เคยอ่านข่าวนักท่องเที่ยว ที่จริงไม่ว่าจะไปไทยหรือต่างประเทศ มีข่าวว่าโดนมิจฉาชีพฉุดกระเป๋าไป ซึ่งในกระเป๋ามีพาสปอร์ตด้วย...ตอนที่เราอ่านข่าว เรายังนึกตะงิดเล็กๆว่า ทำไมเขาต้องพกเอกสารสำคัญไปไหนมาไหนด้วย ไม่กลัวโดนแย่งกระเป๋าหรือไง ทำไมไม่ฝากโรงแรมเอาไว้ (เช่นเงื่อนไขที่โรงแรมบอกว่าต้องแจ้งรายการทรัพย์สินทั้งหมดเอาไว้ หากแจ้งไว้แล้วเกิดหาย โรงแรมจะรับผิดชอบค่าเสียหายให้)
แต่ปลากรอบว่า...วันนี้เราได้อ่านข่าวเก่าในช่วงที่สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เรื่องเกี่ยวกับพาสปอร์ตปลอม เขาบอกว่าการที่พาสปอร์ตโดนขโมยนั้น มีการกระทำกันจากคน 3 ประเภทคือ ไกด์ทัวร์ พนักงานโรงแรม และพวกขายบริการทางเพศ
ประเภทหลังเราว่าน่าจำกัดเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไปใช้บริการทางเพศ แต่แบบประเภทสองคนแรกนี่น่ากลัวนะเนี่ย เพราะนักท่องเที่ยวจะตายใจไว้ใจได้ฝากได้ อย่าง 1 ใน 2 นักท่องเที่ยวฝรั่งที่โดนขโมยที่ภูเก็ต เพราะเอาพาสปอร์ตประกันในการเช่ารถ แต่ตอนเอารถมารับคืน เจ้าของรถเช่ากลับบอกว่า มีคนอื่นอ้างว่าเป็นเพื่อนมารับพาสปอร์ตแทนไปแล้ว (ฮ่วย! ร้านไหนฟร่ะเนี่ย น่าจะระบุบอกกันบ้าง ทำงี้กันได้ไง จงใจสมรู้ร่วมคิดชัดๆ มีอย่างที่ไหน เอาพาสปอร์ตให้คนอื่นไป โดยที่รถยังไม่เอามาคืน!)
วิธีการขโมยของกลุ่มคนประเภทนี่คือ จะได้รับออร์เดอร์มาจากเอเยนต์ว่า ต้องการพาสปอร์ตของคนที่มีลักษณะ ผิวพรรณ หน้าตา ส่วนสูงใกล้เคียงกับลูกค้าให้มากที่สุด โดยสนนราคาอยู่ที่แต่ละประเทศ ถ้าเป็นประเทศแถบยุโรป เช่น อิตาลี สเปน อยู่ที่เล่มละ 32,000 บาท อิสราเอล เล่มละ 48,000 บาท และที่แพงที่สุดคือ แคนาดา เล่มละ 96,000 บาท!
อ่านข่าวนี่แล้ว เราหมดความสงสัยเลยว่า ทำไมนักท่องเที่ยวเขาถึงไม่อยากฝากเก็บไว้ที่ใคร เอาไว้ที่ตัวเองปลอดภัยกว่า อย่างน้อยเจอเสี่ยงล้วง กรีด ฉุดกระเป๋ายังน้อยกว่าฝากไว้ที่ไกด์หรือพนักงานโรงแรม (ยิ่งถ้าโรงแรมไหนไม่มีตู้เชฟ แม่บ้านมีกุญแจ อาจสมรู้ร่วมคิดก็ได้ อย่างโรงแรมที่เชียงใหม่ก็เพิ่งเกิดมากับแม่บ้านที่ทำงานโรงแรมมาเกือบทศวรรษ อาศัยโอกาสที่เป็นแม่บ้านมีกุญแจ ไขเข้าห้องไปขโมยของแขกในห้องพัก โดยทำเป็นว่าทำความสะอาดห้อง) แต่ถึงบางโรงแรมมีตู้เชฟ คนพักเองก็ยังกลัวว่า อาจมีพนักงานโรงแรมรู้วิธีเปิดตู้เชฟก็เป็นได้
สำหรับเรา เคยไปสิงคโปร์ตอนสัก 6-7 ปีที่แล้ว ใช้วิธีฝากพาสปอร์ตกับรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าทัวร์ไว้เลย เพราะจะจัดการอะไรได้สะดวกรวดเร็วกว่า...แต่ตอนไปหลวงพระบาง เราถึงขั้นต้องเอาพาสปอร์ตใส่ในกระเป๋าห้อยคอแล้วสอดซ่อนไว้ในอกเสื้อเลย เพราะโดนอาจารย์บอกให้ระวัง ถึงจะเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวก็ตาม
เดี๋ยวนี้เราไปเที่ยวไหน จะซีร็อกเอกสารการบิน เช็คอินโรงแรม บัตรประชาชน เอาไว้สองที่ คือกระเป๋าเป้ตัวเอง และกระเป๋าเดินทางที่ทิ้งไว้โรงแรม ของมีค่าอะไรเอาไว้ในตู้เชฟหมด รวมทั้งไม่เอาคอมอะไรไปด้วย เพราะเคยฝากคอมไว้ที่โรงแรม ปรากรอบว่ากลับมา...ยังไม่หายค่ะ แต่เขาเอาวางไว้ตรงพื้นที่ของเคาน์เตอร์เช็คอินด้านใน ไม่ได้เก็บไว้มิดชิด ทำเอาเราไม่กล้าเอาคอมไปไหนเวลาไปต่างจังหวัดเลย หากจำเป็นต้องเอาไป ต้องซ่อนไว้ใต้เตียงเอาอ่ะ
