" L e h - L a D a k h " เ ล ห์ ล า ดั ก - ส ว ร ร ค์ ที่ เ อื้ อ ม ถึ ง . . .

สวัสดีครับทุกคนวันนี้ผมจะมาเล่าการไปเที่ยว เลห์ ลาดัก ให้ทุกคนฟังว่า 9 วันมันคงต้องได้ไรบ้างแหละ


ทริปนี้ผมใช้บริการกับทางทัวร์ท่องเที่ยวนะครับ (บริษัท ทริป ดีดี ดอท คอม) ก็ไปกันกลุ่มค่อนข้างใหญ่เลย ประมาณ 25 คน + ไกด์ 2 คน ก็ถือว่าเฮฮาปาร์ตี้เลยทีเดียว ใช้เวลารวมแล้ว 9 วันเลยก็ลางานกันยาวๆ แต่ก็คุ้มได้เปิดประสบการณ์ใหม่ๆเลย บอกทุกคนก่อนเลยนะภาพถ่ายผมนี้แทบจะสู้โพสอื่นๆไม่ได้เลย ใช้กล้องเล็กๆน่ารัก รวมกับกล้องมือถืออีก แต่ก็อยากมาแชร์เป็นอีกประสบการณ์นึงในทุกคนฟังเผื่อเป็นอีกมุมมองนึง โอเค เริ่มละนะ

วันที่ 1 - เรียกได้ว่าคืนที่ 1 ดีกว่า เราเริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ ตอน 21.00 ใช้บริการของ Jet Airway ยิงยาวไปนอนรอต่อเครื่องที่ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย เพื่อที่จะบินไปเลห์ ในตอนเช้าวันที่ 2 ตอน 7 โมงเช้า


มื้อแรกเข้าอินเดียบนเครื่องบินก็เรียกว่าได้ยังพอสู้ไหวอยู่นะ อาจเป็นเพราะยังไม่ได้เจอของเด็ด 55+



วันที่ 2 - 7 โมงเช้าเข้าสู่เขตเมือง เลห์ สนามบินที่นี้ค่อนข้างเล็กเลย ประมาณชุมพรบ้านเราละกัน เพราะผมเคยไปของชุมพร ที่นี่เป็นเขตของทหาร จุดลงจอดเอย สนามบินเอย รวมไปถึงคนที่สนามบินส่วนใหญ่จะเป็นทหารทั้งหมด ฉะนั้นเค้าก็จะคุมเข้มเรียกการถ่ายรูป เค้าก้จะเป็นส่วนตัวนิดนึงงง



โอเคคนขับรถมารับละก็ กรุ๊ปใหญ๋หน่อยก็ต้องเดินทางใช้เวลา ใช้คน ใช้รถเยอะนิดนึงรู้สึกว่าเราได้มา 9 คัน ก็ มีทั้งหมด 27 คนใช่ปะ ก็หารไป นั่งกันสบายเลย รถที่เราใช้เดินทางในทริปนี้ก็เป็นรถเล็ก จะได้เดินทางสะดวกๆ เพราะวันที่ไป ทะเลสาบปันกอง หรือ นูบร้า ก็ตาม รถเล็กนี่แหละสบายสุดละ
เข้าสู่ตัวเมืองกันเลย ก็เอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมก่อน



กิจกรรมแรกของพวกเราเลยครับ คือ นอน !!! ถึงโรงแรมประมาณ 8-9 โมง นอนก่อนเลยครับ เพราะเลห์ นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวบนที่ราบสูงกว่า 3,000เมตร เหนือระดับน้ำทะเลเลย เราก็คงต้องปรับตัวบ้างเป็นเรื่องปกติ บวกกับเราเดินทางตั้งแต่ 3 ทุ่ม ไหนจะต่อเครื่อง ไหนจะรอ ฉะนั้นนอนนี่แหละ ดีละ เก็บแรงไว้ ต้องใช้แรงอีกเยอะะ


เคฮะ ลุยกันเลย เราเริ่มเที่ยววันแรกที่เลห์นี่ตอน 16.00 (เวลาที่เลห์ช้ากว่าไทย 1.30 ชม.) อย่าคิดว่าเราเริ่มเย็นไปฮะ กว่าพระอาทิตย์บ้านเค้าจะตกนี่เกือบ 2ทุ่มม ไม่ต้องรีบเลย สถานที่แรกที่เราจะไปกัน พระราชวังเลห์ (Leh Palace) ทุกๆทริปๆ ทุกๆคนที่มาเลห์นี่ต้องมา เรียกได้ว่าเป็นจุดสำคัญเลยทีเดียว







สถานที่ต่อไป วัดเซโม Tsemo Gompa




พอไปสถานที่ทางศาสนาเราจะพบกับธง 5 สี ประดับตามวัดตามเสา ตามตึกหรือแม้แต่บ้านของคนที่นี่ก็ตาม ก็เป็นสีสันบนท้องทะเลทรายเลยก็ว่าได้

และที่สุดท้ายก่อนจะกลับไปพักผ่อน เจดีย์สันติภาพ (Shanti Stupa)


มาคุยเรื่องอาหารดีกว่าอาหารอินเดียก็ตามที่ทุกคนเคยเห็น ที่นี่จะค่อนข้างหนักเรื่องเครื่องแกง แป้ง ผัก คนส่วนใหญ๋เป็น มังสวิรัติ ฉะน้นถึงคนที่จะมาเองก็เตรียมตัวเรื่องอาหารมาก็ดีนะ บางอย่างถูกปากคนไทย ปากอย่างผมนี่ยอมแพ้เลย


