สืบเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตามพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือบัตรทอง 30 บาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ด้านการรักษาพยาบาลให้แก่ผู้มีรายได้น้อยภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
โดยปัจจุบันผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนหนึ่งไม่ต้องจ่ายค่าบริการอยู่แล้วตามประเภทบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้น โรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะไม่สูญเสียรายได้มากนัก โดยคาดว่าจะเสียรายได้ไม่เกิน 61.7 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนหนึ่งไม่ต้องจ่ายค่าบริการอยู่แล้ว ตามประเภทบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง บุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ พ.ศ.2555
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ได้กำหนดไว้ว่า คนที่ไม่ต้องจ่าย 30 บาทได้แก่ ผู้สูงอายุมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีจำนวน 3.6 ล้านคน และผู้มีรายได้น้อยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยสวัสดิการประชาชนด้านการรักษาพยาบาล ได้แก่ คนโสดหรือผู้เยาว์ที่ไม่มีผู้อุปการะ มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท หรือบุคคลในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งมีรายได้รวมกันไม่เกินเดือนละ 2,800 บาท รวมทั้งคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และบุคคลที่แสดงความประสงค์ไม่จ่ายค่าบริการ
โดยนายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการรวบรวมการดูแลประชาชนให้มาอยู่ภายใต้ โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งการดำเนินการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรวม 11.4 ล้านคนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอยู่แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการดำเนินการและมีผลบังคับใช้
ครม.รัฐบาลลุงตู่จัดให้!! ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รักษาพยาบาลฟรี!!!ตามสิทธิ์บัตรทอง
โดยปัจจุบันผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนหนึ่งไม่ต้องจ่ายค่าบริการอยู่แล้วตามประเภทบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้น โรงพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจะไม่สูญเสียรายได้มากนัก โดยคาดว่าจะเสียรายได้ไม่เกิน 61.7 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐส่วนหนึ่งไม่ต้องจ่ายค่าบริการอยู่แล้ว ตามประเภทบุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตามที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง บุคคลที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการ พ.ศ.2555
อย่างไรก็ตามในปัจจุบันตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ ได้กำหนดไว้ว่า คนที่ไม่ต้องจ่าย 30 บาทได้แก่ ผู้สูงอายุมีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป มีจำนวน 3.6 ล้านคน และผู้มีรายได้น้อยตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยสวัสดิการประชาชนด้านการรักษาพยาบาล ได้แก่ คนโสดหรือผู้เยาว์ที่ไม่มีผู้อุปการะ มีรายได้ไม่เกินเดือนละ 2,000 บาท หรือบุคคลในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งมีรายได้รวมกันไม่เกินเดือนละ 2,800 บาท รวมทั้งคนพิการตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ และบุคคลที่แสดงความประสงค์ไม่จ่ายค่าบริการ
โดยนายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการรวบรวมการดูแลประชาชนให้มาอยู่ภายใต้ โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งการดำเนินการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรวม 11.4 ล้านคนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่ไม่ต้องจ่ายค่าบริการตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพ อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอยู่แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการดำเนินการและมีผลบังคับใช้