'นายกฯ'ถึงเมืองเพชรฯ ตรวจเยี่ยมการจัดการน้ำเขื่อนแก่งกระจาน
นายกฯ” ถึงเมืองเพชรฯ ดูจัดการน้ำ ชม ขรก.ทำได้ดีแล้ว ยืนยันสถานการณ์ไม่ได้สาหัสอย่างที่คิด ขอสื่อมวลชนระวังเสนอข่าวทำชาวบ้านแตกตื่น
8 ส.ค.61 เมื่อเวลา 08.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพพาคที่ 1 ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เพชรบุรี หลังสถานการณ์ระดับน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี อยู่ในขั้นวิกฤติ น้ำล้นสปิลเวย์ และมีแนวโน้มว่าจะไหลบ่าท่วมขังใน 5 อำเภอ
โดยนายกฯ ได้เดินทางมายังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชรบุรี) ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง ด้วยรถโตโยตาอัลพาร์ดทะเบียน 7 กห 7024 โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึงเขื่อนเพชร ได้กล่าวทักทายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่มาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ว่า "เห็นรอยยิ้มแล้วก็โอเคนะ มาให้กำลังใจ ทุกคนทำได้ดีแล้ว สถานการณ์ไม่ได้หนักหนาสาหัสอย่างที่คิด"
จากนั้นนายกฯ รับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของ จ.เพชรบุรี พร้อมกล่าวว่า อยากฝากสื่อมวลชน 2 เรื่องว่า สถานการณ์ยังไม่ถึงขนาดนั้น แน่นอนมันต้องมีการท่วมขังบ้าง แต่ข้อสำคัญคือเราจะมีมาตรการและเตรียมการอย่างไร ซึ่งสิ่งที่เราทำวันนี้คือการป้องกัน การเก็บกักน้ำ เพื่อใช้ไปถึงหน้าแล้งด้วย เพราะว่าการระบายน้ำหมดมันถือว่าไม่ใช่ นี่จึงเรียกกว่าการบริการจัดการน้ำ และทำอย่างไรจะมีน้ำเก็บไว้หน้าแล้ง ทำอย่างไรจะบรรเทาความเดือนร้อนประชาชนให้ดีที่สุด และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกเหนือจากการบริหารจัดการน้ำ ก็จะเป็นมาตรการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจึงขอให้ทุกคนระมัดระวังการเสนอข่าว เพราะไม่สามารถห้ามสื่อมวลชนได้ แต่อย่าทำให้สถานการณ์มันดูหนักมากเกินไป เราจะแก้ไขให้ดีที่สุดและต้องใช้เวลา ที่พูดแบบนี้เพราะสื่อมวลชนรอตนอยู่ข้างนอกเยอะ
http://www.naewna.com/politic/356438
นายกฯ ชม 'ผู้ว่าฯหญิงเมืองเพชร' เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำได้เป็นอย่างดี
"พล.อ.ประยุทธ์" ชม "ผู้ว่าฯหญิงเมืองเพชร" เตรียมรับมือ สถานการณ์น้ำได้เป็นอย่างดี เผยหลายพื้นที่ต้องมีแผนอพยพ หลังพายุจ่อพัดเข้า
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.61 เวลา 13.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า การประชุม คสช. วันเดียวกันนี้ ได้หารือถึงการบริหารจัดการน้ำ โดยจะหาแนวทางที่เหมาะสมในการรับมือ ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานให้ทราบว่า มีการเตรียมการเป็นอย่างดี จึงขอชมเชยผู้ว่าราชการจังหวัดที่เตรียมการรับมือ โดยวันที่ 8 ส.ค.