หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ตะลุยเดี่ยว เที่ยวฮ่องกง 3 วัน 2 คืน
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
เที่ยวต่างประเทศ
ฮ่องกง
Slow Life
สวัสดีค่ะวันนี้เราจะมารีวิวการเที่ยวฮ่องกงแบบชิลล์ๆ เที่ยวคนเดียวก็ได้ค่าาาาา เราจะไปไหว้พระเพิ่มแต้มบุญ ไปกิน ไปช้อปปิ้งกันค่า เริ่มเลยไม่รอแล้วน๊าาาาาา
เริ่มจากเราบินไปกับแอร์เอเชีย ไฟล์ตเช้าสุดไปเลย 06:30 น.
ได้น้ำฟรีบนเครื่องด้วยค่า เพราะถือบัตรเครดิตร่วมธนาคารกรุงเทพกับแอร์เอเชีย
มาถึงฮ่องกงแล้ว 10:15น. เวลากำลังดีค่าาา ถึงแล้วเที่ยวต่อได้เลย (ที่ฮ่องกงเวลาเร็วกว่าที่ไทย 1 ชม. นะคะ) ลงเครื่องมาก็เดินตามป้ายมาเลยค่าจะเห็นป้าย immigration เดินเลี้ยวไปได้เลยจ้า
เดินมาเรื่อยๆ เราต้องนั่งรถไฟ เพื่อไป immigration นะคะ พอออกจากรถไฟ ก็เดินตรงขึ้นบันไดเลื่อนตามป้ายไปเลยจ้าาาา
พอผ่าน immigration มาแล้ว ก็มาเอากระเป๋าค่ะ แล้วพอเดินออกมา ซ้ายมือจะเห็นที่ขายticket รถไฟฟ้า ซึ่งมีหลายแบบให้เลือกค่ะ
เราเลือกเป็นบัตร octopus หรือบัตรปลาหมึกนั้นเอง บัตรนี้ราคา 150 HKD (เรทเงินประมาณ 5 บาท ต่อ 1 HKD นะคะ) ซึ่งในบัตรจะมีเงิน 100 HKD อีก 50 HKD เป็นค่ามัดจำบัตรค่ะ บัตรนี้จะเคียงข้างคุณทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะขึ้นบัส ลงเรือ รถไฟฟ้า หรือว่าช้อปปิ้ง กินข้าว ได้หมดจ้าาาาา
หลังจากซื้อบัตรเสร็จแล้วเดินออกมาจะเจอป้าย เราต้องเข้าเมือง to city ค่า เดินตามป้ายไปเลยจ้า
เดินมาเรื่อยๆก็เลือกว่าจะเข้าเมืองด้วยวิธีใด ซึ่งสามารถเข้าเมืองได้ด้วย รถไฟฟ้า Express Airport หรือว่าจะ Airport bus ในราคาเพียงแค่ 33 HKD ใช้บัตร Octopus ได้เลยค่า ซึ่งเราเดินทางโดย Airport bus เราพักย่านจิมซาชุ่ย (To Kowloon)
นั่งสาย 21A ต่อเดียวถึงเลยจ้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีนาทีค่ะ (คิวยาวมากค่าาาาาา แต่รถมาทุก10นาที รอบรถ 06.00 ถึง เที่ยงคืนค่า)
เราลงตรงถนน Carnarvon Road เลยค่ะ เดินอีกประมาณ150 เมตรก็ถึงที่พักละคะ บนรถบัสจะมีบอกตลอดว่าถึงStationไหนแล้ว แต่ถ้าใครกลัวลงไม่ถูกแนะนะเปิด Google map ดูก็ได้ค่ะ Google mapที่นี่ตรงมากค่ะ เชื่อถือได้ แต่เราใช้Google mapไม่ค่อยเก่งก็จะเดิน งงๆ หน่อย
