จดหมายเหตุ แคนจบการศึกษา ณ เธียเตอร์ BNK48 รีวิว Party ga Hajimaru yo 5 สิงหาคม 2561 5pm (รอบที่ 29)

6.40pm วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2561 กลางเวทีแคมปัสเดอะมอลล์ บางกะปิ ...  "เดี๋ยวก่อนค่ะ! แคนมีอะไรจะพูด.. จำตอนที่ติดเซ็มครั้งแรกได้ พี่จ๊อบเคยบอกให้แคนค้นหาตัวเองให้เจอ ตอนนี้แคนเจอแล้ว .. ดิฉัน นายิกา ศรีเนียน ขอจบการศึกษาค่ะ"
    

3ชั่วโมงก่อนหน้านั้นลิฟท์ชั้น4เปิดออก ผมเดินมาถึงBNK48cafeอย่างชำนาญเส้นทางเนื่องจากวันที่ตัวเองรู้ว่าแต้มบุญมีอยู่จริงได้ทำการซักซ้อมการเดินทางไว้แล้ว ถึงจะอยู่กทม.แต่ย่านบางกะปิแทบไม่เคยย่างกราย
(ขนาดว่าซ้อมไว้แล้ววันเดินทางจริงยังเลี้ยวรถผิด จึงถึงช้ากว่าที่กูเกิ้ลกำหนดไป12นาที) เมื่อพบกับเพื่อนที่ชาติที่แล้วคงทำบุญร่วมกันมา เราย้ายมารอที่ประตูทางเข้า คอยฟังพี่staffให้สัญญานเรียกเข้า

ไฟในเธียเตอร์ดับสนิท เสียงแคนพูดผ่านไมค์แบบสดๆถึงกฎและข้อห้ามในการรับชม เสียงแคนอู้อี้ขึ้นจมูกเล็กน้อย ทีแรกเข้าใจผิดด้วยซ้ำว่าเป็นเสียงซัทจัง (เท่าที่คาดการคือน่าจะเพิ่งเสร็จจากการบูมเรียกพลังแต่
ต่างจากทุกครั้งเพราะรอบนี้เมมเบอร์อีก15คนรับรู้ถึงจุดยืนอันแน่วแน่ของแคนและต่างรู้กันแล้วว่าโชว์จะจบลงแบบไหน ซึ่งคงเสียน้ำตากันไปตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ปล่อยให้เหล่าโอตะที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เสพความบันเทิงให้เต็มที่ไปก่อน)

เสียงเพลงโหมโรงขึ้น(overture) ทำใจเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะนี่จะเป็นครั้งแรกที่ได้รับชมการแสดงของวงโปรด ก่อนหน้านี้eventไม่มีว่างตรงกัน ตู้ปลาไม่คิดจะไปเบียดสู้ บัตรคอนได้คิว2หมื่น roadshowยิ่งไม่ต้องพูด
... สนิทใจกะเมมเบอร์จากหน้าจอล้วนๆ

เซ็ท3เพลงแรก สมาชิก16คนปรากฎกายขึ้นพร้อมเพียงในเพลง"ปาร์ตี้ในฝัน" ชุดกระโปรงลายสก็อต แจกความสดใสออร่าเปล่งกระจายไปทั่วห้อง .. จังหวะเพลงสนุกสนานชวนให้ตบเท้าโยกตัวตาม ท่ามกลางเสียงยิงมิกซ์จากคนดูเป็นระยะ ท่าเต้นท่อนฮุคช่างน่ารักซะจริง
เพลงต่อมายิ่งทำใจเต้นกว่าเดิมเพราะเนื้อหา "Dear my teacher" คือลูกศิษย์สาววัยมัธยมออดอ้อนคุณครูให้สอนเรื่องความรัก พาจินตนาการเตลิดด้วยท่าเต้นเย้ายวนเบาๆ .. ปิดท้ายเซ็ทด้วยเพลง"แอปเปิ้ลอาบยาพิษ" soundดนตรีเหมือนเกมส์กด เนื้อหาชวนให้ลอง
ทำสิ่งท้าทาย เหมือนสโนไวท์ที่รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง - ลองกัดชิมแอปเปิ้ล .. เพลงนี้เมมเบอร์เล่นกับคนดูสนุกด้วยจังหวะเนื้อเพลงที่ส่งเสียงกุ๊กกิ๊กเป็นระยะให้คนดูร้องหวีดกิ้วกิ้วตาม และท่าเต้นแต่ละคนก็หลากหลายเพลินใจ
สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดระหว่างเมมเบอร์และผู้ชมที่นั่งอมยิ้มกันตลอดเพลง
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เข้าช่วงแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ คุณมิลินกับตาหวานที่วันนี้รับบทหลักในการรันโชว์ กล่าวต้อนรับน้องใหม่รุ่น2เพียงคนเดียว "ผักขม" เรียกเสียงจากคนดูกึกก้องด้วยcatchphrase ขม..ปี๋ ขม..ปี๋ ขม..ปี๋ เมมเบอร์ส่วนใหญ่ใช้catchphraseเดิม
แต่เพื่มลูกเล่นและเทคนิคในการสื่อสารคนดูที่ต่างออกไป ถือว่าคุมคาแร็คเตอร์กันได้ดี .. มีจังหวะที่คนดูสงสัยในใจเล็กน้อยตอนที่น้ำหนึ่งบอกผู้ชมว่าวันนี้ขอเสียงเชียร์ให้ผักขมกับแคนแคนเยอะๆนะ (ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าโชว์เริ่ม มีข่าวลือการgradในfandom
หรือจักรวรรดิแคนแคนกันหนาหู แต่ไม่มีใครกล้ายืนยัน)


ช่วงแนะนำตัวเมมจะยืนกัน 3 แถว (5-6-5)  ไล่เรียงไปทีละคน แถวไหนแนะนำตัวเสร็จได้ลงไปเปลี่ยนชุดก่อน ..ถึงตาแคนที่ยืนอยู่กลางเวทีแนะนำตัวเอง บอกทุกคนว่าวันนี้มีมุกใหม่นำเสนอ ให้ทุกคนพูดว่า 2ป๋อง ซึ่งหมายถึง 2 กระป๋อง (พูดแล้วหัวเราะตัวเอง)
นัดแนะเสร็จพูดขึ้นทันทีว่า "โอ๊ยยยย! ร้อนจัง! อยากได้น้ำซัก (พลางยื่นไมค์ให้คนดู) .. 2ป๋อง 2ป๋อง" บรรดาโอชิแคนเบาใจกันเป็นแถวว่าข่าวลือไม่น่ามีมูล ก็นางอารมณ์ดีมีความสุขอยู่บนเวทีซะขนาดนั้น
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ช่วงเซ็ทเพลงต่อมาอัดยาว 5 เพลงรวด โดยสลับกันขึ้นเพลงละ2-5คน เริ่มจากเพลงและชุดที่คุ้นเคยกันดีประจำเพลง"พลิ้ว" แปลกตานิดหน่อยเพราะจาก7คนในซิงเกิ้ลรองที่2 เหลือยืนกัน5คน แต่ถือว่าใช้พื้นที่กันได้ดี กระโดดออกข้างไปมาไม่ต้องกลัวชนกัน
สะบัดกระโปรงแข่งกันสนุกสนาน

.. เพลงต่อมาเมมอีก5คนขึ้นมาสับเปลี่ยนในชุดเด็กมัธยมญี่ปุ่น รักใสๆหัวใจห้าดวง "Classmate" เรียกเสียงวี้ดวิ้วได้ตลอดเพลง เพราะมีการจับคู่ตามเนื้อหาที่รู้สึกพิเศษกับเพื่อนร่วมห้อง รอบนี้จับคู่ได้ถูกคนมากๆ ที่โดดเด่นคือ"เคทกับผักขม"
ด้วยความสูงที่เท่ากันและใส่กระโปรงสั้น(ไปนิด) โชว์ขาสวยเรียวยาวเหมือนกัน อยู่ในท่าเต้นเบาๆ ดาเมจล้านแปด


เพลงถัดมาเป็นเพลงที่มีMVในซิงที่3 "คำสัญญาแห่งคริสมาสต์อีฟ" รอบวันนี้เป็นคู่ตัวจริง "แก้วตาหวานใจ" ซาบซึ้งแต่แอบเสียดายที่ไม่ได้เห็นแก้วเล่นเปียโนสด เพราะต้องมารับบทร้องซะเอง

... เพลงที่4ของช่วงเรียกเสียงฮือฮาล้นห้องเพราะ เนย น้ำใส และเจน
มาในชุดสีทองอะร้าอร่ามตระการตา ใครว่าBNKเซ็กซี่ไม่เป็นลองมาชมที่นี่สดๆนะครับ ตัวเพลงวาบหวิวเล็กน้อยเล่าถึงการจูบกับคนรู้ใจที่ควรจะยับยั้งชั่งใจ การกรีดนิ้วของเนยได้กระชากวิญญานผมไปเรียบร้อย

ปิดท้ายช่วงด้วยเพลงที่มีจังหวะระทึก บีทของกลองหนักแน่นเร้าใจ "อุณหภูมิของดวงดาว" ทั้ง4คนร้องสดกันได้ดี  ถือว่าเอาอยู่กับเพลงที่ดนตรีslow rockหนักแน่นเช่นนี้ (ทำเราละสายตาจาก"ก่อน"ไม่ได้เลย ในชุดกระโปรงยาวสีขาวเรียบร้อย)

-----------------------------------------------------------------------------------------------
พักหูจากการฟังเพลง มารับชมสิ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน คือช่วงMC พูดคุยเรื่องราวประจำวันซึ่งจะแตกต่างกันไปในทุกรอบ น้ำหนึ่งพูดถึงข่าวเด็กติดถ้ำทำให้ชาวต่างชาติสนใจประเทศเราขึ้นมาก และตอกย้ำเรื่อง"ยิ้มสยาม" ที่เป็นเอกลักษณ์ พร้อมชวนเหล่าเมมเบอร์ให้
นำเสนอการยิ้มที่ถูกต้อง --น้องก่อนบอกเหตุผลที่คนไทยยิ้มเก่งเพราะฟังภาษาฝรั่งที่มาคุยไม่รู้เรื่อง55-- เคทบอกพี่น้ำหนึ่งหลังเวทีว่าไม่อยากเล่นจึงโดนคุณมิลินกลั่นแกล้งเอาซะ โดนเป็นตัวแทนคนแรก คุณหนูหันมายิ้มอ่อนตามสไตล์ มิโอริยิ้มแห้งหน่อยๆ คุณปู๊บยิ้มแหยๆเรียกเสียงฮาลั่น .... ต่อมาพูดถึง"ความฝัน"
ผักขมโดนรับน้องให้ตอบก่อน นางบอก"อยากเป็นดาราค่ะ ตอนนี้เป็นidolก็ถือเป็นก้าวแรก"ร้องไห้พูดด้วยท่าทีเขินอาย) เรียกเสียงหวีดที่พร้อมเอาใจช่วยจากผู้ชมได้โข เนยโดนเมมอื่นแกล้งแฉความฝันที่อยากเป็นแฟนชินอิจิ(โคนัน) พร้อมแฉตัวเองเสร็จสรรพว่าจริงๆแล้วฝันอยากเป็นตุ๊กตาบาร์บี้
จึงโดนแซวว่าอยากเป็นเคน(แฟนบาร์บี้)มากกว่า

ตลอด10นาทีที่พูดคุย สัมผัสความเป็นธรรมชาติจากทั้ง16คน รับส่งกันได้ดีไม่มีฝืด ไม่มีdead air มุกตบชงลงตัว แป้กบ้างแต่ยังน่ารัก มีเบรคกันเองเพื่อความไม่รั่วจนเกินไป สลับพูดเล่นกับคนดูจึงไม่น่าเบื่อ
สำหรับผมการเจอตัวจริงของเมมเบอร์บางคนทำให้เราต้องเปลี่ยนทัศนคติไปตลอดกาลhaha เช่น น้องก่อนที่เคยคิดว่าเรียบร้อยขี้อาย มันไม่ใช่เลย ความรั่วความกาวมาเต็ม, ซัทจังโตเป็นสาวแล้วแถมมีภาวะผู้นำสูงมาก, แก้วมีลุคqueenกว่าที่คิด มิกล้าจ้องตาเลยล่ะ,
แคนตัวจริงน่ารักมาก ทรงผมหน้าม้าทำอะไรก็ดูมีเสน่ เดี๋ยวว่างๆจะรีวิวเมมเบอร์ทีละคนในcommentด้านล่าง ใครโอชิใคร เตรียมมาอ่านต่อกันได้ เข้าใจหัวอกคนที่ไม่เคยได้เข้าเธียเตอร์เป็นอย่างดี

-------------------------------------------------------------------------------------


เข้าเพลงช่วงที่สาม "SAKURA" สมาชิกทั้ง16คนเรียงแถวย่ำเท้าในท่อนintro ผมเลยได้จังหวะเดินย่ำออกไปห้องน้ำ ด้านหลังห้องมีแสงไฟพอประมาณ เพราะเป็นห้องคุมแสงสีเสียง ทำให้ผมเห็นคนหน้าคุ้นๆ ทั้งพี่ARที่คอยดูแลศิลปิน คุณครู และหนึ่งในนั้น
คือคุณพ่อน้องแคน!!! (จำได้จากช่วงที่พ่อออกมาพูดอย่างหล่อในช่วงที่แคนโดนกระแสหนักหน่วง) ข้างๆคงเป็นคุณปู่คุณย่าแคนด้วย ชักเอะใจแปลกๆเห็นมีช่างภาพถือกล้องโปรเดินไปมา .. staffมาstampมือผมด้วยหมึกlogoวง รีบไปห้องน้ำด้วยสปีดของquicksilver
กลับมาเพลงยังไม่จบดี เพื่อนบอกมีเม็มบางคนร้องไห้ไปด้วย

เข้าเพลงที่10 "ฟ้าสีคราม" เอาแล้วไงชักยังไง ระหว่างเพลงเมมเบอร์ครึ่งนึงร้องไห้ บางคนตาแดงก่ำ บางคนยกมือปาดน้ำตา น้ำใสเข้าขั้นฟูมฟายท้ายเพลง
ผมคิดในใจว่า"innerต้องหนักขนาดนี้กันเลยเหรอหรือเพลงนี้ท่าเต้นน้อยเลยต้องเน้นแสดงอารมณ์ ทุกรอบจะเป็นอย่างนี้รึเปล่า? ด้วยเนื้อความของเพลงเล่าถึงมิตรภาพและการจากลาไปต่อสู้กับเส้นทางใหม่ที่เลือก .. (เขียนกระทู้นี่ไปน้ำตาคลอไป ปกติไม่ใช่คนอ่อนไหว แต่นึกภาพบนเวที
ที่โอชิเราร้องไห้แล้วมันอินตาม)
ไฟมืดสนิท โอตะที่คุ้นเคยธรรมเนียม เริ่มส่งเสียงเรียก "อังกอหรุ อังกอหรุ" ผมส่งเสียงตาม ได้อารมณ์เหมือนอยู่ชนเผ่าอะไรสักอย่าง .. เมมเบอร์วิ่งออกมาในชุดเด็กสาวข้างบ้าน เหมือนสมัยที่เรารู้จักพวกเธอใหม่ๆ ดนตรีเพลงชาติขึ้น "BNK48"เป็นเพลงปลุกใจมากๆ
รู้สึกถึงพลังอันท่วมท้น, "พลิ้ว" เวลาเต้นพร้อมกันเยอะๆสวยดี, Aitakatta คนดูยิงมิกซ์สนุก ..  หลังเพลงเร็วที่อยู่ในอัลบั้ม3เพลงถูกบรรเลงจบลง ผมไม่รู้สึกแปลกใจว่าทำไมวงนี้มีคนติดตามมากมายเวลาไปเล่นนอกสถานที่ มันมีเสน่ที่บอกไม่ถูก
คงต่างพร้อมใจมารับพลังดาเมจที่เป็นด้านบวกจากการร้องการเต้นกัน

เพลงsakuraที่ร้องแถมให้เป็นเพลงสุดท้ายแล้วจริงๆได้จบลง ช่วงเวลาที่ต้องจารึกลงในประวัติ48groupกำลังจะเกิดขึ้น....

