ด้วยความที่ผมชอบปั่นจักรยานแนวทัวริ่ง แบกเต้นท์หม้อเตาไปนอนตามสถานที่ธรรมชาติ และการเดินทางด้วยรถไฟก็สะดวกดี แต่การขนของขึ้นรถไฟคนเดียวเนี่ยมันไม่สนุกเอาซะเลย ไหนจะจักรยาน ไหนจะสัมภาระที่แบกติดตัว เลยลองมองหาจักรยานเล็กๆ ที่ไม่ต้องแบกของได้มากเอาสัมภาระไปที่จำเป็นก็พอ มาเจอเจ้าจักรยาน Tiger London คันเล็กๆ น่ารักนี่ละ ลองมาดูรูปและสเปคกันครับ
Tiger London
มีสีให้เลือก : แดงดำ / ฟ้าดำ / เหลืองดำ / ชมพูดำ / ดำ
Frame : Hi-ten Steel
Fork : Racing
Hand : Alloy
Speed : 1 – Speed
Rim : Alloy 12”
Tire : 12×1/2×2.141 A/V BUTYL
Break : Front V Brake / Rear Band brake
Crankset : 52T
Accessories : ตะแกรงท้าย
ผมนำมาเพิ่มตะแกรงหน้าที่ติดกับ V-Break เข้าไปเพื่อให้ไว้ของที่ตะแกรงหน้าได้ ข้อดีของรถพับเลยก็คือคอยาวทำให้แขวนสัมภาระได้ดี
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมพยายามจะเอาเจ้าเสือน้อย Tiger London ออกมาขี่ไกลๆ ครั้งแรกจะขี่ไปขึ้นรถไฟเพื่อปั่นเล่นที่เพชรบุรีแต่ยางนอกระเบิดก่อนเลยไม่ได้ไป ครั้งนี้เลยปรับแผนปั่นจักรยานจากบ้านที่บางกะเจ้ามาขึ้นรถเมล์แล้วปั่นไปสถานีรถไฟแทน โดยจัดสัมภาระมีแค่ เต้นท์ ชุดเตา แล้วก็แก้วสแตนเลสที่เอาไว้ใช้แทนหม้อ เสื้อผ้า ชุดเครื่องมื่อปะยางรวมทั้งประแจที่ต้องเอาไว้ถอดล้อกับเบรคเพื่อเปลี่ยนยาง
สำหรับคนที่ไม่รู้จะนำเป้มาวางบนตะแกรงและยึดยังไง ผมมีอุปกรณ์ยึดราคาแพงมากๆ ลงทุนไปตั้ง 20 บาทครับ ใช้ยางยืดมัดของมอเตอร์ไซต์ 2 เส้น
เส้นหนึ่งโยงตะแกรงกับอานเอาไว้ให้เป้พิง อึกเส้นโยงจากข้างหลังคล้องพาดเป้ขึ้นไปแบบนี้ครับ
ทริปนี้ผมเอาขึ้นรถไฟไปลงสถานีเล็กๆ สถานีบางเค็มกะจะปั่นผ่านเขาอิโก้แล้วขึ้นไปวังพุไทรค้าง 1 คืน อีกวันค่อยปั่นกลับมาขึ้นรถไฟที่สถานีเขาย้อย
เส้นทางขาไป
เส้นทางขากลับ
มีเนินเขาน้อยๆ พอได้ออกแรง
พอถึงสถานีธนบุรีก็ตีตั๋วแพคจักรยานขึ้นโดยไปนั่งในตู้ธรรมดาไปวางไว้ใต้อ่างล้างมือ โดยที่ไม่ได้พับคอลงมาด้วยความที่รถเล็กมากอยู่แล้วเลยวางได้สบายๆ ไปถึงบางเค็มประมาณ 10.30 ก็เริ่มปั่นครับ
