วิดัลได้ย้ายไปล่าแชมป์ลา ลีก้า ซึ่งจะเป็นแชมป์ลีกยุโรปลีกที่ 3 ของตัวเอง หากเจ้าตัวทำได้สำเร็จ อย่างไรก็ตาม มีนักเตะถึง 5 คน ที่เคยคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 4 ประเทศ
อาร์ตูโร่ วิดัล เปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ของ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาล 2018-19 และถ้าหากทุกอย่างไปได้สวยและเขาเกิดคว้าแชมป์ได้ขึ้นมาจะทำให้ดาวเตะชาวชิลี คว้าแชมป์ในลีกยุโรปได้ถึง 3 ประเทศทั้ง ลา ลีกา, เซเรีย อา (กับ ยูเวนตุส) และ บุนเดสลีกา (กับบาเยิร์น)
โดยมีนักเตะที่เคยคว้าแชมป์ใน 3 ลีกยุโรปก่อนหน้านี้ได้แก่ เดวิด เบ็คแฮม (อังกฤษ,สเปน,ฝรั่งเศส) คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ (ฮอลแลนด์,สเปน,อิตาลี) และเธียร์รี่ อองรี (ฝรั่งเศส,อังกฤษ และ สเปน)
อย่างไรก็ตาม จากที่มีการบันทึกไว้ ยังมีนักเตะที่เคยคว้าแชมป์ลีกยุโรป 4 ลีก ถึง 5 คนด้วยกัน ซึ่งนักเตะเหล่านั้นได้แก่
1. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส)
เป็นที่รู้กันดีว่าอิบราฮิโมวิชไประเบิดฟอร์มมาแล้วเกือบทุกลีกชั้นนำในยุโรป พระเจ้าลูกหนังชาวสวีดิชคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ 2 สมัย กับอาหยักซ์ ก่อนจะไปคว้าแชมป์เซเรีย อา 3 สมัยติดต่อกันกับอินเตอร์ มิลาน ตามด้วยการคว้าแชมป์ลา ลีก้า กับบาร์เซโลน่าในปี 2010 ก่อนจะกลับมาคว้าแชมป์ลีกอิตาลีเป็นรอบที่ 4 กับเอซี มิลาน ปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์ลีก เอิง ได้อีก 4 สมัย กับเปแอสเช นอกจากนี้ อิบราฮิโมวิชยังเคยมาค้าแข้งในอังกฤษกับแมนฯ ยูไนเต็ดด้วย แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ ปัจจุบันดาวยิงวัย36 ปี เล่นอยู่ที่สหรัฐอเมริกากับแอลเอ กาแล็คซี่
2. แม็กซ์เวลล์ (เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส)
ฟูลแบ็คชาวบราซิลมีเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลคล้ายกับอิบราฮิโมวิช เจ้าตัวเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับครูเซโร่ ก่อนจะมาคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในยุโรปได้กับอาหยักซ์ ตามด้วยการปรสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีกของอิตาลี สเปน และฝรั่งเศส กับอินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า และเปแอสเช ต่หากนับรวมทุกรายการ แบ็คซ้ายรายนี้ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ถึง 33 รายการ ตลอดชีวิตนักฟุตบอล
3. อาร์เยน ร็อบเบน (เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ, สเปน, เยอรมนี)
ความสำเร็จในฐานะนักฟุตบอลที่ร็อบเบนได้รับอย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งที่บอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาจะประสบความสำเร็จมากมายขนาดไหนตลอดอาชีพ ร็อบเบนคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกได้กับพีเอสวีในเอเรดิวิซี่ ตามด้วยการพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ในฤดูกาล 2004/05 ก่อนจะทำได้อีกครั้งในฤดูกาลถัดมา เมื่อย้ายไปเล่นที่สเปน ปีกจอมตัดเข้าในก็คว้าแชมป์ลา ลีก้า กับเรอัล มาดริด ได้ในปี 2008 และในปัจจุบัน เจ้าตัวเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิค พร้อมกับพาเสือใต้คว้าแชมป์บุนเดสลีก้าไปแล้วถึง 7 สมัยด้วยกัน
4. เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ (เนเธอร์แลนด์, สเปน, อิตาลี, ตุรกี)
สไนจ์เดอร์เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จน้อยที่สุดในบรรดานักเตะที่เราเลือกมา เขาคว้าแชมป์ลีกกับอาหยักซ์, เรอัล มาดริด, และอินเตอร์ มิลาน ได้อย่างละสมัย ก่อนจะไปคว้าแชมป์ซูเปอร์ ลีก ตุรกี กับกาลาตาซารายได้ 2 สมัย จากการลงเล่นในแดนไก่งวง 3 ฤดูกาล
5. มาร์ค ฟาน บอมเมล (เนเธอร์แลนด์, สเปน, เยอรมนี, อิตาลี)
ฟาน บอมเมล เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของพีเอสวี ช่วงทศวรรษ 2000 ซึ่งเจ้าตัวคว้าแชมป์ลีกดัตช์ได้ 4 สมัย ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับบาร์เซโลน่าเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมกับคว้าแชมป์ลา ลีก้าได้ในทันที ต่อมามิดฟิลด์ตัวตัดเกมรายนี้ก็ย้ายไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งสามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ 2 สมัย และแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายที่อดีตกองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ได้รับคือ แชมป์สคูเด็ตโต้กับเอซี มิลาน ในปี 2011 ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับพีเอสวี สโมสรที่เขาแจ้งเกิด เป็นสโมสรสุดท้าย
credit : www.fourfourtwo.com/th
วิดัลยังเด็กๆ ! 5 นักเตะที่คว้าแชมป์ในลีกยุโรปได้ถึง 4 ประเทศ
อาร์ตูโร่ วิดัล เปิดตัวเป็นนักเตะใหม่ของ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาล 2018-19 และถ้าหากทุกอย่างไปได้สวยและเขาเกิดคว้าแชมป์ได้ขึ้นมาจะทำให้ดาวเตะชาวชิลี คว้าแชมป์ในลีกยุโรปได้ถึง 3 ประเทศทั้ง ลา ลีกา, เซเรีย อา (กับ ยูเวนตุส) และ บุนเดสลีกา (กับบาเยิร์น)
โดยมีนักเตะที่เคยคว้าแชมป์ใน 3 ลีกยุโรปก่อนหน้านี้ได้แก่ เดวิด เบ็คแฮม (อังกฤษ,สเปน,ฝรั่งเศส) คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ (ฮอลแลนด์,สเปน,อิตาลี) และเธียร์รี่ อองรี (ฝรั่งเศส,อังกฤษ และ สเปน)
อย่างไรก็ตาม จากที่มีการบันทึกไว้ ยังมีนักเตะที่เคยคว้าแชมป์ลีกยุโรป 4 ลีก ถึง 5 คนด้วยกัน ซึ่งนักเตะเหล่านั้นได้แก่
1. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส)
