คอนเสิร์ต 70 ปี "หงา คาราวาน" ของดีที่จะประทับใจ พลาดไม่พลาดค่อยว่ากัน

ฉันเพิ่งทราบมาว่า อีกไม่กี่วันก็จะถึงงานใหญ่ของวงการเพลงเพื่อชีวิต เป็นคอนเสิร์ตฉลอง 70 ปี ของ "หงา คาราวาน" โดยให้ชื่องานว่า "จากภูผาถึงทะเล สามตำนานเพลงเพื่อชีวิต กับ 70 ปี หงา คาราวาน" ทำให้ฉันลังเลใจอยู่ว่าจะไปดูกันจริงไหม เพราะราคาบัตรชมคอนเสิร์ตที่ฉันอ่านมาคงจะไม่เพียงพอต่อความต้องการอย่างคุ้มค่าของฉัน

โดยส่วนตัวแล้ว ฉันเริ่มได้ยินได้ฟังเพลงที่น้าหงาร้องตั้งแต่ตัวฉันยังเด็ก แล้วทราบได้ทันทีว่าเขาเป็นศิลปินเพื่อชีวิตตัวจริง ทำงานด้วยชีวิตที่แท้จริง เป็นชีวิตที่มีชีวา แถมได้รับการยกย่องว่าเป็นพี่ใหญ่ของวงการ

เมื่อเวลาผ่านมาถึงสมัยฉันเรียนมัธยม ฉันก็เริ่มซื้อเทปเพลงของเขาและวงคาราวานจากตลาดมือสองเอาไว้สะสม จึงตัดสินใจซื้อด้วยราคาที่ไม่ต้องสนนให้แพงจนเกินเหตุ ทำให้ฉันรู้จักเขามากขึ้น และได้เข้าใจความหมายของบทเพลงต่าง ๆ อย่างจริงจัง จนกระทั่งได้ถ่ายรูปพร้อมลายเซ็นจากน้าหงามาแล้ว

เวลาผ่านไปหลายปี ฉันก็ยังรัก เคารพ และคิดถึงน้าหงาอยู่เสมอจนบัดนี้ แม้ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้จะกำหนดวันแสดงล่าช้ากว่าวันเกิดของเขาถึง 4 เดือน แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้มา เพราะถือว่าเป็นงานที่สำคัญที่สุดเพื่อให้สมกับหน้าที่ของ "ศิลปินเพื่อชีวิตคนแรกของประเทศที่ได้เป็นศิลปินแห่งชาติ" ที่ชื่อ "สุรชัย จันทิมาธร" หรือชื่อในครั้งยังเด็กคือ "องอาจ จันทิมาธร"   

ในป้ายประกาศคอนเสิร์ตได้ระบุว่า นอกจากน้าหงาแล้ว ยังมีสุดยอดตำนานเพลงเพื่อชีวิตยอดฮิตอย่าง "คาราบาว" และ "พงษ์สิทธิ์ คำภีร์" ซึ่งเป็นผู้ที่นับถือน้าหงาว่าเป็น "ครูใหญ่" หรือ "ไอดอล" อย่างใกล้ชิดสนิทสนมที่สุดมาร่วมแสดงและอวยพรกับเขาด้วย งานนี้จัดใหญ่กันที่ "อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี" ซึ่งจุผู้ชมกว่าหมื่นคน อาจต้องบันทึกไว้ว่านี่จะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่แห่งปี 2561 อย่างแน่นอน

ฉันต้องชื่นใจแทนทีมงานและผู้จัดงานซึ่งเป็นเลือดใหม่ อย่างเช่น "ธัญญ่า ธัญญาเรศ" กับ "เอส วรฤทธิ์" นักแสดงชื่อดังที่หันมารับหน้าที่สำคัญเช่นนี้ ถือเป็นการลองเชิงในด้านการจัดงานขนาดใหญ่ของทั้งคู่