แต่โชคร้ายปั่นไปได้แต่ 1 กิโล ยางนอกระเบิดอีกแล้ว ถอดใจแล้วละครับกะจะไปขึ้นรถไฟกลับแล้ว แต่โชคดีได้เจอเจ้าของบ่อปลาใจดีบอกมาแล้วต้องได้เที่ยวเดี๋ยวจะพานั่งรถไปซื้อยางในที่ราชบุรีให้น้องเค้าหาที่อยู่ร้านจักรยานจาก Google แล้วโทรไปถามให้ เท่านั้นยังไม่พอยังโทรถามเพื่อนว่าที่ปากท่อมีร้านจักรยานหรือเปล่า โชคดีที่มีร้านจักรยานที่ปากท่อเปิดอยู่ น้องสองคนผัวเมียเลยพาไปซื้อยางนอกที่ปากท่อใช้เวลาไปกลับ 2 ชั่วโมงกว่าเพราะรถติดหนักมาก ต้องขอบคุณน้องทั้งสองคนไว้ ณ. ที่นี้ด้วยครับ
รื้อๆ ล้อ ถอดไปแต่ล้อ
เมื่อลองดูแล้วผลปรากฎว่าขอบล้อฉีกที่เดิมทีแรกคิดว่ายางไม่ขึ้นขอบแต่พอลองลูบที่ขอบล้อเท่านั้นแหละ เจอขอบล้อคมๆ เลย จัดการเอาตะไบเล็กที่ติดตัวมาสำหรับปะยางตะไบลบคมที่ขอบล้อและใช้ไม้ตายสุดท้ายคือเทปพันสายไฟปิดทับขอบล้ออีกที
คราวนี้ไปต่อได้ละครับ เริ่มปั่นไปทางเขาอิโก้ก็ไม่มีอะไรมากสวยงามดีครับพอถึงตีนเขาก็เจอทางลูกรัง แต่ด้วยที่จักรยานมีโช๊คหลังเลยปั่นผ่านไปแบบนุ่มๆ
พอถึงเชิงเขาทางเปลี่ยวๆ ก็เจอสิ่งนี้ครับ ปั่นไปขนหัวลุกไป
ยิ่งทางชิดเขาก็ยิ่งร่มคลี้ม
พ้นแนวเขาก็เป็นทุ่งนามาออกที่วัดคีรีวงก์
มาออกถนน 3206 แล้วก็เจออุปสรรคจนได้ เห็นเนินแล้วดูเหมือนไม่ค่อยชัดพอปั่นๆ ไปแล้วเฮ้ยทำไมมันชันขึ้นเรื่อยๆ พอจะสุดเนินความชันขึ้นไป 11% พอถึงปลายเนินก็หอบแฮ่กๆๆๆ หัวใจจะวายตาย
แต่สุดท้ายก็พอสังขารมาถึงวัดจนได้
ชมวิวรอบๆ วัดก็หายเหนื่อยละครับ
ได้รับความเมตตาจากพระที่วัดให้พักที่ใต้กุฏินี้ครับ
ขากลับออกจากวัดมาตอน 9 โมง กะเผื่อจักรยานยางแตกอีก มาขึ้นรถไฟที่เขาย้อย มาได้ครึ่งทางก็เจออุปสรรคหนักกว่าเมื่อวาน ความชันค่อยๆ เพิ่มขึ้นๆ จนจะไปแตะ 12%
ส่วนขาลงทางลงยาวมากปล่อยลงมาได้แป๊บเดียวก็จอดพักจับขอบล้อ ปรากฎว่าร้อนจี๋เลย ส่วนเบรคหลังร้อนแทบแตะไม่ได้เลย ระหว่างจอดพักเบรคเนี่ยก็มีเพื่อนๆ มาสนใจเจ้าเสือน้อย