เป็นที่รู้กันดีว่าอิบราฮิโมวิชไประเบิดฟอร์มมาแล้วเกือบทุกลีกชั้นนำในยุโรป พระเจ้าลูกหนังชาวสวีดิชคว้าแชมป์เอเรดิวิซี่ 2 สมัย กับอาหยักซ์ ก่อนจะไปคว้าแชมป์เซเรีย อา 3 สมัยติดต่อกันกับอินเตอร์ มิลาน ตามด้วยการคว้าแชมป์ลา ลีก้า กับบาร์เซโลน่าในปี 2010 ก่อนจะกลับมาคว้าแชมป์ลีกอิตาลีเป็นรอบที่ 4 กับเอซี มิลาน ปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์ลีก เอิง ได้อีก 4 สมัย กับเปแอสเช นอกจากนี้ อิบราฮิโมวิชยังเคยมาค้าแข้งในอังกฤษกับแมนฯ ยูไนเต็ดด้วย แต่ก็ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ ปัจจุบันดาวยิงวัย36 ปี เล่นอยู่ที่สหรัฐอเมริกากับแอลเอ กาแล็คซี่
2. แม็กซ์เวลล์ (เนเธอร์แลนด์, อิตาลี, สเปน, ฝรั่งเศส)
ฟูลแบ็คชาวบราซิลมีเส้นทางอาชีพนักฟุตบอลคล้ายกับอิบราฮิโมวิช เจ้าตัวเริ่มเล่นฟุตบอลอาชีพกับครูเซโร่ ก่อนจะมาคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในยุโรปได้กับอาหยักซ์ ตามด้วยการปรสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ลีกของอิตาลี สเปน และฝรั่งเศส กับอินเตอร์ มิลาน, บาร์เซโลน่า และเปแอสเช ต่หากนับรวมทุกรายการ แบ็คซ้ายรายนี้ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ได้ถึง 33 รายการ ตลอดชีวิตนักฟุตบอล
3. อาร์เยน ร็อบเบน (เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ, สเปน, เยอรมนี)
ความสำเร็จในฐานะนักฟุตบอลที่ร็อบเบนได้รับอย่างรวดเร็ว เป็นสิ่งที่บอกได้เป็นอย่างดีว่าเขาจะประสบความสำเร็จมากมายขนาดไหนตลอดอาชีพ ร็อบเบนคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกได้กับพีเอสวีในเอเรดิวิซี่ ตามด้วยการพาเชลซีคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ในฤดูกาล 2004/05 ก่อนจะทำได้อีกครั้งในฤดูกาลถัดมา เมื่อย้ายไปเล่นที่สเปน ปีกจอมตัดเข้าในก็คว้าแชมป์ลา ลีก้า กับเรอัล มาดริด ได้ในปี 2008 และในปัจจุบัน เจ้าตัวเล่นให้กับบาเยิร์น มิวนิค พร้อมกับพาเสือใต้คว้าแชมป์บุนเดสลีก้าไปแล้วถึง 7 สมัยด้วยกัน
4. เวสลีย์ สไนจ์เดอร์ (เนเธอร์แลนด์, สเปน, อิตาลี, ตุรกี)
สไนจ์เดอร์เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จน้อยที่สุดในบรรดานักเตะที่เราเลือกมา เขาคว้าแชมป์ลีกกับอาหยักซ์, เรอัล มาดริด, และอินเตอร์ มิลาน ได้อย่างละสมัย ก่อนจะไปคว้าแชมป์ซูเปอร์ ลีก ตุรกี กับกาลาตาซารายได้ 2 สมัย จากการลงเล่นในแดนไก่งวง 3 ฤดูกาล
5. มาร์ค ฟาน บอมเมล (เนเธอร์แลนด์, สเปน, เยอรมนี, อิตาลี)
ฟาน บอมเมล เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของพีเอสวี ช่วงทศวรรษ 2000 ซึ่งเจ้าตัวคว้าแชมป์ลีกดัตช์ได้ 4 สมัย ก่อนที่จะย้ายไปเล่นกับบาร์เซโลน่าเป็นเวลา 1 ฤดูกาล พร้อมกับคว้าแชมป์ลา ลีก้าได้ในทันที ต่อมามิดฟิลด์ตัวตัดเกมรายนี้ก็ย้ายไปอยู่กับบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งสามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีก้าได้ 2 สมัย และแชมป์ลีกครั้งสุดท้ายที่อดีตกองกลางทีมชาติเนเธอร์แลนด์ได้รับคือ แชมป์สคูเด็ตโต้กับเอซี มิลาน ในปี 2011 ก่อนจะย้ายไปเล่นให้กับพีเอสวี สโมสรที่เขาแจ้งเกิด เป็นสโมสรสุดท้าย
credit : www.fourfourtwo.com/th