พอมาพิจารณาดูการ์พกลอนวรรณคดีไทยโบราณหญิงงามชายงามที่บรรยายในเนื้อเรื่องล้วนมีรูปลักษณ์เป็นแบบสาวเทศกันแทบทั้งนั้น ......ทำไมวรรณคดีไทยจึงเลือกรับนางเอกทางอินเดียแขกขาวมาแทนที่จะเป็น นางหยางกุ้ยเฟย ไซซี หวังเจ้าจวิน เตียวเสี้ยน ไป่สู้เจินฯ
แต่ไทยเลือกจะรับนาง ศกุนตลา รจนา สีดา โมรา กากี เมรี มโนราห์ ละเวงวัลฬาฯลฯ และอื่นๆที่บรรยายลักษณะความงามที่คล้ายสาวเทศมากกว่าสาวเอเชีย
เช่น
ศกุนตลา...
ดูผิวสินวลละอองอ่อน มะลิซ้อนดูดำไปหมดสิ้น
สองเนตรงามกว่ามฤคิน นางนี้เป็นปิ่นโลกา
(มฤคินแปลว่าเสือราชสีห์ แสดงว่าตานางออกสวยหวานดุเหมือนตานางเสือ ผิวขาวชนิดเทียบกับดอกมะลิก็ยังทำให้มะลิที่ว่าขาวแล้วดูดำก็มีแต่ผิวขาวแบบฝรั่งหรือแขกขาวเท่านั้น แถมงามชนิดเหนือโลก)
วาสิฏฐี จากเรื่องกามนิต
ผมดำราวกับแมลงผึ้ง หน้าเปล่งปลั่งดั่งดวงจันทร์ เนตรประหนึ่งตากวาง จมูกเป็นดอกงา ฟันเทียบไข่มุก ริมฝีปากเปรียบผลตำลึงสุก เสียงหวานปานนกโกกิลา ขาคือลำกล้วย เอวเหมาะเจาะไม่อวบเกิน เวลาย่างเดินแคล่วคล่อง มีสง่าเสมอช้างทรง
(ตาหวานกลมเหมือนตากวาง ตากวางก็คือตาแบบเม็ดอัลมอลแบบแหม่มแคทรียาหรือ ออเดรย์ แฮปเปิ้ล ปากแดงเป็นผลตำลึง จมูกคมปลายงุ้มเป็นดอกงาเหมือนสาวแขก มีสง่าดุจช้างทรงแสดงว่ารูปร่างสวยสง่าสูงใหญ่)
นางสาวิตรี
ผิวพักต์ผ่องพันดังจันทรา ลักขณาราวพระศรีอวตาร
(นางขึ้นชื่อผิวผ่องงามเหมือนแสงจันทร์และรูปร่างหน้าตาสวยเหมือนฤษีนารถมุนีอวตาร)
นางอำพันมาลา
เจ้างามคมขาวขำล้ำวิไล
โอษฐ์สะอาดตะละชาดบรรจงจิ้ม
เหมือนจะยิ้มแย้มรับทั้งหลับไหล
ศอระหงดังบุหรงสำหรับไพร
พระขนงโก่งสุดนัยนานาง
นิ้วพระหัตถ์ทัดเทียมลอออ่อน
ลำพระกรกลมละอองทั้งสองข้าง
เล็บแฉล้มแช่มช้อยดังจัดวาง
ทั้งสองปรางเปล่งนวลชวนให้เชย
ทั้งสองถันสันทัดดอกบัวหลวง
เป็นพุ่มพวงงามสุดแรกผุด
(นางคิ้วโก่งใบหน้าคมขำแต่ผิวขาว ลำคอเรียวระหง ริมฝีปากแดงระเรื่อเหมือนทาชาด อันนี้ก็ไม่ใช่ลักษณะสีผิวสีปากคนทางอาเซี่ยนเท่าไร ออกไปทางฝรั้งทางแขกขาว)
อกตูมชิดขนาดเอาดอกบัวทัดได้ระหว่างสองถันได้โดยดอกบัวไม่หล่น อาจารย์สอนภาษาไทยบอกว่าดูจะมีแต่สาวเทศสาวฝรั่งสาวแขกเท่านั่น เพราะไทยสมัยก่อนไม่มีศัลยกรรมซิลิโคน)
นางประแด
สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด
งามละม้ายคล้ายอูฐกะกลาป๋า
พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา
ทั้งสองแก้มกัลยาดังลูกยอ
คิ้วโก่งเหมือนกงเขาดีดฝ้าย
จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ
หูกลวงดวงพักตร์หักงอ
ลำคอโตตันสั้นกลม
สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว
โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม
เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม
มันน่าเชยน่าชมนางเทวี
จาก "ระเด่นลันได"
พระมหามนตรี (ทรัพย์)
(รูปร่างผอมสูง คิ้วโก่งผิวดำตาเด่นสีขาว จมูกโด่งปลายงุ้มเป็นตะขอ ใบหน้ากล้อคอสั้นกลมสันทัด หน้าอกใหญ่ห้อย ฟังดูทั้งหมดนี้แลดูคล้ายสาวอินเดียใต้ฝั่งทะเลอันดามันที่ผิวดำ)
นางลำหับ
โฉมลำหับกัลยา
โสภาพริ้งพร้อมละม่อมละไม
พิศพักตร์เพียงประยงเมื่อทรงกลด
ลออหมดมิได้มีรอยฝีไฝ
เนตรคมขำดำดังเซดสลักใจ
แลวิไลปากหูดูติดตา
เรือนผมกลมขมวดเสมอสม่ำ
เส้นอ่อนดำดูอร่ามงามนักหนา
กรกายคล้ายนางกินรา
นขาฝ่าแดงดังแกล้งย้อม
(หน้าเหมือนพระจันทร์ทรงกลดดวงตาคมขำผมหยักศก)
พระเพื่อนพระแพง
ไม่สูงต่ำดำขาวพีผอม
พริ้งพร้อมสรรพางค์ดังนางหงส์
อรชรอ้อนแอ้นเอวองค์
วงพักตร์โฉมยงดังวงเดือน
พิศพี่ก็ไม่มีเสมอสอง
พิศน้องก็ไม่มีเสมอเหมือน
ขนงเนตรเกศแก้มแย้มเยื้อน
เหมือนจะเตือนให้ต้องตาชาย
พระกรรณเทียบเปรียบกลีบบุษบง
โอษฐ์บางอย่างสีลิ้นจี่จิ้ม
งามพริ้มเพราคมสัน
เกศาดำระยับขลับเป็นมัน
ทนต์นั้นเปรียบสีมณีนิล
สองถันสันทัดสัตตบุษย์
พึ่งผุดพ้นท่าชลาสินธุ์
ขึ้นบังใบใสสดหมดมลทิน
ภุมรินยังมิได้ใกล้เคียง
(รูปร่างกำลังดีไม่สูงไม่เตี้ย รูปร่างอรชนอ่อนแอ้น คิ้วดกคมขำ)
นางสีดา
นางสีดา ๒
พิศพักตร์ผ่องพักตร์ดังจันทร
พิศขนงโก่งงอนดังคันศิลป์
พิศเนตรดั่งเนตรมฤคิน
พิศทนต์ดั่งนิลอันเรียบราย
พิศโอษฐ์ดั่งหนึ่งจะแย้มสรวล
พิศนวลดังสีมณีฉาย
พิศปรางดั่งปรางทองพราย
นางสีดา ๓
เปรียบปรางสีดาก็น่าชม
เปรียบเนตรเนตรคมคมสัน
เปรียบพักตร์ผ่องแผ้วดั่งจันทร
เปรียบถันดั่งปทุมละอองนวล
(ตาคมเหมือนตาเสือใบหน้าคมสัน ตาสวยเหมือนตานางเสือนี้ก็รูปปั้นเทพแขกฮินดูทั้งนั้น คิ้วเข้มดกดำเป็นระเบียบผิวสว่างแก้มเป็นสีทอง)
ทำไมนิยามความงามของคนไทยโบราณจึงมีลักษณะสวยคมแนวแขกขาวแขกดำแขกเทศไม่ใช่แนวหมวยแบบเดี๋ยวนี้
แต่ไทยเลือกจะรับนาง ศกุนตลา รจนา สีดา โมรา กากี เมรี มโนราห์ ละเวงวัลฬาฯลฯ และอื่นๆที่บรรยายลักษณะความงามที่คล้ายสาวเทศมากกว่าสาวเอเชีย
เช่น
ศกุนตลา...