มาถึงย่าน Tsim Sha Tsui ละคะ โอโห้!!! ที่พักทำเลดีค่ะ ออกมาก็ช้อปิ้งแอนด์อีสติ้งได้เลยข่าาาา (อยู่ตรงข้าม i Square) แต่ว่าเราพักเป็นแบบGuest House ซึ่งเคยพักแบบGuest house ครั้งแรกค่ะ แล้วก็แบบเดินหาที่พักไม่เจอค่ะ เดินตามGoogle map งงไปหมด แล้วก็แวะถามคนแถวนั้นว่าต้องไปยังไงต่อ เพราะใน mapบอกถึงจะถึงแล้วแต่หาไม่เจอ55555555 เค้าบอกให้เลี้ยวเข้าในนี้ แล้วลองหาดู เจอจริงๆด้วยค่า (ที่พักอยู่ลิฟท์ตัวที่ 2 ชั้น 12 ลองดูป้ายที่พัก ทำไมมันเยอะขนาดเน้!!!!! ) เราพัก Maple Leaf Guesthouse เราเลือกที่นี่เพราะมีห้องน้ำในตัวห้อง แต่ห้องเล็กโคตรๆ
พอขึ้นมาถึงชั้น 12 ก็เลี้ยวซ้ายได้เลยค่ะ มีป้ายบอกอยู่ คือบนนั้นนี้มีหลาย Guest house มากค่ะ แต่ไม่น่ากลัว เราจองผ่าน Booking ไป แต่ว่าไปจ่ายเงินหน้าที่พักนะคะ เราพัก 2 คืน 600$ ประมาณ 3,000 บาทค่ะ สามารถเช็คอินได้ 13.00 น. เช็คเอ้าท์ 11.00 น. ค่ะ เราถึงที่พักบ่ายโมงพอดีค่ะ
ห้องนอนค่ะ สะอาดนะคะ เค้าทำความสะอาดอีกครั้งตอนเราเข้าเช็คอินเลยค่ะ เปลี่ยนใหม่หมดค่ะผ้าปู ปลอกหมอน ในห้องมีทีวี มีแอร์ มีพัดลมปลั๊กมีแบบเมืองไทยค่ะ สามารถใช้ด้วยกันได้ค่ะ
ห้องน้ำแค่หมุนตัวค่ะ55555 ไม่มีอะไรให้เลยค่า มีแค่ยาสระผมเท่านั้น ต้องเตรียมมาเองทุกอย่างนะคะ ผ้าเช็ดตัว อุปกรณ์อาบน้ำ
ปล. ประตูเข้าที่พักปลอดภัยดีค่ะ เคาจะสอนเราว่าถ้ากลับเข้ามาต้องใส่รหัสผ่าตรงประตู บอกรหัสและวิธีเข้าเรียบร้อยค่ะ
หลังจากที่เอาของมาไว้ที่ห้องแล้ว เราก็ออกไปหาอะไรทานกันเถอะค่ะ หิวมากแล้วค่าาาา เริ่มกันที่ร้านโจ๊กแล้วกันเนาะ มาถึงฮ่องกงทั้งที ก็ต้องกินโจ๊กฮ่องกงสิค่ะ แต่ระหว่างที่เดินหาร้านโจ๊กชื่อดังของย่านนี้ก็เดินผ่านร้านชานมไข่มุกค่ะที่มีขายตลอดแนว เราลองร้านรี้แล้วกันค่ะ เห็นคนlocal เยอะดี คงอร่อย
ร้าน Milk Sha ย่าน จิมซาชุ่ย (ถนน Carnarvon Road ค่ะ )
เรากิน Bubble Milk Tea สามารถเลือกระดับความหวานได้ และเลือกปริมาณน้ำแข็งได้ค่ะ แก้วนี้ราคา 28 HKD (140บาท) ค่ะ
รสชาติออกนมๆมากกว่าชา ให้ 3.5 ดาว เต็ม 5
แต่จุดหมายปลายทางของมื้อนี้คือ โจ๊กฮ่องกงร้าน “ Hung Lee” ชื่อดัง