นี้ ตนจะลงพื้นที่เพื่อไปดูระดับน้ำ เนื่องจากปัจจุบันนี้มีระดับน้ำที่สูง จึงต้องไปดูแผนที่เตรียมการไว้ ว่าครบถ้วนหรือไม่ พร้อมตรวจดูการทำงานของหน่วยป้องกันภัยของพลเรือน ที่ร่วมบูรณาการทำงานกับฝ่ายทหาร เตรียมการรองรับกรณีน้ำเข้ามามากกว่าปริมาณที่สามารถรองรับ อย่างไรก็ตาม วันนี้คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำยังคงทรงตัวและลดลงหลังจากที่ได้ระบายน้ำออกแล้ว ทั้งนี้ หลายคนเป็นห่วงการระบายน้ำบริเวณเขื่อน กรณีน้ำล้นสปิลเวย์ โดยการระบายน้ำออก จะต้องดูว่าเขื่อนมีความแข็งแรงที่จะพอรองรับได้หรือไม่ พร้อมดูน้ำที่ระบายออกมาว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ เพื่อที่ภาคประชาชนจะได้เตรียมการรองรับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ จะไปตรวจงานในเรื่องเหล่านี้ หลายพื้นที่อาจจะต้องมีแผนอพยพประชาชน จึงขอให้ทุกคนได้มีการติดตามสถานการณ์ฝนและสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา จากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพมือถือหรือกูเกิล ว่าเดือนสิงหาคม น้ำแต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร ซึ่งบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำ เขตการระบายน้ำออก จะต้องเตรียมการรับมือ โดยเก็บข้าวของไว้ในที่สูง พร้อมเตรียมอพยพไปในพื้นที่ปลอดภัยหากมีปริมาณน้ำมากขึ้น เนื่องจากมีลมพายุเข้ามา จะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา โดยได้ตัดตอนน้ำทั้งก่อนเข้าเขื่อน และท้ายเขื่อน พร้อมทำทางระบายน้ำเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับชาวบ้านให้ได้มากที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยสอดคล้องกับที่ตนได้สั่งการไปแล้ว ว่าให้มีการขุดขยายเส้นทางน้ำตามธรรมชาติ เพื่อเก็บกักและระบายน้ำไว้ในพื้นทีแก้มลิง พร้อมชดเชยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเตรียมสนับสนุนสร้างอาชีพให้กับประชาชน เช่น ทำประมงพื้นบ้าน เหมือนกันที่ได้ทำไปแล้วที่ จ.พิษณุโลก ต.บางระกำ จ.อยุธยา โดยประชาชนมีความพอใจ
“วันนี้มีปลาเยอะแยะ และวันนี้ก็ได้ขอห้องเย็นมาอีกเพื่อจะเก็บปลาจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นอาชีพเสริมขึ้นมาในช่วยตอนที่ทำนาไม่ได้ รัฐบาลได้คิดในทุกมิติ เพราะเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทำอย่างไร จึงจะเสียหายน้อยที่สุด และรัฐบาลต้องดูแล ส่วนที่ปริมาณน้ำในแอ่งน้ำยังมากอยู่ ก็จะต้องระบาย พร่องน้ำ และคาดหวังว่าสถานการณ์ภัยธรรมชาติจะดีขึ้น ที่สำคัญคือการสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าจะต้องตรียมการอย่างไร โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะต้องช่วยกันเตรียมความพร้อมกับประชาชน ซึ่งพรุ่งนี้ผมจะบังคับบัญชาในเรื่องนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ให้แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาอุทกภัยได้ในอนาคต เพราะหลายพื้นที่ทำโครงการใหม่ๆ แล้วสามารถระบายน้ำได้ เช่นเดียวกับที่เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในประตูระบายน้ำคลอง