6.40pm วันอาทิตย์ที่ 5 สิงหาคม 2561 กลางเวทีแคมปัสเดอะมอลล์ บางกะปิ ... เมมเบอร์คนนึงกำลังชักชวนเพื่อนๆกล่าวคำร่ำลาคนดู ทันใดนั้น "เดี๋ยวก่อนค่ะ! แคนมีอะไรจะพูด.. จำตอนที่ติดเซ็มครั้งแรกได้ พี่จ๊อบเคยบอกให้แคนค้นหาตัวเองให้เจอ ตอนนี้แคนเจอแล้ว .. ดิฉัน นายิกา ศรีเนียน ขอจบการศึกษาค่ะ"
ดั่งสายฟ้าฟาดกลางใจผู้ชมกว่า350คน ในคืนที่เหมือนจะจบลงอย่างสวยงามเพราะเมมเบอร์ทั้ง16คนทำโชว์ไว้สุดประทับใจ กลับกลายเป็นบรรยากาศหน่วงๆที่มีเสียงโอดครวญรอบทิศทาง บ้างก้มหน้าปิดตา  บ้างใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตา
มีเสียงพยายามต้านทานตั้งแต่แคนขึ้นประโยคแรกทว่าไม่เป็นผล ลางสังหรณ์และข่าวลือกลับกลายเป็นเรื่องจริง พูดไม่ออกคืออาการของทุกคนในห้อง

แก้ว พี่สาวคนโตของบ้าน กล่าวความในใจคนแรก โดยพูดว่า "ไม่ชอบคำว่าสุดท้ายเลยซักนิด ยิ่งเป็นคนที่เหมือนอยู่ในครอบครัวเดียวกันแล้วต้องจากกัน ถึงเดี๋ยวนี้เราไม่ค่อยได้เจอกัน แต่ความรู้สึกทั้งหมดยังอยู่เหมือนเดิมรวมถึงช่วงเวลาที่ติดเซ็มด้วยกันตั้งแต่ซิงเกิ้ลแรก"
นิ้ง ขอพูดบ้าง "จริงๆอยากให้โชว์นี้เป็นโชว์ที่ดีที่สุดให้พี่แคนจดจำ ตั้งใจจะไม่ร้องไห้ แต่กลั้นไม่ไหวแล้วจริงๆ" นิ้งพลางก้มหน้าไม่อยากให้ใครเห็นน้ำตา  
มิโอริ ร้องไห้น้ำตาท่วมตั้งแต่เพลงหลังๆ จนถึงช่วงสุดท้ายที่กล่าวขอบคุณคนดู ถึงกับทรุดลงไปกองกับพื้น ซัทจังพุ่งเข้าช่วย สต๊าฟทั้งด้านหน้าและหลังห้องกรูเข้าหลังเวทีอย่างรวดเร็ว เมมเบอร์4-5คนประคองมิโอริเข้าหลังเวที ส่งตัวให้พี่ARดูแลต่อ

ผมไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจที่ได้เข้ามาดูเธียเตอร์รอบประวัติศาสตร์นี้ เหมือนดูหนังหักมุม .. ยังดีที่แคนกล่าวว่าจากนี้จะยังไม่ไปไหน ยังมีผลงานต่อกับบริษัทแน่นอน คงต้องรอดูกันไปว่าจะฉายเดี่ยวหรือทำเพลงในรูปแบบใด
ระหว่างนี้ทุกคนยังไปจับมือแคนได้ตามปกติในวันที่18-19สิงหา stageสุดท้ายของแคนคือวันที่26เดือนเดียวกันนี้

--------------------------------------------------------------------------
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่