วิธีเดินทาง : จากย่านจิมซาชุ่ย เดินมา Carnarvon Rd. เลี้ยวขวา Hau Fook Street (จุดสังเกต หัวมุมเป็นร้าน Etude ค่ะ) ประมาณ 80 เมตร (ร้านอยู่ขวามือค่ะ) MRT : ถ้าออกจากสถานที่ MTR – Tsim sha shui ก็ออกทางออก A2 เดินมาทางซ้ายเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาก็ถึง
ถึงหน้าร้านละค่า
หน้าร้านมีเมนูภาษาไทยด้วยค่า ดีไปอี๊กกกกก
เราสั่งโจ๊กหมูใส่ตับ อร่อยมากค่า โจ๊กนุ่มละเอียดมาก รสชาติดี ชอบมากค่ะ ขนาดกินชานมไข่มุกมาแล้ว 1 แก้ว ยังรู้สึกว่ามันอร่อยมาก ชามนี้ 37 HKD
แล้วก็สั่งเส้นใหญ่ห่อกุ้ง อันนี้ก็ดีค่ะชอบเหมือนกัน จานนี้ 26 HKD ค่ะ
อิ่มมากค่ะ ทั้งหมด 63 HKD ประมาณ 315 บาท
ร้านนี้รับเงินสดกับบัตร Octopus ไม่รับบัตรเครดิต เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง ตีสองนะคะ
ร้านนี้ให้ 5 เต็ม 5 ค่ะ
อิ่มแล้วเดินทางต่อได้ค่า วันนี้เราจะไปไหว้พระที่นองปิง เราซื้อบัตรมาจากที่เมืองไทยค่ะ แนะนำค่ะถ้าใครจะไปไหว้ ให้ซื้อบัตรที่ไทยมาก่อน สะดวกกว่าค่ะ เราซื้อแบบเที่ยวเดียวค่ะ ราคา 505 บาท
วิธีเดินทาง :
นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงจาก Tsim Sha Tsui ไปลงที่ Lai King จากนั้นต่อรถไฟฟ้าสีส้มไปลงที่ Tung Chung และออก Exit B เพื่อเดินทางไปขึ้นกระเช้าที่ Ngong Ping ค่ะ
เดินออกมาด้านขวาจะเป็น City Gate Outlets แต่เราเดินไปทางซ้ายค่ะ เพื่อขึ้นกระเช้าไปไหว้พระ
เดินมาเรื่อยๆจะเจอบันไดแบบนี้เดินขึ้นไปเลยค่ะ แล้วเลี้ยวขวา จะเจอเคาน์เตอร์ขาย Ticket เราก็เอา Voucher ที่ซื้อมาจากไทยไปยื่นให้เค้าออกตั๋วให้ได้เลยค่ะ
ได้ตั๊วมาละจ้า เราเลือกแบบ Standard Cabin ไม่กล้านั่งแบบ Crystal Cabin เพราะปกติเป็นคนกลัวความสูงค่ะ แต่อยากลองนั่ง เดินเข้าช่อง Standard Cabin เลยค่ะ
ใครที่ซื้อแบบเที่ยวเดียวแบบเรา เราแนะนำให้ขึ้นกระเช้าขาไป และนั่งบัสขากลับนะคะ เพราะว่าขากลับคนแน่นมากค่ะ เราเห็นจากที่เค้าสวนเราลงมา แล้วก็ที่เค้าต่อคิวเพื่อกลับไป เรามาคนเดียวเค้าก้ให้เรานั่งไปเงียบๆคนเดียว ตอนนั้นใจเต้นแรงมากค่ะ เพราะว่าระยะทางก็ไกล แล้วนั่งคนเดียว เลยต้องถ่ายรูปตลอดทางไปเลยค่ะ เพื่อสยบความกลัว
วิว 360 องศา กับระยะทาง 5.7 กิโลเมตร สามารถมองเห็นวิวได้ ทั่วเกาะลันเตา
