Homesick คิดถึง…ใจจะขาด

“วันนี้ที่บ้าน...ต้นไม้ที่โตมาด้วยกันตั้งแต่ประถม กำลังถูกตัดและเรากลายเป็น Homesick แบบที่เราเป็น”

หลายคนเห็นอาจจะงงกับ homesick ในแบบที่เราเป็น เราคิดเข้าข้างตัวเองว่า “มันต้องมีบางคนที่คิดและทำแบบเรา”

เราเป็นพวกติดบ้าน ติดห้อง ทำงานในห้อง ไม่ค่อยออกไปไหน ถ้าออกก็ออกไปทำงาน การออกไปทำงานที่มีความสุขที่สุด แต่การกลับบ้านคือความสุขที่สุดของที่สุด อยู่กับพ่อ เล่นกับหมา เดินไปไหนก็มีคนรู้จัก บางทีเดินจากหน้าหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาเดินเกือบชั่วโมง แวะนู่นแวะนี่ตลอดทาง

มันมีความสุข มันสบายใจ รู้สึกปลอดภัย แล้วไม่มีความเครียด แต่ความเครียดมันจะเริ่มตอนที่เราจะต้องกลับมาอยู่ที่ห้อง ต้องออกจากบ้านไปใช้ชีวิตแบบเดิม

พอกลับมาถึงห้อง มันจะอารมณ์เหมือน “ที่นี่ที่ไหน ?” ต้องจัดการชีวิตตัวเองอย่างรัดกุม ต้องอยู่แบบกลัวๆ

พอมันกลัว คราวนี้การจะกลับบ้านในแต่ละครั้งจะยากขึ้น จะโลเลมากขึ้น เพราะมันกลัว กลัวการต้องเดินออกจากบ้าน กลัวว่าใครจะดูแลพ่อตอนพ่อป่วย ใครจะให้อาหารหมาถ้าไม่มีคนอยู่บ้าน ใครจะกวาดพวกใบไม้ที่รกๆในบ้าน หน้าบ้าน ลามไปบ้านคนอื่น มันกลัวไปหมด

เลยไม่ค่อยกลับบ้าน สองจิตสองใจที่จะกลับตลอด แต่ถามว่าความกลัวนั้นมันทำให้เราใช้ชีวิตยากมั้ย ? ก็ไม่ยากนะ มันเป็นแค่บางครั้งบางคราวที่เราอยู่เฉยๆไม่ได้ทำอะไร คิดถึง คิดถึงมากๆแต่ไม่อยากกลับ เนี่ยคือ Homesick ในแบบที่เราเป็น ซึ่งพ่อก็เข้าใจ อันนี้ถือว่าเราโชคดี แต่นั่นแหละหลายๆครั้งก็ผิดนัดเพราะความกลัว

แล้วเราก็เป็นพวกบ้างาน โหยหางาน passion เยอะจนล้น ตอนไม่มีงานก็นั่งคิด idea แตก idea ทำ webpage, portfolio ต่างๆ เพื่อทำให้ตัวเองไม่ว่าง แต่พอพักจากงานหรือพักจากสิ่งที่ทำอยู่เมื่อไหร่ ความรู้สึกผิดจะแทรกเข้ามาทันที กลัวพ่อรอเก้อ กลัวพ่อต้องทำใจ กลัวๆๆ

ครั้งนี้เราก็ทำแผนที่วางไว้กับพ่อพังอีก ไม่ได้กลับบ้าน เพราะโลเล กังวล เหมือนที่บอกไปในตอนแรก

พ่อก็ยังดำเนินการตัดต้นไม้นั้นทิ้งต่อไป มีคนงานสองสามคนปีนขึ้นไปตัด พากันสับกิ่งก้าน แล้วเอามีดปักไว้ที่ปลายกิ่งอีก เหตุผลที่ตัดเพราะพ่อเกรงใจคนอื่นที่ใบไม้มันปลิวไปบ้านเขา ทั้งๆที่ต้นไม้ทุกต้นที่บ้านพ่อเป็นคนปลูกเองหมด

จริงๆก็อยากอยู่ตรงนั้นเพื่อใช้วันหยุดสุดสัปดาห์กับพ่อ แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างไม่ลงตัว รถตู้หมด รถไม่พอ เราตื่นสาย บลาๆ อ่านเผินๆจะดูไม่มีอะไร แต่เราพึ่งอ้างว่ารถตู้หมด

สุดสัปดาห์นี้หยุดยาวอีกต่างหาก ก็ไม่ได้กลับบ้าน ด้วยความ Homesick แบบป่วยๆ ก็รักพ่อ เพราะพ่อไม่ได้ด่าหรือว่าอะไร จริงๆถึงด่าก็รักอยู่ดี เรารู้ปัญหาแล้ว เราจะแก้ยังไงนั่นคือโจทย์ของตัวเราเอง

“หยุดยาวก็หยุดไป รักและห่วงใยมีให้ตลอดนะพ่อ”

เครดิตรูป : พ่อ (แอบอิจฉาที่เดี๋ยวนี้ถ่ายรูปสวยและไม่ต้องพึ่งลูกชายแล้ว)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่