แถมมีการประกาศผ่านเฟซบุ๊คว่า ในครั้งนี้จะไม่มีการจัดทำเทปบันทึกภาพคอนเสิร์ตออกจำหน่าย ก็ถือเป็นเรื่องดีของคอเพลง แต่ก็ทำให้คอเพลงที่อยู่ต่างแดนต้องเสียโอกาสไป เพราะว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้อาจจะมีทีเด็ดกว่าคอนเสิร์ตที่ผ่าน ๆ มา พร้อมพรั่งด้วยเทคนิค แสง สี เสียง สุดอลังการ ซึ่งถ้าอยากไปดูกันจริง ๆ ก็ต้องจองบัตรไว้เสียแต่วันนี้ เท่าที่ฉันได้ยินข่าวมาคือบัตรถูกกวาดไปกว่าครึ่งทางแล้ว

โดยงานนี้จะมีแขกมาร่วมอวยพรกันเพียบ เท่าที่เปิดเผยและยืนยันแล้วก็มีพี่ติ๊นา พี่ใหม่ เจริญปุระ และพี่แอม เสาวลักษณ์ แต่ในความคิดเห็นส่วนตัวน่าจะให้ทางผู้จัดหาแขกที่เหมาะและลึกซึ้งกว่านี้ โดยเฉพาะนักร้องที่เราหรือคนรุ่นหลังอาจไม่เคยเห็นภาพที่แปลกตามาก่อน พี่ติ๊นาก็โอเค ส่วนคนที่น่าอยากเห็นมากกว่าก็คือ พี่ปุ๊ อัญชลี กับ พี่ตู่ นันทิดา แต่พี่ตู่ติดเล่นละครเวทีก็เลยไม่ได้มา ส่วนพี่ปุ๊ก็น่าจะว่างถ้าพร้อมจริง

และไม่แน่ว่าจะมีผองเพื่อนในวงคาราวาน อย่างเช่น มงคล อุทก หรือ พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ มาร่วมแสดงด้วย เพื่อให้สมกับงานฉลองที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

ในเมื่อไม่มี DVD ก็ไม่แน่ว่าคนที่ไปดูจริงอาจจะได้รับสูจิบัตร ของที่ระลึก พร้อมลายเซ็นของแกนนำศิลปินกลับไปฝากญาติสนิทมิตรสหายให้ชื่นใจหลังจบการแสดง ฉันก็หวังว่าทางผู้จัดงานจะงัดกลยุทธ์แบบนี้เอาใจแฟนเพลง ดีกว่าให้แฟนเพลงกลับบ้านตัวเปล่าจนสมองลืมเลือน  

ไม่ว่าจะเป็นครูบาอาจารย์ พนักงาน นักเรียน นักศึกษา ดารา นักแสดง เด็กแว้น ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใด เมื่อดูคอนเสิร์ตเสร็จแล้ว นอกจากจะได้หลายสิ่งหลายอย่างจากวันนั้น ยังจะเข้าใจในบทเพลงอันลึกซึ้ง และจะรู้จักกับคำว่า "เพลงเพื่อชีวิต" จากน้าหงา น้าแอ๊ด พี่ปู กระทั่งผองเพื่อนทั้งหลาย

จะดูหรือไม่ดู ก็สุดแล้วแต่คุณ...แต่ฉันจะขอชั่งใจอีกที สวัสดี.



หงา คาราวาน กับ 5 เพลงประทับใจของฉัน
1. คนกับควาย (2517) > เพลงที่เหล่าปัญญาชนเริ่มรู้จักวงคาราวาน
2. คืนรัง (2525) > เป็นการกลับสู่ชีวิตอันราบรื่นของพวกเขาโดยถาวร
3. หนุ่มพเนจร (2526) > เพลงสนุก ๆ ที่ทำให้ผู้คนทุกชนชั้นรู้จัก หงา คาราวาน มากขึ้น
4. ดอกไม้ให้คุณ (2528) > เพลงรักบริสุทธิ์ที่ถูกนักร้องรายอื่นนำไปร้องและแปลงกันมากมาย
5. แม้เราจะไม่พบกัน (2531) > อีกหนึ่งเพลงรักแห่งความคิดถึงก่อนจะเหลือเพียงความทรงจำไปตลอดกาล
Bonus คิดถึงบ้าน (เดือนเพ็ญ) คำร้องโดย อัศนี พลจันทร แต่งขึ้นเมื่อเริ่มต้นชีวิตนักปฏิวัติอยู่ที่เวียดนาม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่