ช่วง 5-6 ปีมานี้ ประเทศไทยลงทุนสร้างระบบขนส่งแบบมหาศาล เพื่อพลิกรูปแบบสาธารณูปโภคด้านการขนส่งระบบราง เรามาดูกันว่ามี Project อะไรบ้าง
โครงการรถไฟความเร็วสูง
1. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-นครราชสีมา (แล้วเสร็จปลายปี 2564)
2. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-พิษณุโลก (ยังไม่มีความคืบหน้า)
3. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-หัวหิน (ยังไม่มีความคืบหน้า)
4. รถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน (คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2566)
มาอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญมากๆของไทย คือ โครงการรถไฟทางคู่
1. ฉะเชิงเทรา-คลอง19-แก่งคอย (แล้วเสร็จกลางปี2562)
2. ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น (แล้วเสร็จปลายปี 2562)
3. ลพบุรี-ปากน้ำโพธิ์ (คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2565)
4. มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ *จะมีความล่าช้าช่วงคลองขนานจิตร-ถนนจิระ ซึ่งโครงการเดิมทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ดังนั้นต้องศึกษาใหม่* (คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2567)
5. นครปฐม-หัวหิน (คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2564)
6. หัวหิน-ชุมพร (คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2564)
โครงการรถไฟสายสีต่างๆเชื่อมกรุงเทพ
เนื่องจากเรามีBTSและMRT อยู่แล้ว จะขอกล่าวถึงเส้นทางที่สร้างขึ้นมาใหม่
1. สายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค (จะเปิดให้บริการเดือนสิงหาคม ปี2562) ช่วงเตาปูน-ท่าพระ(จะเปิดให้บริการกลางปี 2563)
2. สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง (เปิดให้บริการปลายปี2564)
3. สายสีเขียว(ใต้) แบริ่ง-สมุทรปราการ-บางปู (เปิดให้บริการปี2565) สายสีเขียว(เหนือ) หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต-ลำลูกกา (เปิดให้บริการปลายปี2565)
ส่วนสายอื่นๆยังไม่มีความคืบหน้าหรือความชัดเจนมากนัก(ถ้าผมตกหล่นหรือข้อมูลผิดพลาด เพื่อนๆเพิ่มเติมได้ครับ)
จะเห็นได้ว่า ประมาณปลายปี 2566 หรือ อีก5ปีข้างหน้า กรุงเทพและปริมณฑลจะเชื่อมเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์ คนบางแค ภาษีเจริญ ท่าพระ สามารถเดินทางไปยังปริมณฑลได้อย่างรวดเร็ว มิหนำซ้ำ คนที่จะกลับต่างจังหวัดโดยไปทางสายตะวันออกหรือนครราชสีมา ก็อยู่บนรถไฟยาวๆได้เลย แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นรถไฟความเร็วสูงที่สถานีกลางบางซื่อ ทำให้เราไม่ต้องมาผจญกับรถติดข้างล่างอีกต่อไป
ป.ล.แม้การขนส่งระบบราง มีความสามารถในการเข้าถึงน้อยกว่าถนนและไม่เหมาะกับการเดินทางเป็นครอบครัว แต่ระบบรางตอบโจทย์การเดินทางสำหรับ1-2คน หรือนักท่องเที่ยวแบบbackpack รวมถึงผู้ที่เวลาทุกนาทีมีค่า ดังนั้น ต้องบอกตามตรงว่า ประเทศไทยเรามีระบบรางช้าไปนิดด้วยซ้ำ แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มา เพราะมันจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชน และไม่ต้องผจญกับความแออัดบนท้องถนนด้วยครับ และมันจะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ระบบการคมนาคมของไทยจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที เมื่อทั้ง3โครงการใหญ่นี้เสร็จสมบูรณ์
Mega Project ของกรุงเทพและประเทศไทย มีอะไรบ้าง มาดูกัน
โครงการรถไฟความเร็วสูง
1. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-นครราชสีมา (แล้วเสร็จปลายปี 2564)
2. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-พิษณุโลก (ยังไม่มีความคืบหน้า)
3. รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-หัวหิน (ยังไม่มีความคืบหน้า)
4. รถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน (คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2566)
มาอีกหนึ่งโครงการที่สำคัญมากๆของไทย คือ โครงการรถไฟทางคู่
1. ฉะเชิงเทรา-คลอง19-แก่งคอย (แล้วเสร็จกลางปี2562)
2. ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น (แล้วเสร็จปลายปี 2562)
3. ลพบุรี-ปากน้ำโพธิ์ (คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2565)
4. มาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ *จะมีความล่าช้าช่วงคลองขนานจิตร-ถนนจิระ ซึ่งโครงการเดิมทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูง ดังนั้นต้องศึกษาใหม่* (คาดว่าจะแล้วเสร็จปี 2567)
5. นครปฐม-หัวหิน (คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2564)
6. หัวหิน-ชุมพร (คาดว่าจะแล้วเสร็จกลางปี 2564)
โครงการรถไฟสายสีต่างๆเชื่อมกรุงเทพ
เนื่องจากเรามีBTSและMRT อยู่แล้ว จะขอกล่าวถึงเส้นทางที่สร้างขึ้นมาใหม่
1. สายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค (จะเปิดให้บริการเดือนสิงหาคม ปี2562) ช่วงเตาปูน-ท่าพระ(จะเปิดให้บริการกลางปี 2563)
2. สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง (เปิดให้บริการปลายปี2564)
3. สายสีเขียว(ใต้) แบริ่ง-สมุทรปราการ-บางปู (เปิดให้บริการปี2565) สายสีเขียว(เหนือ) หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต-ลำลูกกา (เปิดให้บริการปลายปี2565)
ส่วนสายอื่นๆยังไม่มีความคืบหน้าหรือความชัดเจนมากนัก(ถ้าผมตกหล่นหรือข้อมูลผิดพลาด เพื่อนๆเพิ่มเติมได้ครับ)
จะเห็นได้ว่า ประมาณปลายปี 2566 หรือ อีก5ปีข้างหน้า กรุงเทพและปริมณฑลจะเชื่อมเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์ คนบางแค ภาษีเจริญ ท่าพระ สามารถเดินทางไปยังปริมณฑลได้อย่างรวดเร็ว มิหนำซ้ำ คนที่จะกลับต่างจังหวัดโดยไปทางสายตะวันออกหรือนครราชสีมา ก็อยู่บนรถไฟยาวๆได้เลย แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นรถไฟความเร็วสูงที่สถานีกลางบางซื่อ ทำให้เราไม่ต้องมาผจญกับรถติดข้างล่างอีกต่อไป
ป.ล.แม้การขนส่งระบบราง มีความสามารถในการเข้าถึงน้อยกว่าถนนและไม่เหมาะกับการเดินทางเป็นครอบครัว แต่ระบบรางตอบโจทย์การเดินทางสำหรับ1-2คน หรือนักท่องเที่ยวแบบbackpack รวมถึงผู้ที่เวลาทุกนาทีมีค่า ดังนั้น ต้องบอกตามตรงว่า ประเทศไทยเรามีระบบรางช้าไปนิดด้วยซ้ำ แต่มาช้ายังดีกว่าไม่มา เพราะมันจะเป็นทางเลือกให้กับประชาชน และไม่ต้องผจญกับความแออัดบนท้องถนนด้วยครับ และมันจะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ระบบการคมนาคมของไทยจากหน้ามือเป็นหลังมือทันที เมื่อทั้ง3โครงการใหญ่นี้เสร็จสมบูรณ์