ; ของชิ้นเล็กควรเก็บในเซฟโรงแรม (ในห้อง/ล็อบบี้) เช่น เงินจำนวนมาก สร้อยแหวนเงินทอง
แต่ผมไม่ค่อยพกของมีค่าพวกนี้ และบางทีต้องหยิบใช้ทุกวัน ดังนั้นเซฟล็อบบี้จึงไม่ค่อยใช้ จะใช้ก็แค่เซฟในห้องพัก
แต่ถ้าไม่มีเซฟ ก็จะเก็บเองในกระเป๋าเดินทาง
4. ควรมีสายล็อกยาวๆ .. ผมมีเพื่อนคู่ใจติดตัวทุกการเดินทาง 2 แบบครับ
- แบบแม่กุญแจที่มีสายเคเบิลในตัวแบบสั้น เอาไว้ล็อกซิปแล้วคล้องเก้าอี้ เสา ฯลฯ
- แบบแม่กุญแจที่มีสายเคเบิลในตัวหรือแบบแยก แต่เป็นเส้นยาว - เอาไว้คล้องกระเป๋าหลายใบเข้าด้วยกัน
* กระเป๋าที่ล็อก ช่วยถ่วงเวลาได้
* กระเป๋าที่คล้องเสา เก้าอี้ หรือคล้องด้วยกัน ทำให้โจรที่คิดจะขโมยทั้งกระเป๋าต้องคิดใหม่ หรือเสี่ยงกับโจรมากขึ้น
5. บางทีผมเอากล้อง IP camera ติดตัวไปด้วย
ราคาตัวนึงไม่ถึงพัน ต่อไวไฟในห้องแล้วดูภาพได้เลย ตั้ง motion detector ได้ด้วย มีคนเดินเข้ามาในห้อง มันก็แจ้งเตือน
แนะนำยี่ห้อที่มีแอพมาพร้อมใช้ เช่น Dlink, Xiaomi .. พวกนี้ติดตั้งง่ายใช้ง่าย ของยี่ห้ออื่นๆ ก็ใช้ได้ครับ ควรลองติดตั้งที่บ้าน แล้วย้ายจุดไปใช้ที่ทำงาน ก่อนออกเดินทางเพื่อความชัวร์
6. บางทีผมพกสัญญาณกันขโมยไร้สาย ราคาไม่กี่ร้อย ตัวเล็กนิดเดียวใส่กระเป๋าเสื้อสบายๆ
วางไว้ที่ประตูและหน้าต่าง ใครเปิดเข้ามา มันก็ร้องเสียงดัง ที่ปิดเสียงมันจะอยู่ในตัวเครื่องอีกที ต้องเสียเวลาเปิดฝา ก็ลดความเสี่ยงไปได้อีก
7. ของมีค่า เช่น โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ถ้าไม่ใส่เซฟ ผมก็ใส่กระเป๋าเดินทาง หรือถ้าวางทิ้งไว้บนโต๊ะ ก็จะมี Kensington Lock
8. ผมพกแม่กุญแจแบบรหัสอันเล็กๆ ติดตัวไปเผื่อเสมอ ล็อกทุกใบที่มีซิป (ทริปนึงมีเผื่อไว้ 3 ตัว อันเล็กนิดเดียว ไม่หนักครับ และราคาตัวละร้อย ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ยาวๆ) โดยผมมีทั้ง 3 แบบหลักๆ ตามลักษณะสาย (เพิ่งซื้อแบบใช้ลายนิ้วมือมา ยังไม่ได้ลอง - แบบพวก 4 รหัสก็น่าใช้ครับ)
และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบบ TSA จะได้หมดกังวลเวลาเดินทางไปอเมริกา
อันนี้บางส่วนนะครับ ยังมีอีกเยอะ แบบตัวใหญ่ๆ ขี้เกียจหยิบมาถ่าย บางทีถ้าพัก apartment ก็จะพกแบบอันใหญ่ที่เก็บกุญแจไว้ด้านในอีกที (ที่ญี่ปุ่นชอบใช้) ด้านนอกเป็นรหัสตัวเลข
