4 ปีที่แล้ว ลีกเรามี 20 ทีม ทำไมถึงเตรียมทีมเอเชี่ยนเกมส์ได้ดีกว่าครั้งนี้ครับ

กระทู้คำถาม
4 ปีที่แล้ว ซิโก้สามารถประกาศชื่อนักเตะ 22 คนได้ถึง 2 เดือนล่วงหน้าก่อนเอเชี่ยนเกมส์ และประกาศ 20 คนสุดท้าย อีก 1 เดือนต่อมาก่อนแข่ง และมีการเตรียมตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง แม้โปรแกรมไทยลีกจะแข่งกันแน่นกว่าทุกวันนี้เสียอีก เพราะลีกตอนนั้นมีถึง 20 ทีม ซึ่งผลของการเตรียมตัวที่ดี ทำให้ทีมชาติเรายุคนั้น มีผลงานที่ดีไปด้วยทั้งในเอเชี่ยนเกมส์ ซีเกมส์ และ AFF ถือว่าเป็นยุคที่รุ่งเรืองที่สุดยุคนึงของวงการบอลไทย

มาวันนี้ เราเตรียมตัวเอเชี่ยนเกมส์กันแบบซังกะตาย ขนาดทีมในลีกมีแค่ 18 ทีม ยังหานักเตะได้ไม่ครบ ไม่รู้คนไหนสโมสรจะปล่อยตัวหรือไม่ จนต้องเปลี่ยนจากไม่หยุดลีก มากลับเป็นหยุด เก็บตัววันนี้ พรุ่งนี้นักเตะยังต้องออกจากแค้มป์ไปเตะให้สโมสร จะเดินทางอาทิตย์หน้า อาทิตย์นี้ยังประกาศรายชื่อไม่ได้ รอบแรกประกาศ 2 อาทิตย์ก่อนแข่ง ประกาศ 29 คน มาแค่ 16 คน กว่าจะได้ 20 คน ประกาศก่อนแข่งแค่ 2 วัน ย้ำว่า 2 วัน ตั้งแต่ผมดูการเตรียมทีมเอเชี่ยนเกมส์มา ครั้งนี้ถือว่าห่วยที่สุด คำถามคือว่า ยุคโน้นลีกเรามีทีมมากมายถึง 20 ทีม ทำไมเขาถึงไม่มีปัญหาเรื่องหานักเตะ มีอะไรที่ต่างกันออกไป ผมจำได้แค่ยุคโน้นเรามีผู้จัดการทีม แต่ยุคนี้ไม่มีเท่านั้น มีปัจจัยอื่นอีกหรือไม่ที่ทำให้ยุคโน้นบริหารจัดการได้ดีกว่ายุคนี้

กำหนดการนักเตะทีมชาติไทยชุดเอเชี่ยนเกมส์ 2018

4 ส.ค. ประกาศ 29 นักเตะ
7 ส.ค. เก็บตัว
8 ส.ค. อุ่นเครื่องนัดที่ 1
10 ส.ค. อุ่นเครื่องนัดที่ 2
11 ส.ค. ตัดตัวเหลือ 20 คน
12 ส.ค. เดินทาง
14 ส.ค. แข่งนัดแรก เจอกาต้าร์

ป.ล. เห็นการเตรียมทีมแบบได้ชื่อนักเตะ 20 คนก่อนแข่ง 2 วันแบบนี้ ความจริงอยากจะตั้งกระทู้ด่าตรงๆไปเลย แต่กลัวโดนหาว่าไม่สร้างสรรค์ จึงขอตั้งกระทู้แบบซ้อฟท์ๆ ให้เปรียบเทียบการทำงานกับยุคก่อนดีกว่า เผื่อสมาคมชุดนี้เขาจะได้มีโอกาสปรับปรุงตัวบ้าง
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
เอเชี่ยนเกมส์ชุดนั้นต้องให้เครดิต ซิโกเต็มๆครับ
ผมไม่ใช่ติ่งซิโก้นะครับ ผมว่าแกเก่งด้านประสานงาน จิตวิทยาการโค้ช การวางแผน

แต่ดูจากช่วงหลังๆ ชัดเจนคือบอลโลกรอบคัดเลือก ที่แกดูเหมือนไม่ทำการบ้าน แทคติกแบบเดิมๆ ไม่ไปดูเกมส์ลีก
จะด้วยปัญหาด้านทัศนคติ หรือ ผลประโยชน์ เราไม่อาจไปทราบได้