ทีแรกนึกว่าสนใจจักรยาน ที่แท้สนใจข้าวมันไก่ที่ห่อมาจากวัดนี่นา
แล้วค่อยๆ เข็นลงมาจนถึงสวนรุกขชาติเขาย้อย ปั่นไปได้หน่อยก็หาทางสวยๆ ต้นไม้เยอะๆ รถน้อยๆ แต่ก็เป็นทางรูกรัง แต่ด้วยโช๊คหลังของเจ้าเสือน้อยทำงานอย่างดีเลยไม่รู้สึกถึงความสะเทือนแม้แต่นิดเดียว
แล้วก็มาถึงเขาย้อยซะที เฮ้อโล่งใจ นึกว่าจะไม่จบทริปซะแล้ว
สรุป ข้อดีข้อเสียของเจ้าเสือน้อย
ข้อดี
- เล็ก ตอนพับแฮนด์ขันมือเบรคหลบหน่อยเดียวก็พับได้เล็กดี ไม่มีปัญหาตอนขึ้นรถไฟ
- นุ่ม โช๊คหลังใช้ได้จริง ปั่นไปได้แบบนุ่มๆ เลยครับ
- สามารถหายางนอกยางในได้ตามร้านจักรยานแม่บ้านที่ขายจักรยานเด็กได้เลย
ข้อเสีย
- ขอบล้อบางมากและไม่ลบคม ทำให้เสียยางนอกยางในไป 2 ชุด
- มีเสียงตามจุดพับ ผมเอาสเปรย์ Sonax ฉีดก็หายแต่คงต้องฉีดบ่อยๆ ไม่งั้นเสียงเสียดสีมาเต็มๆ
- จุดพับตรงคอเหล็กเสียดสีกันผมต้องเอายางในเก่าตัดไปรองไม่ให้กัดกันจนสึก
สุดท้ายจากการที่ได้ใช้เจ้าเสือน้อย ล้อทีเล็ก 12 นิ้ว จาน 52 ฟัน เฟืองหลัง 16 พัน ถ้าจะทำความเร็วได้ 15 ต้องใช้รอบขา 90 ถ้าจะทำความเร็ว 18 รอบขาต้องได้ 120 ถ้าคิดจะซื้อมาติดรถใช้แทนการเดินผมว่าใช้ได้ครับ แต่ถ้าปั่นไกลๆ ก็เหนื่อยหน่อยนะ
มินิทัวริ่ง มุ่งสู่วัดวังพุไทรกับจักรยาน Tiger London ล้อ 12 นิ้ว
Tiger London
มีสีให้เลือก : แดงดำ / ฟ้าดำ / เหลืองดำ / ชมพูดำ / ดำ
Frame : Hi-ten Steel
Fork : Racing
Hand : Alloy
Speed : 1 – Speed
Rim : Alloy 12”
Tire : 12×1/2×2.141 A/V BUTYL
Break : Front V Brake / Rear Band brake
Crankset : 52T
Accessories : ตะแกรงท้าย
ผมนำมาเพิ่มตะแกรงหน้าที่ติดกับ V-Break เข้าไปเพื่อให้ไว้ของที่ตะแกรงหน้าได้ ข้อดีของรถพับเลยก็คือคอยาวทำให้แขวนสัมภาระได้ดี
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่ผมพยายามจะเอาเจ้าเสือน้อย Tiger London ออกมาขี่ไกลๆ ครั้งแรกจะขี่ไปขึ้นรถไฟเพื่อปั่นเล่นที่เพชรบุรีแต่ยางนอกระเบิดก่อนเลยไม่ได้ไป ครั้งนี้เลยปรับแผนปั่นจักรยานจากบ้านที่บางกะเจ้ามาขึ้นรถเมล์แล้วปั่นไปสถานีรถไฟแทน โดยจัดสัมภาระมีแค่ เต้นท์ ชุดเตา แล้วก็แก้วสแตนเลสที่เอาไว้ใช้แทนหม้อ เสื้อผ้า ชุดเครื่องมื่อปะยางรวมทั้งประแจที่ต้องเอาไว้ถอดล้อกับเบรคเพื่อเปลี่ยนยาง