9. ทำความสะอาดห้องเท่าที่จำเป็น และปกติจะแขวนป้ายอย่ารบกวน หรือกดไฟ Do Not Disturb เอาไว้ตลอดเวลา ปกติผมไม่ทำห้องเลอะอยู่แล้ว ผ้าปูเตียงก็ไม่ต้องเปลี่ยน ฉะนั้นถ้าไม่ค่อยไว้ใจ ผมจะไม่ปล่อยให้ใครเข้าห้องตอนไม่อยู่ และใช้วิธีขอผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู ฯลฯ ตอนที่กลับมาถึงโรงแรม และก็ทิปไปเล็กๆ น้อยๆ
10. ทิปแม่บ้านทุกครั้ง โดยวางเงินไว้บนโต๊ะหรือบนหมอน ผมให้ทิปเท่ากับค่ากาแฟหรือค่าข้าวข้างถนนในประเทศนั้นๆ
นอกจากเป็นการขอบคุณแล้ว ยังอาจเป็นการเปลี่ยนใจโจรในคราบแม่บ้านด้วย (ถ้าเขาเป็น)
11. ทำสัญลักษณะไว้เสมอ เช่น ลักษณะการจัดวางกระเป๋าเดินทาง วางหนังสือหรือเศษกระดาษไว้บนกระเป๋าเดินทาง ถุงขนมกินแล้วที่วางไว้ด้านในประตูห้อง ฯลฯ จะได้รู้ว่ามีใครมายุ่มย่ามกับห้องของเราหรือไม่
12. เปิดโรมมิ่งทุกครั้ง เวลามีปัญหาจะได้โทรติดต่อได้ทันที ผมมีโทรศัพท์สองเครื่อง เครื่องนึงเปิดโรมมิ่ง เครื่องนึงใช้ซิมในประเทศนั้นๆ
13. เลือก รร. ในย่านที่ปลอดภัย อย่างฝรั่งเศสนี่ อย่าเผลอไปอยู่ผิดโซนนะครับ อิตาลีถ้าพักแถวสถานีรถไฟก็ควรระวังเยอะๆ ทริปอิตาลีของผมเจอคนต้องสงสัยทุกวัน มีเคสนึงวิ่งมาขโมยกระเป๋าเดินทางจากใต้รถบัสเลย (ของคนอื่น) แล้ววิ่งหายไปกับความมืดช่วงตีสี่ตีห้า -- ที่สำคัญ อ่านรีวิวโรงแรมทุกครั้ง ทั้งบน Agoda, Booking, Tripadvisor -- ถ้าโรงแรมไหนมีประวัติเรื่องของหาย ผมข้ามทันที
14. แอพแปลภาษา เบอร์โทรตำรวจ คำศัพท์ เบอร์สถานทูตไทย เตรียมไว้ให้พร้อมครับ ใช้เวลาเตรียมตรงนี้แค่ 5 นาที จะได้เที่ยวสบายใจ เกิดปัญหาจะได้ไม่รน
15. วิธีที่ดีที่สุดคือ อย่าขนของมีค่าติดตัวระหว่างเดินทาง เอาเฉพาะที่จำเป็น และถ้าเป็นไปได้ ก็พกติดตัวครับ
เก็บของระหว่างเดินทางอย่างไรให้ปลอดภัยจากขโมย .. สืบเนื่องจากกระทู้โดนขโมยของในห้องที่ปารีส
กระทู้นี้เน้นปกป้องทรัพย์สินและของมีค่าที่โรงแรมและระหว่างเดินทาง:
แนะนำในฐานะคนเดินทางบ่อยนะครับ ผ่านปารีส อิตาลี เวียดนาม จีน ... ฯลฯ มาแล้ว ผมจัดเตรียมของพวกนี้เป็นนิสัย
ลองหยิบไปใช้ดูตามเหมาะสม แต่ละทริปผมไม่ได้พกไปทั้งหมด แต่เลือกดูตามความจำเป็น ทริปไหนมีคนฝากซื้อของแพง ก็จะป้องกันเยอะหน่อย
ทรัพย์สินที่ต้องทิ้งไว้โรงแรม
1. อย่าฝากกุญแจห้องกับโรงแรม ผมไม่เคยฝาก เคยโดนบังคับฝาก ก็บอกให้เค้าเขียนจดหมายมาว่า จะรับผิดชอบหากของหาย
เพราะการฝากคีย์การ์ดหรือกุญแจ ทำให้คนรู้ความเคลื่อนไหว
2. แยกเก็บเงิน
* กระเป๋าสตางค์
* กระเป๋าคล้องคอซ่อนในเสื้อ
* กระเป๋าเดินทาง
* ตู้เซฟโรงแรม
* และในที่ที่คนไม่คิดจะค้น เช่น ถุงเสื้อผ้าเก่า หนังสือ ฯลฯ
จะแยกกี่ที่ก็แล้วแต่ครับ ปกติผมจะแยกเงินเป็น 3 กอง
ผมใช้กระเป๋าซ่อนในตัวสองแบบ แต่ชอบแบบคล้องคอมากกว่า
3. ของมีค่าที่ซื้อมา ควรเก็บใส่กระเป๋าเดินทางและล็อกอย่างดี จะอยู่โรงแรมกี่ดาวไม่ต้องสนใจ ; ของชิ้นเล็กควรเก็บในเซฟโรงแรม (ในห้อง/ล็อบบี้) เช่น เงินจำนวนมาก สร้อยแหวนเงินทอง
แต่ผมไม่ค่อยพกของมีค่าพวกนี้ และบางทีต้องหยิบใช้ทุกวัน ดังนั้นเซฟล็อบบี้จึงไม่ค่อยใช้ จะใช้ก็แค่เซฟในห้องพัก
แต่ถ้าไม่มีเซฟ ก็จะเก็บเองในกระเป๋าเดินทาง
4. ควรมีสายล็อกยาวๆ .. ผมมีเพื่อนคู่ใจติดตัวทุกการเดินทาง 2 แบบครับ
- แบบแม่กุญแจที่มีสายเคเบิลในตัวแบบสั้น เอาไว้ล็อกซิปแล้วคล้องเก้าอี้ เสา ฯลฯ
- แบบแม่กุญแจที่มีสายเคเบิลในตัวหรือแบบแยก แต่เป็นเส้นยาว - เอาไว้คล้องกระเป๋าหลายใบเข้าด้วยกัน
* กระเป๋าที่ล็อก ช่วยถ่วงเวลาได้
* กระเป๋าที่คล้องเสา เก้าอี้ หรือคล้องด้วยกัน ทำให้โจรที่คิดจะขโมยทั้งกระเป๋าต้องคิดใหม่ หรือเสี่ยงกับโจรมากขึ้น
5. บางทีผมเอากล้อง IP camera ติดตัวไปด้วย
ราคาตัวนึงไม่ถึงพัน ต่อไวไฟในห้องแล้วดูภาพได้เลย ตั้ง motion detector ได้ด้วย มีคนเดินเข้ามาในห้อง มันก็แจ้งเตือน
แนะนำยี่ห้อที่มีแอพมาพร้อมใช้ เช่น Dlink, Xiaomi .. พวกนี้ติดตั้งง่ายใช้ง่าย ของยี่ห้ออื่นๆ ก็ใช้ได้ครับ ควรลองติดตั้งที่บ้าน แล้วย้ายจุดไปใช้ที่ทำงาน ก่อนออกเดินทางเพื่อความชัวร์
6. บางทีผมพกสัญญาณกันขโมยไร้สาย ราคาไม่กี่ร้อย ตัวเล็กนิดเดียวใส่กระเป๋าเสื้อสบายๆ
วางไว้ที่ประตูและหน้าต่าง ใครเปิดเข้ามา มันก็ร้องเสียงดัง ที่ปิดเสียงมันจะอยู่ในตัวเครื่องอีกที ต้องเสียเวลาเปิดฝา ก็ลดความเสี่ยงไปได้อีก
7. ของมีค่า เช่น โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ถ้าไม่ใส่เซฟ ผมก็ใส่กระเป๋าเดินทาง หรือถ้าวางทิ้งไว้บนโต๊ะ ก็จะมี Kensington Lock