D9 โดยตอนนี้ทำได้แล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ ตนได้สั่งการให้เปิดการระบายน้ำออกด้านข้างด้วย และจะสามารถลดปริมาณน้ำได้กว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร จากนั้นจะเหลือ 100 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร เพราะถ้าปล่อยออกช่องทางเดิมทั้งหมด น้ำก็จะท่วมทั้งหมด รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำอย่างมาก โดยให้ความสำคัญตั้งแต่แรก ก่อนที่จะมีสถานการณ์น้ำเกิดขึ้น
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/809624
ระดมรถแบคโฮขุดขยายคลองระบายจากเขื่อนแก่งกระจานจนท.ระดมรถแบคโฮ ขุดลอกขยายคลอง 3 รองรับการะบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน ลงแม่น้ำเพชรบุรี
เจ้าหน้าที่นำรถแบคโฮ มากกว่า 10 คันเร่งขุดลอกขยายคลอง สาย 3 ตลอดทั้งคืน เพื่อใช้เป็นจุดรองรับการระบายของน้ำที่ ล้นสปิลเวย์เขื่อนแก่งกระจาน ที่ไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ก่อนจะลงสู่เขื่อนเพชร ซึ่งจะเป็นการผันน้ำเหนือเขื่อน ไม่ให้ไหลเอ่อ เข้าท่วมตัวเมืองเพชรบุรี กระทบต่อประชาชน ซึ่งเครื่องจักรยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องก่อนหยุดพักในช่วงเช้า
ขณะที่ นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี หลังปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ ที่เขื่อนแก่งกระจาน ว่า น้ำที่ไหลลงแม่น้ำเพชรบุรีนั้น มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเที่ยบกับวันแรกที่น้ำล้นสปิลเวย์ แต่ก่อนที่จะไหลไปสู่แม่น้ำเพชรอย่างเต็มกำลังนั้น ปริมาณน้ำดังกล่าวต้องผ่านเขื่อนเพชร ซึ่งจะมีการแบ่งน้ำไปลงคลองส่งน้ำต่างๆ ที่มีอยู่กว่า 40 คลอง นอกจากนี้ทางสถานีวัดน้ำทั้ง 5 สถานี ยังเฝ้าระวังระดับน้ำตลอดเวลาโดยขณะนี้ระดับน้ำยังคงต่ำกว่าตลิ่งอยู่พอสมควร
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้คาดการณ์ว่าในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ปริมาณน้ำที่จะออกจากเขื่อนแก่งกระจานนั้น อยู่ที่ประมาณ 210 ลบ.ม ต่อวินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำในพื้นที่แล้ว จะมีปริมาณน้ำไหลมายังอำเภอเมือง ในวันที่ 12-13 ส.ค. อยู่ที่ 230 ลบ.ม ซึ่งอาจะทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง 30-40 ซม. โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจะแช่ตัวอยู่แค่ 7-10 วัน ก่อนจะไหลออกสู่ทะเลใน อ.บ้านแหลม ต่อไป ซึ่งตัวแรกดังกล่าวต้องดูปริมาณฝนที่จะตกลงมาในพื้นที่ด้วย
นางฉัตรพร กล่าวต่อว่า จะมีการดำเนินการขยายคลองเพื่อเร่งการระบายน้ำ ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการสำรวจโดยหน่วยงานในท้องถิ่น หากสำรวจเสร็จสิ้นก็จะมีการดำเนินต่อไป เพื่อเตรียมรับมือกับสถานกาณ์ดังกล่าว
https://www.innnews.co.th/regional-news/news_156066/
ลุงตู่มีข้าราชการเก่งๆอยู่ในมือ
เป็นที่ไว้วางใจ เชื่อมือได้...