อันนี้เป็นสะพานสำหรับรถวิ่งฮ่องกง มาเก๊า จูไห่ แต่ยังสร้างไม่เสร็จนะคะ
ใกล้ ๆ ถึง Ngong ping ละคะ เริ่มเห็นพระใหญ่แล้วววววววว
มาถึงละค่า
ตรงนี้เป็นซุ้มประตู Po Lin Monastery หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “the Big Thatched Hut” เป็นเหมือนประตูทางเข้าหลักก่อนที่จะไปยังองค์พระใหญ่
ถึงละคะทางขึ้น องค์พระใหญ่ The Big Buddha ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา Muk Yue บันไดประมาณ 268 ขั้น องค์พระใหญ่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา Muk Yue มีความสูงถึง 34 เมตร เป็นองค์พระที่มีความสูงใหญ่ ข้างบนอากาศดีมากค่ะ วิวสวย
หลังจากไหว้เสร็จเราก็เดินลงมา เค้าบอกว่าตรงลานกว้าง วงกลมที่อยู่ข้างหลังเรา เป็นที่รับพร เราเห็นคนไปยืนไหว้อยู่ค่ะ แต่ว่าเราไปได้เข้าไป
อากาศร้อนมากค่ะ แวะซื้อน้ำ แล้วรีบกลับ แพลนจะไปดู Symphony of Lights ค่ะ ขากลับเรานั่งบัสกลับค่ะ
[img]https://f.
ชื่อสินค้า:
กิน เที่ยว ช้อป ฮ่องกง ครั้งแรก
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
Hong Kong 2023 เที่ยวฮ่องกง 5 วัน 4 คืน มูแบบปังๆ แชะ!กันแบบรัวๆ
ฮ่องกงทริป 5 วัน 4 คืน10-05-2023 - 14-05-2023🙏🏻 มูแบบปังๆ แชะ! 📷 กัน แบบรัวๆ Day 1: 10-05-2023เราเอารถไปจอดที่ลานจอดรถระยะยาว สนามบินสุวรรณภูมิ คิดเหมาวันละ 140 บาทแต่ต้องเผื่อเวลาล่วงหน้า
Butic
รีวิวโรงแรม Mini Hotel Causeway Bay ฮ่องกง ใกล้ MTR พักคนเดียวก็อุ่นใจ
เพิ่งกลับจากทริปเที่ยวฮ่องกงครั้งแรกหมาดๆ ขอมารีวิวที่พักดีๆ อย่าง Mini Hotel Causeway Bay ที่ผู้หญิงคนเดียวก็พักได้อย่างอุ่นใจ ปลอดภัย เดินทางง่าย ราคาตกคืนละ 2,500 บาทค่ะ ทำไมถึงเลือกพักย่าน
Cookie Everyday
Hong kong ฮ่องกงเที่ยวล่าสุด 2023 กิน เที่ยว มู EP.1
Hong kong ฮ่องกงเที่ยวล่าสุด 2023 กิน เที่ยว มู EP.1 ทริปนี้เราจะไปเที่ยวฮ่องกงครับ หลังจากที่ห่างหายจากพันทิปบ้านแห่งนี้ไปนานกลับมารีวิวท่องเที่ยวอีกครั้ง จะทย
DJ.piggypop
ทริปฮ่องกงค่ะ ขอคำแนะนำ
กำลังวางแผนจะเดินทางไปฮ่องกงช่วงต้นเดือนพฤศจิกาค่ะ 3 วัน 2 คืน ผู้ใหญ่ 2 เด็ก 1 ขอคำแนะนำค่ะ เวลาและสถานที่ตามนี้พอไหวมั้ยคะ เดินทางวันศุกร์ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิเวลา 8:00 ถึงฮ่องกง 11:45 เมื่อถึงสน