8. ผมพกแม่กุญแจแบบรหัสอันเล็กๆ ติดตัวไปเผื่อเสมอ ล็อกทุกใบที่มีซิป (ทริปนึงมีเผื่อไว้ 3 ตัว อันเล็กนิดเดียว ไม่หนักครับ และราคาตัวละร้อย ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ยาวๆ) โดยผมมีทั้ง 3 แบบหลักๆ ตามลักษณะสาย (เพิ่งซื้อแบบใช้ลายนิ้วมือมา ยังไม่ได้ลอง - แบบพวก 4 รหัสก็น่าใช้ครับ)
และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบบ TSA จะได้หมดกังวลเวลาเดินทางไปอเมริกา
อันนี้บางส่วนนะครับ ยังมีอีกเยอะ แบบตัวใหญ่ๆ ขี้เกียจหยิบมาถ่าย บางทีถ้าพัก apartment ก็จะพกแบบอันใหญ่ที่เก็บกุญแจไว้ด้านในอีกที (ที่ญี่ปุ่นชอบใช้) ด้านนอกเป็นรหัสตัวเลข
9. ทำความสะอาดห้องเท่าที่จำเป็น และปกติจะแขวนป้ายอย่ารบกวน หรือกดไฟ Do Not Disturb เอาไว้ตลอดเวลา ปกติผมไม่ทำห้องเลอะอยู่แล้ว ผ้าปูเตียงก็ไม่ต้องเปลี่ยน ฉะนั้นถ้าไม่ค่อยไว้ใจ ผมจะไม่ปล่อยให้ใครเข้าห้องตอนไม่อยู่ และใช้วิธีขอผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว สบู่ แชมพู ฯลฯ ตอนที่กลับมาถึงโรงแรม และก็ทิปไปเล็กๆ น้อยๆ
10. ทิปแม่บ้านทุกครั้ง โดยวางเงินไว้บนโต๊ะหรือบนหมอน ผมให้ทิปเท่ากับค่ากาแฟหรือค่าข้าวข้างถนนในประเทศนั้นๆ
นอกจากเป็นการขอบคุณแล้ว ยังอาจเป็นการเปลี่ยนใจโจรในคราบแม่บ้านด้วย (ถ้าเขาเป็น)
11. ทำสัญลักษณะไว้เสมอ เช่น ลักษณะการจัดวางกระเป๋าเดินทาง วางหนังสือหรือเศษกระดาษไว้บนกระเป๋าเดินทาง ถุงขนมกินแล้วที่วางไว้ด้านในประตูห้อง ฯลฯ จะได้รู้ว่ามีใครมายุ่มย่ามกับห้องของเราหรือไม่
12. เปิดโรมมิ่งทุกครั้ง เวลามีปัญหาจะได้โทรติดต่อได้ทันที ผมมีโทรศัพท์สองเครื่อง เครื่องนึงเปิดโรมมิ่ง เครื่องนึงใช้ซิมในประเทศนั้นๆ
13. เลือก รร. ในย่านที่ปลอดภัย อย่างฝรั่งเศสนี่ อย่าเผลอไปอยู่ผิดโซนนะครับ อิตาลีถ้าพักแถวสถานีรถไฟก็ควรระวังเยอะๆ ทริปอิตาลีของผมเจอคนต้องสงสัยทุกวัน มีเคสนึงวิ่งมาขโมยกระเป๋าเดินทางจากใต้รถบัสเลย (ของคนอื่น) แล้ววิ่งหายไปกับความมืดช่วงตีสี่ตีห้า -- ที่สำคัญ อ่านรีวิวโรงแรมทุกครั้ง ทั้งบน Agoda, Booking, Tripadvisor -- ถ้าโรงแรมไหนมีประวัติเรื่องของหาย ผมข้ามทันที
14. แอพแปลภาษา เบอร์โทรตำรวจ คำศัพท์ เบอร์สถานทูตไทย เตรียมไว้ให้พร้อมครับ ใช้เวลาเตรียมตรงนี้แค่ 5 นาที จะได้เที่ยวสบายใจ เกิดปัญหาจะได้ไม่รน
15. วิธีที่ดีที่สุดคือ อย่าขนของมีค่าติดตัวระหว่างเดินทาง เอาเฉพาะที่จำเป็น และถ้าเป็นไปได้ ก็พกติดตัวครับ