แบบที่มีคนทำงานแล้วติดคุกเพราะทำงานไม่เป็น ลุงตู่เอาออกไปหมด
ไม่เอาพวกประจบหวังได้ผลประโยชน์ พลีชีพแลกรายได้แต่บ้านเมืองเสียหายก็ไม่เอาค่ะ
ขอให้ลุงตู่แก้ไขขยะใต้พรมให้ค่อยๆหมดไปนะคะ
🌞~มาลาริน~ชม 'ผู้ว่าฯหญิงเมืองเพชร' รับมือน้ำได้เป็นอย่างดี นายกฯมาถึงเมืองเพชรฯ ตรวจเยี่ยมการจัดการน้ำให้กำลังใจทุกคน
'นายกฯ'ถึงเมืองเพชรฯ ตรวจเยี่ยมการจัดการน้ำเขื่อนแก่งกระจาน
นายกฯ” ถึงเมืองเพชรฯ ดูจัดการน้ำ ชม ขรก.ทำได้ดีแล้ว ยืนยันสถานการณ์ไม่ได้สาหัสอย่างที่คิด ขอสื่อมวลชนระวังเสนอข่าวทำชาวบ้านแตกตื่น
8 ส.ค.61 เมื่อเวลา 08.50 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพพาคที่ 1 ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.เพชรบุรี หลังสถานการณ์ระดับน้ำในเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี อยู่ในขั้นวิกฤติ น้ำล้นสปิลเวย์ และมีแนวโน้มว่าจะไหลบ่าท่วมขังใน 5 อำเภอ
โดยนายกฯ ได้เดินทางมายังโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี (เขื่อนเพชรบุรี) ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง ด้วยรถโตโยตาอัลพาร์ดทะเบียน 7 กห 7024 โดยทันทีที่นายกฯ เดินทางมาถึงเขื่อนเพชร ได้กล่าวทักทายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่มาต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ว่า "เห็นรอยยิ้มแล้วก็โอเคนะ มาให้กำลังใจ ทุกคนทำได้ดีแล้ว สถานการณ์ไม่ได้หนักหนาสาหัสอย่างที่คิด"
จากนั้นนายกฯ รับฟังบรรยายสรุปภาพรวมการบริหารจัดการน้ำของ จ.เพชรบุรี พร้อมกล่าวว่า อยากฝากสื่อมวลชน 2 เรื่องว่า สถานการณ์ยังไม่ถึงขนาดนั้น แน่นอนมันต้องมีการท่วมขังบ้าง แต่ข้อสำคัญคือเราจะมีมาตรการและเตรียมการอย่างไร ซึ่งสิ่งที่เราทำวันนี้คือการป้องกัน การเก็บกักน้ำ เพื่อใช้ไปถึงหน้าแล้งด้วย เพราะว่าการระบายน้ำหมดมันถือว่าไม่ใช่ นี่จึงเรียกกว่าการบริการจัดการน้ำ และทำอย่างไรจะมีน้ำเก็บไว้หน้าแล้ง ทำอย่างไรจะบรรเทาความเดือนร้อนประชาชนให้ดีที่สุด และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด นอกเหนือจากการบริหารจัดการน้ำ ก็จะเป็นมาตรการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยจึงขอให้ทุกคนระมัดระวังการเสนอข่าว เพราะไม่สามารถห้ามสื่อมวลชนได้ แต่อย่าทำให้สถานการณ์มันดูหนักมากเกินไป เราจะแก้ไขให้ดีที่สุดและต้องใช้เวลา ที่พูดแบบนี้เพราะสื่อมวลชนรอตนอยู่ข้างนอกเยอะ
http://www.naewna.com/politic/356438
นายกฯ ชม 'ผู้ว่าฯหญิงเมืองเพชร' เตรียมรับมือสถานการณ์น้ำได้เป็นอย่างดี
"พล.อ.ประยุทธ์" ชม "ผู้ว่าฯหญิงเมืองเพชร" เตรียมรับมือ สถานการณ์น้ำได้เป็นอย่างดี เผยหลายพื้นที่ต้องมีแผนอพยพ หลังพายุจ่อพัดเข้า