สำหรับคนที่ไม่รู้จะนำเป้มาวางบนตะแกรงและยึดยังไง ผมมีอุปกรณ์ยึดราคาแพงมากๆ ลงทุนไปตั้ง 20 บาทครับ ใช้ยางยืดมัดของมอเตอร์ไซต์ 2 เส้น
เส้นหนึ่งโยงตะแกรงกับอานเอาไว้ให้เป้พิง อึกเส้นโยงจากข้างหลังคล้องพาดเป้ขึ้นไปแบบนี้ครับ
ทริปนี้ผมเอาขึ้นรถไฟไปลงสถานีเล็กๆ สถานีบางเค็มกะจะปั่นผ่านเขาอิโก้แล้วขึ้นไปวังพุไทรค้าง 1 คืน อีกวันค่อยปั่นกลับมาขึ้นรถไฟที่สถานีเขาย้อย
เส้นทางขาไป
เส้นทางขากลับ
มีเนินเขาน้อยๆ พอได้ออกแรง
พอถึงสถานีธนบุรีก็ตีตั๋วแพคจักรยานขึ้นโดยไปนั่งในตู้ธรรมดาไปวางไว้ใต้อ่างล้างมือ โดยที่ไม่ได้พับคอลงมาด้วยความที่รถเล็กมากอยู่แล้วเลยวางได้สบายๆ ไปถึงบางเค็มประมาณ 10.30 ก็เริ่มปั่นครับ
แต่โชคร้ายปั่นไปได้แต่ 1 กิโล ยางนอกระเบิดอีกแล้ว ถอดใจแล้วละครับกะจะไปขึ้นรถไฟกลับแล้ว แต่โชคดีได้เจอเจ้าของบ่อปลาใจดีบอกมาแล้วต้องได้เที่ยวเดี๋ยวจะพานั่งรถไปซื้อยางในที่ราชบุรีให้น้องเค้าหาที่อยู่ร้านจักรยานจาก Google แล้วโทรไปถามให้ เท่านั้นยังไม่พอยังโทรถามเพื่อนว่าที่ปากท่อมีร้านจักรยานหรือเปล่า โชคดีที่มีร้านจักรยานที่ปากท่อเปิดอยู่ น้องสองคนผัวเมียเลยพาไปซื้อยางนอกที่ปากท่อใช้เวลาไปกลับ 2 ชั่วโมงกว่าเพราะรถติดหนักมาก ต้องขอบคุณน้องทั้งสองคนไว้ ณ. ที่นี้ด้วยครับ
รื้อๆ ล้อ ถอดไปแต่ล้อ
เมื่อลองดูแล้วผลปรากฎว่าขอบล้อฉีกที่เดิมทีแรกคิดว่ายางไม่ขึ้นขอบแต่พอลองลูบที่ขอบล้อเท่านั้นแหละ เจอขอบล้อคมๆ เลย จัดการเอาตะไบเล็กที่ติดตัวมาสำหรับปะยางตะไบลบคมที่ขอบล้อและใช้ไม้ตายสุดท้ายคือเทปพันสายไฟปิดทับขอบล้ออีกที
คราวนี้ไปต่อได้ละครับ เริ่มปั่นไปทางเขาอิโก้ก็ไม่มีอะไรมากสวยงามดีครับพอถึงตีนเขาก็เจอทางลูกรัง แต่ด้วยที่จักรยานมีโช๊คหลังเลยปั่นผ่านไปแบบนุ่มๆ
พอถึงเชิงเขาทางเปลี่ยวๆ ก็เจอสิ่งนี้ครับ ปั่นไปขนหัวลุกไป