น่าเสียดาย
ถ้าแกยอมมาเป็น ผู้ช่วย ราเยวัช แกน่าจะเป็นโค้ชที่สมบูรณ์แบบคนหนึ่งเลยทีเดียว
เรื่องนี้ตอกย้ำชัดเจนตอนแกคุมท่าเรือ จะเห็นว่าแกมีข้อจำกัดด้านแทกติก

กลับมาเข้าเรื่อง ทีมชุดเอเชี่ยนเกมส์ที่ปูซาน 2014 มีการเตรียมทีมมาตั้งแต่ต้นปี 2013
เพื่อไปแข่งซีเกมส์ที่พม่าปลายปี 2013

ซิโก้ถูกแต่งตั้งตอน มค.2013 แกเรียกนักบอลมารวมกันทันที
และพยายามจัดเกมส์ อุ่นเครื่องกับทีมในลีกเดือนละครั้ง
นัดแรกผมจำได้ อุ่นกับอยุธยา

ส่วนวิธีที่จะได้นักบอลมาอุ่นเครื่องนั้น ผมไม่ทราบ อาจจะเป็นการขอส่วนตัว
หรืออำนาจมืดของสมาคม ก็ไม่อาจทราบได้

ที่กล้าพูดแบบนี้ เพราะตอนนั้นสมาคมไม่มีระบบระเบียบใดๆทั้งสิ้น
ฟีฟ่าเดย์คืออะไรไม่รู้ ทีมชาติแต่ละชุด คุมใครคุมมัน เล่นกันคนละแนว

ผู้จัดการทีมที่สมาคมแต่งตั้งมาในชุดนั้นๆ เป็นคนออกค่าใช้จ่ายเอง
ใช้ทีมชาติเป็นเครื่องมือทำให้คนรู้จัก เท่านั้น
จะบอกว่า วิน-วิน ทั้ง ผจก และ ทีมชาติ ก็พูดได้ไม่เต็มปาก

เพราะทีมชาติชุดนั้นๆ พอหมดภารกิจก็จบ แยกย้าย
เทพระดับอาเซียนให้ ผจก ดังก็พอ พอไประดับเอเชียก็ตกรอบแบบไม่มีลุ้นทุกครั้ง ไม่รู้ทำไม
ส่วนสำคัญคือแนวทางการเล่น ไม่ต่อเนื่อง ไม่มีแผนระยะยาวมารองรับนักบอลเหล่านี้
ใครเก่ง ใครไม่เก่ง กลับไปพัฒนากันเองที่สโมสร

อ่อ เรื่องสนามซ้อม เรื่องนี้ซิโก้พูดเองว่า ไม่มีเป็นหลักแหล่ง
หลังจากได้แชมป์ซูซูกิคัพปลายปี 2014 ซิโก้พูดออกอากาศว่า อยากได้สนามซ้อม
ตอนนั้นผมตกตะลึง นี่ทำทีมได้ดีขนาดนี้ ไม่มีสนามซ้อมเหรอเนี่ย

กลับมาที่ผลงานของชุดนั้น
หลังจากรวมทีมอุ่นเครื่องกันได้เกือบปี ปลายปี 2013 ซิโก้พาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์ที่พม่า
ด้วยรูปเกมส์ที่เน้นผล คล้ายที่โค้ชโย่งทำทีมได้แชมป์ซีเกมส์ที่มาเลย์
ในพันทิปคนด่ากันกระจาย
โดยเฉพาะมีนัดนึง เสมอกัมพูชามั้ง โดนด่าเละครับ

หลังจากนั้นทีมชุดนี้ก็ต่อยอดไปแข่งเอเชี่ยนเกมส์ที่ปูซานกลางปี 2014
นัดแรกๆดูอึดอัด ตอนเจออินโดยังคิดอยู่ว่าจะรอดมั๊ย
ปรากฏว่าติ๊กต่อกที่ซ้อมกันมาเกือบสองปี ออกผลนัดนั้นเอง ถล่มอินโดเละ 6-0
และก้าวไปถึงที่ 4 ในที่สุด

หลังจากนั้นก็อย่างที่รู้กัน ชุดนี้ยังได้แชมป์ ซูซูกิ ปลายปี 2014 แชมป์ซีเกมส์ที่มาเลย์ 2015
เข้ารอบบอลโลกคัดเลือกรอบสุดท้าย

ดูดีมาก แต่ผลต่อเนื่องจากความสำเร็จระดับชาติคือ
1. ความล้มเหลวของเทโร เนื่องจากมีนักเตะ ติดทีมชาติค่อนทีม นักเตะกรอบเป็นข้าวเกรียบ
ผมคุ้นๆว่าปีนั้นเทโรไม่ตกชั้นเพราะ เหมือนมีอะไรบางอย่างมาช่วย ตรงนี้จำไม่ได้ขอละไว้
2. อาการบาดเจ็บของนักเตะทีมชาติชุดนั้น จำได้จะๆคือ ชนาธิปเจ็บ

ไม่มีใครรู้ว่าถ้าสมาคมชุดนั้นยังทำงานต่อแบบนั้น จะเกิดอะไรในระยะยาว

กลับมาที่โค้ชโย่ง สิ่งที่โค้ชโย่งได้เวลาไปจากสมาคมชุดนี้
ก็พอๆกับซิโก้ คือตั้งแต่ก่อนซีเกมส์ 2017 เกือบ 2 ปีละ

มีเกมส์อุ่นเครื่องที่ตลอด แต่ที่ต่างคือ ด้วยความที่สมาคมชุดนี้เป็นระบบแน่นอน มีกฏระเบียบ
สโมสรมีสิทธิ ไม่ปล่อยตัวนักเตะได้ ในกรณีที่ไม่ใช่ฟีฟ่าเดย์

เกมส์อุ่นเครื่องส่วนใหญ่ จึงไม่มีตัวหลักมาครบ
อย่าว่าแต่อุ่นเครื่อง ขนาดทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย u23
สโมสรก็ไม่ปล่อยตัวหลักหลายคน

คหสต ผมเชื่อในระบบ มีระบบ กฏระเบียบย่อมดีกว่า
แต่เราเพิ่งจะเริ่มไอ่กฏที่ว่าเนี่ย ก็ต้องมีสิ่งที่ต้องแก้ไขปรับปรุงกันไป

และมันไม่ได้แก้กันได้ 2-3 เดือน อย่างจะลดทีมในลีกก็ต้องมีการประกาศล่วงหน้า
ผลงานบอลเยาวชนก็ต้องให้เวลา หลังจากล้างระบบเก่า มันก็มีช่องว่างต้องอุด
บางที บางเรื่องอาจจะแก้ยาก

คนในวงการ ระดับน้าฉ่วยยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า ถ้าเอาระบบ ผจก. มาใช้ สโมสรน่าจะปล่อยนักเตะง่ายกว่านี้
มันแสดงให้เห็นปัญหาบางอย่าง ที่คนนอกอย่างเราไม่รู้

เรากำลังเดินมาถูกทางแล้ว ผมขอภาวนาอย่าให้กลับไปใช้ระบบเก่าเลย
ส่วนปีที่แล้ว ปีนี้ ช่วงนี้ผมจะคิดว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน ให้เวลาสมาคมจัดการปัญหา

ตอนนี้ศูนย์ซ้อม ทิศทางการพัฒนาโค้ช เยาวชน ดูเป็นระบบ จับต้องได้
ใครเถียงขอดูระบบการพัฒนาโค้ช เยาวชน ของสมาคมชุดก่อนมาดูหน่อย

ตอนนี้เหลือแค่ผลงานของทีมแต่ละชุดนี่แหละ ที่ยังเป็นการบ้าน
ฝากด้วยนะครับ สมาคม
ความคิดเห็นที่ 11
พอ u16 กับ u14 ผลงานดีก็หาเรื่องเล่น U23 สรุปไม่เคยพอใจสมาคมยุคนี้ก็ว่ามาเถอะ

ไม่ต้องยกข้ออ้างมาตั้งประเด็น บอลยังไม่แข่งก็เล่นเรื่องการจัดการ ซึ่งเอาความจริงมาให้ดูแค่ด้านเดียวไม่ลองไปดูละว่า เค้าปิดลีคกันขนาดไหน

พูดไปก็เท่านั้น เพราะคนจะเล่นเรื่องนี้ไม่เคยฟังคนอื่น ความจริงที่เอามาก็ไม่ครบ เอามาแค่ครึ่งๆ กลางๆ เอาตัวเข้าตัวจริงๆนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่