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.61 เวลา 13.10 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า การประชุม คสช. วันเดียวกันนี้ ได้หารือถึงการบริหารจัดการน้ำ โดยจะหาแนวทางที่เหมาะสมในการรับมือ ส่วนสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจาน พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายงานให้ทราบว่า มีการเตรียมการเป็นอย่างดี จึงขอชมเชยผู้ว่าราชการจังหวัดที่เตรียมการรับมือ โดยวันที่ 8 ส.ค.นี้ ตนจะลงพื้นที่เพื่อไปดูระดับน้ำ เนื่องจากปัจจุบันนี้มีระดับน้ำที่สูง จึงต้องไปดูแผนที่เตรียมการไว้ ว่าครบถ้วนหรือไม่ พร้อมตรวจดูการทำงานของหน่วยป้องกันภัยของพลเรือน ที่ร่วมบูรณาการทำงานกับฝ่ายทหาร เตรียมการรองรับกรณีน้ำเข้ามามากกว่าปริมาณที่สามารถรองรับ อย่างไรก็ตาม วันนี้คาดการณ์ว่าปริมาณน้ำยังคงทรงตัวและลดลงหลังจากที่ได้ระบายน้ำออกแล้ว ทั้งนี้ หลายคนเป็นห่วงการระบายน้ำบริเวณเขื่อน กรณีน้ำล้นสปิลเวย์ โดยการระบายน้ำออก จะต้องดูว่าเขื่อนมีความแข็งแรงที่จะพอรองรับได้หรือไม่ พร้อมดูน้ำที่ระบายออกมาว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ เพื่อที่ภาคประชาชนจะได้เตรียมการรองรับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ จะไปตรวจงานในเรื่องเหล่านี้ หลายพื้นที่อาจจะต้องมีแผนอพยพประชาชน จึงขอให้ทุกคนได้มีการติดตามสถานการณ์ฝนและสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา จากสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพมือถือหรือกูเกิล ว่าเดือนสิงหาคม น้ำแต่ละจังหวัดเป็นอย่างไร ซึ่งบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำ เขตการระบายน้ำออก จะต้องเตรียมการรับมือ โดยเก็บข้าวของไว้ในที่สูง พร้อมเตรียมอพยพไปในพื้นที่ปลอดภัยหากมีปริมาณน้ำมากขึ้น เนื่องจากมีลมพายุเข้ามา จะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปกติ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ไขปัญหา โดยได้ตัดตอนน้ำทั้งก่อนเข้าเขื่อน และท้ายเขื่อน พร้อมทำทางระบายน้ำเพิ่มเติม เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับชาวบ้านให้ได้มากที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาอุทกภัยสอดคล้องกับที่ตนได้สั่งการไปแล้ว ว่าให้มีการขุดขยายเส้นทางน้ำตามธรรมชาติ เพื่อเก็บกักและระบายน้ำไว้ในพื้นทีแก้มลิง พร้อมชดเชยประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และเตรียมสนับสนุนสร้างอาชีพให้กับประชาชน เช่น ทำประมงพื้นบ้าน เหมือนกันที่ได้ทำไปแล้วที่ จ.พิษณุโลก ต.บางระกำ จ.อยุธยา โดยประชาชนมีความพอใจ
“วันนี้มีปลาเยอะแยะ และวันนี้ก็ได้ขอห้องเย็นมาอีกเพื่อจะเก็บปลาจำนวนมาก ซึ่งจะเป็นอาชีพเสริมขึ้นมาในช่วยตอนที่ทำนาไม่ได้ รัฐบาลได้คิดในทุกมิติ เพราะเป็นเรื่องของภัยธรรมชาติที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทำอย่างไร จึงจะเสียหายน้อยที่สุด และรัฐบาลต้องดูแล ส่วนที่ปริมาณน้ำในแอ่งน้ำยังมากอยู่ ก็จะต้องระบาย พร่องน้ำ และคาดหวังว่าสถานการณ์ภัยธรรมชาติจะดีขึ้น ที่สำคัญคือการสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าจะต้องตรียมการอย่างไร โดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้านจะต้องช่วยกันเตรียมความพร้อมกับประชาชน ซึ่งพรุ่งนี้ผมจะบังคับบัญชาในเรื่องนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ได้ให้แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาอุทกภัยได้ในอนาคต เพราะหลายพื้นที่ทำโครงการใหม่ๆ แล้วสามารถระบายน้ำได้ เช่นเดียวกับที่เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในประตูระบายน้ำคลอง D9 โดยตอนนี้ทำได้แล้ว 50 เปอร์เซ็นต์ ตนได้สั่งการให้เปิดการระบายน้ำออกด้านข้างด้วย และจะสามารถลดปริมาณน้ำได้กว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร จากนั้นจะเหลือ 100 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร เพราะถ้าปล่อยออกช่องทางเดิมทั้งหมด น้ำก็จะท่วมทั้งหมด รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำอย่างมาก โดยให้ความสำคัญตั้งแต่แรก ก่อนที่จะมีสถานการณ์น้ำเกิดขึ้น
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/809624
ระดมรถแบคโฮขุดขยายคลองระบายจากเขื่อนแก่งกระจานจนท.ระดมรถแบคโฮ ขุดลอกขยายคลอง 3 รองรับการะบายน้ำจากเขื่อนแก่งกระจาน ลงแม่น้ำเพชรบุรี
เจ้าหน้าที่นำรถแบคโฮ มากกว่า 10 คันเร่งขุดลอกขยายคลอง สาย 3 ตลอดทั้งคืน เพื่อใช้เป็นจุดรองรับการระบายของน้ำที่ ล้นสปิลเวย์เขื่อนแก่งกระจาน ที่ไหลลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ก่อนจะลงสู่เขื่อนเพชร ซึ่งจะเป็นการผันน้ำเหนือเขื่อน ไม่ให้ไหลเอ่อ เข้าท่วมตัวเมืองเพชรบุรี กระทบต่อประชาชน ซึ่งเครื่องจักรยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องก่อนหยุดพักในช่วงเช้า
ขณะที่ นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดกับสำนักข่าวไอ.เอ็น.เอ็น. ถึงกรณีสถานการณ์น้ำในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี หลังปริมาณน้ำล้นสปิลเวย์ ที่เขื่อนแก่งกระจาน ว่า น้ำที่ไหลลงแม่น้ำเพชรบุรีนั้น มีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเที่ยบกับวันแรกที่น้ำล้นสปิลเวย์ แต่ก่อนที่จะไหลไปสู่แม่น้ำเพชรอย่างเต็มกำลังนั้น ปริมาณน้ำดังกล่าวต้องผ่านเขื่อนเพชร ซึ่งจะมีการแบ่งน้ำไปลงคลองส่งน้ำต่างๆ ที่มีอยู่กว่า 40 คลอง นอกจากนี้ทางสถานีวัดน้ำทั้ง 5 สถานี ยังเฝ้าระวังระดับน้ำตลอดเวลาโดยขณะนี้ระดับน้ำยังคงต่ำกว่าตลิ่งอยู่พอสมควร
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้คาดการณ์ว่าในวันที่ 10 ส.ค.นี้ ปริมาณน้ำที่จะออกจากเขื่อนแก่งกระจานนั้น อยู่ที่ประมาณ 210 ลบ.ม ต่อวินาที เมื่อรวมกับปริมาณน้ำในพื้นที่แล้ว จะมีปริมาณน้ำไหลมายังอำเภอเมือง ในวันที่ 12-13 ส.ค. อยู่ที่ 230 ลบ.ม ซึ่งอาจะทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่ง 30-40 ซม. โดยปริมาณน้ำดังกล่าวจะแช่ตัวอยู่แค่ 7-10 วัน ก่อนจะไหลออกสู่ทะเลใน อ.บ้านแหลม ต่อไป ซึ่งตัวแรกดังกล่าวต้องดูปริมาณฝนที่จะตกลงมาในพื้นที่ด้วย
นางฉัตรพร กล่าวต่อว่า จะมีการดำเนินการขยายคลองเพื่อเร่งการระบายน้ำ ซึ่งยังคงอยู่ระหว่างการสำรวจโดยหน่วยงานในท้องถิ่น หากสำรวจเสร็จสิ้นก็จะมีการดำเนินต่อไป เพื่อเตรียมรับมือกับสถานกาณ์ดังกล่าว
https://www.innnews.co.th/regional-news/news_156066/
ลุงตู่มีข้าราชการเก่งๆอยู่ในมือ
เป็นที่ไว้วางใจ เชื่อมือได้...
แบบที่มีคนทำงานแล้วติดคุกเพราะทำงานไม่เป็น ลุงตู่เอาออกไปหมด
ไม่เอาพวกประจบหวังได้ผลประโยชน์ พลีชีพแลกรายได้แต่บ้านเมืองเสียหายก็ไม่เอาค่ะ
ขอให้ลุงตู่แก้ไขขยะใต้พรมให้ค่อยๆหมดไปนะคะ