ซะส่วนใหญ่จะหนักไปที่แป้ง มัน ละอยู่ที่เค้าไปทำอะไรเท่านั้น เนื้อสัตว์หายากนิดนึง หมูนี่เลิกฝันเลยนะจ๊ะ ไก่พอมีบ้าง แกะ จามรี เห็นเค้าว่ากันนะแต่ผมไม่ได้เจอ

วันที่ 3 - วันนี้พวกเราเริ่มปรับตัวกันได้ละ แต่อย่างไรก็ตามทางทัวร์เค้าก็มีเตรียมยา Diamox (กลุ่ม Acetazolamide) ซึ่งก็มีฤทธิ์ในการป้องกันอาการ High Attitude Sickness ได้แต่ก็มีผลข้างเคียงของยานะ เช่น ชาปลายมือปลายเท้า ปัสสาวะบ่อย ซึ่งเรามาเที่ยวที่นี่ค่อนข้างสูงพอสมควร อากาศก็เบาบางก็กินเพื่อป้องกันก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าใครมีประวัติแพ้ยา ปรึกษาแพทย์ เภสัชก่อนก็ดีนะครับ

เที่ยวต่อวันนี้ก็เก็บสถานที่ต่างๆในบริเวณเมือง





Shey Palace







วันที่ 4 - วันนี้เรามีแพลนที่จะเดินทางไปที่ทะเลสาบปันกองกัน ซึ่งเราก็จะเดินทางไปเรื่อยๆ แวะตามจุดพักบ้าง แวะถ่ายรูปชมวิวบ้างซึ่งในวันนี้เราก็จะผ่านพาสหรือว่าจุดcheck point ที่ชื่อว่า Chang la pass สูงประมาณ 5,300 เมตร เรียกได้ว่าแค่เดินขึ้นบันไดก็เหนื่อยละ




การเดินทางก็ผ่านรถเลาะไปตามภูเขา ระยะทางไปไม่ไกลมากหรอก แต่เนื่องด้วยมันเป็นภูเขานี่แหละ ไหนถนนจะแคบ จะขรุขระ ใครเมารถนี้ก็หนักเอาการอยู่เหมือนกันนะ กินยาแก้เมามาก่อนดีกว่าจะได้เที่ยวสนุกๆ


ภาพของที่ Chang la pass หนาวมากๆๆ ลมตีทีนี้หน้าชา ทีเดียว



ก็นั่งรถกันต่อไป รวมๆนี้เกือบ 4-5 ชม. เลยทีเดียวแต่ก็อากาศกำลังดี เปิดกระจกชิวๆ แต่อย่าให้แดดมานะ โคตรร้อนน

ระหว่างทางก็เจอตัว มอมอต


ชอบแอบตามรู ไกด์บอกมันเคยมีเยอะกว่านี้มาก คงโดนกิน หรือ ล่าไปมั้งเลยลดๆ



เคฮะ ถึงละ ทะเลสาบปันกอง บอกเลยว่ากลางคืนหนาวมากๆๆ น้ำนี่อย่าอาบดีกว่า ไม่ก็ต้องรอเวลาที่มีน้ำร้อนมาส่ง ช่วงที่ผมไปอากาศถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไร ฝนตกบ่อย เมฆเต็มฟ้าเลยย ไหนจะพระจันทร์อีกก็อดล่าช้างเลย


วันที่ 5 - เดินทางกลับเลห์ ระหว่างทางก็อารมเดิม เลาะตามภูเขาดูจุดชมวิว สวยงามไปเรื่อยๆ




ระหว่างทางก็เจอจุดชมวิว และก็มีตัวจามรีให้ถ่ายรูปเล่น แต่เจ้าของก็แอบเก็บเงินนะ



เดินทางไกลมาก กลับมานอนที่เลห์ต่อ วันนี้พักเร็วกว่าปกติหน่อย เลยไปจัดตลาดในเมือง ใครที่มาตลาดหลักในเมืองเลห์นะครับ ใกล้ๆตลาด หรือถามคนแถวนั้นก็ได้ ร้าน Lamayuru Restaurant มีบริการอาหารฝรั่ง อาหารจีน ผัดไทยก็มี แต่พวกผมรีวิวมา พิซซ่าอร่อยก็ลองจัด





อร่อยมากกกกกกกกกก ก ไก่ อีกล้านตัว หรือเพราะผมโดนอาหารอินเดียไปหลายวันนก็ไม่รู้ แต่ร้านนี่แหละ ถูกปากมากกก ไม่ไปไม่ได้ ข้างๆ มีร้านชื่อ Gesmo ลองถามคนระแวกนั้นได้ ผมว่าน่าจะดังอยู่ ที่สำคัญ เน็ตแรง ขึ้นชื่อเลยเรื่อง อินเตอร์เนตหายาก ไปเลห์ พ่อแม่นึกว่าไปรบ หายไปในทะเลทราย 2-3วันกว่าจะส่งข้อความได้ซักอันนึง แต่จริงๆผมว่าที่ โรงแรมพวกเรามากันเยอะเลยคงแย่งสัญญาณกัน เครฮะ พักผ่อน รอ ไปเที่ยววันถัดไปต่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่