aekieam
ทริปว๊าปไป Hong Kong
ทริปนี้เราเลือกเดินทางช่วงวันที่11-13 พค. 2019 ตอนแรกคิดว่าวันจันทร์จะเป็นวันหยุดพืชมงคลแต่มีการเปลี่ยนแปลงเลยต้องลางานไปเที่ยวเลย ทริปนี้ไปแบบสั้นๆเพราะตั้งใจไปแค่ไห
สมาชิกหมายเลข 3173113
ลุยเดี่ยวเที่ยวฮ่องกง ไหว้พระแก้ชง บุกป่าฝ่าดง ปลงๆ มั่งเหอะ (24-26 Feb 2014)
สวัสดีค่า ไปมาตั้งแต่เดือน ก.พ. เพิ่งจะมารีวิว ทริปนี้ จองตั๋วไป 2 คน แต่โดนหักหลัง แล้วเอามีดแทงยับ จขกท. ตายอนาถ...... นี่มันนำเที่ยว หรือหนังสยองขวัญฟระ เริ่มเลยดีกว่า ชะเอิงเอย ขอฝากรีวิวเดิม Os
Mauyty
Review:เที่ยวHongKong 5 วัน 4 คืน เที่ยวได้ทุกที่ เดินให้ทุกซอก [HongKong]
Part1 มาแล้วค่า!! ไปเที่ยวกับดินแดนสุดฮิตที่ HongKong วันนี้เราจะมารีวิวทริปเที่ยว HongKong ด้วยตัวเอง เราเดินทาง วันที่ 19-23 ก.ค. 2561 ยังอยู่ในช่วง Sale ทั้งเกาะ ซึ่งมนุษย์ผู้หญิงอย่างเราคงไม่พลาดแ
สมาชิกหมายเลข 4756375
สอบถามทริปฮ่องกง 2 วัน 2 คืน
ทริปสั้น 2 วัน ช่วงมกราคม สอบถามการเดินทางแบบมือใหม่ค่ะ ดูใน google map แล้วงงๆ - ออกจากกรุงเทพ 19:15 น. ไปถึงฮ่องกง 23:05 น. เข้าพักที่โรงแรม H1 Hotel ย่านม๊กก๊ก ยังมีรถวิ่งอยู่ใช่หรือเปล่าคะ?
Rinliya
บริษัททัวร์ที่พากินที่ฮ่องกงอย่างเดียว มีไหมคะ
มีบริษัททัวร์ไหนบ้างคะ ที่ตะลุยพากินของอร่อยในฮ่องกงอย่างเดียว ไม่เน้นเที่ยว ไหว้พระ ดิสนีแลนด์ สัก 3 วัน 2 คืน พากินร้านอร่อย มีชื่อของฮ่องกงล้วนๆ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
หน้ากากแตน
เดินงงๆที่มาเก๊า 🇲🇴 ฮ่องกง 🇭🇰 [6วัน 5คืน]
😄 你好 nǐ hǎo 😄สวัสดีเพื่อนๆสมาชิกพันทิป ชาวBP ที่หลงเข้ามาอ่านกระทู้นะคะวันนี้จะมารีวิวการเดินทางทริป มาเก๊า 🇲🇴 ฮ่องกง 🇭🇰 ของเราค่ะเราว่าเราเองก็
ammie~amp
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
Backpack
เที่ยวต่างประเทศ
ฮ่องกง
Slow Life
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 2.9 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ตะลุยเดี่ยว เที่ยวฮ่องกง 3 วัน 2 คืน
เริ่มจากเราบินไปกับแอร์เอเชีย ไฟล์ตเช้าสุดไปเลย 06:30 น.