ดูผิวสินวลละอองอ่อน มะลิซ้อนดูดำไปหมดสิ้น
สองเนตรงามกว่ามฤคิน นางนี้เป็นปิ่นโลกา
(มฤคินแปลว่าเสือราชสีห์ แสดงว่าตานางออกสวยหวานดุเหมือนตานางเสือ ผิวขาวชนิดเทียบกับดอกมะลิก็ยังทำให้มะลิที่ว่าขาวแล้วดูดำก็มีแต่ผิวขาวแบบฝรั่งหรือแขกขาวเท่านั้น แถมงามชนิดเหนือโลก)
วาสิฏฐี จากเรื่องกามนิต
ผมดำราวกับแมลงผึ้ง หน้าเปล่งปลั่งดั่งดวงจันทร์ เนตรประหนึ่งตากวาง จมูกเป็นดอกงา ฟันเทียบไข่มุก ริมฝีปากเปรียบผลตำลึงสุก เสียงหวานปานนกโกกิลา ขาคือลำกล้วย เอวเหมาะเจาะไม่อวบเกิน เวลาย่างเดินแคล่วคล่อง มีสง่าเสมอช้างทรง
(ตาหวานกลมเหมือนตากวาง ตากวางก็คือตาแบบเม็ดอัลมอลแบบแหม่มแคทรียาหรือ ออเดรย์ แฮปเปิ้ล ปากแดงเป็นผลตำลึง จมูกคมปลายงุ้มเป็นดอกงาเหมือนสาวแขก มีสง่าดุจช้างทรงแสดงว่ารูปร่างสวยสง่าสูงใหญ่)
นางสาวิตรี
ผิวพักต์ผ่องพันดังจันทรา ลักขณาราวพระศรีอวตาร
(นางขึ้นชื่อผิวผ่องงามเหมือนแสงจันทร์และรูปร่างหน้าตาสวยเหมือนฤษีนารถมุนีอวตาร)
นางอำพันมาลา
เจ้างามคมขาวขำล้ำวิไล
โอษฐ์สะอาดตะละชาดบรรจงจิ้ม
เหมือนจะยิ้มแย้มรับทั้งหลับไหล
ศอระหงดังบุหรงสำหรับไพร
พระขนงโก่งสุดนัยนานาง
นิ้วพระหัตถ์ทัดเทียมลอออ่อน
ลำพระกรกลมละอองทั้งสองข้าง
เล็บแฉล้มแช่มช้อยดังจัดวาง
ทั้งสองปรางเปล่งนวลชวนให้เชย
ทั้งสองถันสันทัดดอกบัวหลวง
เป็นพุ่มพวงงามสุดแรกผุด
(นางคิ้วโก่งใบหน้าคมขำแต่ผิวขาว ลำคอเรียวระหง ริมฝีปากแดงระเรื่อเหมือนทาชาด อันนี้ก็ไม่ใช่ลักษณะสีผิวสีปากคนทางอาเซี่ยนเท่าไร ออกไปทางฝรั้งทางแขกขาว)
อกตูมชิดขนาดเอาดอกบัวทัดได้ระหว่างสองถันได้โดยดอกบัวไม่หล่น อาจารย์สอนภาษาไทยบอกว่าดูจะมีแต่สาวเทศสาวฝรั่งสาวแขกเท่านั่น เพราะไทยสมัยก่อนไม่มีศัลยกรรมซิลิโคน)
นางประแด
สูงระหงทรงเพรียวเรียวรูด
งามละม้ายคล้ายอูฐกะกลาป๋า
พิศแต่หัวตลอดเท้าขาวแต่ตา
ทั้งสองแก้มกัลยาดังลูกยอ
คิ้วโก่งเหมือนกงเขาดีดฝ้าย