แล้วเพื่อนๆ มีวิธีรักษาหรือเก็บพาสปอรต์ที่ไหนไว้ปลอดภัยที่สุดคะ
เวลาไปเที่ยวต่างประเทศ คุณมีวิธีรักษาหรือเก็บพาสปอร์ตที่ไหนไว้ปลอดภัยสุดคะ
แต่ปลากรอบว่า...วันนี้เราได้อ่านข่าวเก่าในช่วงที่สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เรื่องเกี่ยวกับพาสปอร์ตปลอม เขาบอกว่าการที่พาสปอร์ตโดนขโมยนั้น มีการกระทำกันจากคน 3 ประเภทคือ ไกด์ทัวร์ พนักงานโรงแรม และพวกขายบริการทางเพศ
ประเภทหลังเราว่าน่าจำกัดเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไปใช้บริการทางเพศ แต่แบบประเภทสองคนแรกนี่น่ากลัวนะเนี่ย เพราะนักท่องเที่ยวจะตายใจไว้ใจได้ฝากได้ อย่าง 1 ใน 2 นักท่องเที่ยวฝรั่งที่โดนขโมยที่ภูเก็ต เพราะเอาพาสปอร์ตประกันในการเช่ารถ แต่ตอนเอารถมารับคืน เจ้าของรถเช่ากลับบอกว่า มีคนอื่นอ้างว่าเป็นเพื่อนมารับพาสปอร์ตแทนไปแล้ว (ฮ่วย! ร้านไหนฟร่ะเนี่ย น่าจะระบุบอกกันบ้าง ทำงี้กันได้ไง จงใจสมรู้ร่วมคิดชัดๆ มีอย่างที่ไหน เอาพาสปอร์ตให้คนอื่นไป โดยที่รถยังไม่เอามาคืน!)
วิธีการขโมยของกลุ่มคนประเภทนี่คือ จะได้รับออร์เดอร์มาจากเอเยนต์ว่า ต้องการพาสปอร์ตของคนที่มีลักษณะ ผิวพรรณ หน้าตา ส่วนสูงใกล้เคียงกับลูกค้าให้มากที่สุด โดยสนนราคาอยู่ที่แต่ละประเทศ ถ้าเป็นประเทศแถบยุโรป เช่น อิตาลี สเปน อยู่ที่เล่มละ 32,000 บาท อิสราเอล เล่มละ 48,000 บาท และที่แพงที่สุดคือ แคนาดา เล่มละ 96,000 บาท!
อ่านข่าวนี่แล้ว เราหมดความสงสัยเลยว่า ทำไมนักท่องเที่ยวเขาถึงไม่อยากฝากเก็บไว้ที่ใคร เอาไว้ที่ตัวเองปลอดภัยกว่า อย่างน้อยเจอเสี่ยงล้วง กรีด ฉุดกระเป๋ายังน้อยกว่าฝากไว้ที่ไกด์หรือพนักงานโรงแรม (ยิ่งถ้าโรงแรมไหนไม่มีตู้เชฟ แม่บ้านมีกุญแจ อาจสมรู้ร่วมคิดก็ได้ อย่างโรงแรมที่เชียงใหม่ก็เพิ่งเกิดมากับแม่บ้านที่ทำงานโรงแรมมาเกือบทศวรรษ อาศัยโอกาสที่เป็นแม่บ้านมีกุญแจ ไขเข้าห้องไปขโมยของแขกในห้องพัก โดยทำเป็นว่าทำความสะอาดห้อง) แต่ถึงบางโรงแรมมีตู้เชฟ คนพักเองก็ยังกลัวว่า อาจมีพนักงานโรงแรมรู้วิธีเปิดตู้เชฟก็เป็นได้
สำหรับเรา เคยไปสิงคโปร์ตอนสัก 6-7 ปีที่แล้ว ใช้วิธีฝากพาสปอร์ตกับรุ่นพี่ที่เป็นหัวหน้าทัวร์ไว้เลย เพราะจะจัดการอะไรได้สะดวกรวดเร็วกว่า...แต่ตอนไปหลวงพระบาง เราถึงขั้นต้องเอาพาสปอร์ตใส่ในกระเป๋าห้อยคอแล้วสอดซ่อนไว้ในอกเสื้อเลย เพราะโดนอาจารย์บอกให้ระวัง ถึงจะเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวก็ตาม
เดี๋ยวนี้เราไปเที่ยวไหน จะซีร็อกเอกสารการบิน เช็คอินโรงแรม บัตรประชาชน เอาไว้สองที่ คือกระเป๋าเป้ตัวเอง และกระเป๋าเดินทางที่ทิ้งไว้โรงแรม ของมีค่าอะไรเอาไว้ในตู้เชฟหมด รวมทั้งไม่เอาคอมอะไรไปด้วย เพราะเคยฝากคอมไว้ที่โรงแรม ปรากรอบว่ากลับมา...ยังไม่หายค่ะ แต่เขาเอาวางไว้ตรงพื้นที่ของเคาน์เตอร์เช็คอินด้านใน ไม่ได้เก็บไว้มิดชิด ทำเอาเราไม่กล้าเอาคอมไปไหนเวลาไปต่างจังหวัดเลย หากจำเป็นต้องเอาไป ต้องซ่อนไว้ใต้เตียงเอาอ่ะ
แล้วเพื่อนๆ มีวิธีรักษาหรือเก็บพาสปอรต์ที่ไหนไว้ปลอดภัยที่สุดคะ