ได้น้ำฟรีบนเครื่องด้วยค่า เพราะถือบัตรเครดิตร่วมธนาคารกรุงเทพกับแอร์เอเชีย
มาถึงฮ่องกงแล้ว 10:15น. เวลากำลังดีค่าาา ถึงแล้วเที่ยวต่อได้เลย (ที่ฮ่องกงเวลาเร็วกว่าที่ไทย 1 ชม. นะคะ) ลงเครื่องมาก็เดินตามป้ายมาเลยค่าจะเห็นป้าย immigration เดินเลี้ยวไปได้เลยจ้า
เดินมาเรื่อยๆ เราต้องนั่งรถไฟ เพื่อไป immigration นะคะ พอออกจากรถไฟ ก็เดินตรงขึ้นบันไดเลื่อนตามป้ายไปเลยจ้าาาา
พอผ่าน immigration มาแล้ว ก็มาเอากระเป๋าค่ะ แล้วพอเดินออกมา ซ้ายมือจะเห็นที่ขายticket รถไฟฟ้า ซึ่งมีหลายแบบให้เลือกค่ะ
เราเลือกเป็นบัตร octopus หรือบัตรปลาหมึกนั้นเอง บัตรนี้ราคา 150 HKD (เรทเงินประมาณ 5 บาท ต่อ 1 HKD นะคะ) ซึ่งในบัตรจะมีเงิน 100 HKD อีก 50 HKD เป็นค่ามัดจำบัตรค่ะ บัตรนี้จะเคียงข้างคุณทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะขึ้นบัส ลงเรือ รถไฟฟ้า หรือว่าช้อปปิ้ง กินข้าว ได้หมดจ้าาาาา
หลังจากซื้อบัตรเสร็จแล้วเดินออกมาจะเจอป้าย เราต้องเข้าเมือง to city ค่า เดินตามป้ายไปเลยจ้า
เดินมาเรื่อยๆก็เลือกว่าจะเข้าเมืองด้วยวิธีใด ซึ่งสามารถเข้าเมืองได้ด้วย รถไฟฟ้า Express Airport หรือว่าจะ Airport bus ในราคาเพียงแค่ 33 HKD ใช้บัตร Octopus ได้เลยค่า ซึ่งเราเดินทางโดย Airport bus เราพักย่านจิมซาชุ่ย (To Kowloon)
นั่งสาย 21A ต่อเดียวถึงเลยจ้า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีนาทีค่ะ (คิวยาวมากค่าาาาาา แต่รถมาทุก10นาที รอบรถ 06.00 ถึง เที่ยงคืนค่า)
เราลงตรงถนน Carnarvon Road เลยค่ะ เดินอีกประมาณ150 เมตรก็ถึงที่พักละคะ บนรถบัสจะมีบอกตลอดว่าถึงStationไหนแล้ว แต่ถ้าใครกลัวลงไม่ถูกแนะนะเปิด Google map ดูก็ได้ค่ะ Google mapที่นี่ตรงมากค่ะ เชื่อถือได้ แต่เราใช้Google mapไม่ค่อยเก่งก็จะเดิน งงๆ หน่อย
มาถึงย่าน Tsim Sha Tsui ละคะ โอโห้!!! ที่พักทำเลดีค่ะ ออกมาก็ช้อปิ้งแอนด์อีสติ้งได้เลยข่าาาา (อยู่ตรงข้าม i Square) แต่ว่าเราพักเป็นแบบGuest House ซึ่งเคยพักแบบGuest house ครั้งแรกค่ะ แล้วก็แบบเดินหาที่พักไม่เจอค่ะ เดินตามGoogle map งงไปหมด แล้วก็แวะถามคนแถวนั้นว่าต้องไปยังไงต่อ เพราะใน mapบอกถึงจะถึงแล้วแต่หาไม่เจอ55555555 เค้าบอกให้เลี้ยวเข้าในนี้ แล้วลองหาดู เจอจริงๆด้วยค่า (ที่พักอยู่ลิฟท์ตัวที่ 2 ชั้น 12 ลองดูป้ายที่พัก ทำไมมันเยอะขนาดเน้!!!!! ) เราพัก Maple Leaf Guesthouse เราเลือกที่นี่เพราะมีห้องน้ำในตัวห้อง แต่ห้องเล็กโคตรๆ