จมูกละม้ายคล้ายพร้าขอ
หูกลวงดวงพักตร์หักงอ
ลำคอโตตันสั้นกลม
สองเต้าห้อยตุงดังถุงตะเคียว
โคนเหี่ยวแห้งรวบเหมือนบวบต้ม
เสวยสลายาจุกพระโอษฐ์อม
มันน่าเชยน่าชมนางเทวี
จาก "ระเด่นลันได"
พระมหามนตรี (ทรัพย์)
(รูปร่างผอมสูง คิ้วโก่งผิวดำตาเด่นสีขาว จมูกโด่งปลายงุ้มเป็นตะขอ ใบหน้ากล้อคอสั้นกลมสันทัด หน้าอกใหญ่ห้อย ฟังดูทั้งหมดนี้แลดูคล้ายสาวอินเดียใต้ฝั่งทะเลอันดามันที่ผิวดำ)
นางลำหับ
โฉมลำหับกัลยา
โสภาพริ้งพร้อมละม่อมละไม
พิศพักตร์เพียงประยงเมื่อทรงกลด
ลออหมดมิได้มีรอยฝีไฝ
เนตรคมขำดำดังเซดสลักใจ
แลวิไลปากหูดูติดตา
เรือนผมกลมขมวดเสมอสม่ำ
เส้นอ่อนดำดูอร่ามงามนักหนา
กรกายคล้ายนางกินรา
นขาฝ่าแดงดังแกล้งย้อม
(หน้าเหมือนพระจันทร์ทรงกลดดวงตาคมขำผมหยักศก)
พระเพื่อนพระแพง
ไม่สูงต่ำดำขาวพีผอม
พริ้งพร้อมสรรพางค์ดังนางหงส์
อรชรอ้อนแอ้นเอวองค์
วงพักตร์โฉมยงดังวงเดือน
พิศพี่ก็ไม่มีเสมอสอง
พิศน้องก็ไม่มีเสมอเหมือน
ขนงเนตรเกศแก้มแย้มเยื้อน
เหมือนจะเตือนให้ต้องตาชาย
พระกรรณเทียบเปรียบกลีบบุษบง
โอษฐ์บางอย่างสีลิ้นจี่จิ้ม
งามพริ้มเพราคมสัน
เกศาดำระยับขลับเป็นมัน
ทนต์นั้นเปรียบสีมณีนิล
สองถันสันทัดสัตตบุษย์
พึ่งผุดพ้นท่าชลาสินธุ์
ขึ้นบังใบใสสดหมดมลทิน
ภุมรินยังมิได้ใกล้เคียง
(รูปร่างกำลังดีไม่สูงไม่เตี้ย รูปร่างอรชนอ่อนแอ้น คิ้วดกคมขำ)
นางสีดา
นางสีดา ๒
พิศพักตร์ผ่องพักตร์ดังจันทร
พิศขนงโก่งงอนดังคันศิลป์
พิศเนตรดั่งเนตรมฤคิน
พิศทนต์ดั่งนิลอันเรียบราย
พิศโอษฐ์ดั่งหนึ่งจะแย้มสรวล
พิศนวลดังสีมณีฉาย
พิศปรางดั่งปรางทองพราย
นางสีดา ๓
เปรียบปรางสีดาก็น่าชม
เปรียบเนตรเนตรคมคมสัน
เปรียบพักตร์ผ่องแผ้วดั่งจันทร
เปรียบถันดั่งปทุมละอองนวล
(ตาคมเหมือนตาเสือใบหน้าคมสัน ตาสวยเหมือนตานางเสือนี้ก็รูปปั้นเทพแขกฮินดูทั้งนั้น คิ้วเข้มดกดำเป็นระเบียบผิวสว่างแก้มเป็นสีทอง)