ยิ่งทางชิดเขาก็ยิ่งร่มคลี้ม
พ้นแนวเขาก็เป็นทุ่งนามาออกที่วัดคีรีวงก์
มาออกถนน 3206 แล้วก็เจออุปสรรคจนได้ เห็นเนินแล้วดูเหมือนไม่ค่อยชัดพอปั่นๆ ไปแล้วเฮ้ยทำไมมันชันขึ้นเรื่อยๆ พอจะสุดเนินความชันขึ้นไป 11% พอถึงปลายเนินก็หอบแฮ่กๆๆๆ หัวใจจะวายตาย
แต่สุดท้ายก็พอสังขารมาถึงวัดจนได้
ชมวิวรอบๆ วัดก็หายเหนื่อยละครับ
ได้รับความเมตตาจากพระที่วัดให้พักที่ใต้กุฏินี้ครับ
ขากลับออกจากวัดมาตอน 9 โมง กะเผื่อจักรยานยางแตกอีก มาขึ้นรถไฟที่เขาย้อย มาได้ครึ่งทางก็เจออุปสรรคหนักกว่าเมื่อวาน ความชันค่อยๆ เพิ่มขึ้นๆ จนจะไปแตะ 12%
ส่วนขาลงทางลงยาวมากปล่อยลงมาได้แป๊บเดียวก็จอดพักจับขอบล้อ ปรากฎว่าร้อนจี๋เลย ส่วนเบรคหลังร้อนแทบแตะไม่ได้เลย ระหว่างจอดพักเบรคเนี่ยก็มีเพื่อนๆ มาสนใจเจ้าเสือน้อย
ทีแรกนึกว่าสนใจจักรยาน ที่แท้สนใจข้าวมันไก่ที่ห่อมาจากวัดนี่นา
แล้วค่อยๆ เข็นลงมาจนถึงสวนรุกขชาติเขาย้อย ปั่นไปได้หน่อยก็หาทางสวยๆ ต้นไม้เยอะๆ รถน้อยๆ แต่ก็เป็นทางรูกรัง แต่ด้วยโช๊คหลังของเจ้าเสือน้อยทำงานอย่างดีเลยไม่รู้สึกถึงความสะเทือนแม้แต่นิดเดียว
แล้วก็มาถึงเขาย้อยซะที เฮ้อโล่งใจ นึกว่าจะไม่จบทริปซะแล้ว
สรุป ข้อดีข้อเสียของเจ้าเสือน้อย
ข้อดี
- เล็ก ตอนพับแฮนด์ขันมือเบรคหลบหน่อยเดียวก็พับได้เล็กดี ไม่มีปัญหาตอนขึ้นรถไฟ
- นุ่ม โช๊คหลังใช้ได้จริง ปั่นไปได้แบบนุ่มๆ เลยครับ
- สามารถหายางนอกยางในได้ตามร้านจักรยานแม่บ้านที่ขายจักรยานเด็กได้เลย
ข้อเสีย
- ขอบล้อบางมากและไม่ลบคม ทำให้เสียยางนอกยางในไป 2 ชุด
- มีเสียงตามจุดพับ ผมเอาสเปรย์ Sonax ฉีดก็หายแต่คงต้องฉีดบ่อยๆ ไม่งั้นเสียงเสียดสีมาเต็มๆ
- จุดพับตรงคอเหล็กเสียดสีกันผมต้องเอายางในเก่าตัดไปรองไม่ให้กัดกันจนสึก
สุดท้ายจากการที่ได้ใช้เจ้าเสือน้อย ล้อทีเล็ก 12 นิ้ว จาน 52 ฟัน เฟืองหลัง 16 พัน ถ้าจะทำความเร็วได้ 15 ต้องใช้รอบขา 90 ถ้าจะทำความเร็ว 18 รอบขาต้องได้ 120 ถ้าคิดจะซื้อมาติดรถใช้แทนการเดินผมว่าใช้ได้ครับ แต่ถ้าปั่นไกลๆ ก็เหนื่อยหน่อยนะ