พอขึ้นมาถึงชั้น 12 ก็เลี้ยวซ้ายได้เลยค่ะ มีป้ายบอกอยู่ คือบนนั้นนี้มีหลาย Guest house มากค่ะ แต่ไม่น่ากลัว เราจองผ่าน Booking ไป แต่ว่าไปจ่ายเงินหน้าที่พักนะคะ เราพัก 2 คืน 600$ ประมาณ 3,000 บาทค่ะ สามารถเช็คอินได้ 13.00 น. เช็คเอ้าท์ 11.00 น. ค่ะ เราถึงที่พักบ่ายโมงพอดีค่ะ
ห้องนอนค่ะ สะอาดนะคะ เค้าทำความสะอาดอีกครั้งตอนเราเข้าเช็คอินเลยค่ะ เปลี่ยนใหม่หมดค่ะผ้าปู ปลอกหมอน ในห้องมีทีวี มีแอร์ มีพัดลมปลั๊กมีแบบเมืองไทยค่ะ สามารถใช้ด้วยกันได้ค่ะ
ห้องน้ำแค่หมุนตัวค่ะ55555 ไม่มีอะไรให้เลยค่า มีแค่ยาสระผมเท่านั้น ต้องเตรียมมาเองทุกอย่างนะคะ ผ้าเช็ดตัว อุปกรณ์อาบน้ำ
ปล. ประตูเข้าที่พักปลอดภัยดีค่ะ เคาจะสอนเราว่าถ้ากลับเข้ามาต้องใส่รหัสผ่าตรงประตู บอกรหัสและวิธีเข้าเรียบร้อยค่ะ
หลังจากที่เอาของมาไว้ที่ห้องแล้ว เราก็ออกไปหาอะไรทานกันเถอะค่ะ หิวมากแล้วค่าาาา เริ่มกันที่ร้านโจ๊กแล้วกันเนาะ มาถึงฮ่องกงทั้งที ก็ต้องกินโจ๊กฮ่องกงสิค่ะ แต่ระหว่างที่เดินหาร้านโจ๊กชื่อดังของย่านนี้ก็เดินผ่านร้านชานมไข่มุกค่ะที่มีขายตลอดแนว เราลองร้านรี้แล้วกันค่ะ เห็นคนlocal เยอะดี คงอร่อย
ร้าน Milk Sha ย่าน จิมซาชุ่ย (ถนน Carnarvon Road ค่ะ )
เรากิน Bubble Milk Tea สามารถเลือกระดับความหวานได้ และเลือกปริมาณน้ำแข็งได้ค่ะ แก้วนี้ราคา 28 HKD (140บาท) ค่ะ
รสชาติออกนมๆมากกว่าชา ให้ 3.5 ดาว เต็ม 5
แต่จุดหมายปลายทางของมื้อนี้คือ โจ๊กฮ่องกงร้าน “ Hung Lee” ชื่อดัง
วิธีเดินทาง : จากย่านจิมซาชุ่ย เดินมา Carnarvon Rd. เลี้ยวขวา Hau Fook Street (จุดสังเกต หัวมุมเป็นร้าน Etude ค่ะ) ประมาณ 80 เมตร (ร้านอยู่ขวามือค่ะ) MRT : ถ้าออกจากสถานที่ MTR – Tsim sha shui ก็ออกทางออก A2 เดินมาทางซ้ายเรื่อยๆ แล้วเลี้ยวขวาก็ถึง
ถึงหน้าร้านละค่า
หน้าร้านมีเมนูภาษาไทยด้วยค่า ดีไปอี๊กกกกก
เราสั่งโจ๊กหมูใส่ตับ อร่อยมากค่า โจ๊กนุ่มละเอียดมาก รสชาติดี ชอบมากค่ะ ขนาดกินชานมไข่มุกมาแล้ว 1 แก้ว ยังรู้สึกว่ามันอร่อยมาก ชามนี้ 37 HKD
แล้วก็สั่งเส้นใหญ่ห่อกุ้ง อันนี้ก็ดีค่ะชอบเหมือนกัน จานนี้ 26 HKD ค่ะ
อิ่มมากค่ะ ทั้งหมด 63 HKD ประมาณ 315 บาท
ร้านนี้รับเงินสดกับบัตร Octopus ไม่รับบัตรเครดิต เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง ตีสองนะคะ
ร้านนี้ให้ 5 เต็ม 5 ค่ะ
อิ่มแล้วเดินทางต่อได้ค่า วันนี้เราจะไปไหว้พระที่นองปิง เราซื้อบัตรมาจากที่เมืองไทยค่ะ แนะนำค่ะถ้าใครจะไปไหว้ ให้ซื้อบัตรที่ไทยมาก่อน สะดวกกว่าค่ะ เราซื้อแบบเที่ยวเดียวค่ะ ราคา 505 บาท
วิธีเดินทาง : นั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงจาก Tsim Sha Tsui ไปลงที่ Lai King จากนั้นต่อรถไฟฟ้าสีส้มไปลงที่ Tung Chung และออก Exit B เพื่อเดินทางไปขึ้นกระเช้าที่ Ngong Ping ค่ะ
เดินออกมาด้านขวาจะเป็น City Gate Outlets แต่เราเดินไปทางซ้ายค่ะ เพื่อขึ้นกระเช้าไปไหว้พระ
เดินมาเรื่อยๆจะเจอบันไดแบบนี้เดินขึ้นไปเลยค่ะ แล้วเลี้ยวขวา จะเจอเคาน์เตอร์ขาย Ticket เราก็เอา Voucher ที่ซื้อมาจากไทยไปยื่นให้เค้าออกตั๋วให้ได้เลยค่ะ
ได้ตั๊วมาละจ้า เราเลือกแบบ Standard Cabin ไม่กล้านั่งแบบ Crystal Cabin เพราะปกติเป็นคนกลัวความสูงค่ะ แต่อยากลองนั่ง เดินเข้าช่อง Standard Cabin เลยค่ะ
ใครที่ซื้อแบบเที่ยวเดียวแบบเรา เราแนะนำให้ขึ้นกระเช้าขาไป และนั่งบัสขากลับนะคะ เพราะว่าขากลับคนแน่นมากค่ะ เราเห็นจากที่เค้าสวนเราลงมา แล้วก็ที่เค้าต่อคิวเพื่อกลับไป เรามาคนเดียวเค้าก้ให้เรานั่งไปเงียบๆคนเดียว ตอนนั้นใจเต้นแรงมากค่ะ เพราะว่าระยะทางก็ไกล แล้วนั่งคนเดียว เลยต้องถ่ายรูปตลอดทางไปเลยค่ะ เพื่อสยบความกลัว
วิว 360 องศา กับระยะทาง 5.7 กิโลเมตร สามารถมองเห็นวิวได้ ทั่วเกาะลันเตา
อันนี้เป็นสะพานสำหรับรถวิ่งฮ่องกง มาเก๊า จูไห่ แต่ยังสร้างไม่เสร็จนะคะ
ใกล้ ๆ ถึง Ngong ping ละคะ เริ่มเห็นพระใหญ่แล้วววววววว
มาถึงละค่า
ตรงนี้เป็นซุ้มประตู Po Lin Monastery หรือมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “the Big Thatched Hut” เป็นเหมือนประตูทางเข้าหลักก่อนที่จะไปยังองค์พระใหญ่
ถึงละคะทางขึ้น องค์พระใหญ่ The Big Buddha ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา Muk Yue บันไดประมาณ 268 ขั้น องค์พระใหญ่ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดเขา Muk Yue มีความสูงถึง 34 เมตร เป็นองค์พระที่มีความสูงใหญ่ ข้างบนอากาศดีมากค่ะ วิวสวย
หลังจากไหว้เสร็จเราก็เดินลงมา เค้าบอกว่าตรงลานกว้าง วงกลมที่อยู่ข้างหลังเรา เป็นที่รับพร เราเห็นคนไปยืนไหว้อยู่ค่ะ แต่ว่าเราไปได้เข้าไป
อากาศร้อนมากค่ะ แวะซื้อน้ำ แล้วรีบกลับ แพลนจะไปดู Symphony of Lights ค่ะ ขากลับเรานั่งบัสกลับค่ะ
[img]https://f.
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้